Happy Birth day for My Love

ครบ 3 ขวบปีนี้ เป็นอะไรที่แย่มากๆ เลยผ่านมา 2 เดือนแล้วเพิ่งจะมีเวลามา up Blog

แต่ในวันคล้ายวันเกิดคุณแม่กับคุณพ่อ คุณย่า คุณปู่ และป้ามิวก็ทำจัดวันเกิดให้หนูนะลูก

2 รอบโน่นแหละ... สำหรับครบรอบ 3 ปี

รอบแรกตามเคย ป้ามิวมาจัดให้

ต่อด้วยการไปทำบุญซื้อโลง

เป็นครั้งแรกเลยน้าที่เค้าพาลูกไปทำบุญแบบนี้

ดูยูริจะตื่นตาตื่นใจนิดหน่อย

มีการจุดธูปและไหว้ในหลายจุดยืนมาก งงเลย...อิอิ

ต่อจากนั้นเราก็ไปแก้บน เจ้าแม่ยูริที่จับล๊อตเตอรี่ให้ป้ามิวถูกไป 4 ใบ

ก็เป็นการไปเที่ยวเขาเขียวครั้งที่ 3 ของยูริ และเป็นครั้งที่ 2 ที่ยูริไปเที่ยวเขาเขียวกับป้ามิว

ทุกรอบต่างกันอย่างสิ้นเชิง

รอบนี้ นางกลัวทุกสิ่งอย่างที่ตัวใหญ่ๆ

ชอบและไม่กลัว ก็เห็นจะเป็นพวก กระรอก กระแต เมียร์แคท

ที่เหลือ มีแต่ร้อง “ไม่เอาๆๆๆ ยูริกลัวๆๆๆ”

แน่ะๆๆ ไม่คุ้มที่พามาเลยเจ้าแม่ไปแก้บนอ่ะ 555

สำหรับอีก 1 วันเป็นวันเกิดจริงๆ ปีนี้ก็เป็นปีที่แม่แคทเปลี่ยนรถพอดี

รถคันแรกคุณแม่ซื้อตอนคุณแม่อายุ 26 ปี

เวลานี้ผ่านไป 10 ปี จนมีลูก 1 คนแล้ว ก็คงต้องถึงเวลาเปลี่ยนซะที

ก็ไม่มีความต้องการอะไรเป็นพิเศษ แค่อยากเพิ่มระบบความปลอดภัยให้ครบตามที่รถควรจะมีครบ

และก็ ระบบ Entertain ให้ลูกสาวนิดหน่อย คันใหม่ก็สีดำๆ เหมือนเดิม

ส่วนใหญ่ 2 สาว ก็ใช้กันประจำทุกวันค่ะ ขับเที่ยวเล่นอยู่แถวบ้าน

แต่ที่มันน่ารักและไม่ได้คิดไว้ก่อนเลย วันได้รถเป็นวันเกิดยูริพอดี

แถมเลขทะเบียนเป็นวันที่ยูริเกิดพอดี

ก็แปลกดีเน๊าะ...ขำๆ เป๊ะเว่อร์ดีค่ะ

สำหรับการฉลองวันเกิดที่ 17 มิถุนายน ยูริก็เลือกชุดเอง เอาอะไรไม่รู้มาใส่ ก็แนวๆ ดีลูกสาว

เค้กปีนี้คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้ทำ เพราะมัวแต่ไปเที่ยวและต้องมีภารกิจหลายอย่าง

ประกอบกับลูกสาวก็อยากได้เค้ก angry bird

ก็เลยได้มา 1 ตัว ยูริจัดการหางก่อน กินซะฟันดำเลย 555

แล้วก็ได้ลูกโป่งที่เหลือจากงานปาเป้าที่บริษัทมาด้วย

ของขวัญก็มีส่วนของแม่และส่วนของคุณพ่อ

ส่วนคุณย่าจ่ายค่าเทอม...555

ของขวัญคุณพ่อกับคุณแม่ก็เลือกตามที่ยูริเคยไปชี้ไว้

ตามเคย เล่นแค่ 1 วัน...จบ ปิดการขาย...^___^

สำหรับวันเกิดปีนี้...

