General News Online
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
25 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 

ทดสอบรถ Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ สปอร์ต ถ่ายทอดความเป็น Evolution

Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ สปอร์ต

ในช่วงวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมาหรือช่วงวันแม่นั่นเอง ได้มีการทดสอบรถยนต์ Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT มิตซูบิชิ อีเอ็กซ์ สปอร์ตใหม่ รถระดับคอมแพคคาร์ยอดนิยมอีกหนึ่งคัน ซึ่งเป็นรถรุ่นเครื่องยนต์ 2 ลิตร ตัวท๊อปของ Mitsubishi Lancer หลังจากเมื่อช่วงต้นปีเราได้ไปทดสอบแบบ Group Test มาแล้วครั้งหนึ่ง ทว่าในครั้งนี้เป็นการทดสอบในสภาวะการใช้งานจริง ที่รถคันนี้ต้องสามารถตอบโจทย์บนสภาวะถนนให้ได้ว่ามันมีดีพอกับราคาค่าตัว 1,051,000 บาท จนน่าจับจองเป็นเจ้าของหรือไม่

บ่ายๆ ก่อนวันแม่หนึ่งเรารีบกุลีกุจอเคลียร์งานต่างๆก่อนมุ่งหน้าสู่บริษัท Mitsubishi Motors ย่านรังสิต ไปรับ Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT มาเลี้ยงดูเต็มๆ 3 วัน ช่วงหยุดยาว ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่เหมาะเจาะในการทดสอบยนตรกรรมแถวหน้าคอมแพ็คคาร์ที่หลาย คนอาจจะมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย

แม้ Mitsubishi ดูเหมือนจะให้ความสนใจในการเทขายรุ่น 1.8 ลิตรมากกว่า สำหรับ Mitsubishi Lancer EX ที่เปิดตัวมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แต่ความเปี่ยมล้นในจิตวิญญาณของเครื่องยนต์ขนาด 2000 ซีซี นั้น ก็เชิญชวนให้เราอยากลิ้มลองโดยเฉพาะ เมื่อนี่คือรุ่นที่ "จิตวิญญาณการแข่งขัน" ฝังอยู่ในดีเอ็นเอ และประกอบกับราคาที่ปรับลงมาเย้ายวนใจใครหลายๆคนที่รักรถที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง บททดสอบนี้จึงเริ่มขึ้น

รัก...แรกพบ

เมื่อช่วงต้นปีตอนไป Group Test กับค่าย Mitsubishi ที่ถือเป็นงานแรกๆ ที่ออกไปเปิดหูเปิดตาโลกยานยนต์ในไทยนั้น เราได้มีโอกาสสัมผัสรถรุ่นนี้กันไปแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้เมื่อมาควงกันเคียงข้างเป็นเพื่อนคู่ใจนั้น ทำให้เราหวนนึกถึงความประทับใจแรกเห็น โดยเฉพาะภาพลักษณ์ใหม่ของรถรุ่นนี้ที่ไม่ต่างจาก Mitsubishi Evolution รถสปอร์ตแรลลี่ตัวเต็มขับเคลื่อน 4 ล้อ... รถในฝันของใครหลายๆคน

ถ้าจะบอกว่านี่คือน้องเล็กของ Evolution ใครก็คงจะเชื่อด้วยใบหน้าที่ถูกปั้นแต่งใหม่มาในแบบจมูกเบิกกว้างหน้าทรงปลา ฉลาม ไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยวดุดัน เติมแต่งด้วยชุดแต่งจากโรงงาน ควบมาหมดตั้งแต่สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง และสปอร์ยเลอร์หลังที่ลงตัวไม่เทอะทะ แต่อยากจะบอกว่าทั้งหมดรวมถึงเจ้า Diffuser ด้านหลังที่ปลายกันชนนี้ ทั้งหมดเป็นของสำนัก Ralliart แท้จากโรงงาน และเจ้าน้องเล็กคนนี้สวมรองเท้าขอบ 18 รมดำกว้าง 7 นิ้ว มาพร้อมยางสปอร์ต Yokohama Advan ซีรี่ย์ 215/45/R18 เรียกว่าครบถ้วนหมดทุกอย่าง

 

