The English Patient (1996) ...(แชร์สั้นๆ)รูปสวยอย่างที่คาด จูบไม่หอมอย่างที่คิด

ขอสารภาพอย่างไร้อหังการ...ว่าผมไม่ค่อยชอบ The English Patient



ผมไม่รู้สึกถึงเคมีระหว่าง Ralph Fiennes กับ Kristin Scott Thomas แม้แต่น้อย ผมคิดว่านักแสดงสองคนนี้ไม่เหมาะจะมาเล่นเป็นคู่รักกันตั้งแต่ตอนก่อนจะได้ดูด้วยซ้ำ แต่ผมก็พยายามตัดอคติในส่วนนั้นทิ้งไปแล้วพยายามคิดในแง่บวกว่าถ้าตัวหนังสามารถทำให้เรื่องราวความรักของทั้งคู่ออกมาน่าเชื่อถือได้ มันก็คงจะไม่เป็นไร...แต่มันก็ไม่

ตัวหนังทำให้ผมเชื่อได้แค่ว่า Almasy มีความรู้สึก“ใคร่”ในตัว Katharine ซึ่งก็ต้องขอบคุณการแสดงของ Ralph Fiennes ที่ลื่นไหลไปกับบทท่านเคานท์ผู้ไม่ประสีประสาเรื่องมารยาททางสังคม แต่ตัวหนังก็ไม่อาจทำให้ผมเชื่อได้ว่า Almasy จะแปรเปลี่ยน“ความใคร่”ที่มีต่อ Katharine ไปเป็น“ความรัก”ได้

ในขณะเดียวกันกับที่ตัวหนังมิอาจทำให้ผมเชื่อได้ว่าแค่การได้อยู่กันเพียงไม่กี่วันจะทำให้ Katharine ถึงกับยอมทรยศสามีแสนดีอย่าง Geoffry (Colin Firth สมัยยังติ๋มๆ) ไปมีสัมพันธ์สวาทกับ Almasy ได้ เอาจริงๆก็คือผมยังอินกับเรื่องราวความสัมพันธ์ของคู่รองอย่างคู่ของ Hana (Juliette Binoche) กับ Kip (Naveen Andrews) เสียมากกว่า

และเวลาสองชั่วโมงกับอีกครึ่งๆกว่าๆบวกด้วยการดำเนินเรื่องแบบเรื่อยๆมาเรียงๆก็ไม่ใช่อะไรที่คนดูส่วนใหญ่จะนั่งดูไปโดยไม่เอามือปิดปากหาวไปด้วยได้



แต่นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว... The English Patient เป็นหนังที่ถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม มีโปรดักชั่นบิ๊กสมราคา หลายๆฉาก(โดยเฉพาะฉากในทะเลทราย)ชวนให้นึกถึงหนังของท่านเซอร์ David Lean เป็นอย่างยิ่ง(โดยเฉพาะ Lawrence of Arabia),เพลงประกอบไพเราะ,

,และทีมนักแสดงที่เล่นได้ไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน คนที่โดดเด่นกว่าใครเพื่อนก็หนีไม่พ้น Ralph Fiennes (ซึ่งขานี้มาตรฐานแกสูงมาตั้งแต่ตอนเล่น Schindler’s List แล้ว)

แต่ผมแอบเสียดายฝีมือลุง Willem Dafoe นิดๆที่ได้โผล่มาแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก เพราะลุงแกถึงจะเป็นคนไม่หล่อ แต่ก็เป็นนักแสดงที่เล่นหนังดี ขอแค่บทส่งพอ(เช่นใน The Boondock Saints, Shadow of the Vampire)

และแอบเซอร์ไพรส์นิดๆที่หนังเรื่องนี้มีลุง Jurgen Proshnow (ลุงคนที่เล่นเป็นกัปตันเรือดำนำ U-91 ในมาสเตอร์พีซของผกก. Wolfgang Petersen อย่าง Das Boot)โผล่มาแจมนิดหน่อย

ถ้าตัวหนังสามารถทำให้เรื่องราวความสัมพันธ์ของคู่พระ-นางออกมาน่าเชื่อถือ แลดูมีน้ำหนักมากกว่านี้ได้ละก็ ผมคงจะชอบหนังเรื่องนี้ขึ้นอีกจม



สรุป...เรื่องราวรักน้ำเน่า(แต่ไม่กินใจเท่า)แบบ Titanic + ภาพอลังการ(แต่ไม่อลังการเท่า)งามงดแบบ Lawrence of Arabia = The English Patient

ถึงจะไม่ค่อยชอบ แต่ก็รู้สึกว่าการที่หนังเรื่องนี้ได้ Best Picture นั้นไม่ใช่เรื่องน่าเกลียด(ไว้ได้ดู Fargo เมื่อไหร่แล้วค่อยว่ากัน)และยังคงอยากชิมลางงานของผกก.คนเดียวกันกับที่ทำเรื่องนี้ (R.I.P. Anthony Minghella) อย่าง Cold Mountain อยู่ และก็...

Every night I cut out my heart. But in the morning it was full again. …ชอบประโยคนี้จัง




7.5/10

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2553		2 comments
Last Update : 7 ธันวาคม 2553 16:32:48 น.
Counter : 1675 Pageviews.
Share Tweet