คุณแม่มีความในใจมากมายอยากถ่ายทอดให้ลูกสาวฟัง

ยิ่งนับวันคุณแม่ก็ยิ่งรักหนู

และที่สำคัญที่สุด คุณแม่ก็รู้ว่าหนูรักแม่ไม่น้อยไปกว่าที่แม่รักหนูเหมือนกัน

เราจะทำทุกๆ วัน เพื่อกันและกันนะคะลูก

คุณแม่จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดสำหรับชีวิตหนูนะลูก...

ถึงแม้คุณแม่จะเหนื่อยแค่ไหน...แม่ก็ยอม!

รักคุณเท่าฟ้ามหาสมุทร โลกหล้า....ยูริ

ต่อไปเป็นรวมๆ ของรูป 2 ขวบถึง 3 ขวบ

น่ารักทุกรูปเลยอ่า




Create Date : 29 สิงหาคม 2556
Last Update : 29 สิงหาคม 2556 21:32:06 น.
Counter : 1785 Pageviews.

3 comment
พัฒนาการยูริ Go to school (2Y 11M)

สำหรับคนงอแง คนติดแม่ มีรึจะไม่ร้องไห้ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน

ศิริรวมคุณนายลูกร้องไห้ไป 1 เดือนเต็มๆ

จริงๆ แล้วก็ไม่น่าจะร้องไห้ถึงเดือนหรอก แต่พอดีนางป่วย ก็เลยให้หยุดโรงเรียน

เลยเข้าระบบร้องไห้ใหม่ *__*

กว่าจะเข้าที่ก็พักนึง ถามทุกวัน

ยูริ : วันไหนคุณแม่ไม่ให้ยูริไปโรงเรียนอ่ะ

คุณแม่ : วันเสาร์อาทิตย์ลูก ยูริ : วันไหนอีกอ่ะแม่

คุณแม่ : วันเสาร์  อาทิตย์ และวันที่ยูริไม่สบาย

ยูริ : วันนี้ยูริไม่สบาย ตัวยังร้อนอยู่เลย ไอด้วย

 คุณแม่ :  *__* (เอิ่ม...หยุดมา 3 วันแล้ว อาการดีขึ้นแล้ว ยังมาป่วยไรอีกจ๊ะ)

พอถึงวันนี้แต่งตัวไปโรงเรียน วิ่งไปหาครูคนที่ขาวๆ หนูชอบไปโรงเรียนแล้วค่ะ...^__^ 

 

 พัฒนาการด้านการเขียน และการระบายสี การจับดินสอ สามารถจับได้ถูกต้อง

ทั้งที่ก่อนหน้าที่ไม่เป็นสัปประรดเลยก็ว่าได้

เพราะแม่แทบไม่เคยสอนลูกเขียนหนังสือเลย

เพราะ Concept คุณแม่คือก่อน 3 ขวบเล่นอย่างเดียว 

 

ส่วนการระบายสี แรกๆ ไม่เอาประเทศอีกตามเคย

ผลปรากฏว่าไปโรงเรียนแค่ 2 วัน ยูริสามารถระบายไม่ออกนอกเส้น

แต่ก็ไม่ได้สวยเรียบร้อยอะไร

สรุปโดยรวมคุณแม่ว่า ยูริเครค่า

 

 

ส่วนการอ่าน ทำคุณแม่ตกใจเบย...

พอเปิดหนังสือกอไก่ปุ๊บ ยูริพูดเป็นฉากๆๆๆๆ

เหมือนคนอ่านหนังสือออก...สุดยอดเลย ลูกสาวชั้น 555+++ 

 

 ส่วนการร้องเล่นเต้นรำ

ผ่านฉลุย กลับมาบ้านให้แม่ร้องรำมาซิมารำ...

แล้วนางก็รำวงมาตรฐาน

บางวันก็มีเพื่อเค้าปูผ้านอนกันหมดแล้ว

ยูริลุกขึ้นมาปีขึ้นไปบนโต๊ะแล้วก็เต้น

จนเพื่อนๆ ถามว่า ยูริทำได้ไงอ่ะ....555+++ 

 

 

 กิจกรรมอื่นๆ ก็ได้รับเกียรติถือพานไหว้ครู

ก็คิดว่าคุณลูกสามารถทำตามคำบอกของคุณครูได้ประมาณนึงถึงได้รับเลือก

ก็เลย Line ไปถามครูได้ความว่า นางไหว้สวยค่ะ....

