Group Blog All Blog
|
ครบขวบ...ก็เจอโหมดอมข้าว (--_ --)  เฮ้อ...ช่วงนี้เบื่อๆ ยังไงชอบกล (--__--")  เบื่อเขียนบล๊อก.....เบื่องาน...(ไม่อยากทำงานแล้ว อิอิ...แล้วจะไปทำอะไรที่จะมีรายได้เท่าตอนนี้น้า....คิดไม่ออก)ขายน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋ ก็คงได้ไม่พอรายจ่ายแหงๆ 555++++ เบื่อบรรยากาศที่ทำงาน...(งานยุ่งมากถึงมากที่สุด , ช่วงปรับเงินเดือนด้วยบรรยากาศออกจะดูร้ายกาจนิดหน่อย)ท้ายที่สุด  เบื่อลูก... เฮ้อทำไงดีคะ ชาวโลก... ลูกสาวดิชั้นชอบอมข้าว กินนมก็ยากอยู่แล้ว ตอนนี้ก็เริ่มจะมาเข้าโหมดกินข้าวยากอีกแล้ว เอ้อ...ทำไงดี แต่ปัญหาก็ไม่ใช่เฉพาะยูริหรอกคงต้องกลับมาพิจารณาทุกปัจจัยที่เกี่ยวข้อง...เน๊อะ ปัญหา..กินข้าวยากของลูกสาวครบขวบปี ก่อนหน้านี้ได้แต่บ่นลูกไม่กินนมแต่ยังกินข้าวได้ ตอนนี้ต้องมาบ่นลูกไม่กินข้าวซะแล้ว เฮ้อ... ซึ่งปัญหานี้คงจะไม่เกิดกับคนที่มีลูกกินนมหรือกินข้าวเก่งอยู่แล้ว แต่หัวอกคนมีลูกรูปร่างเล็ก กินนมยาก...ก็จะเจอแบบนี้แหละค่ะ แต่ก็ไม่ได้โทษลูกไปซะอย่างเดียวหรอก  คงต้องหันกลับมาพิจารณาตัวเองด้วยว่าเรากำหนดพฤติกรรมการกินลูกผิดพลาดไปตรงไหน หลังจากทบทวนแล้ว ได้คำตอบประมาณนี้ไม่รู้ตรงประเด็นหรือเปล่า.... 1.คิดว่าเค้าครบขวบแล้ว ความต้องการอาหารน่าจะน้อยลง เพราะการเจริญเติบโตคงจะช้าลง รวมๆ กับห่วงเล่นด้วย  2.ป้อนจนลูกเกินอิ่ม จนลูกเริ่มอม...แล้วเค้าก็เริ่มอมจนเราไม่รู้ตัว 3.การทำอาหารเดิมๆ สิ้นคิด หรือการใช้อาหารแช่แข็ง บางครั้งอาหารที่เตรียมไว้สำหรับ 1 สัปดาห์ รสชาติเดียวกันที่เค้าไม่ชอบหรือเค้าเบื่อ เค้าจะต่อต้านโดยการอม...และจะรุนแรงขึ้นในมื้อต่อๆ ไป  4.การที่ลูกเริ่มลดมื้อนม และเริ่มทานอาหารได้แล้ว แต่เราก็ยังป้อนมื้อนมเท่าเดิม และเมื่อถึงเวลารับประทานอาหารลูกก็จะไม่รู้สึกหิว เพราะกินนมเข้าไปแล้ว และยิ่งในกรณีที่ลูกเป็นเด็กที่กินน้อยอยู่แล้ว ไม่ควรนำปริมาณนมและปริมาณอาหารเด็กของคนอื่นมาเป็นเกณฑ์ในการกำหนดปริมาณอาหาร 5.การไม่เคยปล่อยให้ลุกรู้จักคำว่าหิว....ป้อนโน่น นี่ นั่น กันทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ ขนมหรืออื่นๆ ล้วนเป็นการตัดกำลังในการกินข้าวทั้งสิ้น ซึ่งบางครั้งการที่เราคิดว่าถ้าข้าวไม่กินกินอย่างอื่นแทนแล้วกัน....