พูดดี เป็นศรีแก่ตัว
ช่วงเวลาที่เราชอบมากที่สุดในชีวิต บางครั้งคืออยู่ๆความคิดดีๆก็วิ่งเขามาในหัว เวลาที่เราเอาประสบการณ์ที่เจอมากับตัว ได้อ่านหรือฟังจากผู้อื่นมาคิดแล้วได้คติคำสอนดีๆ เหมือนเห็นทางสว่างในชีวิตแบบอิคิวซัง คำสอนคติดีๆที่เราได้ ไม่ได้มาจากตัวเอง ส่วนมากแล้วมาจากธรรมะคำสอนที่เราเคยได้ยิน ได้เรียน ได้อ่าน ได้ฟังมา นี่แหละที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า การฟังธรรมเป็นมงคลชีวิตอย่างหนึ่ง และยังเป็นบุญด้วย คือบุญที่สำเร็จได้ด้วยการฟังธรรม (ธัมมัสสวนมัย) ที่เป็นบุญ เพราะ เป็นการยกระดับพัฒนาจิตใจนั่นเอง เหมือนกับบริจาคทาน หรือการให้อภัย ก็เป็นบุญกิริยา หรือแม้แต่การฟังสิ่งดีๆที่ทำให้เกิดปัญญาก็เป็นบุญด้วยเหมือนกัน เราเชื่อว่าคนเราควรนำเอาแนวทางธรรม คำสอนที่ดีงามไม่ว่าของศาสนาใดๆ มาพัฒนาตนเอง สร้างความสุข ลดทุกข์ให้ตัวเองและสังคมเท่าที่ทำได้ บรรดาคำสอนในพระพุทธศาสนามีหลายๆเรื่องที่เราชอบและพยายามนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน จริงๆแล้ว คำสอน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ถ้าเราหยิบมาปฏิบัติกันอย่างจริงๆจังๆสักข้อสองข้อ คงจะช่วยนำพาชีวิตไปสู่ทางที่ดีงามได้ทั้งนั้น เรื่องที่เราอยากบันทึกไว้ในไดอะรี่วันนี้คือ เรื่องของการพูด เดี๋ยวนี้คนเราพูดได้โดยไม่ต้องใช้ปากแล้ว เพราะสื่อทางอินเตอร์เน็ตมีมากมายและเข้าถึงคนจากหน้าจอ ไปไหนต่อไหน แม้แต่อยู่ต่างทวีป ต่างภาษากัน เราเห็นว่าบางที คนที่อยู่ในโลกไซเบอร์สามารถทำอะไร เขียนอะไรตามใจตัวเอง โดยที่ไม่ต้องแสดงตน ไม่ต้องเผชิญหน้า และไม่ต้องรับผลโดยตรงของการกระทำของตัวเอง ดังนั้น โลกไซเบอร์จึงเป็นขยะทางอารมณ์ของคน เป็นโลกตัวกู ของกู ภายใต้เบื้องหลังของเสรีภาพทางการสื่อสาร เสรีภาพทางการพูด การแสดงความคิดเห็น ความจริงแล้ว การมีเสรีภาพเช่นนี้เป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนจากคนอื่นๆ ถ้าตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน และเพื่อประโยชน์ในการพัฒนากันและกัน ต้องมีใจเปิดกว้าง ในการนำเอาความคิดที่ได้รับมากลั่นกรองให้เกิดผลดีกับตัวเอง ไม่อย่างนั้น เราคงอยู่แต่ในโลกของตัวเอง ผิดถูกอยู่แต่ที่มุมมองของตัวเอง ไม่มองออกไปกว้างกว่านั้น นานๆเข้าก็จะเป็นคนด้อยปัญญาไปซะ เพราะไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเกี่ยวกับตัวเองและสิ่งรอบตัวเลย แต่การใช้เสรีภาพที่มีอยู่นี่สิ มีแนวทางอะไรบ้างที่จะช่วยให้เราใช้เสรีภาพนี้อย่างฉลาด ไม่ใช่อย่างโง่ๆ ใช้แล้วเกิดปัญญา คิดมาถึงตอนนี้ เราก็นึกได้ถึงคำสอนในพระพุทธศาสนาที่เราชอบมากๆๆๆๆ พยายามนำมาใช้อยู่ให้ได้ แม้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินกำลังคนทั่วไป เพียงแค่รักษาสติสักหน่อย ก็น่าจะทำได้ ยิ่งถ้าเป็นการสื่อผ่านอินเตอร์เน็ตแล้ว เรามีเวลาในการคิดก่อนเขียนมากมาย เรื่องที่เราชอบมาจาก อภัยราชกุมารสูตร พระพุทธเจ้าทรงสอนหลักการพูดไว้ว่าสิ่งใดที่พระองค์ตรัส และไม่ตรัส ให้เราลอกกกกกกมาใช้ได้เลย ทรงตรัสรู้ไว้ให้เราแล้ว ช่างโชคดีเสียนี่กระไร อิอิ วาจาใด ไม่จริง ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และ ไม่เป็นที่รักชอบใจของคนอื่น ตถาคตไม่พูดวาจานั้น วาจาใดจริง แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ทั้งไม่เป็นที่รักชอบใจของคนอื่นด้วย ตถาคตไม่พูดวาจานั้น ส่วน วาจาใด จริงแท้ ประกอบด้วยประโยชน์ แต่ไม่เป็นที่รักชอบใจของคนอื่น ตถาคต ย่อมเป็นผู้รู้จักกาลอันควรหรือไม่ควรที่จะพูดวาจานั้น วาจาใด ไม่จริง ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ถึงเป็นที่รักชอบใจ ของคนอื่น ตถาคตไม่พูดวาจานั้นเด็ดขาด วาจาใด แม้จริงแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ถึงเป็นที่รักชอบใจของคนอื่น ตถาคต ก็ไม่พูดวาจานั้น วาจาใด จริงแท้ด้วย ประกอบด้วยประโยชน์ด้วย ทั้งเป็นที่รักชอบใจของคนอื่นด้วย ตถาคต ย่อมรู้กาลที่จะพูดวาจานั้น เนื่องจากเราเป็นคนชอบ Word และ Excel มากกกๆๆ ทำอะไร ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ ต้องลงเป็นตารางไว้ อิอิ ก็เลยทำตารางไว้ดูเล่นอย่างงี้ จากตาราง จะเห็นง่ายๆเลยว่า ข้อสำคัญ เรื่องไม่จริง ไม่พูดทั้งนั้น เรื่องไม่จริงย่อมไม่มีประโยชน์ไปด้วย จะเป็นที่รักใคร่หรือไม่นั้น ไม่สำคัญ เพราะมันไม่จริงซะแล้ว ก็ไม่มีความหมาย ในที่นี่คือไม่ช่วยให้เกิดปัญญาและการพัฒนาซึ่งกันและกัน เรื่องจริง พูดได้ แต่ถ้าไม่มีประโยชน์ซะแล้ว จะพูดทำไม ถึงแม้ว่าจะมีคนชอบมากมายก็เหอะ อันนี้เหมือนการเล่นตลก ต้องเข้าใจนิดหนึ่งว่า การพูดตลกโปกฮานั้นดีอยู่ ในความบันเทิงเริงใจ แต่ถ้าถามผู้ที่ฝึกสมาธิ หรือสติเป็นประจำ ท่านจะกล่าวว่า มันทำให้จิตส่งออกนอก หรือมันทำให้เกิดความเกิดความฟุ้งซ่านนั่นเอง อันนี้คนอย่างเราๆอาจเห็นว่าทำยาก ที่เหลือคือ พูดแต่เรื่องที่จริง ไม่โกหก เรื่องที่เป็นประโยชน์ และเรื่องที่น่าฟัง แต่ถ้าต้องพูดอะไรที่อาจทำให้คนอื่นรู้สึกสะเทือนใจ แต่เป็นเรื่องจริง และเป็นเรื่องที่พูดแล้วเกิดประโยชน์แล้วละก็ ก็พูดได้ สถานะการณ์อย่างงี้ พวกเราเจอกันบ่อยๆ อย่างเช่น เป็นเจ้านายหรือเป็นครู ต้องบอกลูกน้องว่า ต้องปรับปรุงการทำงาน ปรับปรุงตนเอง เช่น มาสายบ่อยๆ พูดได้ แต่ต้องพูดอย่างถูกกาละเทศะ แต่จะพูดอย่างไร พระพุทธเจ้าก็ทรงสอนไว้ด้วย วันหลังค่อยมาเขียนต่อ วันนี้ยาวแระ เดี๋ยวจะไปฟังอภิปราย US Presidential Candidates ก่อนนะ
Free TextEditor
Create Date : 08 กันยายน 2554 |
Last Update : 8 กันยายน 2554 8:59:34 น. |
|
8 comments
|
Counter : 701 Pageviews. |
|
|
มีความสุขมากๆนะค่ะ