ย้ายอพาร์ทเม้นท์จากซะเซะโบ นะงะซะกิ กลับสู่บ้านที่คุรุเมะ
ผ่านไปก็นานแสนนานกับการย้ายข้าวของจากอพาร์ทเม้นท์ของเจ้าโตที่จังหวัดนะงะซะกิกลับมาบ้านที่คุรุเมะ แต่กว่าจะได้อัพบล็อกก็... อ่ะนะ รู้ๆอยู่ 5555 เริ่มเลยดีกว่าไม่เสียเวลา รูปเยอะกว่าคำบรรยายนะแจ๊ะ จะได้อัพได้เร็วๆ สัญญาเช่าอพาร์ทเม้นท์สิ้นสุดเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ต้นปีนี่ ซึ่งเป็นวันจันทร์ ดังนั้นจึงต้องทำการย้ายในวันอาทิตย์ด้วยการตีรถ 2 เที่ยวถึงจะหมด ตอนแรกกะว่าของไม่เท่าไหร่เที่ยวเดียวน่าจะหมดแต่กลับบานปลายเล็กน้อยเพราะสมบัติ(บ้า)บางอย่างมันกินพื้นที่มาก เลยต้องให้พ่อมันขับกลับไปเที่ยวนึงก่อนแล้วตีรถกลับมาใหม่อีกรอบ.. สองคนลุงป้าออกจากบ้านแต่เช้าดันเป็นวันที่มีหมอกหนาซะอีกแดดก็ไม่ค่อยมีมาละลายหมอกซะด้วย มองข้างหน้าเห็นแค่ระยะใกล้ๆเท่านั้น ต้องเพ่งจ้องขับรถอย่างระวัง ออกจากบ้านยังไม่ได้กินอะไรกันทั้ง 2 คนลุงป้า คิดอะไรไม่ออกแวะร้านสะดวกซื้อท่านจะได้ทุกสิ่งเริ่มจากของเข้าปาก คราวนี้แวะที่ 7-11 ได้เบนโตเซ็ตน้อยๆนี่มาสมกับเป็นมื้อเช้าเบาๆ ที่ตอนจะซื้ออิลุงบอกว่าหน้าตาน่ากิน(แต่อิป้าบอกในใจว่าไม่เลย กร๊ากก.. ) แต่ขี้เกียจเลือกเลยซื้อๆตามลุงชี้ชวนไปงั้นตามประสาเมียที่ดี(ในบางครั้ง) มีข้าวปั้นสองก้อนไส้สาหร่ายคอมบุกับไส้ปลาแซลม่อน ไข่ม้วนชิ้นนึง ไก่ทอดชิ้นนึง แล้วก็ไส้กรอกอันนึง อิไส้กรอกนี่แหละที่อิป้าไม่ได้ชื่นชอบ แต่ลุงชอบบอกมันเป็นไส้กรอกสืบสานวัฒนธรรมมาแต่โบราณสมัยลุงยังเป็นเด็กน้อย เห็นทีไรได้อารมณ์ย้อนยุคกลับไปสมัยเด็ก แต่อิป้าค่อนว่าก็แล้วทำมั้ยถึงไม่ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมซะมั่งล่ะยะ ชั้นว่าไม่อร่อยอย่างแรง มันคือปลาบดเอามาย้อมสีแนะนำตัวเองว่าชั้นเป็นไส้กรอกนะยะ แถมบั้งทอดให้ความรู้สึกว่าชั้นเป็นปลาหมึกอีก ตกลงเธอจะเป็นไส้กรอกปลาหรือปลาหมึกกันแน่ฮะ?? ที่แน่ๆ ไม่ชอบรสชาตินี้ ลิ้นอิชั้นมันต้องเลิศหรูกว่านี้น่อ 555 ว่าแล้วก็ยัดไอ้ไส้กรอกปลารูปปลาหมึกเข้าปากลุงไป ร้านสะดวกซื้อที่นี่นอกจากเป็นที่พึ่งพาปากท้องแล้ว ยังเป็นที่พึ่งพาหนักเบาของลำไส้ได้อีก ที่สำคัญคือมันสะอาดจริงๆ เข้าได้อย่างสนิทใจ เคยถามเจ้าพี่มันตอนไปทำงานพิเศษร้าน 7-11 ว่าใครเป็นคนล้างส้วมล่ะลูก? เจ้าตัวบอกก็พวกทำงานด้วยกันนี่แหละแม่ เป็นกะๆเป็นเวรๆกันไป จะมีเวลากำหนดไว้ว่ากี่โมงต้องล้างที ไม่งั้นไม่สะอาดหรอกแม่ โถถถถถถ คุณชายของแม่ต้องไปล้างขรี้ล้างเอี้ยวใครต่อใครเค้า แต่เอาเหอะลูก.. งานคือเงินเงินคืองานบันดาลตังค์ ทำๆไปเหอะ ล้างส้วมได้ต่อไปภายหน้าก็ไม่ลำบากละ เรื่องพวกนี้บ้านเรา(บางคน)ถือเป็นงานยี้ งานน่ารังเกียจ แต่ที่นี่เค้าฝึกเด็กให้ผลัดเวรล้างส้วมร.