โอเคร สรุปโดยรวม ยูริไปโรงเรียนก็ถือว่าไม่มีอะไรน่าห่วง

หรือบังคับให้ลูกไปก่อนเกรณธฑ์มากอะไร อย่างที่ทุกคนวิตก

ส่วนเรื่องตัวเล็ก ก็แน่นอนอยู่แล้ว แต่ก็ไม่น่าห่วงอะไรเพราะเพื่อนที่ตัวใหญ่ที่สุด

ก็ถูกยูริใช้ให้มาป้อนข้าวให้นางกิน อิอิ

คุณแม่ถือว่าสบายใจมากในการเริ่มต้นสู่โลกกว้างของลูกสาวในครั้งนี้

ในใจลึกๆ ของแม่ไม่ห่วงการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นของลูกสาวเลยนะ

เพราะคุณแม่มั่นใจและเชื่อว่า ยูริของแม่มีความฉลาดเอาตัวรอดสูง

ตั้งแต่เล็กจนวันนี้ คุณแม่ไม่เคยได้ยินหนูฟ้องแม่ว่าเพื่อนแกล้งซักครั้งเดียว

(ขนาดแมททิวรังแก ยูริยังจัดการเอง โดยไม่ใช้ความรุนแรง)

 ยูริของแม่แคทเก่งกว่าแม่ตอนเล็กๆ อีกน้า เก่งทุกเรื่องเลยนะลูก....

ตอนเด็กๆ แม่แคทอ่ะขี้แย ร้องไห้ประมาณ 1 เทอมเต็มๆ

เพื่อนที่โรงเรียนและบนรถรับส่งก็แกล้งแม่จนแทบไม่อยากไปโรงเรียน

คุณแม่ไม่เคยกล้าแสดงออกทำอะไรก็เขินอายขาสั่น อิอิ

ออกแนวเป็นผู้หญิงไม่เอาประเทศประมาณนั้น 555 (ตอนเด็กๆ นะ)

แต่สำหรับในความรู้สึกของแม่ทุกอย่างที่ยูริจังทำ คุณแม่ภูมิใจทุกอย่างเลยนะลูก

ปล. คุณพ่อแอบชมกับคุณแม่ด้วยนะเมื่อเช้า ว่ายูริมันน่ารักว่ะ...เหอๆๆๆ ^___^




Create Date : 26 มิถุนายน 2556
Last Update : 26 มิถุนายน 2556 10:23:47 น.
Counter : 1352 Pageviews.

2 comment
ชิวๆ Lopburi & Underwater world Siam paragon (24-25 May 2013)

Blog นี้ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ อิอิ... รีบสารภาพก่อนเลย

เนื่องจากพายูริไปเที่ยวกับยายตี๊ด น้าหญิง ป้าโอ๋ ป้ามิว ก็เลยเก็บบรรยากาศ และภาพประทับใจ มาเก็บไว้ใน Blog ก็เท่านั้นค่ะ เริ่มเลย วันที่ 24 May 2013 ยายตี๊ด (แม่ป้ามิว) ต้องการที่จะแก้บน ในวันวิสาขบูชา ก็เลยพายูริไปด้วย ที่ศาลพระกาฬ สถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลพบุรี

 

ศาลพระกาฬหรือชาวบ้านนิยมเรียกว่าศาลสูง ตั้งอยู่หลังประตูค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภายในประดิษฐานเจ้าพ่อพระกาฬ ซึ่งเป็นเทวรูปนารายณ์สี่กร สลักจากหิน ค้นพบได้บริเวณศาลหลังเดิมซึ่งเป็นศาลเพียงตาอยู่ริมทางรถไฟ ต่อมาได้รับการบูรณะ รวมถึงได้ต่อเติมองค์เทวรูปที่ชำรุดเสียหาย จนมีสภาพสมบูรณ์ดังในปัจจุบัน