สุดท้ายลุกก็จะคิดว่าไม่กินข้าวเดี๋ยวก็ได้กินอย่างอื่น  6.คนป้อนใจร้อน หรือได้ใจเวลาลูกยอมกิน . ป้อนเร็ว ป้อนเยอะจนกลืนไม่ทัน ทำให้เค้าอมข้าวซ่อนในปากไว้ไม่ให้เราป้อนเพิ่มไปเรื่อยๆ  ทั้งหมดนี้ก็คงต้องย้อนกลับมาดูตัวเองและปรับพฤติกรรมลูกก่อนที่จะสายไปกว่านี้ สิ่งที่ต้องทำคือ 1.ยอมรับและเข้าใจเรื่องการกินของเด็กหลัง 1 ขวบ สังเกตและกะปริมาณอาหารของลูกให้อาหารในปริมาณที่พอดีกับอิ่ม โดยไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เอาแค่ว่าลูกอิ่มไม่งอแงก็พอแล้ว 2.ไม่ควรให้ลูกกินอาหารซ้ำๆ กันหลายๆ วัน หรือถ้าวันไหนป้อนอาหารชนิดนั้นได้ดี ก็ป้อนแบบเดิมหลายๆ มื้อ (งดใช้อาหารสิ้นคิด...ข้าวบดบวกไข่)  3.งดขนมทุกชนิด แต่จะให้กินผลไม้ตามหลังมื้อข้าวนิดหน่อย 4.งดนมและอาหารอื่นๆ ต้องเว้นระหว่างมื้อประมาณ 2 3 ชั่วโมงก่อนรับประทานมื้อต่อไป 5.ป้อนลูกทีละน้อย และให้เวลาในการกินไม่ควรเกิน 45 นาที (ตำราเค้า 30 นาที) เราแถมให้นิดหน่อย 6.สุดท้ายเป็นวิธีเพิ่มเติม...อันนี้คิดได้จากตอนที่เอายูริไปกินข้าวกับแมททิว ปรากฏว่าเค้ายอมกินอาหารบดเหลวของแมททิว เราเลยเอามาประยุกต์ให้ลูกกินบ้างในบางวัน คือเอาอาหารมาทำเป็นซุปข้นให้ลูกกินในมื้อเย็น แต่จะไม่ให้กินในมื้ออื่นๆ นะคะเพราะต้องการให้เค้ามีพัฒนาในการกิน การเคี้ยว เลยอนุญาตให้พัฒนาการเคี้ยวได้ทั้งวัน แต่มื้อเย็นคุณแม่ขอเน้นปริมาณมากกว่าฝึกฝน)  ส่วนการแก้ไขอื่นๆ เช่น การสร้างบรรยากาศในการกินร่วมกับพ่อแม่ หรือการให้กินอาหารด้วยตัวเอง คงต้องเอาเป็นท่าไม้ตายท่าต่อไป เพราะตอนนี้ลองแล้ว...แต่ดูเค้าจะยังไม่พร้อมที่จะทานเอง หรือจะสนใจกินอาหารเท่าที่ควร การเพิ่มเติมเมนูน่ากินของหนูยูริ 1.ราดหน้าหมูหมัก....(เอาเส้นผัด ผักคะน้า หมูหมักไปปั่นนิดหน่อยแล้วก็ราดด้วยน้ำราดหน้า ต้องรีบกินนิดหน่อย เพราะถ้าป้อนนานจะรวมเป็นเนื้อเดียวกันไม่น่ากิน) 2.ซุปข้าวโพดนมแม่ หรือจะเป็นซุปข้าวโพดนมเอนฟารสวนิลาก็ได้ (ข้าวโพดสับปั้นละเอียด ต้มกะข้าวสวย จากนั้นปั่นแล้วก็ใส่นม....จากนั้นแช่เย็นนิดๆ) 3.บะหมี่ เกี๊ยว หรือก๋วยเตี๋ยวน้ำ ก็เอาเส้นกับนางเกี๊ยวไปสับแล้วก็มาใส่น้ำต้มก๋วยเตี๋ยวแล้วก้อป้อน... แต่ยูริเค้าก็มีร้านอาหารที่ชอบอยู่น้า...ยูริชอบกินฟูจิค่ะ เมนูที่ชอบก็จะมี - ข้าวหน้าหมูทอด - ไข่ตุ๋น - เต้าหู้ทรงเครื่อง ฯลฯ  ทำให้ทุกครั้งที่ไปห้างก็จะเป็นฟูจิทุกครั้งไป...  