Bloggang.com : Turtle Came to See Me : ▷▷...เปิดใจ2ครูสตรี ศิลปินแห่งชาติི...◁◁

▷▷...เปิดใจ2ครูสตรี ศิลปินแห่งชาติི...◁◁

จากการประกาศยกย่องผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.2554 โดยสำนัก งานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีศิลปินแห่งชาติใน 3 สาขา รวม 9 คน

ด้วยหลักเกณฑ์การตัดสินจากการเป็น ผู้มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ มีคุณธรรม และมีผลงานดีเด่นที่สื่อให้เห็นถึงคุณค่าทางอารมณ์ ความดี ความงาม สะท้อนความเป็นธรรมชาติ รวมถึงเป็นผู้มีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและมนุษยชาติ

ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.2554 ในจำนวน 9 คนนี้ มี 2 คนที่เป็นสุภาพสตรี ได้แก่ รศ.สดใส พันธุมโกมล อายุ 77 ปี ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ละครเวทีและละครโทรทัศน์) และนางรัจนา พวงประยงค์ หรือครูเล็ก ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ไทย-ละคร) อายุ 71 ปี

"ครูใหญ่" คำที่ลูกศิษย์เรียกขาน รศ.สดใส พันธุมโกมล ซึ่งปัจจุบันยังสละเวลาอันมีค่าให้แก่งานสอนในฐานะอาจารย์พิเศษที่คณะอักษร ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ส่วนคนทั่วไปรู้จักอ.สดใสจากผลงานการกำกับฯ ละคร "คำพิพากษา" ออกฉายทางช่อง 3 เมื่อปี 2526 เป็นปรากฏการณ์ฮือฮาทางจอแก้วในฐานะละครคุณภาพที่สร้างความแปลกใหม่ ทั้งในด้านเนื้อหาและรูปแบบการนำเสนอ

รศ.สดใสกล่าวถึงหลักในการทำงานตลอดชีวิตว่า เป็นการให้ในสิ่งที่เราค้นคว้ามาอย่างดีที่สุด เพื่อให้ได้สิ่งที่ถูกต้อง และสิ่งสำคัญคือจริยธรรม การละครคือการสื่อสารที่ต้องให้ความจริง ได้ชื่นชมความสวยงามแก่มนุษย์

"ได้ทำงานด้านการแสดงนับเป็นการทำประโยชน์ที่ให้ความสุขแก่คนอื่น อีกทั้งได้ให้ความรู้ซึ่งหมั่นปรับปรุงตัวเองตลอดเวลา ไม่ให้ลดน้อยลงไป ไม่มีคิดเรื่องชื่อเสียงเกียรติยศต่างๆ เราต้องมองว่าคนอื่นนั้นเสียเวลาต่างๆ เพื่อมาดูงานของเรา เราจะต้องทำประโยชน์ เหมือนการสอนทุกชั่วโมง เมื่อนักเรียนมาเรียนกับเรา เราต้องให้ในสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งเราต้องศึกษาค้นคว้าตลอดชีวิต"

รศ.สดใสกล่าวด้วยว่า ศิลปะการแสดงของไทยมีหลายอย่างที่งดงาม หาชมที่ไหนในโลกไม่ได้ เป็นความละเมียดละไม แสดงถึงจิตใจคนไทยที่อ่อนโยนและเมตตา เหมือนดังจิตของคนไทย ศิลปะการแสดงเป็นความสุนทรี เสน่ห์อยู่ที่ทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น เพราะศิลปะการแสดงทำให้เราเรียนรู้ที่จะสังเกตสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ

"อยากให้คนรุ่นใหม่ที่ศึกษาด้านศิลปะการแสดงได้พยายามต่อไป ไม่คิดท้อแท้ ขณะเดียวกันอย่ามัวแต่คิดว่าจะสำเร็จในวันนี้ ให้ทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องแข่งขันกับใคร จะทำให้เราไม่เกลียดใคร ไม่อิจฉาใคร อยู่กับสิ่งที่เราทำอย่างมีความสุข"

นอกจากจะสอนลูกศิษย์ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ แล้ว รศ.สดใสยังร่วมทำกิจกรรมอันเป็นคุณประโยชน์แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำกับการแสดงละครเวที เพื่อระดมทุนก่อตั้งมูลนิธิมหาจักรีสิรินธรเพื่อคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ สำหรับใช้จัดซื้อ-ติดตั้งอุปกรณ์และระบบต่างๆ เพื่อการเรียนการสอน ตลอดจนการบริหารจัดการและบำรุงรักษาอาคารมหาจักรีสิรินธร อาคารเรียนหลังใหม่ของคณะอักษรศาสตร์ และการกำกับละครเวทีเพื่อระดมทุนสมทบมูลนิธิมหาจักรีสิรินธรเพื่อคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ในการจัดซื้อ-ติดตั้งระบบและอุปกรณ์ด้านเทคนิคต่างๆ ในโรงละครอักษรศาสตร์แห่งใหม่

