Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
 
24 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 

ทับทิม แก้บิด ท้องร่วง สมานแผล ฆ่าเชื้อ ต้านอนุมูลอิสระ

 

ทับทิม หรือ Punic Apple เป็นที่รู้จักว่าเป็นผลไม้รสเลิศอีกอย่างหนึ่ง แม้อาจจะไม่ใช้ผลไม้ยอดนิยม และในแง่ของการบริโภคเพื่อสุขภาพแล้ว ทับทิมจัดเป็นผลไม้ระดับชั้นนำ โดยเฉพาะเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระมีความโดดเด่นยิ่ง และมีการทำวิจัยมากมาย ทับทิมจึงถูกนำมาเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและเครื่องสำอางเสริมความงามอย่างแพร่หลาย
    เมื่อหันกลับมาพลิกดูบันทึกตำรายาไทยและการใช้ประโยชน์ตามภูมิปัญญาไทยแล้ว ทับทิมในบ้านเราก็มีการนำมาใช้ประโยชน์เป็นยารักษาโรคมาช้านาน ทับทิมเป็นพืชยืนต้นในวงศ์ PUNICACEAE มีชื่อวิทยาศาสตร์ Punica granatum Linn ชื่ออื่นเรียกตามท้องถิ่น เช่น  มะเก๊าะ มะก่องแก้ว พิลาขาว หมากจัง หมากพิลา
    ทางด้านการใช้เป็นยานั้นเรารู้จักทั่วไปว่าเปลือกทับทิมนำมาใช้รักษาโรคท้องร่วง แต่ทั่วโลกมีภูมิปัญญาการใช้ยาจากทับทิมมากมายชาวตะวันออกกลาง อิร่านและอินเดีย ใช้เปลือกลำต้น ใบ และเปลือกผลในการรักษาโรคเกือบทุกโรค ตั้งแต่โรคตาแดงไปจนถึงริดสีดวงทวาร และใช้น้ำต้มเปลือกทับทิมดื่มแก้เจ็บคอ ใช้ใบตำเอาน้ำคั้นทาศีรษะ รักษาอาการศีรษะล้านได้ ส่วนต่างๆ ของทับทิมมีสรรพคุณต่างๆ มากมาย เนื้อหุ้มเมล็ด รสหวานอมเปรี้ยว เป็นยาระบายอ่อนๆ บำรุงหัวใจ เปลือกลูก รสฝาด แก้ท้องร่วง แก้บิดมูกเลือด ปิดธาตุ แก้อติสาร ถ่ายพยาธิ แก้ตกขาว สมานแผล ฆ่าเชื้อโรค แก้แผลเน่าเปื่อยพุพอง เปลือกต้น รสเมาเบื่อ ถ่ายพยาธิ เปลือกราก รสเมาเบื่อ ถ่ายพยาธิ แก้ระดูขาว
    จากงานศึกษาวิจัยพบว่า เปลือกทับทิมมีสารกลุ่มแทนนินสูงถึงร้อยละ 22-25 โดยประกอบด้วยสารกลุ่มแกลโลแทนนิน (gallotannin) และเอลลาจิแทนนิน (ellagitannin) ปริมาณสูง เปลือกทับทิมตากแห้งใช้เป็นยาแก้ท้องเดินและโรคบิดแก้ท้องเดิน ฆ่าเชื้อแบคทีเรียหลายสิบชนิด ลดอาการอักเสบ ทั้งยังมีฤทธิ์ต่อต้านและยับยั้งเซลล์มะเร็งได้หลายชนิดไม่ให้เพิ่มจำนวนขึ้นได้
    การวิจัยทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา พบว่า ในน้ำทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด และมีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถลดการสะสมไขมันในผนังเส้นเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตันและแข็งตัว ซึ่งจะก่อให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดตามมา ช่วยบำรุงหัวใจในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด โดยเพิ่มการไหลเวียนที่ดีขึ้น และลดภาวะหัวใจขาดเลือดในผู้ป่วยโรคหัวใจ นอกจากนี้สารจากทับทิมยังช่วยบำรุงตับ มีฤทธิ์ป้องกันการเป็นพิษต่อตับและยับยั้งเซลล์มะเร็งอีกด้วย
    หมอแผนไทย หรือชาวบ้านใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคหลายประการ เช่น 
     1.บาดแผลจากเชื้อรา แผลเรื้อรังที่ผิวหนัง ให้ใช้เปลือกรากพอประมาณ นำมาต้มใช้น้ำล้างแผล

