1 วันกับ 2 พิพิธภัณฑ์ไทย เป็นทริปเบาๆ ที่คิดไว้มานานมากว่าจะต้องไปให้ได้ เนื่องจากพลาดโอกาสมาหลายครั้ง ครั้งแรกเป็นตอนที่พ่อ จขบ. พาเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษา ดันตื่นสายกว่าจะมาถึงพิพิธภัณฑ์ก็มาทันแค่โรงราชรถ (มีนักศึกษาบรรยายให้ฟังด้วย) รอบที่ 2 พ่อพาบรรดาครูสังคมในชมรมมา รอบนี้ก็มีเจ้าหน้าที่มาบรรยายให้ความรู้อีก แต่ จขบ.ก็ดันตื่นสายอีก เลยไปทันแค่ตำหนักแดง T^T รอบนี้เลยตั้งใจจริง ชั้นจะต้องไปให้ได้ แม้จะไม่มีผู้บรรยายก็ตาม (เว่อร์ได้อีก =*=!!) จขบ. เลยหาเวลาว่างไปเที่ยว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กับ มิวเซียมสยามจนได้ นัดกับเพื่อนไว้ 11.30 น. ไปเจอกันที่หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (กว่าจะเจอกันได้เดินหลงทิศกันอยู่ตั้งนาน ทั้งที่จริงมันอยู่ติดกับธรรมศาสตร์เลย... จขบ.เป็นพวกหลงทางง่ายค่ะ ไม่ว่าสถานที่แห่งนั้นจะไปบ่อยแค่ไหนก็ตาม -*-) ไปถึงก็ซื้อตั๋วก่อนเลย ราคาตั๋ว เพียงแค่ 30 บาทเท่านั้น!!! 2 มือล้วงกระเป๋า 2 เท้าก้าวเข้ามาเลยพ่อแม่พี่น้อง ลูกเด็กเล็กแดง ค่าตั๋วเพียงแค่ 30 บาทเท่านั้น เข้าชมวันนี้ได้ความรู้ถึงชาติหน้า (โฆษณาซะนึกว่ายาผีบอก 555) ซื้อตั๋วเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็จะให้แผ่นผับที่อธิบายส่วนต่างๆ ของพิพิธภัณฑ์แนบมาให้ด้วย แต่วันที่ไป จขบ. กับเพื่อนออฟเดินชมไม่ครบทั้งหมดหรอกนะคะในส่วนของหมู่พระวิมานและพระที่นั่งต่างๆ ได้ดู อย่างละนิดละหน่อย ขนาดใช้เวลาไป 3 ชั่วโมงครึ่งก็ยังดูไม่หมด (รีบไปมิวเซียมสยามต่อ) ใครที่ต้องการเข้าชมแบบละเอียดถี่ยิบแนะนำให้ไปตั้งแต่เช้าค่ะ ไม่งั้นเวลาจะไม่พอนะเออ ^___^ เข้าไปยังห้องแรกเป็นส่วนที่จัดนิทรรศการเกี่ยวกับประเทศไทย ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยค่ะ จะมีทั้งส่วนของแผนที่ รูปถ่าย และงานปั้นแสดงให้เห็นความเป็นมาตั้งแต่อดีต รูปนี้เป็นศิลาจารึกหลักที่ 1 ค่ะ ของจริงแท้ มีการเอามาเขียนให้เป็นอักษรปัจจุบันแปะอยู่บนผนังข้างๆ ศิลาจารึกให้ได้อ่านด้วยค่ะ (แต่คำแปลไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูเน้อ) เป็นปืนใหญ่ (ของจริง) ที่ใช้ทำสงครามในช่วงกรุงศรีอยุธยา รูปนี้เป็นงานปูนปั้นค่ะ จัดแสดงในตู้นิทรรศการ เป็นการแสดงถึงการสร้างบ้านแปลงเมืองในสมัยสุโขทัยค่ะ (ไม่แน่ใจว่าจำมาถูกรึเปล่า แต่คิดว่าใช่ 555) รูปนี้ก็เป็นงานปูนปั้นอีกเหมือนกันค่ะ แสดงผังเมืองอยุธยาทั้งหมด เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์มากๆ เพราะมีแม่น้ำล้อมรอบเมือง แต่ก็เป็นข้อเสียที่ทำให้ข้าศึกเข้าตีได้ง่ายเหมือนกัน รูปนี้เป็นภาพวาดของชาวต่างชาติ (จำมิได้ว่าชาติใด ขออภัยนะคะทุกท่าน =*=) ที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยา (ใช่มั้ย เริ่มไม่แน่ใจ) รูปนี้ใครเห็นก็คงทราบนะคะว่าเป็นรูปอะไร เป็นงานปูนปั้นที่แสดงเหตุการณ์ตอนที่สมเด็นพระนเรศวร ทรงพระแสงปืนต้นข้ามลำน้ำสะโตงไปถูกสุรกรรมาตายค่ะ นี่ก็อีกงานปูนปั้น...