ย้อนอดีตหวนคืนสู่ตำนานรถแข่ง F1 รุ่นประวัติศาสตร์ของ Honda ชัยชนะครั้งแรกบนโลกแห่งความเร็วของรถสูตรหนึ่งจากเอเชีย...

Mexican Grand Prix ประจำปี 1965 เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจจากจำนวนของรถแข่งและทีมแข่งชั้นนำของโลก ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดเอาเป็นเอาตาย มันคือการชิงดีชิงเด่นระหว่างค่ายผู้ผลิตรถยนต์หนึ่งเดียวจากเอเชียกับ บริษัทรถยนต์ชั้นนำของทวีปยุโรป การแข่งขันรถ F1 ในรายการ Mexican Grand Prix ของปี 1965 ไม่ใช่แค่การแข่งขันสนามสุดท้ายของฤดูกาล

บริษัท Honda กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายแรกที่ส่งรถแข่งเข้าร่วมทำการแข่งขันในรายการสุดยอดรถแรง F-1มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1964 ซึ่งเป็นปีที่ประธานบริษัท Soichiro Honda ตัดสินใจทุ่มทุนกระโจนเข้าสู่การแข่งรถความเร็วสูงเพื่อเป็นการเชื่อมโยง สมรรถนะผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของ Honda ให้ประจักษต่อสายตาของชาวโลกผ่าน Motorsport ในปีต่อมาเมื่อฤดูกาลแข่งขันเริ่มต้นขึ้นและวนมาบรรจบที่ Mexican Grand Prix สถานที่แห่งนี้คือสนามที่ Honda สามารถคว้าชัยเหนือทีมอื่นๆ ซึ่งเป็นทีมชั้นนำของโลกรวมถึงเป็นผู้ผลิตรถยนต์ ระดับหัวแถวของยุโรปทั้งสิ้น

ปี ค.ศ. 1964 ในรายการเยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ทีมแข่ง F1 ของ Honda ส่งรถแข่งลงทำการแข่งขันร่วมกับทีมแข่งชั้นนำอย่าง Lotus BRM Ferrari Brabham Cooper รถแข่ง F1 รุ่น RA271 พวกเขาซึ่งขับโดยหนุ่มอเมริกันชื่อ Ronnie Bucknum ยังคงไม่พบกับคำว่าประสบความสำเร็จ ถึงแม้ว่ารถ RA271 ในบางช่วงบางตอนของการลงชิงชัยจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ แต่ฤดูกาลแข่งขันในปี ค.ศ. 964 ทีมแข่ง Honda F1 ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง หลังจากนั้น การพัฒนาที่เข้มข้นจึงเกิดขึ้นกับทุกองค์คาพยบของทีมแข่งจากเอเชีย ความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ ความต้องการที่จะเอาชนะ บนความทุ่มเทพยายามทำทุกสิ่งให้ดีขึ้น ทำให้ Honda ใช้ข้อมูลในปีที่ผ่านมาซึ่งล้มเหลวไม่เป็นท่า ข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดบางประการของตัวรถซึ่งนำมาสู่ความปราชัย ในปี 1964 ได้ถูกทีมช่างของ Honda นำมาปรับปรุงแก้ไขจนทำให้รถแข่งประสิทธิภาพสูงรุ่น RA272 ถือกำเนิดขึ้นมาแทนที่ RA271 และมันเสร็จทันฤดูกาลแข่งขันประจำปี ค.ศ. 1965 อย่างทุลักทุเล

ปี ค.ศ. 1965 รถแข่งคันใหม่จากเอเชียใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการปรับปรุง เครื่องยนต์ V12 สูบ รุ่นใหม่ล่าสุดให้ผลผลิตในรูปของแรงบิดท่ี่ดีเยี่ยมและความคงทนที่สามารถบดบี้กับรถแข่งจากทีมอื่นๆ ได้ทั้งวัน เครื่อง V12 ใน RA272 สร้างกำลังได้ 230 แรงม้า เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรตัวนี้มีปริมาตรความจุ 1,495 ซีซี บล็อกรูปตัว V จำนวน 12 กระบอกสูบ วางทำมุม 60° ในแต่ละสูบจะมีขนาดความกว้าง 58.1 มิลลิเมตรและมีช่วงชัก 47.0 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นช่วงชักที่สั้นมาก เครื่องยนต์รถแข่งรอบจัดแบบชักสั้นดันเร็วตัวนี้ วิศวกรและทีมช่างของ Honda F1 ปรับจูนจนมีกำลัง 230 แรงม้าหรือ 170 กิโลวัตต์ ที่ 13,000 รอบต่อนาที และเพื่อป้องกันความเสียหายเมื่อต้องใช้รอบสูงอย่างต่อเนื่องในขณะที่ทำการแข่งขัน เครื่องยนต์จึงถูกล็อกเอาไว้ที่ 14,000 รอบต่อนาทีซึ่งนับว่าสูงมากในยุคนั้น ทั้งจากเทคโนโลยีของวัสดุ กลไกภายในกับการประกอบเครื่องยนต์ที่ยังคงไม่ก้าวไกลเหมือนกับทุกวันนี้ ระบบส่งกำลังในเครื่องยนต์ของ RA272 วางเกียร์ธรรมดา 6 สปีด สำหรับยางนั้นค่าย Goodyear รับหน้าที่ทำยางแข่งให้กับ Honda RA272 ซึ่งถือเป็นการร่วมมือครั้งแรกของทั้งสองแบรนด์อีกด้วย