อาจารย์ศิลปินแห่งชาติอีกท่าน นางรัจนา พวงประยงค์ หรือ ครูเล็ก ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ไทย-ละคร) อายุ 71 ปี ปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระ ทรวงวัฒนธรรม

"การได้เป็นศิลปินแห่งชาติเป็นสิ่งที่ดีใจที่สุด เพราะทำให้เห็นว่าศิลปะของไทยเราไม่สูญหายไปอย่างแน่นอน การมาได้ถึงทุกวันนี้เพราะมีครูที่ดี เราเติบโตได้ด้วยบรมครูทั้งหลายที่สั่งสอนและอบรมมา เป็นสิ่งที่เราต้องเก็บและรักษาเอาไว้เพื่อนำไปถ่ายทอดให้เด็กรุ่นใหม่ต่อไป" ครูเล็ก รัจนากล่าว

ครูเล็กเล่าเส้นทางชีวิตว่าเริ่มเล่นละครตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นม.3 ตอนนั้นรู้สึกว่าเจ็บ เพราะต้องดัดมือ ดัดแขน และคิดว่าตัวเองจะไหวหรือไม่ ต่อมาถูกคัดเลือกเป็นตัวละครต่างๆ และได้เล่นละครเรื่อยมา กระทั่งได้ทำงานที่สำนักการสังคีต และได้รับความไว้วางใจถูกคัดเลือกเป็นผู้เชี่ยวชาญจนถึงตอนนี้

งานที่ประทับใจในชีวิตการแสดงนั้น ครูเล็ก รัจนา บอกว่าการได้เป็นผู้ถ่ายทอดศิลปะการแสดงในโขนนางลอย ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริให้จัดแสดงโขนต่อเนื่องทุกปีเพื่ออนุรักษ์โขน การแสดงชั้นสูงของไทยไว้ ขณะนั้นได้ถ่ายทอดตัวละคร ทั้งนางเบญจกาย นางตรีชฎา รวมถึงแนะนำเทคนิคต่างๆ อารมณ์ และบทในการแสดง

"การได้สอนตรงนี้ทำให้รู้สึกได้ว่าศิลปะอันนี้ไม่ได้ตายไปกับตัวเราแล้ว รวมถึงการแสดงในงานเจริญสัมพันธไมตรีกับพม่าเมื่อนานมาแล้ว ขณะนั้นได้เล่นเป็นตัวพม่า ได้เรียนภาษาพม่า กลายเป็นส่วนหนึ่งในการกระชับความสัมพันธ์ ทำให้ประทับใจเป็นอย่างยิ่ง"

ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ปีล่าสุด บอกด้วยว่าศิลปะการแสดงสำคัญอยู่ที่ลีลา ทำอย่างไรให้กลมกลืนกับคำร้อง สอด คล้องกันอย่างสวยงาม รวมถึงการแต่งกายที่ถูกต้องด้วย ศิลปะการแสดงจำเป็นต้องอยู่ใกล้ชิดครู อยากให้ยึดคติที่ว่า "เป็นผู้น้อยค่อยกราบก้มพนมกร" เป็นจริยธรรมที่เด็กควรจดจำ เพราะจะทำให้ผู้ใหญ่รักและเอ็นดูเรา

"ในชีวิตการสอนศิลปะการแสดง เมื่อมี ผู้อยากเรียนเดินเข้ามาหาเราด้วยความนับถือ ด้วยความอยากได้วิชา เราก็ให้ได้ แต่ขอเพียงอย่างเดียวคืออย่าดูถูกครูผู้ใหญ่ที่ไม่มีปริญญา ท่านมีวิชาความรู้มากมายเพราะอยู่ในสายอาชีพนี้มาตลอดชีวิต อย่าไปแข่งกันว่าครูของใครดีกว่าใคร เราต้องน้อมรับทุกอย่างของครูเอาไว้ จะทำให้ศิลปะเจริญและพัฒนาไปได้ การพัฒนานั้นอยากให้เป็นไปในแบบเอกลักษณ์ของเราที่มีความเป็นไทยอยู่" ครูเล็ก รัจนา กล่าวก่อนทิ้งท้ายว่า

"ศิลปะการแสดงของไทยเรา อยากให้คนไทยเข้ามาชมกันมากขึ้น แม้ว่าโฆษณาเรามีน้อย รวมถึงคนสมัยนี้ไม่ค่อยติดละคร แต่กลับไปติดตัวบุคคลที่แสดงมากกว่า จึงอยากให้หันมามองที่ละครด้วย สำหรับนักแสดงนั้นการที่มีคนมาดูและปรบมือให้ เพียงแค่นี้ก็ทำให้หายเหนื่อย และเมื่อไหร่ที่เราสามารถทำให้ผู้ชมเข้าถึงศิลปะได้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราสนุกกับศิลปะไปด้วย"

Credit : khaosodnews

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2555

Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2555 3:02:35 น. 0 comments

Counter : 1299 Pageviews.

Share
Tweet