ก่อนถึงวันแม่ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2555 ได้พาคุณแม่และหลาน ๆ ไปไหว้พระพิฆเนศ ที่ฉะเชิงเทรามา เคยไปมาแล้วหนหนึ่งตอนช่วงสงกรานต์ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะรถเยอะมาก ไม่มีที่จอดรถ จึงได้แค่ขับรถกลับผ่านหน้าทางเข้าวัด

ครั้งนี้เลยหาโอกาสไปวันธรรมดา ที่คิดว่าคนน่าจะน้อย แล้วก็สมหวัง ไม่ได้ถ่ายรูปมากนัก เพราะอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวมาก ท้องฟ้ามัว เหมือนฝนจะตกหนัก เลยต้องรีบก่อนที่ฝนจะตก

วัดสมานรัตนาราม ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดหลวงพ่อโต ไปทางเดียวกับทางไปตลาดน้ำบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นวัดที่มีองค์พระพิฆเนศขนาดใหญ่ เป็นองค์เนื้อสีชมพู (ที่ด้านหน้าองค์พระพิฆเนศเขียนว่าเป็นพระพิฆเนศอง์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ตอนนี้เราไม่รู้ว่ายังเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า เพราะเราอ่านข้อมูลบางส่วนในอินเตอเน็ต เขาเขียนว่าเป็นองค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย)

ที่พามาที่วัดนี้เนื่องจากว่าหลานชายชอบช้างมาก เป็นเด็กที่ชอบสีชมพูมากสีหนึ่ง และที่สำคัญชอบให้พาไปเที่ยววัดเป็นชีวิตจิตใจ พอถึงวันหยุดจะถามเขาว่าวันนี้จะไปเที่ยวที่ไหนดี คำตอบที่ได้จากหลานชายคนโต (อายุ 4 ขวบ กับอีก 11 เดือน) มักจะบอกว่าไปไหว้พระวัดหลวงพ่อโต (บางพลี)  

พอขับรถมาถึงที่วัด ก็ขับเข้าไปจอดด้านในติดกับที่ตั้งขององค์พระพิฆเนศเลย ถ้าคนที่เพิ่งมาครั้งแรก อาจจะจอดรถที่ที่จอดรถด้านนอกที่เห็นส่วนแรกเลย ซึ่งจะไกลมาก ให้ขับเข้ามาเรื่อย ๆ จนสุดทาง จะผ่านร้านขายของตลอดข้างทาง พอสุดทางก็เลี้ยวซ้าย จะมีที่จอดรถ อยู่ด้านหลังของที่ตั้งองค์พระพิฆเนศเลย

พอเข้าไปถึงก็ต้องซื้อเครื่องไหว้ก่อนค่ะ มีให้เลือกหลายอย่างเลย เราเลือกซื้อตะกร้าผลไม้ ไปถวาย

ในห้องกระจกเป็นสถานที่ที่ให้เราเข้าไปไหว้พระ และปิดทองรูปจำลองขนาดเล็กของพระพิฆเนศ

พอออกมาด้านนอก ก็เดินไปทางด้านขวา จะเป็นจุดที่เป็นที่กราบไหว้องค์พระพิฆเนศจำลองอีกจุดหนึ่ง

รูปใกล้ ๆ ที่มีคนนำพวกมาลัยพวงใหญ่ ๆ ที่ทางวัดเตรียมไว้ให้มาสักการะพระพิฆเนศ

มาแล้วก็ต้องใส่น้ำมันในตะเกียงซะหน่อย

หลังจากนั้นเราก็เริ่มสำรวจไปรอบ ๆ องค์พิฆเนศองค์ใหญ่กันค่ะ รอบ ๆ ด้านนอกจะมีราชาหนูหลายตัวตั้งอยู่รอบ ๆ นอกขององค์พิฆเนศ

หนูสีแดง ๆ ที่ตั้งอยู่รอบนอกจะเป็น "หนูราชาโชค" ที่อุ้มถุงทองขนาดใหญ่ ที่มีช่องให้เราหยอดเหรียญเพื่อขอความเจริญ มั่นคงมาสู่ตัวคนหยอดเหรียญค่ะ

