Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
25 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
Cross of Iron (1977) ...สองเกียรติยศท่ามกลางสมรภูมิรบ



หนังสงครามโลกครั้งที่สองจากฮอลลีวู้ดส่วนใหญ่ ถ้าไม่ได้เป็นหนังที่ทำออกมาเพื่อความบันเทิงล้วนๆแบบ The Great Escape, The Dirty Dozen ก็ต้องเป็นหนังที่เชิดชูวีรกรรมของทหารอเมริกันแบบ The Longest Day, Saving Private Ryan

จึงไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นหนังสงครามโลกครั้งที่สองที่มีเนื้อหาออกไปทางต่อต้านสงคราม (Anti-war) และยังแหกคอกออกไปอีกด้วยการเล่าเรื่องราวทั้งหมดผ่านมุมมองของตัวร้ายตลอดกาลของโลกภาพยนตร์อย่างนาซีเยอรมนีแบบ Cross of Iron หนังสงครามระดับมาสเตอร์พีซ(ที่อาจถือได้ว่าเป็นมาสเตอร์พีซชิ้นสุดท้ายในชีวิต)ของผกก. Sam Peckinpah



นี่เป็นอีกครั้งที่ผกก. Peckinpah ผสานสองสิ่งที่ไม่น่าจะเข้ากันได้อย่างความรุนแรงระดับเลือดกระจุย ห่ากระสุนกระจายกับประเด็นที่มีความหมิ่นเหม่ (Controversial) เปราะบาง แต่ก็มีความลึกซึ้งเข้าด้วยกันเหมือนกับที่เขาทำเอาไว้ในผลงานหนังคาวบอยที่สร้างชื่อให้กับเขาอย่าง The Wild Bunch, Pat Garrett and Billy the Kid และที่ไม่ใช่หนังคาวบอยอย่าง Straw Dog, Bring Me the Head of Alfredo Garcia

โดยกรณีของ Cross of Iron ผู้กำกับผู้ขึ้นชื่อเรื่องความไม่ประนีประนอมต่อความรุนแรงในหนังของตัวเองอย่าง Peckinpah ได้ปล่อยของถนัดของตัวเอง ทั้งกระสุนปืน,ระเบิด,และเลือดแบบเต็มที่ในฉากสงครามของหนังที่งดงาม อลังการด้วยงานโปรดักชั่นอันยิ่งใหญ่(ถึงจะมีการบันทึกหลังฉากเอาไว้ว่าทีมงานของหนังเรื่องนี้ต้องหยุดการถ่ายทำเป็นระยะๆเพราะงบหมดระหว่างถ่ายทำ),การตัดต่ออันรวดเร็ว,และการใช้สโลว์โมชั่นอันเหนือชั้น(ที่เป็นลายเซ็นที่แม้แต่ผู้กำกับรุ่นครูในยุคถัดมาอย่าง Martin Scorsese, John Woo ยังต้องเอาเป็นแบบอย่าง)จากฝีมือการกำกับของ Peckinpah

ส่วนประเด็นของหนังที่ว่าด้วยความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างสองตัวเอกของเรื่องที่คนหนึ่ง (James Coburn นักแสดงรุ่นเก๋าคู่บุญของผกก. Peckinpah ในหนึ่งในบทบาทการแสดงที่ดีที่สุดเป็นอันดับต้นๆของเขา)สู้เพื่อเกียรติยศที่แท้จริงของชายชาติทหารโดยมีชีวิตของลูกน้องใต้บังคับบัญชาและชะตากรรมของประเทศชาติเป็นเดิมพัน

ส่วนอีกคนหนึ่ง (Maximilian Schell นักแสดงเชื้อสายเยอรมันผู้เป็นที่โจษจันจากการแสดงที่คว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมาให้กับเขาในหนังเรื่อง Judgment at Nuremberg ที่ในเรื่องนี้เขารับบทเป็นนายทหารนาซีที่พยายามทำทุกวิธีเพื่อให้ได้เหรียญกางเขนเหล็กมาครองเพื่อปกปิดความเป็นรักร่วมเพศของตัวเอง)กลับสู้เพื่อเกียรติยศจอมปลอมของเหรียญตรากางเขนเหล็กอันไร้ค่าก็ช่วยตอกย้ำถึงผลกระทบของสงครามที่มีต่อทุกผู้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง



ผกก. Peckinpah รีดเอาศักยภาพของทุกๆองค์ประกอบของหนัง ไม่ว่าจะภาพ,เสียง,การตัดต่อ,การลำดับภาพ,และเหล่านักแสดงจนถึงขีดสุดจนสามารถจับเอาความโหดเหี้ยมของสงครามมาใส่ในหนังได้อย่างอำมหิตสมจริงเสียจนยากที่คนดูจะไม่รู้สึกหม่นหมองไปกับชะตากรรมของเหล่าทหารหาญที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามครั้งนี้

ภาพเด็กชายอาสาสมัครชาวรัสเซียถูกทหารกองทัพแดงกราดยิงดับเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นเยอรมัน,ศพทหารบนพื้นโคลนที่ถูกรถรบขับทับผ่านไปมาอย่างไม่แยแส,และ/หรือเสียงหัวเราะสุดท้ายของ James Coburn อาจติดอยู่ในห้วงความทรงจำของคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ไปอีกนาน



สรุป...แม้แต่สุดยอดผู้กำกับอย่าง Orson Welles, Stanley Kubrick ยัน Quentin Tarantino ก็ยังน้อมรับในคุณภาพของหนังสงครามเรื่องนี้ที่เป็นหนังสงครามเรื่องแรกและเรื่องเดียวในชีวิตของผกก. Peckinpah

Cross of Iron คือหนังสงครามที่นำเสนอภาพความโหดเหี้ยมอำมหิตของสงครามได้อย่างซื่อตรงที่สุดเรื่องหนึ่งอย่างแท้จริง




8.0/10


Create Date : 25 กรกฎาคม 2554
Last Update : 25 กรกฎาคม 2554 7:05:51 น. 1 comments
Counter : 5534 Pageviews.

 
เรื่องนี้จำไม่ได้ว่าเคยดูหรือยังครับ แต่ถ้าจะพูดถึงผลงานของ ผกก.Sam Peckinpah แล้ว ผมจำ The Wild Bunch ได้ไม่มีลืมเลยครับ แม้จะดูมาหลายปีแล้วก็ตาม แจ่มมากๆ เลยจ้า :D


โดย: Nanatakara วันที่: 25 กรกฎาคม 2554 เวลา:8:14:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Apple101
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add Apple101's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.