Group Blog |
ผ่าคลอด
พอครบ 38 สัปดาห์ จะตรงกับวันอังคารที่ 15 กรกฏาคม 2553
หมอก็ถามเลย ผ่าเลยไหมจ๊ะ เพราะยังไงก็ต้องผ่าเพราะหนูน้อยอยู่ในท่าก้น ไม่กลับหัวแน่นอน และวัดการบีบตัวของมดลูก ก็มีแววจะคลอดได้ทุกวัน ถามครั้งแรก OK กับคุณหมอไปเลย... พอกลับมาปรึกษากัน เออ..อยากให้ลูกได้เกิดวันดีๆ เนอะ อย่าตามอารมณ์คุณแม่มันนักเลย เลยตกลงใจว่าเราจะผ่ากันวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2553 ซึ่งเลยวันหวยออกมา 1 วัน คุณยายจะได้เสร็จภาระกิจและมาเฝ้าได้ด้วย อิอิ.. เป็นวันดีจริงๆ นะ วันที่คลอดมีคนมาผ่าเหมือนกันตั้ง 4 รายแน่ะ หมอนัดให้ถึงโรงพยาบาลตั้ง 6.30 น. ก็ไปตามนัดนะ แต่รอผิดที่ เลยเสียเวลาไปนิดนึง เตรียมตัวและเตรียมใจ เริ่มลงมีด เวลา 9.00 น. ปล. หมอให้เลือกระหว่าง วางยาสลบ (เหมาะกับคุณแม่ที่เป็นโรคปอด ตอนแรกก็งง เกี่ยวไรวะ หมอยิ้มๆ แล้วก็บอกว่าปอดแหกไง) กับบล๊อกหลัง ซึ่งฟื้นตัวเร็วกว่าและได้ถ่ายรูปกับลูกหลังคลอดทันทีด้วย แหม...คุณหมอพูดขนาดนี้ จะเลือกวางยาสลบได้ไง...เลยตัดสินใจบล๊อกหลัง ได้ลูกสาวหนัก 2,870 กิโลกรัม คลอดเวลา 9.14 น. พักห้อง 818 (คุณพ่อเอาเลขไปซื้อหวย โดนกินไป 240 บาท) น้ำหนักคุณแม่ก่อนท้อง 48 - 50 กิโลกรัม (แต่ตอนที่หมอเริ่มรับฝากท้อง 53. น้ำหนักวันคลอด 66 กิโลกรัม สรุปแบบเข้าข้างตัวเอง ว่าขึ้นมา 16 กิโลกรัม  พอคลอดออกมาปุ๊บ ก็มาพักฟื้นแล้วก็มาที่ห้องคลอด ซักพักลูกน้อยก็เริ่มมากินนม วันแรกห้ามยกศรีษะ ขึ้นจากเตียงเลย เราเองว่าอึดๆ นะ เวียนหัวเลย... นอนแหมบ...อยู่บนเตียงจนอีกวัน ตอนกลางคืนก็เริ่มเจ็บ แต่จะเจ็บมากกว่าปกติ ก็ตอนตะแคงตัวนี่เอง..ซึ่งพยาบาลสั่งไว้ในตะแคงบ่อยๆ เดี๋ยวสุกไม่เท่ากัน 5555 ถามว่าผ่าคลอดน่ากลัวไหม เราเคยรู้สึกว่า ต้องน่ากลัวมากๆ แน่เลย ต้องเจ็บจนเดินไม่ไหว แต่พอเจอกับตัวเองเข้าจริงๆ เราว่าไม่น่ากลัว ไม่เจ็บเท่าที่คิด อาทิตย์เดียวลืมไปเลยว่าผ่าท้องมา พอวันที่สองก็ลงจากเตียง เอาลูกน้อยมาให้เลี้ยง ป้อนนม กระตุ้นนม แต่ห้ามใช้ขวดป้อน..  