ความอยากของมนุษย์
อย่างหนึ่งที่ยากจะปฏิเสธ
คืออยากจะอยู่เหนือคนอื่น
โดยเฉพาะคู่
แข่งที่กำลังขับเคี่ยวกัน
ทว่าชัยชนะที่ได้มานั้นขาวสะอาด
ชอบธรรมเพียงใด
ถ้าได้มาด้วยการขุดคุ้ยเอาข้อเสียของ
คู่แข่งมาวิจารณ์โจมตี
ลิดรอนทำลายเสีย ใส่ร้ายป้ายสี
จะน่าภาคภูมิ
ใจหรือ มันเป็นชัยชนะที่ต่ำทรามยิ่ง
คุณยังอยากเชิดชู “โล่รางวัล
สีดำ” ขึ้นชื่นชมอยู่หรือ
ผู้รู้ท่านตำหนิติเตียน
ชัย
ชนะเยี่ยงนี้มิทำให้คู่แข่งยอมรับอยากร่วมฉลองชัยเลย
นอกจากจะไม่ยอมรับ
แล้ว ยังสบถสาปแช่ง
ผันตัวเป็นศัตรูคู่แค้นหาช่องทางห้ำหั่นภายหลัง
ชัย
ชนะที่เหยียบย่ำคนอื่นขึ้นไป
อย่าตกหล่นลงมาเชียว จมธรณีแน่ๆ
ชัยชนะที่ได้มาอย่างขาวสะอาดชอบธรรม
ด้วย “คุณธรรม” ความดี
ความรู้ความสามารถของตนล้วนๆ
โดยไม่วิจารณ์โจมตีข้อเสีย
ลิดรอนทำลาย
ใส่ร้ายป้ายสีคู่แข่ง
พูดเฉพาะ “หลัก
การ” “นโยบาย”
ตามความเป็นจริง จึงจะน่าภาคภูมิใจ
ยาม
ที่ยกชู “โล่รางวัล” ขึ้นชื่นชม
ย่อม
ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ
ยิ่งเป็นชัยชนะที่งดงาม
เมื่อคู่แข่งยอมรับ
และมาร่วมฉลองชัย
นี่แหละคือธรรมะ
นโยบาย “ชนะความไม่ดีด้วยความดี”
มุ่ง
กระทำคุณงามความดีจนก้าวขึ้นคว้าชัย
ชัยชนะที่ได้มาอย่างนี้น่าภูมิใจ
น่าประทับใจนัก
ผู้ชนะนั้นนั่งอยู่ในใจคู่แข่ง
เมื่อไร
หนอ “ธรรม
นโยบาย” ดีๆแบบ
นี้
จะขยายผลไปสู่การปฏิบัติจริงเสียที
(ที่มา : “เสียงธรรมจากพระโอษฐ์ ๑๐๘ คาถา
อมตพจนาจากพระไตรปิฎก” เรียบเรียงโดย
พระมหาอุเทน ปญฺญาปริทตฺโต
จัดพิมพ์โดย บริษัทสร้างสรรค์บุ๊ค จำกัด, พิมพ์ครั้งแรก กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒,
หน้า
๒๐๖-๒๐๗)
//www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=29736
ขอขอบคุณ คุณ
กุหลาบ
สีชา จากเวป ธรรมจักร