มีคนกล่าวไว้ว่า คนที่มาลพบุรี หากไม่ได้มาสักการะศาลพระกาฬ ก็ถือเสมือนหนึ่งว่าไม่ได้มาเยือนเมืองลพบุรี ในอดีตศาลพระกาฬจะมีฝูงลิงอาศัยอยู่จำนวนมาก แต่ปัจจุบัน ลิงเหล่านี้ก็แยกย้ายกันไปอาศัยชายคาบ้านเรือนในละแวกนั้นอาศัยบ้าง นอกเหนือจากที่ศาลพระกาฬส่วนหนึ่งพวกนี้ไม่มีอะไรทำ ก็เลยสุมหัวนอนดีกว่า

 

มีผู้รู้ได้จำแนกลิงเมืองลพบุรีว่า มี 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือลิงประจำศาลพระกาฬ จะคอยต้อนรับผู้มาสักการะเจ้าพ่อพระกาฬในช่วงกลางวัน ส่วนเวลาเช้าและเย็น จะไปอยู่ที่พระปรางค์สามยอด และกลับมานอนที่บริเวณศาลพระกาฬ บางคนเรียกลิงกลุ่มนี้ว่าลิงเจ้าพ่อ อีกกลุ่มหนึ่งคือลิงที่แตกหลงฝูงออกไป และไม่ได้กลับมาอยู่กับลิงกลุ่มแรกอีก แต่ไปอาศัยชายคาบ้านเรือนชาวบ้านหลับนอน และสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ลิงกลุ่มนี้จะถูกเรียกว่าลิงจร ทั้งนี้ ลิงกลุ่มแรก อาหารการกินจะค่อนข้างสมบูรณ์ เพราะผู้ที่มาสักการะเจ้าพ่อพระกาฬ ก็จะนำอาหารผลไม้มาเลี้ยงลิงกลุ่มนี้อยู่เสมอ ส่วนลิงกลุ่มสองก็ตามสภาพคือต้อง ขโมยกินไปวันๆ *__*

สำหรับยูริ งานนี้ก็ไม่ได้เกรงกลัวเจ้าลิงทั้งหลายนี่เลย แม้แต่น้อย

ซึ่ง บ่องตง..แม่กลัวอ่า ลิงก็สนิทกันถึงขนาดเข้ามาแอบรูดที่มัดผมออกไปจากผมของยูริเลย 

 

ซึ่งนางก็ไม่ได้ตกใจอะไร กลับหัวเราะ และตะโกนบอกว่า ไม่เป็นหรอก ที่บ้านมีเยอะแยะ (ประมาณแม่ซื้อไว้เยอะแยะ) เป็นไงคะ ลูกอีชั้นรวยมะ...*___*

ใน

ระหว่างเดินก็มีความร่าเริงเป็นที่สุด แต่เมื่อขึ้นก็เกิดอาการสลบในทันที ^___^ หลับจนเกือบถึงบ้าน (เมืองทอง) ก็ดีค่ะ งานนี้ถือว่าพาลิงไปเจอลิง อิอิ

 

วันต่อมา วันที่ 25 พฤษภาคม ก็หอบกันไป Siam Paragon พอไปถึงก็หาอะไรรองท้องกันก่อน

แล้วนางก็บ่น หนาวมาก แถมบอกว่า ยูริหนาวจะตายอยู่แล้ว

 เฮ้อ! คุณแม่เลยพาลูกไปซื้อเสื้อคลุมกันหนาวแล้วก็เข้าไปดูปลากัน

บอกได้คำเดียว ว่ายูริไม่ชอบ กลัว... กลัวมากโดยเฉพาะอุโมงค์ใต้น้ำ ที่มีปลาฉลามวิ่งผ่าน 

 ดู

แมงมุมก็ไม่ชอบอีก... อยากออกเป็นที่สุด ช่างไม่คุ้มบัตรค่าผ่านเข้าไปดูเลย

(ผู้ใหญ่ 450 บาท เด็กสูงกว่า 80 cm 280 บาท) แต่พอพาออกมา กลับอยากเข้าไปดูอีก

 

งง...กับลูกสาวจริงๆ เลย แต่สำหรับคุณแม่แคท ก็ชอบนะ สวยดี ตื่นตาดี

เอ้า...เต็ม 10 ให้ 8.5 เลยละกัน ^___^ 




Create Date : 03 มิถุนายน 2556
Last Update : 3 มิถุนายน 2556 12:02:14 น.
Counter : 963 Pageviews.