แต่ก้อกินบะหมี่ mk ได้นิดหน่อยนะ คงเป็นเพราะบรรยากาศอ่ะเลยชอบกิน เพลินๆ ดีออก... อับเดตนมแม่ค่ะ 1.ตอนนี้ยังปั้มนมอยู่วันละ 3 รอบ รอบแรก (4.00) รอบนี้ได้ประมาณ 6 7 ออนด์ รอบนี้ใส่ขวด 2-3 ออนด์ไว้กินตอนตื่น ที่เหลือใส่ขวดไว้ให้กินเที่ยงหรือบ่ายไม่ให้กินมากเพราะเดี๋ยวไม่กินอาหารมื้อเช้า รอบที่สอง ตอนเที่ยง ได้ 7 8 ออนด์ ใส่ถุง (อันนี้เก็บ ไว้ให้ลูก แต่ส่วนใหญ่จะบริจาคค่ะ) รอบสุดท้ายถึงบ้านปุ๊บ ปั้มเลย 18.00 น. ได้ 4 5 ออนด์ อันนี้ใส่ขวดให้ลูกกินสดๆ ตอนนั่งรถกลับบ้าน แต่กินไม่หมดหรอกได้แค่ 3 ออนด์ ที่เหลือทิ้งทุกวัน 2.ตอนนี้นมที่กินเป็นหลักก็จะเป็นนมแม่ แต่ก็มีนมกล่องเป็นกินเล่นๆ บ้าง คือเวลาเค้าทานข้าว จะมีชอบอมข้าวอ่ะ ก็เลยเอานมกล่องให้ดูดจู๊ดๆ เป็นนมเย็นๆ ที่เค้าชอบ ใส่ข้าวลงคอ ประมาณนี้อ่ะ แล้วก็หัดให้เค้าชินเวลาไปไหนมาไหนจะได้กินกล่องได้ และก็เวลาไปโรงเรียนจะได้กินนมกล่องได้ด้วย และเผื่อไปถึงเวลาเลิกขวดก็ให้กินนมกล่องไปเลย (อันนี้เริ่มได้เมื่อครบขวบไปแล้ว) 3.โครงการที่จะให้ลูกกินนมแม่จนกว่าเค้าจะคุยกันเข้าใจ ว่าไม่เอานมแม่แล้ว แต่เท่าที่ตั้งใจไว้วันนี้ก็ 2 ขวบ +++ ค่ะ  4.มีนมยาน...นิดหน่อย หมอบอกว่าเป็นผลข้างเคียงของการให้นมแม่ 5.จะปั้มนมวันละ 3 รอบอีกซักปี...ถ้ามันยังมีให้ปั้มอยู่ ตอนนี้ได้รวมๆ 18 ออนด์ กินจริงๆ 10 -12 ออนด์ ที่เหลือบริจาค ก็ไม่ได้ลำบากอะไรก็ตื่นเช้าหน่อย และก็ไม่ได้ปั้มในเวลางาน ไม่ต้องคิดมากอะไร 6.อ้อ...ข้อดีอีกอันสำหรับการปั้มนมคือ กินกระจาย กินเท่าไร กินอย่างเมามัน น้ำหนักก็ลด 555555 ชอบมาก  7.ข้อสุดท้ายค่ะ....ยูริสบายดี แข็งแรง พัฒนาการไวกว่าเด็กปกติประมาณ 1 เดือน ไม่เคยป่วยหนักๆ เป็นไข้ไม่เคยเกิน 12 ชม. ฉลาด (ในแง่การสื่อสาร) แต่ติดเต้าไปหน่อย จริงๆ ไม่ใช่ปัญหาสำหรับลูกแต่เป็นปัญหารำคาญใจสำหรับแม่ยูริมากกว่า  8.ที่สำคัญลูกน่ารักขึ้นทุกๆ วัน เมื่อเค้าตอบโต้กะเราได้ เราจะยิ่งรักเค้าเข้าไปเรื่อยๆ ชอบเป็นตัวตลกของบ้านด้วย....อิอิ แล้วขวบกว่าของลูก มีการเลือกตั้งด้วยน้า....เลยพายูริเข้าคูหา กาเบอร์ที่ชอบ...กร๊ากๆๆ ชอบ พี่มาร์ค เลือกเบอร์ 1 ชอบทักษิณ เลือกเบอร์ 10 เอิ้กๆๆๆๆ  เฮ้อ...รักเธอ ประเทศไทย ยอมรับในเสียงข้างมาก แม้ว่าจะขัดใจก็ยอม... 
