สัมภาษณ์วีซ่าน่ากลัวมาก ๆๆ (หรอ)
ผ่านมาแล้วค่ะกับการสัมภาษณ์วีซ่า ตั้งแต่วันที่ 15 มกรา 2552 รอบที่ได้สัมภาษณ์คือรอบ 13.00 น. (แหมกว่าจะมาอัพได้ อิอิ) เกริ่นก่อนนะคะ ก่อนหน้าที่จะสัมภาษณ์ได้ฟังจากคนอื่น ๆ บ้าง อ่านจากในพันทิพบ้างว่าสัมภาษณ์วีซ่าเมกาอ่ะ ยาก เจ้าหน้าที่โหด ถามเยอะแยะไปหมด ไอเราก็เริ่มกลัวแล้วดิ กลัวจะพูดกับเค้าไม่รู้เรื่อง พี่ที่ CC ก็ให้เอกสารการเตรียมตัวมาชุดนึง ในเอกสารนั้นมีขั้นตอนต่าง ๆ รวมถึงคำถามที่คาดว่าเจ้าหน้าที่จะถามเรา Tips สำหรับการสัมภาษณ์วีซ่า 1. ผู้ขอวีซ่าจะต้องเข้าแถวหน้าสถานทูต พร้อมเอกสารการขอวีซ่า และใบนัดเข้าสัมภาษณ์ ซึ่งควรไปก่อนเวลาอย่างน้อย 30 นาที 2. เจ้าหน้าที่สถานทูต จะทำการตรวจใบนัดสัมภาษณ์ และทำการตรวจร่างกาย ก่อนเข้าสถานทูต ผู้ขอวีซ่าจะต้องนำบัตรประชาชนไปด้วย และฝากสิ่งของหรืออุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ทุกชนิดก่อนเข้าไปในสถานทูต 3. เมื่อผ่านเข้าไปในสถานทูตแล้ว ผู้ขอวีซ่าจะได้รับการตรวจเอกสารการสัมภาษณ์วีซ่า โดยเจ้าหน้าที่สถานทูตอีกครั้งหนึ่ง หาดเจ้าหน้าที่ดึงเอกสารฉบับใดออก ควรเก็บรักษาไว้ และนำติดตัวเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ด้วย (แยกไว้ต่างหากนั่นเอง) 4.รับบัตรคิว และรอเรียกเข้าสัมภาษณ์ตามลำดับ 5. เมื่อถึงคิวสัมภาษณ์ ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องทำการแสกนลายนิ้วมือ 6. ยื่นเอกสารการขอวีซ่าและสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงสุล 7. ทราบผลการสัมภาษณ์วีซ่า คำถามที่กงสุลมักจะถาม 1. คุณเรียนที่ไหน ปีอะไร คณะอะไร ? 2. คุณจะไปอยู่ที่ไหนนประเทศอเมริกา ? 3. คุณจะไปฝึกงานที่ไหนและทำตำแหน่งอะไร ค่าแรงเท่าไหร่ ? 4. คุณจะเข้าประเทศวันที่เท่าไหร่ และจะกลับมาประเทศไทยเมื่อไหร่ ? 5. ทำไมคุณถึงอยากไปประเทศสหรัฐอเมริกา ? สำหรับนักศึกษาชั้นปีสุดท้าย การขอวีซ่าอาจจะมีคำถามนอกเหนือจากนี้เพิ่มเติม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับกงสุลในการอนุมัติวีซ่า การตอบคำถามจึงสำคัญมาก ๆ คำถามที่คิดว่าจะถาม คือ 1. คุณเรียนปีสุดท้ายแล้ว ทำไมคุณถึงอยากไปอเมริกา ? - ควรตอบไปว่าเพื่อเป็นการฝึกฝนประสบการณ์ในการทำงาน เพื่อเตรียมควมพร้อมก่อนการทำงานจริง นอกจากให้ประสบการณ์ในการทำงานแล้ว ยังสามารถเรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกับบุคคลอื่น ๆ รวมทั้งแนวความคิดที่แตกต่างอีกด้วย 2. คุณจะทำอะไรเมื่อกลับมาที่ประเทศไทย ? - ควรตอบอย่างหนักแน่นถึงแผนการที่จะทำ หลังจากกลับมาที่ประเทศไทย เช่น กลับมาศึกษาต่อ หรือกลับมาทำงาน ข้อมูลข้างบน ถือว่าเป็นข้อมูลแบบเป็นทางการไปหน่อยสำหรับเรานะค่ะ ประสบการณ์ของเราคือ 1. ไปถึงประถึงสถานทูตประมาณ 12.30 น.(เราสัมภาษณ์บ่ายโมงนะคะ) ไปถึงก้อ........โอ้ว! แม่เจ้า คนยืนเข้าคิวยาวววววววมากกกกกก หน้าสถานทูตอ่ะ แต่ผิดคาดนะค่ะ รอไม่นานมาก แถวเขยิบไปเรื่อย ๆ 2. พอเข้าไปแล้วสภาพเหมือนตู้คอนเทรนเนอร์อ่ะค่ะให้เราเดินเข้าไปแล้วจะมีที่แสกนกระเป๋าให้ฝากโทรศัพท์มือถือ ทอล์กกิ้งดิกส์ Mp3 ไรพวกนี้อ่ะค่ะ 3. เสร็จแล้วเดินเข้าไปอีกหน่อยจะเจอเคาร์เตอร์ของเจ้าหน้าที่เค้าจะตรวจเอกสารเราว่าเอามาครบมั้ย อันไหนไม่เอาเค้าจะดึงออกให้เราเก็บไว้ (ของเราที่ไม่เอาคือ Statement กับ ใบรับรองการทำงานของแม่) 4. เข้าไปข้างในอีกหน่อยต้องให้เจ้าหน้าที่ของเค้าเช็คเอกสารของเราอีกรอบ คราวนี้นานเลยมีพิมพ์ข้อมูลเราด้วย แล้วจะมีการแสกนนิ้วมือ เสร็จแล้วจะได้บัตรคิว 5. สัมภาษณ์ซะที (ใครนึกไม่ออกว่าเป็นยังงัยก้อให้นึกถึงที่ขายตั๋วของโรงหนังอ่ะค่ะเป็นคอก ๆ แบบนั้นแล้วก้อมีกระจกกั้นระหว่างเรากับเจ้าหน้าที่) 6. ถึงคิวเราสัมภาษณ์แล้ว สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษนะคะ เจ้าหน้าที่ : ให้แนะนำตัว (เราแนะนำไปเลยทีเดียวจะได้ไม่ต้องถามเรามาก) เรา : บอกชื่อ นามสกุล อายุ เรียนปีไหน คณะอะไร จะไปโครงการ Work and Travel เจ้าหน้าที่ : แล้วคุณไปทำงานที่ไหน เรา : ไปทำงานที่ Bozeman, Montana. สถานที่ทำงานคือ Bozeman Deaconess Hopital. เจ้าหน้าที่ : วางนิ้วชีขวาบนเครื่องแสกนเลยครับ เจ้าหน้าที่ : วางนิ้วชี้ซ้ายบนเครื่องแสกนเลยครับ เรา : (คิดในใจ เสร็จแล้วหรอว่ะ ) เจ้าหน้าที่ : (ยิ้ม) Have a Good Experience In USA. แล้วเค้าก้อยึดพาสปอร์ตของเราไปค่ะ แค่นี้เอง ง่าย ๆๆ เสร็จแล้วก็โทรไปบอกที่เอเจนซี่ว่าเราสัมภาษณ์ผ่านแล้ว หัวข้อต่อไปจะกล่าวถึงตั๋วเครื่องบินนะค่ะ
Free TextEditor
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
9 comments |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2552 3:34:59 น. |
Counter : 692 Pageviews. |
|
|
|