|
Oman day 1
The day in Oman
บินมามัสกัต รัฐสุลต่านโอมาน โดนอยู่ที่นี่ 2 วันครึ่ง อยู่แบบเต็มเหนี่ยว เป็นไฟล์ทที่สจ๊วตและแอร์วาย จะได้อยู่นานท่สุด (ไม่นับชาร์เตทอร์ไฟล์ทอื่นๆ)
ผู้โดยสารเต็มเหนี่ยว ทั้งล์ทและกลับ ล้นกันชนิดที่ไม่มีรูว่างให้หายใจ แต่พอมาจริงๆ ก็จะมีหายไปบ้าง ไม่เกิน 5 หัว ที่หายไปนี่โดยมากจะเป็นพวก Connection Flight แล้วไม่ทัน แล้วก็ถ้าพลาดไฟล์ทนี้ไป นั้นหมายความว่าต้องรออีกอย่างน้อยๆ ก็ 3 วัน ถึงจะมีไฟล์ทต่อไป ที่จะบินมามัสกัต รอกับจนเงิบไปข้างนึง
วันนี้เป็น Steward Senior Y นั้นหมายความว่าจะได้ทำงาน Low Rank เป็น แอร์ อย่างน้อยๆก็ 1 ขา และถ้าโชคดี ก็จะได้เป็น แอร์ ทั้ง 2 ขา...อย่างในกรณีนี้
น่าจะได้เป็น แอร์ ทั้ง 2 ขา
แต่ในบางไฟล์ท การ Low Rank เป็น แอร์ ในเครื่อง Airbus 330-300 นั้นเหนื่อยเหลือเกิน เพราะต้องทำงานเป็นตัว Multifunction ทั้ง แอร์ และสจ๊วต ในกรณีที่ สจ๊วต Junior ที่ทำงานด้วย ด้อย และอ่อนแรง
ดังที่เคยปรากฎแล้ว ในประวัติศสตร์ โดนเรียกไป Shanghai, turn around ไฟล์ทนี้ ธรรมดาก็เหนื่อยอยู่แล้ว ด้วยเหตุผลคือ ผู้โดยสารจะเต็ม และไฟล์ทไทม์ก็ค่อนข้างยาว
วันนั้น Stand by แล้วก็โดนเสียงสวรรค์ เรียกให้ไปบิน เป็น แอร์ ดีใจจัง
ไฟล์ท Shanghai ถึงจะเหนื่อย แต่เงินคิ่นข้างดี คุ้มอยุ่ที่จะออกจากบ้าน แต่...พอไปถึเครื่อง แทบอยากจะขอ เพอร์เซอร์เปลี่ยนำแหน่งเป็น สจ๊วตแทน...เจอสจ๊วตที่บินมายังไม่ถึง 1 เดือน
นั้นเป็น Sign ที่จะบอกได้เลยว่า...กู...ฌหนื่อย...ตายห่า
และแล้วก็เป็นจริง น้องทำงานไม่คล่องอย่างแรง ไม่พอ ไม่ใส่ใจกับเหตุการ์ณที่จะเกิดขึ้น ใครอยากได้อะไร หาไม่เจอ หรือไม่มี ก็เรียกแต่ กู เรียกแต่ กู ทั้งนั้น สรุป Multifunction ของแท้ แต่ก็ยังดี ไฟล์ทนั้น มี IMV ขึ้นมา Evaluate ด้วย เลยได้ 5 ไป 2-3 ตัว ด้วยเห็นว่าทำงานเหนื่อยสายตัวแทบขาด
งานตัวเอง งานสจ๊วต งานหาของ สาระพัด
กลับมาเรื่อง ไฟล์ทไปมัสกัตดีกว่า...
