|
เศรษฐีหุ้น"วิชัย ทองแตง"แนะเคล็ด"รวย"ไม่รู้จบ"
เป็นการคอนเฟิร์มความรวยระดับ "มหาเศรษฐี" เมืองไทยอย่างเป็นทางการ สำหรับการประกาศผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย ปี 2554 ที่จัดโดยวารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยครั้งนี้มีชื่อ "วิชัย ทองแตง" อดีตทนายคดีดัง "ซุกหุ้น" อดีตนายกรัฐมนตรี แทรกขึ้นมาติดโผในอันดับ 4 ที่ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 11,804.14 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นกรุงเทพดุสิตเวชการ (บีจีเอช) หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ 12.17% มูลค่า 11,532.14 ล้านบาท และหุ้นปุ๋ยเอ็นเอฟซี 8.04% มูลค่า 272 ล้านบาท
เป็นรองเพียงแค่ "ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" แห่งพฤกษาฯ ที่ครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 (18,520.34 ล้านบาท) "อนันต์ อัศวโภคิน" คีย์แมน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ อดีตแชมป์ 7 ปีซ้อน (15,490.82 ล้านบาท) ส่วนอันดับ 3 "คีรี กาญจนพาสน์" หัวเรือใหญ่ บีทีเอส กรุ๊ป (12,742.83 ล้านบาท) ส่วนอันดับ 5 เป็นของ น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ที่ขยับจากอันดับ 11 เมื่อปีที่ผ่านมา (9,870.25 ล้านบาท)
จากปีที่ผ่านมา "วิชัย" ติดอันดับ 391 โดยถือเพียงแค่หุ้นเอ็นเอฟซี เพียงแค่ข้ามปี ก็สามารถกระโดดขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4 แซงหน้าเศรษฐีหุ้นรายเดิม ๆ ไปอย่างไม่มีใครคาดถึง
นาทีนี้ ชื่อของ "วิชัย" จึงเป็นเศรษฐีหุ้นรายใหม่ล่าสุด ที่มาแรงกว่าใครเพื่อน
นี่คือผลพวงที่งอกเงยมาจากการตัดสินใจควบรวมกิจการของโรงพยาบาลพญาไทและเปาโล ในนามของ "เฮลท์ เน็ตเวิร์ค" กับกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ หรือที่เรียกว่า entire business transfer เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสสัมภาษณ์ "เศรษฐีหุ้น อันดับ 4 ของเมืองไทย"
"วิชัย" ตอบคำถามพร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี "...ผมไม่ขอรับตำแหน่งนี้ (หัวเราะ)"
เมื่อถามต่อว่า รู้สึกอย่างไรที่ได้รับการให้เป็น "เศรษฐีหุ้น" "...ผมไม่ยินดียินร้ายกับตำแหน่งที่ได้รับครั้งนี้"
พร้อม ๆ กับเสียงหัวเราะ เขาขยายความต่อไปว่า "จริง ๆ แล้ว ผมไม่อยากดังแบบนี้ เพราะคิดว่ามันเป็นอะไรที่ไม่จีรังยั่งยืน และก็คงเป็นธรรดา หากปีไหนเราซื้อ (หุ้น) มาก มีหุ้นมาก เราก็จะได้รับการจัดอันดับ แต่หากไม่ได้ซื้ออะไรมากมาย อันดับก็จะตกลง"
"ทุกวันนี้ ธุรกิจที่มีอยู่ ก็ให้ลูก ๆ เข้ามาดูแล วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ว่าง ๆ ผมก็กลับไปบ้านที่แม่กลอง ยังใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็นมา อยู่ง่าย ๆ กินง่าย ๆ ผมชอบอยู่กับดิน อยู่กับหญ้า ขุดดิน ดายหญ้า พายเรือ"
