วันนั้นในมินิมาร์ทเล็กๆแห่งหนึ่งกลางใจเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนมีแต่รอยยิ้ม ทักทาย ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ฉันเข้าไปซื้อน้ำดื่ม พรันได้ยินเสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เสียงเล็กๆ ฉันชโงกหน้าออกไปมอง สภาพเด็กชายคนนั้น เสื้องแสงใส่หลุด แขนเสื้อขาดนิดหน่อย แต่เนื้อตัวไม่ได้สกปรกนัก ป้าเจ้าของร้านค้า ทักทายเด็กคนนั้นว่า..ป้าเจ้าของ: อ่าไอ้หนูยังไม่นอนอีกเหรอ
เด็กชายคนนั้น: ยังครับ!
ป้าเจ้าของ: ซื้ออะไรละเรา
เด็กชายคนนั้นเลือกของหลายอย่างอยู่นาน
แล้วถามขึ้นมประโยคแรกว่า ลูกอม 3เม็ด 2บาท ใช่มั้ย?
ป้าเจ้าของ : ตอบว่า ช่ายแล้วละ
เด็กชายคนนั้น หยิบ กระปุกยาเล็กขึ้นมาแล้วถามว่า ละอันนี้ละ เท่าไหร่
ป้าเจ้าของ : ตอบว่า อ่อ อันนั้นกินไม่ได้หรอกลูก
เด็กขายคนนั้นหยิบขนมถามราคาอยู่หลายอย่าง
และสุดท้ายเด็กชายคนนนั้นก็หยิบ ลูกอม 3เม็ดขึ้นมาแล้วจ่ายตังค์ไป2บาท
ขณะที่เรากำลังเดินมาจ่ายตังค์ค่าน้ำพอดี
ป้าเจ้าของ : พูดขึ้นมาว่า เหอ เหอ ถามหลายอย่างซื้อเท่าเนี้ยเหรอ เหอ เหอ
แล้วเด็กชายคนนั้นก็เดินจากไป....
มาหวนให้เราคิดมองตัวเรา นึกถึงตัวเราทันควันว่า
เหมือนเวลาเราไม่ค่อยมีเงิน
อยากได้นู้นได้นี่ แล้วมีเงินแค่นี้
ก็ต้องเลือกซื้อของในราคาที่เราตั้งเป้าหมายมา
ฉันไม่รีรอที่จะเดินตามเด็กคนนั้นที่เดินออกไป
รีบเรียกเด็กชายคนนนั้นว่า
ฉัน: หนูๆ มานี่เร็ว (ขณะที่เค้ากำลังใช้ฟันฉีกเปือกลูกอม) พี่ให้ตังค์ซื้อขนม! พร้อมยืนแบงค์สีเขียว
เด็กชายคนนั้น: ยกมือ2ข้างพนม แล้วพูดว่า ขอบคุณครับ!
เด็กชายคนนั้นเดินกลับเข้าไปในร้าน ฉันก็แอบมองอยู่ไกลๆ อยากรู้ว่าถ้าเค้าเงินมากพอเค้าอยากซื้ออะไรกินจริงๆ เด็กคนนั้นเดินออกมาพร้อม เจลเล่ไลท์ 1แก้ว พร้อมเอาหลอดเจาะแล้ววิ่งหนีจากไป......
ฉันไม่รู้หรอกว่าเงินที่ฉันให้ไปจะมากหรือน้อยสำหรับเขา
ฉันอดไม่ได้เลย ที่ต้องเห็นและเจอเรื่องแบบบนี้ในชีวิตประจำวันของฉัน