แต่ลูกไม่ค่อยกลืน กินน้อยมาก จนคิดว่า เราทำไม่ถูกวิธีรึเปล่าน้อ.. ก็เลยไม่พยายามบังคับให้ลูกกิน ซึ่งพอเอากลับมาเลี้ยงที่บ้านก็จริงๆ ด้วย กินนมน้อย ไม่ชอบกลืน ขยันกินนมแม่ ดังนั้นพอเอาเข้าเต้าก็ดูดใหญ่เลย นึกว่านมมาแล้ว แหมลูกน้อยเนี่ย ใจสู้จะกินนมคุณแม่น่าดูเลย ปรากฏว่า พยาบาล ดุเลยให้กระตุ้นนมแม่นิดหน่อย ไม่ใช่ให้ลูกตั้งหน้าตั้งตากินนมแม่หมดพลังงานลูกผอมพอดี เพราะดูดไปสิบทีค่อยได้ 1 หยด สงสารลูกบ้างรึเปล่า ถ้ากินนมน้อยจะขับสารสีเหลืองไม่ได้ตัวเหลืองนะคะคุณแม่ จ๋อยเลยเรา...น้ำตาไหลพราก ก็พยายามใหม่...(แต่พอกับมาบ้านเปิดตำรา เด็กก็ต้องการน้อยนะ แค่ช้อนชาเอง) ลืมบอกไป...คุณย่าเค้าเอาสร้อยทองมารับขวัญหลานด้วยนะ ต้องขอบคุณคุณย่านะยูริ  วันที่สามก็สบายเดินคล่อง พาลูกไปตรวจหูเพิ่ม และตอนบ่ายๆ ก้ไปหัดอาบน้ำให้ลูกด้วยนะ แต่เราอ่ะ ทำเป็นทุกอย่างแล้ว เพราะเคยเป็นสาวใช้และเลี้ยงหลานมาหลายรุ่นแล้ว..หุหุ  วันที่สี่ก็กลับบ้าน คุณหมอมาถ่ายรูปด้วย น่ารักจริงๆ ขอบคุณนะคะ คุณหมอสุดหล่อ  กลับบ้านยังคิดถึงโรงพยาบาลอยู่เลย...ชอบ ชอบ  ฝากครรภ์เดือนที่ 1 - เดือนที่ 9 เลย
คราวนี้ท้องแล้ว ยังไม่อยากไปฝากท้องอ่ะ อยากให้ท้องซักแบบว่า มีตัวอ่่อนแล้วอ่ะ เพราะรู้ว่าหมอต้องบอกว่า อย่่าพึ่งดีใจไปให้ชัวร์ก่อนแน่นอน..
เพราะประวัติไม่ค่อยดีอาจมีพลาดได้นะ แต่พอบอกใครๆ ก็บอกว่าให้ไปเลย ก็เลยไปฝากกะหมอทนงวิทย์ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา (หมอเดิมตั้งแต่ท้องแรกที่แท้งไป นั่นแหละค่ะ) ไปแล้วก็เหมือนที่คิด หมอนัดรอบหน้าดูว่ามีตัวอ่อนหรือไม่ ก็ลุ้นต่อไป พอเดือนถัดมาก็ไปตรวจ มีตัวอ่อ่นค่ะ หัวใจเด็กเต้นจริงๆ ด้วย คุณหมอก็พลอยดีใจไปด้วย แล้วคุณหมอก็รับฝากท้องซะที U/S ครั้งที่ 1  U/S ครั้งที่ 2  U/S ครั้งที่ 3  U/S ครั้งที่ 4  จริงๆ แล้ว U/S มากกว่า 4 ครั้ง คือ ทั้งหมด 9 ครั้ง เพิ่มเติมตั้งแต่ตอนแท้งคุกคาม และตอนจะคลอดเนื่องจาก U/S ครั้งสุดท้ายว่ากลับหัวรึยัง... ปล. คุณหมอจะนัด U/S เดือนเว้นเดือน และระยะการนัดจะนัดทุกเดือน จนเข้าสัปดาห์ที่ 30 จะเริ่่มนัดทุก 3 สัปดาห์ และ 2 สัปดาห์ และทุกสัปดาห์ และนัดคลอดเลย...คร้า ระหว่างท้องมีเครียดอีกแว้ว... เพราะช่วงเดือนที่ 3 มีเลือดออกสีน้ำตาล ตอนจะไหลจะเสียวท้องน้อยมากเลย ถ้าวันไหนจะไหลนะ รู้สึกเลย.. ก็ไหลออกมาน้อยลงจนสิ้นสุดตอนเดือนที่ 4 คุณหมอเลย ฟันธงว่า "แท้งคุกคาม" หมอให้หยุด 7 วัน ก็เลยหยุด ลาป่วยซะเลย.. เดือนธันวาคม ปี 2552 เนี่ยไปทำงานทั้งเดือนแค่ประมาณ 10 กว่าวัน ส่วนเรื่องเจาะน้ำคร่ำ...