     2.เป็นบิดเรื้อรัง หรือถ่ายเป็นเลือด ให้ใช้เปลือกผลนำมาผิงไฟให้เกรียม แล้วนำมาบดให้ละเอียดประมาณ 3-6 กรัม ผสมกับน้ำข้าวกิน หรือมะเขือยาว 1 ลูก แล้วต้มเอาน้ำดื่มกิน

     3.เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง ถูกน้ำร้อนลวก และแผลจากไฟไหม้ ใช้คั่วหรือผิงให้เกรียม แล้วบดให้ละเอียดผสมกับน้ำมันพืชคลุกให้เข้ากันแล้วใช้ทาบริเวณแผล หรือใช้เปลือกผลและสารส้มในปริมาณเท่าๆ กัน แล้วนำมาบดให้ละเอียด แล้วใช้ทาบริเวณที่เป็น

     4.เท้าที่เป็นแผลเน่าเรื้อรัง ให้ใช้เปลือกผลนำมาต้มเคี่ยวน้ำให้เหลว แล้วปล่อยให้ตกตะกอน จากนั้นก็ใช้ทาบริเวณแผลที่เป็นทุกวัน

     5.แก้เลือดกำเดาไหลไม่หยุด ใช้ดอกทับทิมสด โขลก หรือหั่นให้เป็นฝอย แล้วใช้อุดจมูก

     6.ขับพยาธิตัวกลมและตัวตืด ให้ใช้เปลือกรากที่แห้งแล้วประมาณ 18 หรือ 25 กรัม นำมาตำให้ละเอียดแล้วใช้ต้มน้ำกิน หรือรินเอาน้ำต้มใส่ข้าวข้นๆ กินก่อนอาหาร

     7.หญิงที่เป็นระดูขาว หรือตกเลือดมากผิดปกติ ให้ใช้รากที่สดประมาณ 1 กำมือ นำมาเผาไฟให้เกรียม จากนั้นเอาไปต้มหรือเคี่ยวกับน้ำให้ข้น ใช้กินครั้งละ 1 แก้ว

     8.แผลที่ถูกคมมีดหรือของมีคมทุกชนิดที่มีเลือดไหล ใช้ดอกที่แห้งแล้วนำมาตำให้ละเอียด แล้วใช้พอกบริเวณที่เป็นแผล

    แม้โดยส่วนใหญ่จะพบว่าทับทิมมีประโยชน์ใช้ได้ง่าย และหาได้ง่าย แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้เช่นกัน คือ

    1.เป็นบิด ท้องเสีย หรือท้องผูก ไม่สมควรใช้เปลือกรากเป็นยาแก้
    2.การใช้เปลือกรากเป็นยาแก้ ควรจะใช้อย่างระมัดระวังให้มาก เพราะเปลือกรากมีพิษ

    จริงๆ แล้วทับทิมมีปลูกอยู่ทั่วโลก พันธุ์ที่พบทั่วไปในประเทศไทยที่ปลูกตามบ้านเรือนนั้นจะมีขนาดเล็กกว่า และรสชาติไม่อร่อย กระทั่งมีพันธุ์มาจากต่างประเทศที่ส่งเข้ามาในประเทศไทยลูกจะโตกว่า ในแต่ละประเทศก็จะมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องทับทิมและมีตำรับตำรายาในการรักษาโรคจากทับทิมอย่างน่าสนใจไม่น้อย เช่น ชาวฮินดูในอินเดียเชื่อว่าพระพิฆเนศทรงโปรดทับทิม จึงมีผู้คนนิยมนำทับทิมไปกราบไหว้บูชาเป็นจำนวนมาก และใช้ดอกทับทิมบูชาพระอาทิตย์ พระนารายณ์ และเทวีลักษมี ส่วนประเทศจีนและกรีกถือว่าทับทิมคือสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ และนิยมมอบทับทิมเป็นของขวัญในวันแต่งงานเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงการอวยพรให้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง ชาวอียิปต์โบราณถูกฝังพร้อมกับทับทิมเชื่อว่าจะกลับมาเกิดใหม่ เป็นต้น.

ที่มา  :  thaipost.net

 




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2555
0 comments
Last Update : 24 กรกฎาคม 2555 16:11:04 น.
Counter : 1311 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เอ็กซ์ซ่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็กซ์ซ่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.