บทกวีทิพย์ :: วันอาสาฬหบูชา
"วันอาสาฬหบูชา" พุทธญาณ แสงทิพย์ ๐ วันอาสาฬหบูชา
สิบห้าค่ำ
.. ข้างขึ้นนำเดือนแปดวันพระสงฆ์
.. ทรงโปรดปัญจวัคคีย์มีห้าองค์
แคว้นเมืองตรงพาราณสีไพร
.. ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
.. พระทรงธรรม์ประกาศธรรมล้วนคำไข
. ธัมมจักกัปปวตตนสูตรพูดธรรมใน-
.. ธรรมย่อได้เพียงนับรูปกับนาม
. รู้ในรู้
กายในกายทั้งชายหญิง
ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นธรรมตอบคำถาม
. สอนนามธรรมเป็นรูปธรรมใช่ต่ำทราม
. รูปธรรมตามเป็นนามธรรมกลับทำนอง
สสารแปรสภาพเป็นพลังงาน
.. สภาพการเปลี่ยนกลับอยู่เป็นคู่สอง
. พลังงานเป็นสสารผ่านคัลลอง
ล้วนคงครอง
ไม่สูญหายกลับกลายคืน
ปัญจวัคคีย์รูปธรรมนั้นแทนขันธ์ห้า
.. พุทธศาสนาโปรดสัตว์ไม่ขัดขืน
. เพื่อดวงตาเห็นธรรมทุกค่ำคืน
.. ให้สัตว์ชื่นชมพุทธะเหมือนพระองค์
.. เดือนแปดคือมรรคทางที่ปฏิบัติ
.. เมื่อเห็นชัดใครทำได้เลิกใหลหลง
. รูปธรรมสี่
นามธรรมสี่ที่ยืนยง
.. ต้นธาตุตรงกับต้นธรรมชี้นำทาง
.. ต้นธาตุคือรูปธรรม
ดิน-น้ำ-ไฟ-
. ลมพัดไปจากทิวาค่ำฟ้าสาง
. ต้นธรรมคือนามธรรมไม่อำพราง
รู้สึกทางจำคิดจิตวิญญาณ
.. เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณสี่
.. สถานที่
ไปสู่ความรู้ฐาน
.. คือรู้แจ้งเห็นจริง
.ทุกสิ่งการ
.. พระนิพพานใช่อยู่ไกล
อยู่ในตัว
.. ๐ ถอดรหัสอัศจรรย์
เป็นอันเอก
. คือตัวเลขหนึ่งถึงศูนย์เทิดทูนหัว
. ทรงวางหลักให้คนคิดสะกิดตัว
ความรู้ทั่ว
จากตัวเลขเหมือนเสกมนตร์.. หลักของโลก
เลขคือหลักของจักรวาล
.. เพื่อคิดอ่านเป็นพิเศษด้วยเหตุผล
. มิให้หลงโลก-หลงทางขัดขวางตน
. ทรงออกค้นความจริงให้ยิ่งยง
.. ทรงบรรพชาอายุที่ยี่สิบเก้า
คนสองเท้าเดินถูกผิดเพราะจิตหลง
. คิดผิด-ถูกผูกพันเป็นมั่นคง
. ก็อยู่ตรง
สิ่งแวดล้อมที่น้อมนำ
.. ลองผิด-ถูก
.ประสบการณ์ผ่านสั่งสอน
. ฝ่าหนาว-ร้อนเวียนว่ายกายถลำ
. สัตว์-เทพ-คนวนวัฏฏะในพระธรรม
.. ตามบุญกรรมที่สร้างสมอบรมมา
.. ยี่สิบเก้าเลขรับสองกับเก้า
เราหรือเจ้าก็พ้องมีสองขา
.. สองสิ่งคือกายกับใจวิไลตา
.. สุข-ทุกขา
ดีกับชั่วมีทั่วไป
มีกับว่าง
.ผิดกับถูกผูกก็แก้
.. โลกธรรมแท้แปดประการจักขานไข
รูปธรรมสี่นามธรรมสี่นี่ยังไง
อีกหนึ่งไซร้บวกตัวเราเป็นเก้าเลย
. โลกธรรมแปด
มีลาภ-เสื่อลาภหมด
ยศ-เสื่อมยศไม่คงทนทุกคนเผย
. อีกสรรเสริญ-นินทาโดนด่าเคย
.. สุข-ทุกข์เลยคล้อยเคลื่อนแท้เหมือนกัน
รู้แจ้งจากมรรคแปดทางสว่างจิต
ปัญญาคิดออกจากโลก
สิ้นโศกศัลย์
. ก้าวคือเก้าออกจากโลก
ออกจากธรรม์
. สู่ศูนย์นั้นสุญญตาบารมี
. ๐ ตัวเลขมีเก้าตัวใช้ทั่วโลก
อุปโลกน์
.แจ่มจรัสรัศมี
รวมความว่างคือศูนย์ด้วยช่วยชีวี
.. เป็นสิบที่ว่างจากเหตุกิเลสมวล
. สามสิบห้าชนมายุบรรลุธรรม
ที่งามล้ำสดใสฤทัยหวน
.. ทรงตรัสรู้โพธิญาณผ่านกระบวน
. เลขนี้ควรสนใจ
ฉันใดกัน?