สปอร์ตทันสมัยแม้ภายในห้องโดยสาร

หลังจากทำพิธีรับมอบกันสักพักใหญ่เราก็ได้รับกุญแจรีโมท Keyless Operation System หรือ KOS ที่หมายถึงเราพร้อมแล้วที่จะขับ Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT ที่เพียงปลายนิ้วแตะสัมผัสเบาๆที่ปุ่มข้างประตู เจ้าน้องอีโวคันนี้ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว กางหู กระพริบไฟ เหมือนดีใจจะได้ออกเที่ยว

Keyless Entry ช่วยให้เราสามารถขึ้น-ลงรถได้อย่างสะดวกและจะไม่ตอบสนองหากเรายืนห่างจากรถ 2 เมตร แต่ที่สังเกตคือการใช้ระบบ Keyless ที่ฝากระโปรงหลังนั้นยังตอบสนองบ้างไม่ตอบสนองอาจจะเป็นเพราะระยะห่างจากตัว เซ็นเซอร์แต่ข้อดีที่เห็นชัดของระบบนี้คือมันสามารถใช้งานง่าย

Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT

ช่องใส่สัมภาระด้านหลังของ Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT

หลังจากทำความคุ้นเคยกับระบบพักใหญ่ ก็ได้เวลาประจำตำแหน่งในห้องโดยสารที่รถคันนี้นั้นเน้นความสปอร์ตในจิต วิญญาณอย่างมาก ด้วยการตบแต่งภายในสีดำทั้งคัน ซึ่งอาจจะทำให้มิติห้องโดยสารโดยรวมนั้นดูเล็กไปแต่เมื่อลงนั่งบนเบาะนั่ง แบบสปอร์ตทางด้านคนขับที่ติดตั้งมาให้คู่หน้านั้น ก็โอบกระชับพอดีตัวทำให้รู้สึกเหมือนคุณอยู่ในรถแข่ง ที่ตรงหน้ามีพวงมาลัยมัลติฟังชั่น 3 ก้านสามารถควบคุมเครื่องเสียง และมีระบบ Cruise Control มาด้วย ส่วนลึกลงไปเป็นมาตรวัดแบบสปอร์ตพร้อม Trip Computer ที่ฝังไว้ในคอนโซลหน้าสีดำ สามารถดูข้อมูลได้ด้วยปุ่ม Info ที่อยู่ด้านข้างขวาหลังพวงมาลัย

Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT

คอนโซลภายในของ Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT

ตรงกลางคอนโซลจุเครื่องเล่น DVD ที่มาเสร็จสรรพพร้อจอทัชสกรีน 7 นิ้ว มีระบบเชื่อมต่อ bluetooth ลิงค์กับโทรศัพท์ยามขับขี่ ทำงานทันทีที่คุณเปิดวิทยุ ที่ต้องเซทค่าก่อนแต่ก็ไม่ยากเกินเข้าใจ นอกจากนี้ยังมีช่องต่อ USB และIpod ตรงรุ่น สายนั้นเก็บไว้ในคอนโซลหน้าฝั่งคนนั่ง ถัดลงมาเป็นสวิทช์ระบบปรับอากาศ มาพร้อมระบบแอร์อัตโนมัติใช้ลูกเล่นหมุ่นปรับระดับส่วนตรงกลางนั้นกดตัดการ ทำงานคอมเพรสเซอร์ หรือ กดเพื่อให้ไล่ฝ้ากระจกหลังทำงาน ถังลงมาเป็นคันเกียร์อัตโนมัติ ไล่เรียง P R N D และ ผลักทางด้านขวาจะเป็น Manual Mode + เพิ่มตำแหน่งเกียร์ผลักขึ้น ส่วน ลดตำแหน่งเกียร์ - ให้ผลักลง

Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT

เกียร์อัตโนมัติของ Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT

เหลียวไปมองเบาะหลังลงตัวด้วยหนังสีดำเช่นกันตรงกลางมาพร้อมพนักวางแขน ที่ยังสามารถพับเบาะเปลี่ยนเป็นพื้นที่วางของได้ในอัตรา 60 :40 ส่วนเหนือเพดานมีไฟส่องสว่างและกระจกก็เป็นตัดแสงมาจากโรงงานช่วยให้ขับขี่ ได้โดยไม่ล้ายามค่ำคืน