1 comment
เที่ยวกับคุณยายก่อนเปิดเทอม (2Y 10M)

เป็นทริปช่วง วันที่ 4-5 พฤษภาคม 2556

งานนี้ไปเที่ยว กาญจนบุรี กับ ยายๆ อีกเช่นเคย

ปล. ช่วงนี้ไม่ได้ไปกะปู่กะย่า เพราะกำลังทำบ้าน วันหยุดคุณพ่อแทบจะไม่ได้หยุดเลยกันทีเดียว ต้องไปดูบ้านๆๆๆๆ

ทริปนี้มี 4 ครอบครัวหลัก

ตอนแรกคิดว่าจะเป็นแพบ้านๆ แบบที่เคยเห็น

แต่พอไปจริงๆ แล้ว โอ้วแม่เจ้า มันก็สวยดีนะ

ยูริก็มีโอกาสได้เล่นน้ำ เป็นจริงเป็นจัง ครั้งแรก

เมื่อมีโอกาส ยูริก็จัดเต็มเล่นมันทั้งวันเลย กิกิ

โดยมีพี่นาตาลีกะพี่ตังค์นำทีม

และมีคุณยายๆ ตามประกบเป็นระยะๆ

ส่วนคุณแม่เป็นโรคกลัวน้ำ 555

เวลายูริเค้าลงไปเล่นน้ำ เค้าก็จะชอบไปเกาะป้าอีส

ไม่ชอบเกาะแม่แคท เพราะ พอมาเกาะแม่แคทอารมณ์จะจมแหล่ไม่จมแหล่...

ยูริเลยออกปากบ่นว่า “ทำไมคุณแม่ไม่กินปลาหล่ะคะ จะได้ว่ายน้ำได้ “

อิอิ คงเหมือนที่เคยบอกเค้า เวลาป้อนข้าว

ว่าให้กินปลาจะได้ว่ายน้ำเก่งๆ เป็นไง คราวนี้ลูกสอนบ้าง ถึงกับสะอึก ^___^




Create Date : 31 พฤษภาคม 2556
Last Update : 31 พฤษภาคม 2556 9:29:52 น.
Counter : 845 Pageviews.

1 comment
ยูริในวัยเรียน อ.1/4 St.Paul convent school

ถ้าใครได้อ่าน Blog ที่ผ่านมาๆ จะเห็นเลยชัดเจนว่าแม่แคทไม่เคยใจอ่อน

ที่จะให้ยูริเข้าโรงเรียนเลยแม้แต่ครั้งเดียว

แม่แคทมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นมากที่จะให้ยูริเข้าเรียนหนังสือตามเกณฑ์

ซึ่งก็ยอมรับว่า ถ้าถึงเวลาเข้าเรียนจริงๆ ยูริจะเป็นเด็กที่มีอายุค่อนข้างมากที่สุดในห้องเรียนก็ว่าได้

เพราะยูริเกิด 17/06/53  (ซึ่งตกเกณฑ์ไปแค่ 30 วัน)

แต่ ณ วันนี้ยูริของแม่ได้เข้าไปเป็นเด็กอนุบาล 1 / 4 ของโรงเรียนเซนต์ปอลแล้ว

เรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม คุณย่าของยูริไม่สบาย (6/5/13)

เลยต้องมีการเอายูริมาฝากไว้บ้านคุณยายน้อย (ช่วงปิดเทอมของบ้านยายๆ พอดี)

