Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
โบรกแนะเก็งกำไร 7 บจ.พื้นฐานแกร่ง ดัชนีมีแนวโน้มอ่อนตัว เก็บหุ้นรับผลดีค่าเงินบาทอ่อน

ที่มา ข่าวหุ้นดอทคอม

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: ผันผวนอิงทางลง


ภาพรวมตลาดยังคงผันผวนอิงทางลงต่อไปจากปัจจัยเชิงลบทั้งภายนอกและภายในทั้งเรื่องการที่ S&P ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ใน 17 ประเทศ ในยูโรโซน โดยฝรั่งเศส, ออสเตรีย, มอลตา, สโลวาเกีย และสโลเวเนียถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 1 ขั้น ขณะที่อิตาลี, โปรตุเกส, สเปน และไซปรัสถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 2 ขั้น ขณะที่ในตลาดสหรัฐการเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซาของเจพีมอร์แกนเมื่อวันศุกร์ ยิ่งทำให้นักลงทุนต้องจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของหลายบริษัทในสัปดาห์นี้ (Citigroup, Goldman Sachs, Bank of America, Morgan Stanley, Intel, IBM, Microsoft, GE) เพื่อบ่งชี้ว่าวิกฤติหนี้ยุโรปอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรอย่างไร


ในด้านปัจจัยภายใน หลายประเทศประกาศคำเตือนสถานการณ์ในไทยจากการเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย อาทิ สหรัฐ-แคนาดา-ออสเตรเลียแม้รัฐบาลออกมาชี้แจงว่าไทยไม่ใช่เป้าหมายพื้นที่ก่อการร้าย และขอให้เชื่อมั่นในศักยภาพหน่วยงานความมั่นคงแล้วก็ตาม ส่วนปัจจัยด้านเทคนิคพบว่าเครื่องมือระยะสั้น (RSI) ให้สัญญาณขาย และ Modified Stochastic ก็มีโอกาสส่งสัญญาณตาม มองแนวโน้มอิงทางลง โดยมีแนวรับหลักแถว 1032 จุด


กลยุทธ์การลงทุน: ระยะสั้นเน้นชะลอการลงทุน และทยอยลดพอร์ตเหลือไม่เกิน 25%แนวต้าน : 1051, 1056 แนวรับ : 1037, 1032


การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25% : เงินสด 75%


ถือต่อในพอร์ต : หุ้นที่ปรับออก : IVL, HEMRAJ, MINT, TISCO


AIT, GFPT


หุ้นที่ปรับเข้า :


1. SAT ทยอยซื้อจากแนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม ยังเทรด laggard เชิงP/E เมื่อเทียบการฟื้นตัวของอุตฯ ในครั้งก่อน ราคาพื้นฐาน 27 บาทกรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 22.60 รับ 21 Cut loss 20.80 บาท


2. CFRESH ซื้ออ่อนตัว คาดหมายการจ่ายปันผล 0.32 บาท yield ประมาณ 7% ราคาพื้นฐาน 5.30 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 4.90 รับ 4.64 Cut loss 4.56 บาท


KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันจันทร์ปรับตัวลง หลังจากเมื่อคืนวันศุกร์ S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ประเทศในกลุ่มยุโรป โดยประเทศที่มีนัยสำคัญต่อตลาดคือฝรั่งเศส (ลดลง 1 ขั้นสู่ AA+) สเปน(ลดลง 2 ขั้นสู่ A) และอิตาลี (ลดลง 2 ขั้นสู่ BBB+) คาดว่าหุ้นหลักๆ โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะเผชิญแรงขายในระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มขายลดความเสี่ยงจากการลดความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อการประมูลพันธบัตรของกลุ่มยุโรปในระยะถัดไปรวมทั้งกดดันภาคธนาคารพาณิชย์ของยุโรปมากขึ้น อย่างไรก็ดีสำหรับ SET จะลงน้อยกว่าเพื่อนบ้านเพราะว่าได้ลงมาแล้วส่วนหนึ่งในวันศุกร์ ซึ่งมีการเตือนก่อการร้ายในกรุงเทพฯ จากทางสหรัฐฯ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีเหตุใดๆเกิดขึ้น เราคาดว่า SET จะลงมาทดสอบแนวรับที่ 1,036 จุด และถ้าหลุดไปจะมีแนวรับที่ 1,030 จุด


สำหรับปัจจัยในประเทศ นสพ. โพสต์ทูเดย์ รายงานข่าวอ้างนายแบงก์ท่านหนึ่งว่า ธปท. ได้ให้โจทย์ไปว่าอาจเพิ่มค่าธรรมเนียมเก็บจากฐานเงินฝากจากปัจจุบัน 0.4% เป็น 0.55% ของเงินฝากรวม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ผลกระทบต่อกำไรปี 2555 ของกลุ่มธนาคารจะอยู่ที่ 6-7% ของประมาณการปัจจุบัน ซึ่งไม่มากนักและน่าจะรับรู้ในราคาหุ้นแล้ว จึงมีความเป็นไปได้ที่ราคาหุ้นธนาคารจะแข็งกว่าตลาดในวันนี้อย่างไรก็ดีกลยุทธ์การลงทุนกลุ่มนี้ยังให้รอความชัดเจนจากการหารือรอบสองในสัปดาห์นี้ รวมทั้งผลประกอบการไตรมาส 4/2554 ที่ส่วนใหญ่จะออกในสัปดาห์นี้เช่นกัน



กลยุทธ์: แนะนำเลี่ยงหุ้นใหญ่ต่อไป สถานการณ์ในวันนี้ถึงวันพุธไม่น่าจะมีอะไรมาก แต่ในวันที่ 19 ม.ค.จะมีการประมูลพันธบัตรปริมาณมากของฝรั่งเศสและสเปน ซึ่งน่าจะมีจิตวิทยาที่ไม่ดีเข้ามาหลังจากเพิ่งถูกลดความน่าเชื่อถือไป ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าเทียบดอลล่าร์ฯ จะกดให้ต่างชาติขายหรือไม่กลับมาซื้อดังนั้นแนะซื้อหุ้นเล็กๆ พื้นฐานดีต่อไปเช่น DCC*, LPN, STEC และ SAT ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนก็น่าจะได้ความสนใจเช่นกัน เช่น BANPU* (ยอดขายสุทธิอิงในรูปดอลล่าร์ฯ), SAT (อุตฯ ยานยนต์ส่งออกประมาณ 50%), STA* (ส่งออกมากว่า 50%) และ CPF*


บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ สถาบันจัดอันดับเครดิต S&P ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศสมาชิกในยูโรโซน 9 ชาติ โดย ฝรั่งเศสและออสเตรียถูกลดอันดับลง 1 ขั้น จากระดับสูงสุดที่ AAA มาอยู่ที่ AA+ สำหรับประเทศสเปน (เหลือ A) อิตาลี (เหลือBBB+) โปรตุเกส และไซปรัส ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลงชาติละ 2 ขั้น ส่วนมอลตา, สโลวาเกีย และสโลเวเนียลง 1 ขั้น โดยมองว่าข้อตกลงของผู้นำยุโรปเมื่อธ.ค.54 ไม่เพียงพอที่จะแก้วิกฤติยูโรโซน ทั้งนี้การถูกลดอันดับดังกล่าวทำให้มีความเสี่ยงที่กองทุนฟื้นฟูเสถียรภาพทางการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาอาจจะสูญเสียอันดับความน่าเชื่อในระดับ AAA ไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การหารือเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลกรีซกับเจ้าหนี้ที่ไม่ได้ข้อสรุป


ในขณะที่การตรวจสอบเพื่ออนุมัติเงินช่วยเหลือรอบต่อไปโดย Troika (คณะกรรมการร่วม EU/IMF/ECB) จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ จึงทำให้มีความเสี่ยงที่กรีซอาจจะไมได้รับเงินกู้และผิดนัดชำระในงวดเดือน มี.ค.การถูกปรับลดอันดับเครดิตประเทศในกลุ่มยูโร จะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อความพยายามแก้วิกฤติหนี้ยุโรป แม้เรามองว่าลำพังการปรับอันดับเครดิตจะส่งผลกระทบทางลบต่อตลาดหุ้นในระดับที่จำกัด แต่ความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นจะเพิ่มขึ้นอย่างมากหากสถานการณ์ถึงขั้นของการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบตามมาต่อธนาคารธนาคารในยุโรปและภาคการเงินเป็นวงกว้าง


กลยุทธ์การลงทุน: ขายหรือลดพอร์ตลงบางส่วนเพื่อรอซื้อคืนหลังตรุษจีน เพื่อลุ้นการประชุมผู้นำยุโรป 30 ม.ค. โดยเราคงคำแนะนำให้เก็งกำไรอย่างระมัดระวัง และเน้นในหุ้นปลอดภัยเป็นหลักโดยเราขอเน้นการลงทุนหรือเก็งกำไรระยะสั้น ในหุ้นพื้นฐานดี ซึ่งนอกจากหุ้นที่เราแนะนำช่วงก่อนหน้า เช่น KSL CPF HMPRO TPC BCP SIRI KTB สำหรับหุ้นปันผลและพื้นฐานที่เรามองว่ายังน่าสนใจ ได้แก่ INTUCH, TTW BAFS HMPRO


สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่ลดพอร์ตทำกำไรไปแล้ว ให้ Wait and See และรอสัญญาณกลับเข้าไปซื้อใหม่ ซึ่งเราคาดว่าช่วงม.ค.-ก.พ.55 ตลาดจะมีการปรับตัวลงส่วนนักลงทุนที่มีต้นทุนสูงและยังไม่ได้ลดพอร์ต ใช้จังหวะนี้ลดพอร์ต ส่วนพอร์ตที่ยังมีอยู่เน้น switch พอร์ตมาหาหุ้นปันผลก่อน โดยเราค่อนข้างชอบ TTW, BAFS, CPF, INTUCH EGCO MAKRO






Create Date : 16 มกราคม 2555
Last Update : 16 มกราคม 2555 12:09:51 น. 0 comments
Counter : 412 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

byjai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add byjai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.