เป็นการประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง ของสมเด็จพระนเรศวร ค่ะ (จริงๆ แล้วที่จัดแสดงเรื่องราวต่างๆ ในตู้นิทรรศการเป็นแบบนี้เกือบทั้งหมดค่ะ มีหุ่นปั้นเล็กๆ แล้วจัดเรื่องราวต่างๆ พร้อมกับมีป้ายแปะบอกไว้ว่าเป็นอะไร เหตุการณ์ไหน) สมเด็จพระนเรศทรงทำยุทธหัตถีบนหลังช้างกับพระมหาอุปราชา (รูปนี้ไม่ชัด) เป็นการบอกเล่าเรื่องชาวของชาวบ้านบางระจันทร์ค่ะ มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็นการจำลองเรือสำเภาที่ใช้ค้าขายในสมัยโบราณ (จำลองมาได้ใหญ่เหมือนกันนะคะ) เดินในห้องที่จัดนิทรรศการหมดแล้วก็ออกมายังอีกอาคารนึง ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับพระพุทธรูปต่างๆ หนึ่งในนั้นมี พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จากปราสาทเมืองสิงห์ กาญจนบุรีมาจัดแสดงไว้ด้วย (ที่จัดแสดงไว้ที่ปราสาทเมืองสิงห์นั้นเป็นรูปจำลอง) รูปนี้เป็นตู้ใส่พระไตรปิฎก ที่จัดแสดงไว้ค่ะ (อยากได้สักตู้เอาใส่เพชรพระอุมา ^___^) รูปนี้ก็ประตูอาคารที่จัดแสดงพระพุทธรูปค่ะ เห็นว่าสวยดี เลยถ่ายไว้ พระตำหนักแดง ที่รัชกาลที่ 1 ทรงโปรดฯให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระพี่นางเธอ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ ซึ่งเป็นพระพี่นางพระองค์เล็ก (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย) มหาพิชัยราชรถ ซึ่งจัดแสดงในโรงราชรถ ค่ะ ครั้งนี้ขอจบด้วยรูปจาก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นะคะ ครั้งหน้าจะเป็นรูปจาก มิวเซียมสยาม (ข้อมูลอาจจะเลือนๆ ไปบ้าง เพราะไปมาตั้งแต่มิถุนาค่ะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ) ไปบ่อย พอสมควรครับ
เวลาไปเดิน ได้ความรู้มุมใหม่ทุกที จริงๆแล้วใน กรุงเทพฯ มีพิพิธภัณฑ์ดีๆเยอะเลยเนอะครับ โดย: ชรันจ์ วันที่: 10 สิงหาคม 2555 เวลา:8:25:48 น.
อยากให้ทุกคนได้เข้าไปชมจริงๆ ค่ะ ราคาตั๋วก็ไม่ได้แพงเลย
ไปแล้วได้ความรู้มากๆ เลยค่ะ โดย: จขบ. IP: 58.8.248.171 วันที่: 10 สิงหาคม 2555 เวลา:15:30:08 น.
โดย: Kavanich96 วันที่: 11 สิงหาคม 2555 เวลา:14:41:36 น.
แวะมาหาความรู้จร้า ชอบมากๆ
โดย: กนก IP: 49.229.113.235 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2559 เวลา:17:59:46 น.
|
พายุสีเงิน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ชอบกิน... ชอบเที่ยว... ชอบทำบุญ... ชอบอ่าน... ...ประกาศความเป็นตัวเองให้โลกรู้ Group Blog All Blog |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันค่ะ