พอมาถึง ยูริก็แสดงความเก่งกาจ เอาตัวรอด ฉลาด พูดจาเหมือนผู้ใหญ่

และที่สำคัญชอบเล่นคนเดียว

ชอบแสดงบทเป็นเพื่อนเป็นตัวเอง อารมณ์เหมือนคนอยากมีเพื่อน

แต่ยังไม่มี...อะไรประมาณนั้น

จนทุกคนสรุปว่า ยูริมีความพร้อมที่จะไปโรงเรียน และทุกคนก็สรุปว่ายูริอยากจะมีเพื่อนมากแล้ว

ดังนั้นการที่ต้องอยู่ที่บ้านอีก 1 ปี น่าจะทำให้ความพร้อมยูริที่มี ส่งผลให้ไม่มีความสุขเท่าที่ควร

ดังนั้นควรจะให้ยูริไปโรงเรียนได้แล้ว

แต่เวลามันล่วงเลยมาจนเค้าเรียน Summer และมอบตัว

เตรียมจะโรงเรียนในสัปดาห์หน้ากันหมดแล้ว

ยูริยังไม่มีอะไรซักอย่าง จะไปโรงเรียนกับเพื่อนเค้าได้อย่างไร....ห้า!

ก็ปรึกษาหารือกับยายน้อยที่เป็นครูอยู่โรงเรียนเซนต์ปอล

และยายนุชที่เป็นครูอย่โรงเรียนอัสสัม

และมีคุณย่าที่มีอดีตเป็นครูโรงเรียนดาราสุมทร

ก็พิจารณาแล้วว่า ครูน้อยสามารถจัดการได้รวดเร็วและง่ายที่สุด ถ้าจะลูกเข้าโรงเรียนในตอนนี้

แต่ใจจริงของแม่แคท คืออันดับหนึ่งเลยอยากให้ลูกเรียนโรงเรียนรัฐบาล (อนุบาลชลบุรี)

และอันดับสองคือ สาธิต ม.บูรพา

และลำดับสุดท้ายคือ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา

เพราะคิดว่า ทั้ง 3 ที่นี้มีเปิดเป็นโรงเรียน 2 ภาษา

(อิอิ ทั้งหมดนี่คิดเอง โดยไม่ปรึกษาลูก ว่าจะไหมไม๊)

แต่แม่อยากเปิดประตูชีวิตลูกสู่อาเซียนมากๆ 555

แต่ชั่วโมงนี้เลือกไม่ได้แล้ว อีก 10 วัน เค้าก็จะเริ่มเปิดเทอมแล้ว

ต้องเลือกเซนต์ปอลแล้ว ซึ่งแม่ก็คิดว่าเจ๋งที่สุดแล้ว

ข้อดีของการเข้าโรงเรียนเซนต์ปอล คือ

1.   มียายน้อย พี่ปั้น  และพี่มาย ที่สามารถดูแลได้ทันที

2.   ใกล้บ้านสะดวกในการเดินทาง

3.    ข้างบ้านคุณย่าที่ติดกันเป็นหัวหน้าอนุบาลที่ฝากโรงเรียนไปได้ ไม่ต้องไปส่ง (ถ้าจะใช้บริการ)

4.    ยายน้อยดำเนินการให้หมดตั้งแต่มอบตัว จนกระทั่งไปเข้าเรียน แม่กับพ่อแทบจะไม่เคยไปโรงเรียนกันเลยทีเดียว (555 ข้อนี้สบายที่สุด)

5.    คุณปู่คุณย่าไปรับส่งได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีข่าวลืมกันในรถรับส่ง ^__^

6.    สุดท้าย โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่แม่แคท ป้าอีส ป้ามิว พี่เอิง พี่มาย พี่ปลาย ฯลฯ

ก็เคยเรียนที่นี่ ^__^ ซึ่งบุคคลที่ผ่านกล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็เป็นคนที่ดีของสังคมทั้งนั้น 555