หลังจากพร้อมเสร็จสรรพปรับเบาะนั่งปรับเบาะนั่งด้วยระบบอัตโนมือ ที่เราหวังเล็กว่า Mitsubishi จะให้เบาะไฟฟ้าในอนาคตนั้นก็ได้เวลาบิดสวิทช์สตาร์ท แต่ เมื่อขับรถออกมาสักระยะหนึ่งก็สังเกตว่าประตูไม่ล็อคอัตโนมัติ และตำแหน่งล็อคประตูที่กับมือจับเปิดประตูนั่นทำให้ไม่ค่อยเป็นที่สังเกต เท่าไร น่าจะย้ายมาช่วงสวิทช์กระจกดีกว่า

 

จิญวิญญาณเดียวกับ Evolution แค่ไม่มีตัวเพิ่มพลังเท่านั้น

เครื่องยนต์ขนาด 2000 ซีซี รหัส 4B11 ที่มองจากหน้าปัดมีอัตราเร่งสูงสุดที่ 6500 รอบต่อนาที แต่จากรายละเอียดทางเทคนิคระบุว่าขุมพลังตัวนี้ให้อัตราเร่งสูงสุด 154 แรงม้าที่ 6000 รอบต่อนาที ตอบสนองแรงบิดสูงสุด 198 นิวตันเมตร ที่ 4250 ต่อนาที มาพร้อมระบบเกียร์ Invect III 6 สปีด และที่สำคัญหลังพวงมาลัยมีความมันส์กับ Paddle Shift ให้ได้บริหารนิ้วกันด้วยแหละ

เราสตาร์ทเครื่องยนต์ที่จอดนิ่ง และทันทีสิ้นเสียงแชะ! ขุมพลัง 4B11 รหัสเดียวกับพี่ใหญ่ Evolution จะขาดก็แต่เพียงเทอร์โบเบ่งพลังที่แน่นิ่งก็ส่งเสียงคำรามพร้อมทะยานและเดิน เบาที่ 700 รอบต่อนาที ที่ถ้าไม่สังเกตเรือนไมล์ก็แทบไม่ได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องยนต์เลยแม้ แต่น้อย ทว่าหลังจากตื่นขึ้นมาเช้าวันใหม่พร้อมภาระการทดสอบ Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT นั้น เราก็พบว่าการวอร์มเครื่องตอนเช้าค่อนข้างหฤโหดฟาดไปเสีย 1500 รอบต่อนาที หึ่งจนน่ารำคาญ

สิ่งหนึ่งที่เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะกังขาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ขนาด 2000 ซีซี คงไม่พ้นความเหมาะสมในการใช้งาน ที่ยังไม่นับราคาที่แพงกว่าแต่า Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT มีอะไรมากกว่าแค่เครื่องยนต์เปี่ยมสมรรถนะ และเราก็นำมันออกทะยานสู่ปลายทางเมืองหัวหินเพื่อหาข้อพิสูจน์

ในการเดินทางออกทะเลครั้งนี้เราเดินทางด้วยผู้โดยสาร 2 คน พร้อม สัมภาระที่ไม่มีอะไรมาก แค่กระเป๋าและขาตั้งกล้อง ที่ดันวางลืมทิ้งเอาไว้แถมไปให้ตอนนำรถไปคืนยังบริษัท Mitsubishi ที่ต้องขอบคุณ พีอาร์สาวสวยพี่จิมที่ช่วยเก็บไว้ให้เป็นอย่างดี

กลับมาว่าการทดสอบกันต่อก่อนเดินทางเราเช็คลมยางให้อัตราลมยาง 4 ล้อที่ 38 PSI เอาค่อนข้างแข็งเล็กน้อยเพื่อพิสูจน์ช่วงล่าง ก่อนปักตะไคร้มองฟ้าฝนน่าจะเป็นใจ แต่เมฆเยอะ แล้วก็ได้ฤกษ์เคลื่อนพลสู่ปลายทาง

จุดเริ่มต้นการทดสอบนั้นอยู่ที่ย่านหลักสี่ และเดินทางออกทางถนน นครอินทร ดิ่งออกถนนกาญจนา จรดถนนพระราม 2 ยิงยาวถึงวังมะนาวแล้วไปตามทางถนนเพชรเกษม โดยใช้เส้นทางเดิมผ่านตัวเมืองชะอำ การขับทดสอบนั้นเราใช้ความเร็วประมาณ 120-130 กิโลเมตรต่อชั่ว โมง แต่แล้วเมื่อเข้าสู่ถนนพระราม 2 ขณะมุ่งหน้ามหาชัย การจราจรคับคั่งก็กลับกลายเป็นติดขัด ยาวยันเกือบถึงย่านนาเกลือสมุทรสงคราม