ดังนั้นคุณแม่เลยหยอดลงไปเพื่อความเจริญ มั่นคงค่ะ

อันนี้อาจจะมีคนสงสัยนะคะว่าคุณแม่กำลังทำอะไร  มาที่นี่เกือบทุกคนต้องมาทำอย่างนี้คะ (แต่เราไม่ได้ทำนะ) คุณแม่กำลังกระซิบที่หูของหนูค่ะ เป็นการติดสินบนหนู ถ้าอยากได้อะไรก็ให้กระซิบใส่หูหนู แต่ท่าทางคุณแม่จะกลัวหนูไม่ได้ยิน เลยกระซิบซะเสียงไม่ค่อยเบาเลย คนที่ยืนใกล้ได้ยินหมด...แต่ไม่ขอบอกนะคะว่ากระซิบอะไร แต่เป็นคำขอที่หลาย ๆ คนน่าจะกระซิบแบบนี้เหมือนกัน....

นี่เห็นกันชัด ๆ ว่าบนกระป๋องเขียนไว้ว่าอะไร เราถ่ายรูปไปหลายใบแล้ว แต่คุณแม่ยังกระซิบไม่เสร็จ ได้ยินคุณแม่กระซิบประโยคเดิม ๆ หลายรอบมาก

หลานคนโตกลัวน้อยหน้าคุณยาย ขอกระซิบบ้าง

ด้านบนเป็นรูปบางส่วนของพระพิฆเนศปางต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 32 ปางรอบ ๆ ฐานองค์พระพิฆเนศ จะมีถาดรูปดอกบัวบานให้หยอดเหรียญแขวนอยู่ด้านหน้าของรูปปั้นนูนทั้ง 32 ปาง ถ้าใครไม่มีเหรียญ ทางวัดเขามีจุดบริการให้แลกเหรียญได้ค่ะ

หลังจากไหว้พระเสร็จ ก็เดินซื้อของกลับบ้านค่ะ สองข้างทางจะเป็นร้านขายของใช้ ของเล่น เสื้อผ้า และอาหารต่าง ๆ ให้เลือกซื้อ

หลังจากซื้อของเราก็เดินวนไปอีกทางเพื่อทะลุไปที่ลานจอดรถ ที่มีช้างเชือกใหญ่จำลองให้ผู้ที่ไปวัดสามารถเดินรอดใต้ท้องช้างจำลองได้ เราเดินรอดไปแค่รอบเดียวเอง แต่เห็นหลาย ๆ ท่านเดินวนรอดประมาณ 3 รอบกันได้ แต่ขอโทษค่ะ มือไม่ว่างพอที่จะถ่ายรูปเลย เพราะคุณแม่ขนซื้อผลไม้เยอะมาก จนต้องช่วยหิ้วเต็มสองมือเลย

พอออกมาด้านนอกก็มีร้านค้าตั้งอยู่ตามข้างทาง เราแวะซื้อหน่อไม้ลวก ที่ขายอยู่ด้านหน้า มันดูนิ่ม น่าประทานมากเลย ที่บ้านชอบทานผัดกระเพราหน่อไม้ลวกใส่เครื่องในไก่กันค่ะ เลยซื้อเยอะหน่อย ถัดไปก็ซื้อเมลอน กับแคนตาลูป ซึ่งขอบอกว่าหวานอร่อยมาก ๆ ค่ะ แต่กระเป๋าแฟ๊บไปเยอะเหมือนกัน เพราะแพงมากกกกกกก

หลังจากหมดเงินไปเยอะกับการซื้อของแล้ว เราก็ต้องรีบขับรถตรงกับบ้านเลยค่ะ เพราะท้องฟ้าดำคลึ้มมาเลย แล้วก็ไม่พ้นจริง ๆ เพราะขับออกมาไม่เท่าไร ฝนก็เทลงมาหนักพอสมควร

Create Date : 29 สิงหาคม 2555
Last Update : 24 กันยายน 2555 21:52:59 น.		1 comments
Counter : 5991 Pageviews.
Share Tweet