เค้าห้ามถ่ายรูปที่คูหามิใช่รึ เห็นด้วยกะทุกข้อเรื่องที่หนูยูอมข้าวนะ และน้าอยากได้บีจีจ้ะ เป็นเด็กดีนะคะ คนเก่ง
โดย: น้ามด IP: 1.46.128.147 วันที่: 9 กรกฎาคม 2554 เวลา:15:44:17 น.
เค้าห้ามถ่ายรูปที่คูหามิใช่รึ เห็นด้วยกะทุกข้อเรื่องที่หนูยูอมข้าวนะ และน้าอยากได้บีจีจ้ะ เป็นเด็กดีนะคะ คนเก่ง
โดย: น้ามด IP: 1.46.128.147 วันที่: 9 กรกฎาคม 2554 เวลา:15:44:17 น.
ช้านเพิ่งรู้ว่าเธอมีบลํอกกะเค้าด้วย ไม่แสดงตัวเลยนะ
อ่า..สาวน้อยน่ารักมากอะ เลิกทำอาหารแช่ฟีตได้แล้ว มันไม่สดไม่อร่อย แฮะแฮะ คิดเอาเอง แต่แค่ต้มปลาทู ่ีที่กะว่าลูกควรจะได้ได้ เช้าเที่ยงเย็น คุณยังกินแค่มื้อเดียวเลย ฉะนั้นอาหารลูกทำใหม่ทุกมื้อ เหนื่อยโครต ไม่ต้องบดแล้วอาหารมีฟันแล้วเด็กจะได้หัดเคี้ยว ลองดูจิ ของกัดเล่นเด็ก ยังเคี่ยวยากกว่าผักที่เราบดอีก..เหงือกจะได้แข็งแรง ฟันไม่ผุง่าย ไข่เจียวก็กินได้แล้วนะ ขวบกว่าแล้ว.. สู้ืสู้ เพิ่มน้ำหนักให้ได้นะหนูน้อย โดย: แม่อาเดียว (ปันฝัน
 ) วันที่: 10 กรกฎาคม 2554 เวลา:11:11:08 น.ใจจิงก็อยากแวะไปหายูริเหมือนกันแหละ แต่ก็เกรงใจเห็นว่าเป็นวันหยุดอ่ะ
Blog นี้ดูหลากหลายมาก แต่เราขอขอเม้นให้ยาวนิดนึงนะ :) หวังว่าคงไม่ขี้เกียจอ่านนะ ถึงลูกเราจะเกิดช้ากว่าน้องยูริถึง 2 เดือนเราก็คิดว่าเราพอจะให้คำแนะนำได้บ้าง เราหาข้อมูลเยอะ + กับเราคิดเอาเองด้วยแหละว่าดี 1. อย่าเครียดมากนะเรื่องลูกกินนมน้อย และกินข้าวน้อย เท่าที่ดูเห็นยูริก็ไม่ได้อ้วนเกินไปหรือผอมเกินไปนิ คิดว่าน่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีนะ 2. ปริมาณในการให้อาหารลูก (อันนี้เราดูจากสมุดสีชมพู ที่หมอให้มาตอนคลอดเสร็จเป็นบันทึกของเด็กน่ะ ) เค้าบอกว่าเด็ก 10 เดือนขึ้นไปให้เพิ่มอาหารเป็น 3 มื้อแต่ละมือไม่ควรเกิน 5 ช้อนกินข้าว สำหรับช้อนเด็กมันเล็กกว่าช้อนกินข้าวก็อาจจะสัก 10 คำเล็กนะ ถ้าลูกมีฟันแล้วให้บดหยาบๆจ๊ะ เค้าจะได้ฝึกเคี้ยว 3. สำหรับเราทำอาหารเดิมๆ ให้กิน 2 วัน (วันละ 3 มื้อ) ที่ให้กินแบบเดิมๆเพราะดูว่าเค้าแพ้อาหารหรือเป่าน่ะ โดยส่วนตัวของเรานะคิดว่าเด็กเค้าเลือกไม่เป็น (เดาเอา แหะๆๆ) ตอนนี้อาหารที่เราทำ เราเน้นรสจืดเพื่อเค้าจะได้ไม่ติดรสชาดของอาหารเกินไป เราเป็นพนักงานบริษัทคงไม่ได้ทำอาหารให้ลูกกินทุกวันได้ แต่เราหาข้อมูลจากแม่ๆที่ชานเรือนเค้าแนะนำว่าอาหารที่แช่ฟรีชอาจจะเสียคุณค่าทางอาหารไปบ้างแต่ก็ไม่มาก