เป็นแอร์ ครัวหน้า ทำงานคู่สจ๊วตบินมากว่า 6 เดือน...โล่งครับ งานนี้ ไม่ต้อง Multifunction แน่นอน อาจจะมีบ้าง แต่ก็ไม่น่าค่อยเหนื่อย
เรื่อยๆ ไฟล์ทนี้ โหดเรื่อยๆ
ตามแบบฉบับผู้โดยสารตะวันออกกลาง กินเยอะ ขอเยอะ พูดไม่รุ้เรื่อง แล้วก็เหม็น...แต่เคสนี้จะเป็น...เหม็นน้ำหอมแทน น้ำหอมแบบกลิ่นที่เหมือนกันทั้งลำ กลิ่นจะคล้าย Bvgari Omnia แต่แรงกว่า 10000 เท่าเห็นจะได้ ทั้งแต่เริ่มทำงาน แล้วได้กลิ่นนี้ ทำให้ผม เลิกใช้ Bvgari Omnia ไปเลย ใช้แล้วมันฝังใจ ยังไงไม่รู้
ทำงานเป็นแอร์ ครัวหน้า คู่กับพี่แอร์ ที่บินเจอกับบ่อย เข้าขากันได้ดีทีเดียว สบายแฮไปแล้วกู
เดิน Drink รอบแรก กินกันไม่เยอะ ก็แค่น้ำส้มฝั่งผมหมดไป 6 กล่อง น้ำแอปเปิ้ล 3 กล่อง น้ำเปล่า 2 เหยือก กับอีก 1 ขวดลิตร โค้ก, เป็ปซี่ และ สไปร์ท หมดไปอย่างละประมาณ เกือบๆ 10 กระป๋อง (นี่ไม่ได้คำนวณถึงฝั่งพี่แอร์ ที่ทำงานคู่กัน)
เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมเดิน Drink ในไฟล์ท อินเดีย, ตะวันออกกลาง, จีนแผ่นดินใหญ่ ผมจะให้น้ำอัดลมทั้งกระป๋อง หรือจะขออะไรก็ตาม ผมจะให้แบบเต็มเหนี่ยว เพราะผู้โดยสารพวกนี้ เมื่อได้ทานอิ่ม และเต็มที่อย่างที่ต้องการแล้วนั้น จะไม่กวนครับ...ก็แค่...กินอิ่ม...นอนหลับ...พอ
แล้วก็ไม่เข้าใจแอร์เหมือนกัน ว่าทำไมถึงไม่ให้ทั้งกระป๋อง ชอบกั๊กไว้ แล้วก็มาเททิ้งที่เหลือในครัว เสียดายกว่าให้ผู้โดยสารกินเยอะๆอีก
ผมนะ ให้แทบไม่คิดชีวิตเลย ให้ทั้งกระป๋อง ให้ไปเลย จะได้จบ แล้วก็จบจริงๆครับ เดิน Drink with meal ผู้โดยสารขอน้อยลง ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้นมากมาย
ผู้โดยสาร โอมานี่ นี่จะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ และจะเป็นมุสลิม เกือบทั้งหมด เวลาขายข้าว (ซ฿งวันนี้เป็น ไก่ กับ กุ้ง) พอบอก Shrimp or Chicken แน่นอน ผู้โดยสารก็จะต้องเลือก ไก่ เพราะไม่ร็ว่า Shrimp คืออะไร บางครั้งเราก็เลยต้องตุกติกบ้าง ถามว่า Muslim Meal? Halal Meal? แล้วก็วาง กุ้ง เพราะไม่งั้นมีปัญหาแน่ๆ แต่แล้วปัญหาก็บังเกิดครับ ผู้โดยสารท่านนึง ไปห้องน้ำขณะแจกข้าว ก็เลยเป็นผลให้ Skip ไป มาทราบอีกทีตอน Choice หมดแล้ว ขอโทษไป แล้วก็บอกว่า มีแต่ Chicken เอาละซิฮะ ปัญหาบังเกิด ตอนแรกน้องสจ๊วตที่ทำงานคู่กัน เป็นคนไป เจรจา ปรากฎว่าแพ้ภัยฮะ เลยต้องเข้าไปช่วยในฐานะเป็น Senior ที่ดี หารู้ไม่ หาอูฐใส่หัวจริงๆเลยกู
Im so sorry sir, The Chicken with Masala Rice is out, just only Shrimp Thai Curry with Rice, available
No, I want Chicken
Why only me have to eat something that you force me to eat
Im sorry, sir. Its out I try my best to find them all the aircraft but its not available
Thats so why
Why
Why, you have to skip me to serve the other before service me
โอ...แม่เจ้า ตอนนี้ผมแบบอารมณ์พุ่งปรี๊ดเลยครับ อยากจะบอกว่า...แล้วมึงเสือกไปเข้าห้องน้ำตอนกูเดินข้าวทำไมวะ...วิ๊บๆ...ผมเลยตอบไปอย่างแย่ๆว่า
And so why so dont call us to serve you or let us know that you didnt get the meal tray
Why you stay still?
And why you dont serve me? สัตว์...ย้ำคิดย้ำทำนะมึง...
...ผมแผดเสียงมั้ง เพราะมันเริ่มขึ้นเสียง...OK, that not my fully fault, Ill try my best to find another for you
...มายืนตัวสั่นในครัว โกรธๆ มารื้อ Crew Meal เจอปลาผัดพริก ที่ไม่อร่อย เลยจัดการแปลงโฉม ใส่ข้าวลงไป แล้วเอาไปเสริ์ฟ...ทำไปก็ตัวสั่น มือสั่น โกรธๆ...
Sir, Ive Spicy Stir Fried Fish with Rice, thats the last choice, that I try my best to find them for you, would you care?...
...ยิ้ม...Fish? Thats find, what every you have, thats not CHICKEN!!..
