ฟอร์ดเผยโฉมเอสยูวีใหม่“เอคโคสปอร์ต”

วานนี้(4ม.ค.) ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เผยโฉม "เอคโคสปอร์ต"แก่สื่อมวลชนทั่วโลกก่อน ยึดงานนิวเดลี ออโต้ เอ็กซ์โป 2012 ประเทศอินเดีย เปิดตัวคอมแพกต์เอสยูวีรุ่นใหม่ “เอคโคสปอร์ต” ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 2 ในจำนวน 8 รุ่น ที่ฟอร์ดวางแผนเปิดตัวในอินเดียภายในปี 2558 และเตรียมทำตลาดอีก 100 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย เพียงแต่ฟอร์ดยังไม่กำหนดเวลาว่าเมื่อใด        สำหรับ“เอคโคสปอร์ต” เป็นคอมแพกต์เอสยูวีที่พัฒนาบนพื้นฐานรถยนต์นั่งขนาดบี-เซกเมนท์ (บี-แพลตฟอร์ม) ที่เผยโฉมครั้งแรกในโลกในงานนิวเดลี ออโต้ เอ็กซ์โป 2012 ซึ่งฟอร์ดไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคใดๆ นอกจากคุยฟุ้งเรื่องการออกแบบภายนอก-ภายใน และความอเนกประสงค์ที่มาพร้อมสุดยอดการขับขี่               โดย เจ เมย์ รองประธานกลุ่มผู้บริหารฝ่ายการออกแบบ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความคิดสร้างสรรค์ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เปิดเผยว่า เอคโคสปอร์ต ใหม่ ถูกสร้างสรรค์ที่สตูดิโอออกแบบของฟอร์ด ที่เมืองคามาคาริ ประเทศบราซิล และแสดงให้เห็นถึงทิศทางใหม่ในการออกแบบยานยนต์ระดับโลกของฟอร์ดได้เป็นอย่างดี        ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็ครุ่นใหม่ ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างที่เต็มเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจแห่งอิสระของการเดินทาง รูปทรงที่กระทัดรัดและคล่องตัว ทั้งยังได้รับการออกแบบให้สะท้อนถึงความปลอดภัยจากการวางตำแหน่งที่นั่งของผู้ขับขี่ที่มอบการควบคุมอย่างดีเยี่ยม               เอคโคสปอร์ต ใหม่ ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ช่วยเพิ่มอัตราการประหยัดน้ำมัน กระโปรงหน้ารถที่สั้นและลาดขึ้นไปสู่กระจกหน้าทำให้รูปทรงของรถแต่งต่างอย่างโดดเด่น ทั้งยังมีพื้นที่ใต้ท้องรถสูง วางตำแหน่งผู้ขับขี่ให้สามารถควบคุมรถได้อย่างปลอดภัย และด้านล่างของตัวถังด้านข้างได้รับการออกแบบให้ผสานเป็นชิ้นเดียวกับตัวรถเพื่อความแข็งแรง        กระโปรงหน้ารถกว้างเชื่อมต่อกับเส้นด้านข้างตัวถังสะท้อนถึงการออกแบบสไตล์เคเนอติกและการออกแบบพื้นผิวด้วยความประณีตสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของรถและพลวัตรของพลังแห่งการเคลื่อนไหว ขณะที่ไฟหน้าดูโฉบเฉี่ยวได้รับการออกแบบให้ทอดตัวยาวเป็นเสมือนกรอบด้านบนของกระจังหน้า               กระจกหน้าได้รับการออกแบบให้ลาดไปทางด้านหลัง ขณะที่เสากลางได้รับการออกแบบให้เป็นสีดำทำให้กระจกด้านข้างทั้งหมดของรถผสานกันเป็นชิ้นเดียว ช่วยเพิ่มความหรูหรา ทันสมัย และการออกแบบที่สะอาดตา รูปทรงของรถได้รับการออกแบบโดยใช้อุโมงค์ลมในการเพิ่มความประหยัดน้ำมันสูงสุด        ด้านหลังของรถได้รับการออกแบบโดยใช้กระจกขนาดใหญ่โอบรอบตัวถังจากด้านหนึ่งสู่อีกด้านพร้อมติดตั้งไฟท้ายที่สะดุดตา หนึ่งในชิ้นส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์นั่นคือการติดตั้งยางอะไหล่บนฝาประตูท้ายแบบเปิดด้านข้าง สะท้อนถึงการตอบสนองต่อการใช้งาน               ด้านความปลอดภัยได้รับการพัฒนาให้มีมาตรฐานสูงสุด ทั้งการกำหนดน้ำหนักที่เหมาะสมของรถ การใช้ตัวถังที่มีความแข็งแรงสูง การใช้ซอฟท์แวร์และอุปกรณ์ในการออกแบบที่มีความทันสมัยในการพัฒนารถ และการออกแบบส่วนต่างๆ ของรถให้ดูดซับแรงกระแทก พร้อมการออกแบบห้องโดยสารให้แข็งแกร่งเพื่อปกป้องความปลอดภัยของผู้โดยสาร        “ฟอร์ดจะเปิดเผยรายละเอียดในการออกแบบตัวถังภายนอกของเอคโคสปอร์ต ใหม่ เป็นลำดับแรก ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะได้รับการเปิดเผยในอนาคตอันใกล้นี้” เจ เมย์ กล่าว               โจ ฮินริคส์ ประธานฟอร์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา กล่าวว่า ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญอย่างมากต่อแผนการระดับโลกในการขยายการเติบโตทางธุรกิจของฟอร์ด โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายทั่วโลกประมาณ 50 % ภายในปีพ.ศ. 2558 หรือคิดเป็นยอดขาย 8 ล้านคันต่อปี ซึ่งในจำนวนนี้คาดว่าจะเป็นยอดขายที่มาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริการาว 60-70%        เหนืออื่นใด ฟอร์ดเพิ่งทำพิธีวางศิลาฤกษ์เพื่อเริ่มต้นการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ ณ เมืองซานันด์ รัฐกูจารัฐ ในโครงการที่มีมูลค่าการลงทุนราว 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท) และก่อนหน้านั้น ฟอร์ดยังได้ประกาศว่าจะลงทุน 72 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.16 พันล้านบาท) ภายในสิ้นปีพ.ศ. 2555 เพื่อขยายโรงงานผลิตระบบส่งกำลังที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันในเมืองเชนไน โดยปัจจุบัน ฟอร์ดมีมูลค่าการลงทุนในประเทศอินเดียทั้งหมดประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท)               ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต เตรียมผลิตที่โรงงานเมืองเชนไน ประเทศอินเดีย เพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออก ซึ่งโรงงานแห่งนี้เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีศักยภาพผลิตรถยนต์รวมได้ 200,000 คันต่อปี               สำหรับประเทศไทย....คงต้องรอกันอีกนาน

ที่มา manager

Create Date : 05 มกราคม 2555		1 comments
Last Update : 5 มกราคม 2555 9:31:41 น.
Counter : 368 Pageviews.
Share Tweet