เอ้อ อายุเกือบได้ ความเสี่ยงก็ได้อยู่ ทำไงดี หมอถามว่าจะตรวจไหม ตัดสินใจเอง... เอาเอกสารไปศึกษาข้อมูล นัดรอบหน้ามาคุยกัน ถามเพื่อนคนโน้นที คนนี้ทีบางคนตรวจ บางคนก็ไม่ตรวจ เอาไงดี กลัวอ่ะ.. สรุปเราอายุไม่ถึง ญาติๆ ไม่มีประวัติ เลยไม่ตรวจดีฟ่า เอ้อ...พอไม่ตรวจก็แอบเครียดตลอดเลย สุดท้าย ยังไงก็ท้องค่ะ  ท้องจริงๆ แล้วคราวนี้ อิอิ
หลังจากหมอให้เว้นมา 3 เดือน
ก็เริ่มใหม่ จากไม่เคยเข้าใจเลยว่า วันตกไข่คืออะไร รอบเดือนนับยังไงละ ตอนนั้นอ่านทุกวัน เตรียมทำการบ้านมาอย่่างดี จนเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ ขูดมดลูก เมษายน เริ่มมีได้ สิงหาคม แต่จริงๆ แอบเริ่มก่อน คือเดือน กรกฏาคม เพราะเห็นว่าเมษาเป็นต้นเดือน ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายวันที่ 23 กันยายน 2552 พอวันที่ 28 ตุลาคม ก็ซื้อแผ่นตรวจครรภ์ มา 5 กล่อง ลุ้นมาก มือสั่นไปหมดเลย ที่ซื้อมาเยอะเนี่ย เพราะคิดว่าถ้าครั้งแรกไม่เจอจะตรวจไปทุกวันเลย...ตรวจมันตอนเย็นกลับถึงบ้านเลย ไม่รอแล้วตอนเช้า รอไม่ไหว อยากรู้มากๆ คนท้องมีฮอโมนต์ ตอนไหนก็ต้องเจอ.. แล้วก็ขึ้นสองขีดจริงๆ กร๊ากกกก  ที่ตรวจครรภ์นั้น ก็ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้ว ตรวจทุกวัน เช้า เย็น เย็น เช้า จนหมด   เริ่มต้นสำหรับความตั้งใจ
สำหรับครอบครัวของเรา หลังจากแต่งงานมาตั้งแต่ ปี 2547
และชีวิตคู่ที่แสนจะลุ่มๆ ดอนๆ เราก็ไม่เคยมีแผนที่จะมีลูกซักที ผลัดวันประกันพรุ่งมาเรื่อยๆ จนวันนึง เริ่มรู้สึกว่าเออ..จะแก่แล้วนะ ถ้าอายุเกิน 35 เนี่ย เราจะทำไงดี จะมีลูกได้รึเปล่าน้า... เลยลองคุยกันดู ในตอนแรกก็ตกลงกันไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องตามใจดิชั้น คือมีปีนี้เลย มีให้ได้ตอนอายุ 31 เนี่ย...ไม่รอแล้ว (อายุ 31 ปี) ตอนนัน แหม! แต่ก่อนก็มั่นใจเชียว คนแข็งแรงแบบนั้นเนี่ย เปิดเครื่องเมื่อไหร่ต้องติดเลย... 5555 มันไม่เป็นอย่างนั้น จนจะหมดปี เราก็ไม่มีลูกกันซะที อ้าว...หรือเราสองคนจะมีลูกไม่ได้ วางแผนใหม่...แล้วประจำเดือนก็ไม่มา มาล่าสุดวันที่ 28 มกราคม 2552 แล้วก้ไม่มาอีกเลย จนปาเข้าไป สามสี่เดือน ตรวจหลายครั้งมาก ไม่เคยเจอว่าตัวเองท้อง จนกระทั่งวันที่ 15 มีนาคม 2552 เราตรวจพบว่าตัวเองท้อง...