ร.กันเองตั้งแต่อยู่ประถม สะอาดบ้างไม่สะอาดบ้างก็ช่างมัน ครูคอยเช็คดูอีกที ก็เลยถือเป็นเรื่องปกติไป .. ไปไหนละอิฉัน แค่จะเอารูปส้วม 7-11 ลงเนี่ยนะ ไหนใครมันพูดวะว่าจะไม่พูดมากตอนข้างบนนั่น? .. นี่ไงน่าใช้มั้ย? มีทั้งเสียงเพลงกลบดังค่อยตามเลือก น้ำอุ่นล้างก้น ที่นั่งอุ่นก้นยามหน้าหนาว กล่องทิ้งผ้าอนามัยที่ใช้แล้ว แถมราวจับไว้เหนี่ยวโหนยามเบ่ง เอ๊ย สำหรับผู้สูงวัยอีกด้วย จากนั้นก็ตะบึงต่อไปที่อพาร์ทเม้นท์เลยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ก่อนหน้านี้ได้ไปทำการสำรวจกะๆกันไว้แล้วว่าของอย่างไหนจะขนกลับบ้านบ้าง ของชิ้นใหญ่บางชิ้นไม่สะดวกที่จะขนกลับเนื่องจากที่บ้านก็มีอยู่แล้ว ขนไปก็ไม่มีที่วาง(เพราะพื้นที่ใช้สอยในบ้านมันน้อยเหลือเกิน) ตอนที่เข้าไปอยู่ก็หาซื้อข้าวของใหญ่ๆบางชิ้นที่นั่น เช่นพวกตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า เวลาย้ายกลับก็ต้องติดต่อร้านมือสองนัดวันให้เค้ามาขนจากอพาร์ทเม้นท์เราไปตีราคาค่างวดกันไป ไอ้เรื่องราคาของที่จะขายได้น่ะไม่ต้องหวัง ของพวกนี้สำหรับเราเปรียบเสมือนของทิ้งแล้ว ให้เค้ามาช่วยขนเอาไปก็เรียกว่าดีละ ดีกว่าเราต้องขนไปทิ้งเองแล้วยังต้องเสียเงินค่าทิ้งขยะอีกต่างหาก พวกร้านมือสองจะช่วยได้เยอะในเรื่องนี้ แถมยังได้เงินมาอีกต่างหากแม้จะเล็กน้อยก็ยังดี ถึงห้องกดติ๊งหน่อง เปิดประตูเข้าไปเจอสภาพอย่างนี้ ดีที่พวกข้าวของใหญ่ๆถูกย้ายไปหมดแล้ว เหลือเตียงทีจะต้องรื้อเป็นชิ้นและขนกลับบ้าน เจ้าตัวยังทำหน้าทะเล้นอยู่ได้ ยังไม่หมดแรง เริ่มบางตา ขนใส่รถพ่อมันกลับบ้านไปแล้วรอบนึง เหลืออีกรอบคราวนี้ขนให้หมด รถ 2 คัน ระหว่างเค้าขนอัดๆใส่รถกัน แม่มันก็ทำความสะอาดไปเรื่อยๆ ดูดฝุ่นเช็ดล้างไปตามเรื่อง ในที่สุดทุกอย่างก็เข้าสู่สภาพเดิมก่อนย้ายเข้ามาเด๊ะๆ แม้กระทั่งโคมไฟกลางห้องที่ซื้อมาติดตั้งเองตอนย้ายเข้ามาก็ถอดเอากลับบ้านไปด้วย ถามลุงว่าไอ้ที่มันใช้งานได้ก็ติดห้องไว้งั้นไม่ได้เรอะ ลุงบอกต้องทำให้เหมือนกับก่อนเราย้ายเข้ามาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ของส่วนเกินห้องนั้นเค้าไม่ต้องการ เพราะถึงยังไงบริษัทเอเยนซี่ที่ดูแลเรื่องอพาร์ทเม้นท์ก็ต้องเข้ามาเก็บทำใหม่หมดเหมือนกัน นั่นคือรื้อให้ที่ติดห้องอยู่ออกไปทิ้งด้วยเพื่อรองรับคนเช่าคนใหม่ที่จะมาดูห้อง