2 ชั่วโมงบนถนนยังห่างจากกรุงเทพมหานครไม่ถึง 100 กิโลเมตรเล่นเอาเซ็งไปเหมือนกัน แต่แล้วการจราจรก็เริ่มเคลื่อนตัวได้ ต้นเหตุไม่ใช่อะไรแค่มีงานวัดแห่งหนึ่งที่อยู่ริมถนนเท่านั้น ก่อนยิงยาวทำความเร็วเพิ่มไปเหยียบ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และป้วนเปี้นแถวๆนั้น

ช่วงที่ขับย่านความเร็วสูงนี้ Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT สามารถตอบสนองได้ดี การขับขี่แน่นหนึบแม้เปลี่ยนเลนในความเร็วสูงก็ยังให้ความมั่นใจได้ เช่นเดียวกับการเข้าโค้งที่ฟิตปั๋งไม่มีโยนให้เห็น ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นต้องยกให้ชุดสปอร์ยเลอร์หลัง แม้เคยโดนกังขาว่าบดบังทัศนวิสัย อีกข้อหนึ่งที่สำคัญก็มาจากล้อแม็กขอบ 18 นิ้วทำให้ยางมีหน้าสัมผัสเยอะขึ้นช่วยเพิ่มสมรรถนะการเกาะถนนยิ่งขึ้น

น้ำมันที่เต็มจากกรุงเทพมหานครสามารถวิ่งถึงหัวหินได้ด้วยความเร็วตามที่ กล่าว โดยใช้น้ำมันเพียงครึ่งถังจากถังน้ำมันขนาด 59 ลิตรเท่านั้นช่างน่าอัศจรรย์ใจ โดยเฉพาะเมื่อเลยชะอำเราลองทำความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้ ปั้นได้ดีสุดที่ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อกดดูอัตราการใช้เชื้อเพลิงจาก trip computer ก็ได้ตัวเลขที่ 13.8 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าดีเยี่ยมกับความเร็วระดับนี้ ซึ่งเมื่อเทียบออกมาเป็นค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร บททดสอบนอกเมืองนี้ใช้เงินเพียง 3.7 บาทต่อกิโลเมตรเท่านั้น

 

วันใหม่ในเมือง..คันนี้ก็คล่องตัว

เช้าวันใหม่หลังจากการทดสอบนอกเมืองเราตื่นมาขี่ Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT สู่ย่านใจกลางกรุงการขับในเมืองคนจำนวนมากมักจะเลือกขับในโหมด D ตลอด และนั่นก็เป็นเช่นเดียวกับเรา โดยวันนี้ออนทัวร์ฉายเดี่ยวขับไปๆมาๆ ก็พบว่าเกียร์ Invect III นั้นตอบสนองได้ดีแต่ค่อนข้างลากรอบไปสักนิด เรียกว่าไม่ถอนคันเร่งก็ไม่เปลี่ยน และเป็นเช่นนี้หลายรอบ จนต้องได้แตะ Paddle shift ที่สามารถใช้งานได้ทันที แต่เจ้าเกียร์มือนี้แม้จะตอบสนองดีแต่ก็ให้ผลไม่ต่างจากเดิมเลย คือ เปลี่ยนตำแหน่งช้า และไม่ต้องสงสัยว่ามันต้องมีผลต่ออัตราการสิ้นเปลืองอย่างแน่นอน

Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการจราจรในเมืองนั้นถือเป็นโจทย์ที่ยากที่เครื่องขนาด 2.0 ลิตร จะตอบเรื่องอัตราซดน้ำมันอยู่แล้ว เราฝากเสนอแนะว่า หาปุ่มหรือทำโหมดประหยัดขึ้นมา น่าจะช่วยได้ โดยเฉพาะการปรับโปรแกรมเกียร์ไม่ให้ลากรอบในช่วงโหมด D จะทำให้อัตราประหยัดนั้นดีกว่านี้ แต่จากการทดสอบ ที่วิ่งไปรอบๆเมืองนั้นเราได้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 9.2 กิโลเมตรต่อลิตร อ้างอิงจาก Trip Computer