ก็ดีใจ มันขึ้นจางๆ อ่ะนะ บอกทุกๆ คนว่่าเราท้อง เลยไปฝากท้อง หมอบอกว่าจากการนับเดือนแล้วพึ่งจะตรวจเจอเนี่ยท่าจะไม่ค่อยดีนะ จริงๆ ด้วย การท้องในครัั้งแรก เราไม่มีตัวอ่อน เรามีแต่ถุงน้ำคร่ำ จ๋อย...คร้าบ หมอนัดขูดมดลูกวันที่ 1 เมษายน 2552 เออ..เจ็บตัวแบบไม่มีลูก 5555 หลังจากนี้หมอก้ให้รอ 3 เดือน ค่อยมีลูกได้... แต่ขอเล่า ตอนแท้งรอบแรกหน่อย...ไม่ไหวอยากเล่ามาก เริ่มแรกหมอนัดไปอัลตร้าซาวด์ พอบอกไม่เห็นตัวอ่อน หมอถามเอาไงดี รีบตอบหมอเลย ดำเนินการเลยค่ะ เพราะจะไปเที่ยวเกาหลีวันที่ 10 เมษายน ถ้าเกิดไม่จัดการอาจสร้างปัญหาบนเครื่องได้ (นึกว่าจะง่ายๆ) หมอก็จัดการ Admit เลย เริ่มจากการเหน็บยาเข้าไปในช่องคลอด 4 เม็ด โหยเจ็บนะเนี่ย เราก็คิดว่า เออ..คงจะหลุดออกมาง่ายๆ ไม่เลยหมอให้อยู่บนเตียงทั้งวัน ทั้งคืน เพราะถ้าหลุดออกมาจะได้เห็นว่าหมดรึเปล่า ปรากฎว่าเหน็บตั้งแต่ 11 โมง ทั้งวันไม่มีวี่แววจะออกมา ปวดท้องเหมือนท้องจะหลุด ใครมาก็ล้วงเข้าไปตรวจในมดลูกว่าปากมดลูกเปิดหรือยัง รู้สึกตัวเองเหมือนแม่วัวเลย ทรมานค่ะ อยากกลับบ้านเบื่อ คนเข้ามาเยี่ยมก็ไม่ได้ เพราะเค้าให้พักในห้องรอคลอด พอสัก4 ทุ่ม มันก็หลุดโผ๊ะ ออกมา เราก็เออ..เย็นใจคงเรียบร้อย ที่ไหนได้หมอเข้ามาใช้ปากเป็ดยักษ์มาก มาถ่างแล้วล้างมดลูกออกให้สะอาด ล้าง ล้วงกันสดๆ เจ็บน้ำตาไหล หมอบอกนอนนะเดี๋ยวเช้าเราดูกันอีกทีว่าหมดรึเปล่า โดยการตรวจภายใน (ขึ้นขาหยั่ง) ถ้าไม่หมดหมอจะขูดมดลูกนะจ๊ะ โห...ไรอ่ะ ไหนบอกว่าไม่ขูดไง ทำไมไม่ขูดตั้งแต่แรก ฟระ!!!! แอบโกรธหมอนิดนึง พอเช้ามาก็ไปตรวจ ปรากฎว่าต้องขูดมดลูก เห้อ...ต้องอดอาหารต่อไป วางยาสลบ และจัดการเลย ก็ดีกว่าที่คิดนะคะแค่หลับไป ตื่นขึ้นมาก็หน่วงๆ เท่านั้น ไม่เจ็บอย่างที่คิด เหอๆๆ หมอเขียนใบรับรองแพทย์ให้พัก 7 วัน แต่แบบว่า งกอ่ะ ไปทำงานทุกวันเลย... แล้วพอวันที่ 10 ก้ไปเที่ยวเกาหลีอีก อิอิ  ติดตามตอนต่อไปนะคะ ว่าเมื่อไหร่ท้อง.... |
Watrin&Uro
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] ครอบครัวของเรา เคยมีแค่เจ้าปอมอ้วน ชื่อ..ยูโร วันนี้ เรามีสมาชิกใหม่เป็นสาวน้อย...ชื่อ ยูริ (ตั้งชื่อคล้องกะพี่ยูโร) LOvE U *-* (มาจาก...รักจ๊ะ ทั้งยูริและยูโร) Friends Blog
Link |