พอตัดสินใจกันแล้วก็พายูริไปโรงเรียนเพื่อดูว่า ยูริพร้อมจริงๆ หรือเปล่า

แล้วเค้าอยากไปโรงเรียนนี้หรือไม่

เท่าที่ดูก็พร้อมนะ พอไปถึงโรงเรียนก็เล่นกับคนโน้น คนนี้ คุยเล่นกับคนอื่นๆ ได้

พอเจอมาเซอร์ก็เข้าไปทัก “หนีห่าว แล้วก็ถามว่าจะรับยูริเข้าโรงเรียนไหม” 555

ซึ่งมาเซอร์ก็ตอบตกลง แต่ก็แจ้งให้ผู้ปกครองทราบว่าเด็กที่เข้าก่อนเกณฑ์

ถ้าสอบเลื่อนชั้นไม่ผ่าน เราก็ต้องยอมรับ

เพราะนั่นก็คือการแสดงให้เห็นว่า เด็กยังไม่พร้อม

ซึ่งนั่นก็คือ การแสดงถึงศักยภาพของตัวยูริเอง

ก็แล้วแต่ตัวเค้า เราเองก็ไม่กดดันลูก

ถ้าสอบไม่ผ่านก็ถือว่าไปฝึกระเบียบและเรียนรู้การใช้ชีวิตกับคนอื่น

คุณแม่เองก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แล้วก็ไม่ได้คาดหวังกับการศึกษาของลูกมาตั้งแต่แรก

แค่อยากให้ลูกได้ภาษาและมีวิชาชีพติดตัวสามารถประกอบอาชีพอิสระได้ก็เท่านั้น

แล้วถ้าต้องซ้ำชั้นก็คิดว่าจะลองให้ลูกไปสอบเข้าโรงเรียนรัฐบาล ซึ่งก็ไม่ช้าไปแล้วตามเกณฑ์

ก็ดีเหมือนกัน ยูริจะได้เรียน 2ภาษา เหมือนที่แม่อยากให้เรียน...

แต่ถ้าสอบผ่านก็เรียนไปเรื่อยๆ ไม่เน้นวิชาการ จะเน้น ร้อง เล่น เต้นรำมากกว่า ส่วนเรื่องภาษาก็วางแผนจะจ้างชาวต่างชาติที่รักเด็กให้สอนภาษา คุยเล่นสัปดาห์ละ 1-2 วัน ก็อาจจะส่งคุณพ่อไปเรียนเป็นเพื่อน จะได้กลับมาคุยเล่นกันที่บ้าน ซึ่งทั้งหมดที่มาเซอร์พูดมาคุณแม่เองก็น้อมรับค่ะ.... แล้ววันที่ 15/5/2013 ยูริก็ไมมอบตัว โดยทุนการศึกษาในรอบนี้ได้รับจากคุณย่าทั้งก้อน ^__^ ขอบคุณคุณย่าค่ะ

ซึ่งอีก 5 วันก็เปิดเทอมแล้ว วันมอบตัวก็ได้อุปกรณ์ต่างๆ ทุกอย่างโอเคมากๆ

ยกเว้นชุด โอ๊ย...หลวมมาก ไม่มีไซด์จะสั่งตัดก็ไม่ทันแล้ว ยูริโตยากซะด้วย

บอกตามตรงแม่แคทเป็นทุกข์มากับเรื่องนี้

เพราะไม่อยากให้ลูกมีภาระหิ้วชุดยักษ์ๆ ไปโรงเรียนทุกวัน

ดีที่แม่ (ยายหวี) มาธุระที่ศรีราชา เลยให้แก้ชุดให้ บอกเอาพอดีตัวไม่ต้องเผื่อนะคะ

คุณยายหวีก็น่ารักมาก (อายุ 72 ปีนะคะ) แก้ชุดให้หลานทั้งหมด 4 ชุด

เสร็จภายในวันเดียว สุดยอดอ่ะ แถมพอเอามาลองพอดีทุกชุดเลย

ขอบคุณแม่จริงเลยๆ รู้สึกถึงความรักที่แม่มีให้ลูกมาตลอด

รวมไปจนถึงหลาน...เลยอ่ะงานนี้ พูดไปตื้นตันน้ำตาจะไหล

พอเสร็จ คุณยายก็เอามาส่งให้ที่ศรีราชาอีก พอได้ชุดมาก็รีบเอาไปปัก

เสร็จจริงเย็นวันอาทิตย์ที่ 19 อ่ะ

แม่แคทได้มาก็รีบเอาไปซัก เช้าตื่นมารีดตอนตี 4

เพื่อคุณลูกจะได้ใส่ชุดไปเรียนในตอนเช้า... @__@

แล้ววันแรกก็มาถึง คุณแม่ไม่ได้ไปส่งถึงมือคุณครูหรอกค่ะ

เอาไปส่งบ้านยายน้อย ให้ไปกับพี่ปั้นกับยายน้อย แม่ไม่ต้องไปส่ง เดี๋ยวลูกจะยิ่งร้องไห้