เรื่องเก็บทำความสะอาดบ้านเช่าห้องเช่าเพื่อคืนเจ้าของนั้น อิฉันไม่คุ้นเลยจริงๆ สมัยอยู่ไทยก็เคยรู้เคยเห็นแต่ว่าย้ายของๆเราที่ต้องการออกไป นอกนั้นเจ้าของห้องพักบ้านเช่าก็มาเก็บทำเอาเองสิ (เคยเห็นบ้านเพื่อนที่ย้ายๆกันน่ะนะ) แต่พอถึงคราวเรา อิลุงผู้สามีอิฉันนั้นเก็บทำเรียบวุธ เจ้าของบ้านเช่าไม่ต้องกระดิกทำอะไรเลย อะไรที่เสียหายก็ซ่อมให้เค้าเสร็จสรรพด้วย เป็นที่ปลื้มของเจ้าของบ้านมากไม่อยากให้เราย้ายออกไปเลย (ก็แหงละ) พอมาถึงห้องเช่าประติ๋วของลูกชาย เลยกลายเป็นของง่ายในการเก็บทำความสะอาด ก็บ้านเช่าสองชั้นที่ไทยยังเก็บทำสะอาดมาแล้วนี่นะ นับประสาอะไรกับห้องแค่นี้ เริ่มจากหน้าประตู.. ลาก่อนห้อง 101 เปิดประตูเข้าไป ผ่าง..ง..ง.. หน้าห้องจะเป็นที่วางเครื่องซักผ้าเครื่องเล็กๆสำหรับคนเดียวด้านซ้ายมือ ขวามือเป็นตู้ติดผนังเก็บรองเท้า ถัดไปหน่อยด้านซ้ายมือจะเป็นครัวเล็กๆ ด้านขวามือเป็นส่วนของห้องอาบน้ำห้องส้วมอย่างละห้อง เริ่มจากอ่างล้างหน้าหน้าห้องอาบน้ำ ห้องอาบน้ำ และห้องซู้ขา.. และเดินเข้าไปภายในห้อง มีประตูกั้นส่วนระหว่างห้องด้านในและด้านนอก มีประตูกั้นเป็นตู้เสื้อผ้า คือเป็นช่องโล่งๆมีราวแขวนเสื้อ มีชั้นวางของข้างบนให้ เวลาเข้าไปอยู่นั้นก็หาพวกลิ้นชักกล่องพลาสติกมาวางใส่เสื้อผ้าพับๆอีกที ประตูกั้นเป็นแบบรูดเปิดด้านข้างไม่กินพื้นที่ดีนะ เอ๊ะ..ไหงบรรยายเหมือนชี้ชวนขายห้องหว่า?? 5555 ภายในตัวห้องจะโล่งๆ มีแอร์ให้ตัวนึง มีประตูกระจกกั้นให้ออกไประเบียงเล็กๆตากผ้าได้
ดูทุกอย่างสภาพเหมือนก่อนย้ายเข้ามาอยู่ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ขนาดเอเยนซี่ที่เข้ามาเช็คสภาพห้องก่อนคืนกุญแจยังชม ขอบคุณห้องนี้ที่ให้ที่พักพิง ให้ประสบการณ์หลายหลากของผู้เข้าพักรวมไปถึงครอบครัว สุขทุกข์ก็ในห้องนี้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เป็นห้องที่อยู่สบายมากๆห้องนึงรวมทั้งอยู่ในทำเลที่ดี ใกล้ทุกอย่างและเงียบสงบเหมาะสำหรับพักผ่อนจริงๆเพราะอยู่เข้ามาในซอยที่ไม่มีรถแล่นผ่านมากนัก ต่อไปคงไม่ได้วิ่งไปวิ่งมาระหว่าง คุรุเม่-ซะเซะโบอย่างบ่อยๆอีกแล้ว คิดถึงนะจ๊ะห้อง 101 ที่รัก ขากลับผ่านป้ายร.ร.