บ่ายสองโมงของวันที่ 24 ตุลาคม 1965 กับการแข่งขันรถยนต์ฟอร์มูล่าวันรายการเม็กซิกันกรังด์ปรีซ์ ในสนามเฮอร์มานอส โรดิเกซ ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายประจำฤดูกาลแข่งขันรถ F1 นักขับฝีมือดีของ Honda นาม Richie Ginther หวดรถแข่ง RA272 โดยพุ่งออกตัวในจังหวะสตาร์ตและออกนำเป็นอันดับที่ 1 ในสนามความยาว 3.2 ไมล์ Richie Ginther สามารถทำเวลาต่อรอบดีที่สุดในสนามอย่างต่อเนื่อง หลายต่อหลายรอบที่ RA272 เร็วกว่า Ferrari และ Brabham รถแข่งคันนี้ในช่วงท้ายของฤดูกาลหันมาใส่ยาง Goodyear มันทะยานผ่านทางตรงและโค้งที่ีโหดหินของสนามเฮอร์มานอสโรดิเกซ รอบแล้วรอบเล่าที่ RA272 วิ่งด้วยความมุ่งมั่น จากจำนวน 65 รอบสนามเป็นการสลับขึ้นนำกับรถของทีมแข่งชั้นนำจากยุโรป พวงมาลัยที่ถูกปรับให้หนักขึ้นที่เม็กซิโกส่งผลโดยตรงต่ออาการของรถซึ่งทีม ช่างของ Honda แก้ปัญหาด้วยการเพิ่มแรงดันลมยางหน้าให้มากกว่าปกติถึง 7 ปอนด์ แรงดันขนาดนั้นเสี่ยงมากต่อการระเบิดเมื่อต้องบดไปบนผิวแทร็กด้วยความเร็วสูง อย่างต่อเนื่อง แต่ทีมช่างของ Honda ไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออยู่ แรงดันลมยางท่ี่มากขึ้นทำให้ระบบรองรับด้านหน้าของ RA272 ทำงานด้วยมุมและองศาที่เปลี่ยนไปซึ่งช่วยทำให้พวงมาลัยควบคุมได้ดีขึ้นมาก

ในขณะที่หลายคนเชื่อว่า Honda ไม่สามารถที่จะชนะการแข่งขันในสนามนี้ได้ จากเครื่องยนต์ใหม่ที่ยังขาดความคงทนและการเปลี่ยนยี่ห้อของยางที่ใช้จาก Dunlop มาเป็น Goodyear แต่กลับกลายเป็นว่ารถ RA272 สามารถวิ่งจนจบการแข่งขันและเป็นรถแข่งของทีมอื่นเองที่ต้องประสบกับปัญหา ด้านเทคนิคหรืออุบัติเหตุจนออกจากการแข่งขันไปหลายคัน รวมถึงรถของ Jim Clark กับ Jackie Stewart ดาวเด่นในยุคนั้นก็ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากห้าฤดูกาลที่ยาวนานในการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง Richie Ginther ควบ Honda RA272 วิ่งผ่านธงตาหมากรุกคว้าชัยชนะแรกให้กับทีม Honda นับเป็นช่วงเวลาพิเศษสำหรับการได้รับชัยชนะเหนือทีมแข่งจากยุโรปเป็นครั้ง แรกของ Honda ชัยชนะครั้งแรกที่กลายเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ของทีมแข่งและรถแข่งจาก เอเชียยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนตลอดไป.

1 Richie Ginther Honda............ 2h 08m 32.10s Honda RA272 / Honda 1.5 V12
2 Dan Gurney Brabham-Climax...+ 2.89s 2 Brabham BT11 / Climax 1.5 V8
3 Mike Spence Lotus-Climax.......+ 59.95s Lotus 33 / Climax 1.5 V8
4 Jo Siffert Brabham-BRM...........+ 1m 22.42s Brabham BT11 / BRM 1.5 V8
5 Ronnie Bucknum Honda .......... + 1 lap Honda RA272 / Honda 1.5 V12
6 Richard Attwood Lotus-BR...... + 1 lap Lotus 25 / BRM 1.5 V8
7 Pedro Rodriguez Ferrari ........... + 2 laps Ferrari 1512 / Ferrari 1.5 B12
8 Lorenzo Bandini Ferrari ........... + 2 laps Ferrari 1512 / Ferrari 1.5 B12

1965 Honda RA272 Specs
Engine Specifications
Engine Specifications...........................Water-Cooled V12
Position.................................................Mid Transverse
Aspiration.............................................DOHC, 4 Valves per Cyl
Fuel feed...............................................Keihin-Honda Fuel injection
Displacement........................................1495 cc / 91.2 cu in
Power....................................................171.5 kw / 230 bhp @ 1200 rpm
Specific output......................................153.85 bhp per litre
Bhp/Weight...........................................461.85 bhp per tonne

Drivetrain
Transmission.........................................6-Speed Manual

Car dimensions
Weight...................................................498 kg / 1098 lbs

Speed performance
Car top speed.........................................300 kph / 186.4 mph