ส่วนคุณย่าตามไปแอบดู  ส่วนคุณแม่ไปทำงานแต่ตอนเย็นค่อยไปรับกลับ

วันแรกตอนเช้าก็ร้องตามสเตป ใครๆ ก็บอกว่าไปส่งลูกจะร้องไห้ตามลูกนะ!

555 แม่แคทหัวเราะเลย เป็นไปไม่ได้ จะร้องไห้เพื่อ!

แต่พอไปรับจริงๆ เห็นเด็กนั่งเข้าแถวรอแม่ๆ มารับ มันตื้นตันบอกไม่ถูก ความรู้สึกเหมือนเด็กตัวเล็กที่เค้าต้องเริ่มทำหน้าที่ของตัวเองทั้งที่ตัวเค้าเองก็ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่คิดว่ามันเป็นการปรับตัวที่หนักหน่วงมากๆ แล้วก็รู้สึกว่าเด็กทุกคนทำหน้าที่ได้ดีเดินเข้าแถวตามคุณครูมา ทั้งที่อยู่บ้านไม่เคยได้รับการจัดระเบียบอะไรทั้งนั้น....

อีกใจนึงก็คิดว่าเหมือนเราส่งลูกมาผจญชีวิตจริงๆ แล้วอ่ะ มันเป็นจุดเริ่มต้นที่มาพร้อมกับน้ำตา ซึ่งเราเองก็ช่วยไม่ได้ซึ่งมันก็เป็นปกติที่ต้องเป็นไปตามวัยของลูก มันก็เป็นความทรมานใจอย่างนึง.

พอเห็นหน้ายูริ ยูริยิ้มและทำท่าดีใจแต่ก็นิ่งๆ ยิ่งลูกยิ้มทั้งน้ำตาเหมือนเค้าดีใจมากที่แม่มารับแม่อยากกอดลูกทันทีที่เห็นหน้า ยิ่งพอได้สวมกอดกัน เค้าเองก็กอดเราไม่ปล่อยเหมือนกัน

พักเดียวก็พูดไม่หยุด พอแม่ถามสนุกไหมลูกมาโรงเรียน ยูริตอบว่า สนุกค่ะ

พอบอกว่ามาอีกไหม ส่ายหัว 555

ก็อธิบายกันพักนึกก็โอเค พอเย็นก็อวดคนไปทั่วว่าไปโรงเรียนเซนต์ปอลมา

ก็ชะล่าใจนึกว่า คุณปู่คุณย่าไปส่งก็ได้ อิอิ...วันที่ 2 เลยคุณปู่คุณย่าไปส่ง

ร้องไห้โรงเรียนเกือบแตก

เฮ้อ....คงต้องไปส่งกับยายน้อยซักพัก แล้วยายน้อยก็คงเป็นธุระไปดูหลานเป็นระยะๆ

ขอบคุณยายน้อยนะคะ ที่กรุณากับแม่แคท จนถึงหลานยูริ ที่หาที่เรียนและเลี้ยงดู

ให้เราเป็นคนผู้เป็นคนมาจนถึงวันนี้

ขอบคุณที่รักกันค่ะ




Create Date : 21 พฤษภาคม 2556
Last Update : 21 พฤษภาคม 2556 15:17:46 น.
Counter : 1686 Pageviews.

10 comment
1  2  3  

Watrin&Uro
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ครอบครัวของเรา เคยมีแค่เจ้าปอมอ้วน ชื่อ..ยูโร

วันนี้ เรามีสมาชิกใหม่เป็นสาวน้อย...ชื่อ ยูริ (ตั้งชื่อคล้องกะพี่ยูโร)

LOvE U *-* (มาจาก...รักจ๊ะ ทั้งยูริและยูโร)