สอนขับรถ ทำป้ายน่ารักดีและแชะมาซะหน่อย (เพื่อนบางท่านอาจเห็นแล้วที่เฟซ เอามาลงไว้เป็นบันทึกที่นี่อีกที) ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเส้นทาง นะงะซะกิ ซะเซะโบ - คุรุเมะ เป็นเส้นทางที่เดินทางบ่อยมากเพราะไปหาลูกมั่ง รับส่งกลับบ้านกลับอพาร์ทเม้นท์มั่ง ไปค้างคืนที่ห้องพักด้วยกันมั่ง ห้องพักนั้นแม้จะเล็กคับแคบสำหรับ 4 คนพ่อแม่ลูก แต่เมื่อรวมตัวอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขมาก สิ่งที่ชอบมากๆตอนขับรถมานะงะซะกินั่นก็คือวิวสองข้างทาง ที่ได้บรรยากาศสดชื่น ชนบท ธรรมชาติมากมายที่ตอนอยู่ในตัวเมืองจะไม่มีโอกาสสัมผัสนอกจากขับรถออกมานอกเมืองอย่างนี้ ย้ายกลับไปบ้านที่คุรุเม่แล้วถ้ามีโอกาสเหมาะๆ พร้อมกัน 4 คนพ่อแม่ลูกอีกทีเมื่อไหร่จะพากันขับรถมารำลึกความหลังที่นี่นะจ๊ะ ปิดท้ายด้วยรูปอาทิตย์อัสดง สีสวยจริงๆ สะท้อนสีท้องฟ้าให้สวยไปด้วย ในที่สุดก็สำเร็จไปอีกบล็อก จะพยายามกระหน่ำออกมาเพราะนี่ก็ครึ่งปีกว่าเข้าไปแล้วอิฉันออกมากี่บล็อกเอ๊งงง .. ขอให้เพื่อนๆทุกท่านมีความสุขกันทั่วหน้า พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ..
Create Date : 10 กรกฎาคม 2559
14 comments
Last Update : 18 กรกฎาคม 2559 15:04:51 น.
Counter : 4088 Pageviews.
โดย: เก่ง IP: 157.7.52.183 10 กรกฎาคม 2559 8:28:28 น.
โดย: Nat IP: 1.47.235.69 10 กรกฎาคม 2559 13:47:13 น.
โดย: ปลาทอง9 10 กรกฎาคม 2559 16:11:47 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 10 กรกฎาคม 2559 22:21:07 น.
โดย: aeww_ IP: 223.206.250.111 11 กรกฎาคม 2559 13:37:26 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 11 กรกฎาคม 2559 23:27:30 น.
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 12 กรกฎาคม 2559 16:02:02 น.
โดย: ปุ๊ IP: 27.55.40.197 12 กรกฎาคม 2559 18:43:20 น.
โดย: XODA 14 กรกฎาคม 2559 22:10:30 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 4 สิงหาคม 2559 1:02:05 น.
Location :
คุรุเม่ ฟุกุโอกะ Japan
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [? ]
สวัสดีค่ะ .. ป้าโซอยู่อำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งในจังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งอยู่ในเกาะคิวชู เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น เรื่องราวที่เล่าๆสู่กันฟังนี่ มาจากประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งสอดแทรกความคิดเห็นเข้าไปด้วย อันไหนไม่เข้าทีก็อ่านผ่านๆไปละกันนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาค่ะ
1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31
เหนื่อยแทนเลยนะคะ
Happy ending..
Family reunion ครอบครัวกลับมาอยู่รวมกัน
ป้าโซ เขียนอธิบาย เหมือนได้ไปช่วยย้ายบ้าน
(อุ๊ย!! แค่ยืนดู อยู่ ใกล้ๆด้วย) ตลอด ทริป