เมื่อตอนเช้าวันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายนที่แล้ว เจ้าหน้าที่ของกรม สอบสวนคดีพิเศษได้ถือหมายค้นไปยังวัดพระธรรมกาย เพื่อขอค้นและ จับตัวนายไชยบูลย์ สุทธิผล (ที่ต้องอาบัติปาราชิกพ้นสมณเพศไปแล้วตาม พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช แต่สาวกยังนับถือและเรียกเป็น “พระเดช พระคุณหลวงพ่อ” อยู่) และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าประตูวัดไปแล้ว ก็พบกับสาวกของวัดพระธรรมกายในเครื่องแต่งกายชุดขาวสวมหน้ากากปิดครึ่งหน้า นั่ง “ทำสมาธิปฏิบัติธรรม” ขวางอยู่เต็มทางที่จะไปยังอาคารที่หมายของเจ้าหน้าที่ สาวกหญิงคนหนึ่งอ่านแถลงการณ์มีใจความว่า นายไชยบูลย์ป่วยมีอาการรุนแรงและควรจะมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ คือเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แล้วเท่านั้น

ขณะที่เขียนเรื่องนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษยังมิได้ดำเนินมาตรการอื่น อย่างใดต่อไปอีกกับนายไชยบูลย์ แต่ได้ไปแจ้งความต่อสถานีตำรวจภูธร คลองหลวงเจ้าของท้องที่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับสาวกของวัดพระธรรมกาย ฐานช่วยไม่ให้นายไชยบูลย์ต้องโทษโดยให้พำนักแก่นายไชยบูลย์ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189

อันที่จริงพฤติการณ์ของสาวกวัดพระธรรมกายและพระภิกษุบางรูป น่าจะเข้าข่ายขัดขวางเจ้าพนักงานอันเป็นความผิดตามมาตรา 138 ของ ประมวลกฎหมายอาญาด้วย

การขัดขวางเจ้าหน้าที่กระทำอย่างเป็นระเบียบ มีแผน และเห็นได้ชัดว่าจะกระทำอย่างต่อเนื่อง มีการวางสิ่งกีดขวางป้องกันเจ้าหน้าที่มิให้ สามารถเข้าไปในวัดได้โดยใช้รถแบคโฮขวางถนน ใช้พระนั่งสวดมนต์ในรถที่จอดขวางทาง และมีการขนคนเป็นจำนวนมากเข้าไปเพิ่มเติมในวัดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีพระภิกษุจำนวนมากเดินทางจากวัดทั้งในภาค อีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ ไปให้กำลังใจแก่นายไชยบูลย์ด้วย ล่าสุดนาย

บุญชัย เบญจรงคกุล สาวกคนหนึ่งได้ประกาศเชิญชวนสาวกทั่วประเทศ ให้เดินทางไปร่วมชุมนุมที่วัดพระธรรมกายเพื่อสนับสนุนนายไชยบูลย์

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งบังคับ บัญชากรมสอบสวนคดีพิเศษให้สัมภาษณ์ว่าจะดำเนินการกับนายไชยบูลย์ ตามกฎหมายต่อไป เพื่อให้ผู้ที่ถูกนายไชยบูลย์ยักยอกทรัพย์ของสมาชิก สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นได้เงินคืน แต่การดำเนินการกับวัดพระธรรมกายแบบอะลุ้มอล่วยนุ่มนวลดังที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังกระทำอยู่นี้อาจได้ผลช้า มิหนำซ้ำยังจะเปิดโอกาสให้สาวกวัดพระธรรมกายตอบโต้ด้วย เล่ห์เพทุบายอย่างอื่น เช่นด้วยการโฆษณาให้ร้ายรัฐบาลว่าไม่ให้ความเป็นธรรมแก่นายไชยบูลย์ หรือด้วยการฟ้องร้องผู้วิพากษ์วิจารณ์นายไชยบูลย์

สิ่งที่กระทรวงยุติธรรมหรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติควรทำโดยเร็วที่สุดคือยุติการชุมนุมของสาวกวัดพระธรรมกาย เพราะเป็นการท้าทาย กฎหมายที่หากยิ่งยืดเยื้อออกไปเท่าใดก็จะทำให้เห็นความไม่ศักดิ์สิทธิ์ของ กฎหมายมากขึ้นเท่านั้น และนอกจากการชุมนุมจะเป็นอุปสรรคขัดขวาง การจับกุมนายไชยบูลย์แล้ว ยังเป็นอาวุธที่สาวกวัดพระธรรมกายใช้ในการโฆษณาให้ร้ายรัฐบาลด้วย 

การยุติการชุมนุมกระทำได้ด้วยการห้ามมิให้พระและบุคคลอื่นเข้าไปในวัดพระธรรมกายอีกอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้มีการเสริมกำลัง ในขณะเดียว กันก็ควรมีการทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมว่าการชุมนุมเป็นการขัดขวาง เจ้าพนักงาน เป็นความผิดตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ผู้ชุมนุมตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา การทำความเข้าใจอาจกระทำโดยใช้เครื่องขยายเสียงหรือโปรยใบปลิว และควรกระทำพร้อมกันไปกับการระงับการแพร่ข่าวของสถานี วิทยุกระจาย เสียงและสถานีวิทยุโทรทัศน์ DMC ของวัดพระธรรมกายด้วย

พฤติการณ์ของวัดพระธรรมกายกำลังจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคง ของพระพุทธศาสนาและของประเทศ และถูกปล่อยปละละเลยมาเป็นเวลา นานเกินไปแล้ว หากยังปล่อยให้เนิ่นนานต่อไปอีก ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะ กว้างขวางและร้ายแรงจนเหลือแก้  

Create Date : 21 มิถุนายน 2559
Last Update : 21 มิถุนายน 2559 15:49:33 น.		0 comments
Counter : 268 Pageviews.
Share Tweet