ส่วนที่หายไปเราสามารถหาน้ำผลไม้เช่นน้ำส้มมาทดแทนวิตามินที่ขาดหายได้จ๊ะ 4. ส่วนเรื่องนมเราว่าเค้ากินข้าวได้แล้ว ปริมาณในการกินนมจะลดลงนะ เช่นช่วงเช้าก็บอกคุณยายว่าให้ป้อนข้าวก่อนนะ ถ้าเค้ายังไม่อิ่มก็ค่อยเพิ่มนมจ๊ะ (สัก 4 oz.) ส่วนข้าวก็ทำปริมาณอย่างที่เราบอกอ่ะ (ปล.กินข้าวเสร็จอย่าลืมให้กินน้ำนะจ๊ะ เด๋วฟันผุ) ให้กินข้าวเป็นเวลาเดิมๆ เค้าจะได้มีระเบียบวินัยในการกินจ๊ะ ส่วนขนม (ไม่รุ้ว่าให้กินขนมแบบใหน แนะนำว่าอย่าเน้นแป้งนะ ไม่ดีๆๆ) อุ๊ยเริ่มยาวแระ พอก่อนดีก่า อันนี้คือสิ้งที่เราทำอยู่กะน้องแก้มจ๊ะ ก็ลองแนะนำไปอ่ะ อย่าว่ากันนะที่เม้นยาว อิอิ โดย: @ แม่น้องแก้มใส (jeeranun.jun
) วันที่: 10 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:07:39 น.ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง !!! เสียใจอยู่ลึกๆ
โดย: @ แม่น้องแก้มใส (jeeranun.jun
) วันที่: 10 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:12:48 น.เด็กร้องไห้น่าสงสารจัง เหมือนโลกจะถล่ม ฟ้าจะทะลายเลย
โดย: Jub_ka_Jib
วันที่: 11 กรกฎาคม 2554 เวลา:11:20:33 น.อ่านแค่ 3 บรรทัดแรกแล้วเหมือนที่เราเคยเป็นมาก่อน
เคยเบื่อลูก เบื่องาน เบื่อชีวิต ตอนนั้นเราขอนายลาออกเลยน่ะ ดีที่นายให้ leave without pay แทนแบบว่าไปพักก่อน อยากกลับมาเมื่อไรห่ก็มา เราลาแค่ 1 เดือนก็กลับมาทำงาน รู้เลยว่างานประจำดีที่สุด มั้นคง ได้เมาท์มอยกับเพื่อนๆ เรื่องลูกต้องทำใจและปล่อยวาง อย่าไปคาดหวัง ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเอง ปล่อยวาง อย่าเครียด เลือกมองด้านดีๆ อะไรเงี้ย แต่เราว่าเป็นช่วงๆ ของอารมณ์แหละ ตอนนี้อาจจะ happy สุดๆ อยู่ก็ได้ ใช่ไหม สู้ สู้ เน้อ :) โดย: จ้าว..จอม
 วันที่: 21 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:03:04 น.แฟนคลับอาเดียวไม่เท่าไหร่ร๊อกกอิอิ..
แค่เจ้ายูริ ใช่ย่อยน้า โดย: ปันฝัน
วันที่: 25 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:47:36 น. |
Watrin&Uro
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] ครอบครัวของเรา เคยมีแค่เจ้าปอมอ้วน ชื่อ..ยูโร วันนี้ เรามีสมาชิกใหม่เป็นสาวน้อย...ชื่อ ยูริ (ตั้งชื่อคล้องกะพี่ยูโร) LOvE U *-* (มาจาก...รักจ๊ะ ทั้งยูริและยูโร) Friends Blog
Link |
||||||||||||