.. เลขสามคือพระไตรลักษณ์ตระหนักจิต
คืออนิจจังไม่เที่ยงเหมือนเพียงฝัน
. ทุกขังทนไม่ได้
.ในตัวมัน
อีกหนึ่งนั้นอนัตตาไร้ตัวตน
.. คือเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-แล้วดับไป
.. เปลี่ยนแปลงได้ในท่ามกลางวางเหตุผล
ทุกสิ่งล้วนซื่อตรงไม่คงทน
.. ไม่ว่าคน-สัตว์-สิ่งของล้วนต้องพัง!!
. อีกสามคือคิด-พูด-ทำกรรมดี-ชั่ว
.. ย่อมติดตัวไปตลอดเป็นยอดขลัง
. ทำดีได้ดีกับตัวทำชั่วพัง
ย่อมพลาดพลั้งได้ชั่วติดตัวเอง
.. ตายแล้วยังติดตัวไปชั่วอีก
. สุดหลบหลีกต้องรับเคราะห์โดยเหมาะเหม็ง ต้องยอมรับ
เพราะกรรมเจ้าทำเอง
น่ากลัวเกรงเป็นที่สุดยุติธรรม
. กฎแห่งกรรมทำแล้วไม่แคล้วคลาด
.. จิตสะอาดจะช่วยชุบอุปถัมภ์
. บุญกุศลผลมีจะชี้นำ
. ไม่ตกต่ำขึ้นไปสูงดั่งยูงทอง
.. เลขสามคือพระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์
ทั้งสามองค์เป็นหนึ่งที่ไม่มีสอง
. สูงที่สุด
ในโลกสาม
งามดั่งทอง
ท่วงทำนองไตรสรณาคมน์
. สามสิบคือบารมีสามสิบทัศ
. บำเพ็ญวัตรบารมีราศีสม
คุณความดีมีเต็มเปี่ยมยอดเยี่ยมชม
.. น่านิยม
เป็นครูสอนดับร้อนรน
.. ด้วยรู้แจ้งเท่าทันในขันธ์ห้า
.. เลขบอกว่าระยะทางข้างถนน
. กันหลงทางศึกษาศัพท์ไม่อับจน
.. สอนให้คน
ไม่หลงโลกโชคทวี
.. เมื่อตรัสรู้แล้วทรงสอนสุนทรสวัสดิ์
เวไนยสัตว์กำหนดบทศรี
.. สอนยาวนานถึงสี่สิบห้าปี
.. พระคุณมีเหลือจะนับประทับทรวง
. สี่นั้นหรือคืออริยสัจจ์สี่
ทุกข์ที่มีแก้ได้แม้ใหญ่หลวง
.. สมุทัย
เหตุแห่งทุกข์บุกทะลวง
ทุกข์ให้ล่วงนิโรธดับย่อยยับไป
. ด้วยมรรคแปดประการประทานโลก
.. ช่วยดับโศกเปิดหนทางสว่างใส
รื้อขนสัตว์
ทุกตนให้พ้นภัย
จากทุกข์ใหญ่เวียนว่ายในสายธาร
. มหาสมุทรสุดกว้างใหญ่ไกลสุดเนตร
ดงกิเลสแน่นหนามหาศาล
ว่ายอย่างไรจึงจะพ้นต่างลนลาน
พระประทาน
แนะวิธีที่แยบคาย
. สี่สิบคือวิธีทำกรรมฐาน
.. แห่งการงานจะเรืองรุ่งตามมุ่งหมาย
. ให้ชนะตัวตนพ้นความตาย
ห้าความหมายคือขันธ์ห้าคำว่าคน
วางหลักเกณฑ์ไว้ลุ่มลึกให้ศึกษา
. พิจารณาวินิจฉัยหวังในผล
.. หากตีปัญหาแตก
เลิกแบกตน
.. ก้าวล่วงพ้นกฎแห่งกรรมก็ชำนะ
.. ทรงทิ้งขันธ์พรรษามีที่แปดสิบ
.. สู่โลกทิพย์นิพพานเห็นเป็นสัจจะ
.. พระพุทธเจ้ายังต้องตายทิ้งกายละ
.. คือธรรมะ
ชี้ชัดอนัตตา
.. แปด
รูปธรรมสี่-นามธรรมสี่จำไว้
. สิ่งของใดสัตว์-มนุษย์แทงปุจฉา
. ล้วนเกิด-ดับสับสนวนไปมา
. ตลอดเวลาไม่มีสิ่งจีรัง
แลแปดคือหนทางสว่างแจ้ง
.. ต้องลงแรงทุ่มหัวใจให้แข็งขลัง สู่ความว่างคือศูนย์พูนพลัง
.. จักสมหวัง
หากปฏิบัติเร่งรัดเอยฯ
www.buddha-dhamma.com
Create Date : 10 กรกฎาคม 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 10 กรกฎาคม 2557 11:23:20 น. |
Counter : 1188 Pageviews. |
|
|
|