ข้อหนึ่งที่น่าชมเชยใน Mitsubishi Lancer Ex 2.0 GT นั้น คือความคล่องตัวในเมืองที่ทำได้รถหน้าสั้นนั้นทำให้มันขับง่าย เช่นเดียวกับ walking Speed หรือ อัตราเดินเบาแบบไม่แตะคันเร่งนั้นก็ถือว่าโอเคเลยทีเดียว ซึ่งโดยรวมน่าจะเรียกว่ารถคันนี้มีสมรรถนะเข้าขั้น

ถ้าไม่นับข้อติเตียนจากเราเล็กๆน้อย Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT ก็ เป็นคอมแพ็คคาร์อีกรุ่นที่พกสมรรถนะมาอย่างเต็มเปี่ยม ตั้งแต่เรือนร่างที่ดุดันและสง่างาม จนถึงเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ดีและช่วงล่างที่แน่น ด้วยราคา 1.051 ล้านบาท หากคุณชอบความสปอร์ต..ต้องไม่พลาดคว้ามันมาเป็นเจ้าของ

 

ตารางคะแนนการขับขี่ Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT

หัวข้อ

คะแนน (เต็ม10)

คำแนะนำและข้อเสนอแนะ

รูปลักษณ์ภายนอก

9.5

การให้รูปโฉมของ Evolution ในรถรุ่นนี้ถือว่าลงตัวมา ชุดแต่งพร้อม ล้อแม็กครบทั้งหมดพร้อมซิ่ง ถือว่าเป็นจุดเด่น ความจริงก็อยากให้เต็มอยู่ แต่เมื่อความงามแบบนี้มาจากการเสริมชุดแต่งก็ขอหักเล็กน้อย แต่ทำได้ดีเลยทีเดียว ..

ภายในห้องโดยสาร

8.5

ห้องโดยสารสีดำดูงดงามอุปกรณ์พร้อมดี เครื่องเสียงเวิร์ค รถขายจริงมีระบบนำทางด้วย แต่ข้อติติงคือ 1.ปุ่มล็อคประตู ถ้าไม่คิดจะย้ายทำให้มันล็อคเองนะ Mitsubishi 2.เรื่องปุ่มที่พวงมาลัย จริงๆใช้งานไม่ยากถ้าคุ้นเคย แต่ถ้าไม่คุ้นเคยนี่ปัญหาใหญ่ 3.เบาะนั่งน่าจะใส่ปรับไฟฟ้าได้แล้ว

สมรรถนะเครื่องยนต์และความประหยัด

9

เครื่องยนต์ 4B11 นี่รหัสเดียวกับ อีโวเลยขับ ขับมันส์ ขับสนุก แต่อัตราทานน้ำที่ยังเป้นรองนั้นปัญหาใหญ่คือระบบส่งกำลัง ที่ยังลาก หรือมีการกระชากบ่อยครั้ง เราได้ลองใช้ manual Mode ขับดูพบว่าทำอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าอย่างชัดเจน ดังนั้นต้องไปปรับปรุงอีกหน่อย ส่วนอัตราสิ้นเปลืองระหว่างทดสอบถ้าเทียบกับพิกัดเครื่องถือว่าผ่าน แต่เชื่อว่าเมื่อปรับเรื่องเกียร์จะดีขึ้นกว่านี้อีก

ระบบกันสะเทือนและเทคโนโลยี

9

ทุกอย่างลงตัวทำได้ดีแล้ว แต่ความดีความชอบนั้นก็มาจากการปรับแต่งด้วย เช่นการเพิ่มสตรัทบาร์ในห้องเครื่อง การใส่สปอร์ยเลอร์อะไรแบบนี้ ซึ่งหากตัวเปล่าแล้วขับได้เทพขนาดนี้ คะแนนเต็มไม่ไกลเกินเอื้อม

 

ขอบคุณข้อมูลจาก auto.sanook.com

ภาพและเรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง




 

Create Date : 25 มีนาคม 2555
0 comments
Last Update : 25 มีนาคม 2555 7:31:25 น.
Counter : 1349 Pageviews.


Author online
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Author online's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.