หลายครั้งที่มีโอกาสได้นั่งจับเข่าคุยกับทนายคดีซุกหุ้นอดีตนายกฯ เขามักจะเปิดใจเล่าถึงกลเม็ดเคล็ดลับการลงทุนในตลาดหุ้นไว้ให้ได้ศึกษาเรียนรู้อยู่เนือง ๆ
"...ผมอยู่ในชีวิตของนักเล่นหุ้นมา 30 กว่าปี เข้าตลาดหุ้นมาตั้งแต่ประมาณปี 2521 ตั้งแต่เป็นแมงเม่า จนกระทั่งวันนี้เป็นขาใหญ่บ้าง เสี่ยบ้าง ตามแต่ใครจะตั้งฉายาให้ ผมเป็นนักลงทุนที่อยู่ใต้ความเสี่ยงทุกประการ แต่จากประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 30 ปี ในตลาดหุ้น ทำให้เรามีวิธีคิดที่เป็นรูปแบบของเราเอง จากที่เคยพลาดมาเยอะแล้ว เราก็เข้าใจวิธีบริหารความเสี่ยงของตัวเอง"
เขายังบอกอีกว่า "หลักคิดสำคัญ ก็คือเรื่องตัวเลข เราต้องแม่นในเรื่องตัวเลขพอสมควร และต้องคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตได้ดีพอสมควร"
ไม่เพียงเท่านี้ ทนายชื่อดังยังเฉลยเคล็ดลับของการลงทุนเทกโอเวอร์ด้วยว่า มีหลักง่าย ๆ โดยเรื่องแรก จะต้องตรวจสอบปัญหาด้านการเงินว่าบริษัทนั้น ๆ มีปัญหามากน้อยขนาดไหน ปัญหาที่เกิดจากสถาบันการเงินเป็นอย่างไร ถัดมาต้องมาตรวจสอบด้านการบริหารจัดการ ว่าเป็นอย่างไร มีโอกาสหรืออะไรที่สามารถแก้ไขได้หรือไม่
และข้อสุดท้าย สำคัญที่สุด จะต้องดูว่า ธุรกิจที่เข้าไปนั้น ๆ มีอนาคตหรือไม่
"การเข้าไปแก้ปัญหาธุรกิจ อาจจะมีความผิดพลาดบ้าง แต่จะต้องคุมสติให้นิ่งไว้ อย่ารีบร้อน จะต้องทำความเข้าใจกับมัน หรือในเวลาที่เศรษฐกิจผันผวน ก็ไม่ต้องตื่นตระหนกเกินควร มองปัญหาอย่างมีสติ เพราะทุกอย่างมีทางแก้"
ลองท่องคาถาและปฏิบัติตามดู อาจจะเป็นรวยเข้าขั้น "เศรษฐีหุ้น" อีกคนหนึ่งก็ได้
ไม่เพียงเท่านี้ "ตระกูลทองแตง" ก็ยังติดอันดับเศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ซึ่งกระโดดขึ้นมาจากอันดับ 297 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นรวมมูลค่า 15,328.38 ล้านบาท มั่งคั่งเพิ่มขึ้น 15,016.93 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นบีจีเอช โรงพยาบาลนนทเวช และไดโดมอน กรุ๊ป รองจากตระกูลมาลีนนท์ ที่ครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 13 ส่วนอันดับ 2 ยังเป็นของตระกูลวิจิตรพงศ์พันธุ์ เช่นเดียวกับปีที่แล้ว ส่วนตระกูลจิราธิวัฒน์ แห่งเซ็นทรัล ปีนี้ขึ้นจากอันดับ 5 มาอยู่ในอันดับ 3 ด้านตระกูลอัศวโภคิน ปีนี้ตกลงไปอยู่อันดับ 4
เรียกว่าเป็นเศรษฐีกันทั้งครอบครัวเลยทีเดียว
| Create Date : 19 ธันวาคม 2554 |
|
0 comments |
| Last Update : 19 ธันวาคม 2554 18:03:42 น. |
| Counter : 728 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [