Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
2 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 

โบรกแนะเก็งกำไร 8 หุ้นพื้นฐานแกร่ง ดัชนีปรับตัวลงตามตปท. ชะลอการเข้ารับหุ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 9.42 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.87 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปที่ปรับตัวลงแรงหลังจากกังวลว่ากรีซอาจผิดนัดชำระหนี้ได้ เนื่องจากการลงประชามติมีแนวโน้มที่จะออกมาเป็นเชิงลบจากการที่ประชาชนส่วนใหญ่ในกรีซไม่เห็นด้วยกับแผนการช่วยเหลือของอียู โบรกเกอร์คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ หลังความเสี่ยงภายนอกประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น เน้นลงทุนหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและปัจจัยต่างประเทศ เก็งกำไร 8 หุ้นเด่น ได้แก่ BGH, CPF, TUF, SCC, ITD, TASCO, ADVANC ,HMPRO



บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: อ่อนตัวลงต่อจากปัญหาการแก้หนี้ของกรีซ

มองตลาดหุ้นไทยยังอ่อนตัวลงต่อจากความกังวลใจต่อปัญหาการแก้หนี้ของกรีซกับการที่กรีซจัดการลงประชามติเกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือของอียู ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศทั้งสหรัฐ-ยุโรปดิ่งลงอย่างหนักอย่างต่อเนื่องในระดับ 3-5% ทั้งนี้ ปัจจัยภายในเรื่องน้ำท่วมยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องจากเริ่มขยับเข้าใกล้เขตกรุงเทพฯ ชั้นในและนิคมฯ ฝั่งตะวันออกมากขึ้น และสถานการณ์ต่างๆ แปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลา โดยรวมจึงมองปัจจัยลบทั้งใน-นอกจะกดดัน SETI ให้อ่อนตัวลงแถว 940 หรือต่ำกว่าได้

กลยุทธ์การลงทุน: ระยะสั้นให้หยุดชะลอดูความคืบหน้าของปัจจัยก่อนทั้งการประชุมFOMC ของเฟด, การประชุม ECB, G20 และสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศ แนวต้าน: 965, 975 แนวรับ: 950, 940

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25% : เงินสด 75%

ถือต่อในพอร์ต :BGH, CPF, TUF, SCC

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ความเสี่ยงด้านต่างประเทศเริ่มกลับมา ดังนั้นชะลอการเข้ารับไว้ก่อนดีกว่า!!

แนวโน้ม ประเด็นที่ว่ากรีซจะจัดลงประชามติเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือครั้งใหม่ของอียู ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจเกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤติหนี้ยูโรโซนค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นสัญญาณว่ากรีซอาจจะต้องล้มละลายในเร็วๆ นี้ เพราะผลการลงประชามติมีแนวโน้มที่จะออกมาเป็นเชิงลบ ซึ่งอาจส่งผลลุกลามออกไปสู่อิตาลีได้ด้วย ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วม กทม. ยังคงลุกลามต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงท้ายปีต่อเนื่องถึงปีหน้ามีความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้ FSS คาดว่า SET จะยังคงแกว่งตัวลงต่อเนื่องอยู่ โดยมีโอกาสที่ดัชนีจะไหลลงไปแถว 940 จุดหรือต่ำกว่าได้ด้วย

กลยุทธ์: ดังนั้นหลังจากขายลดพอร์ตไปแล้ว ช่วงถัดจากนี้จึงควรกลับมาเน้นถือเงินสดไว้ก่อน เพราะตลาดเริ่มมีความเสี่ยงทั้งจากปัญหาด้านต่างประเทศเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยูโรโซน และสถานการณ์น้ำท่วม กทม.กดดัน จึงยังไม่แนะนำให้รีบเข้ารับ

KGI คาดวันนี้ดัชนี SET อาจเข้าสู่ระยะเพื่อการปรับฐานของราคา ซึ่งได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ที่ปรับลดลง 2.4% วานนี้ และประเทศกรีซในการที่จะทำประชามติว่าด้วยแผนแก้ปัญหาหนี้ของประเทศ และในบ้านเราเอง ก็ยังคงมีความกังวลว่าปริมาณน้ำอาจไหลเข้ากรุงเทพชั้นในได้ หากไม่มีการจัดการประตูน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้ เราคาดหวังตลาดจะเป็นไปตามคำพูดเก่าๆที่ว่า ‘เมื่อตลาดเกิดความไม่แน่นอน ราคาหุ้นจะปรับตัวลดลง’

กลยุทธ์: เราแนะนำขายเพื่อระยะสั้น หรือให้รอดูก่อนว่า เชิงราคาหุ้นแล้วนั้น ดัชนี SET จะมีการปรับฐานระยะสั้นในระดับใด อย่างไรก็ตาม เรายังคงแนะนำให้เข้าซื้อสะสมหุ้นที่จะได้รับผลประโยชน์จากประเด็นน้ำท่วม แนะนำซื้อสะสมกลุ่มซีเมนต์ (SCC) กลุ่มรับเหมา (ITD) และกลุ่มก่อสร้าง (TASCO) เป็นต้น

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดเพิ่มความเสี่ยงระยะกลางเข้ามาใหม่ จากการที่กรีซตัดสินใจให้ทำประชามติต่อแผนแก้หนี้ของ EU ซึ่งการทำประชามติอาจเกิดขึ้นต้นปีหน้า หากประชาชนกรีซไม่เห็นด้วย (ซึ่งมีความเป็นไปได้) อาจทำให้เกิดวิกฤติในยุโรปอีกรอบ ขณะที่ญี่ปุ่นยังคงแทรกแซงค่าเงินเยนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจกดดันให้ต่างชาติขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมาเพื่อทำกำไรอยู่ และไม่อาจคาดหวังถึงการ rebound ได้มากนักจากผลการประชุม G20 วันที่ 3-4 พ.ย. ส่วนปัจจัยในประเทศนักลงทุนจะเริ่มคลายความกังวลกับปัญหาน้ำท่วม หลังจากมีความหวังว่าน้ำ จะไม่เข้ากรุงเทพชั้นใน และในต่างจังหวัดน้ำเริ่มลดและกำลังเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู

กลยุทธ์การลงทุน: คำแนะนำยังเหมือนเดิม แม้ว่าระยะสั้นยังเน้นเก็งกำ ไร แต่ความเสี่ยงระยะกลางยังคงอยู่ ดังนั้นสำหรับนักลงทุนที่ลดพอร์ตทำกำไรไปแล้ว แนะนำให้ Wait and See ส่วนท่านที่มีต้นทุนสูงและยังไม่ได้ลดพอร์ต ยังคงแนะนำให้ทยอยลดพอร์ต โดยมอง upside ของ SET index ไว้ที่ 1020 จุด ในปีนี้ แต่ให้พิจารณาจุด cut loss ทางเทคนิคประกอบ เนื่องจากความเสี่ยงจากยุโรปเพิ่มขึ้น ส่วนการเก็งกำไรในช่วงนี้คงต้องดูหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรวมถึงปัญหาหนี้ในยุโรปด้วย เช่น ADVANC CPF HMPRO TUF BGH เป็นต้น




 

Create Date : 02 พฤศจิกายน 2554
0 comments
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2554 12:10:16 น.
Counter : 355 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


byjai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add byjai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.