...แม่เจ้า...ประโยคนี้ทำให้ผมโกรธเท่าทวีคูณ...ผมเลยบอกมันไปว่า...Thanks god that you enjoy this situation, anyway all of us would love to serve all passenger as they need, but sometimes, due to the short of service in the aircraft, we cant offer all the needs
ก็รู้ตัวว่าผมผิด แต่...ทำไมต้องทำกันอย่างน้ด้วย ไม่เข้าใจ อย่าแกล้งกันเลย แค่ออกรบกับผู้โดยสารที่ไม่หาเรื่อง ในไฟล์ทแถบนี้ ก็จะตายห่าอยุ่แล้ว
คิดและสงสัยอยุ๋คนเดียวว่า ไอ้คนนี้มันต้องอะไรสักอย่างแน่ๆ มาแบบลองเชิงแบนี้ น่าจะเป็น Airlines Staff หรืออะไรที่เกียวกับ แวดวงการบิน, การท่องเที่ยวอะไรสักอย่าง...แต่ก็นะ...
ไม่ใช่แค่นั้นนะ...มันยังกัดผมไม่เลิก...ตอนเดิน Drink มาถึง...เขาก็ขอน้ำ แล้วก็บอกว่า ขอ 2 แก้ว...เพราะว่ากลัวว่าจะลืม แล้วก็ข้ามเขาไปอีก...เออนะ...เอาซิกัดไม่เลิก...
เรียบร้อยกับการบริการผู้มีพระคุณ ถึงเวลาหุงหาอาหารให้ตัวเอง และเพื่อนร่วมงาน ควัก...Spare Food ส่วนตัวขึ้นมา เติมพลังด้วยความเอร็ดอร่อย แม้มันจะเป็นแค่อาหารธรรมดา แต่อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ Crew Meal...เท่านั้นพอ...
แด๋วข้าว เติมพลังเสร็จ ก็เดินไปคุยกับครัวหลัง เม้าท์นู้น เม้าท์นี่ไปเรื่อย สักพัก...เซ็งใจ ผู้โดยฯท่านนั้น เดินมาหาเรื่อง ลองเชิง กับลูกเรือครัวหลังบ้างคราวนี้ แต่พอเห็นผมยืนก็ก็ยิ้มฟันขาวให้ผม แถมมีหน้ามาพูดอีกว่า
The fish
very delicious
ขอบคุณนะ...ขอบคุณมากกกกกกกกกกก
ท่านนั้นเดินมาหาเรื่องกับลูกเรือครัวหลัง โดยยกคำถามว่า ทำไมถึงไม่ให้ใช้ Flight Mode บนเครื่อง ทั้งๆที่สายการบินอื่น ให้ใช้ทั้งหมด
ผมถอยเลยครับ ไม่ใช่ตอบไม่ได้ แต่ผมเดาทางออกเลยว่า เขาจะเถียงๆ ในทางของเขาจนสุดกู่แบบที่เขาทำกับผมมาแล้วครั้งนึงแน่ๆ และแล้วก็เป็นจริง ลูกเรือทั้งหลายก็ตอบไปตามที่คิด และที่โดนครู EM สั่งเสียมา มันก็ยังไม่ทำให้เขาไม่พอใจ
จนน้องสจ๊วต ที่ทำงานคู่ผม มาตอบด้วยศํพท์เทคนิค ให้เขาฟัง เขาถึงยอมฟังและเออออไป
แอบงง...ทำไมหล่อนรู้...มาแถลงไขทีหลังว่า...หล่อนได้รับการคัดเลือกจาก Emirates Airlines แล้วไปเทรนอยุ๋ประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วก็ทนไม่ได้ หนีกลับมาทำมาหากินแถวๆ พัฒน์พงศ์ และ ซอย 2 ตามเดิม...เพราะทนคิดถึง...ไม่ไหว...
แต่เฮียนั้นก็ยังไม่ลด ละ เลิก ครับ...ผมทนไม่ได้เลยขอออกหมัดแย่บหน่อย...Sometimes the rule has no reason
Thats the rule, thats the procedure; they create them and need the other to follow... มันคงเป็นอะไรที่ดีที่สุด ที่สมองปลาทองอย่างผมจะตอบได้...
สุดท้าย...เฮียถึงเผยฮะว่า...เฮียเป็น Flight Safety of Oman Air ซึ่งจะเริ่มบินมาเมืองไทย ในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้านี่ มา Set up งาน แล้วก็บินกลับ...เฮ้อ...เห็นมา กูว่าแล้ว มาลองเชิงอย่างนี้...
อยากจะบอกจังเลย...แต่ละสายการบิน ก็มีอะไรที่ไม่เหมือนกัน..มีกฎ และระเบียบ ที่ไม่เหมือนกัน...อย่าเอามาเปรียบกันเลย...
ที่สำคัญ...ลองไปทำแบบที่มึง...ทำกับกู และเพื่อนกู ในเครื่อง Oman Air ของมึงซิ...แล้วมึงจะได้ผลอย่างไรบ้าง...มาบอกกูหน่อยนะ...
มาถึงมัสกัต ด้วยความเหนื่อยล้า แต่ยังมีแรงคึกอยู่บ้าง
ตามถนน ระหว่างทางจาก แอร์พอร์ท ไปโรงแรม มีการประดับประดา ไฟหลากสีสรรพ์ คล้ายๆกับจะมีงานอะไร ลุงกัปตันบอก...สงสัยเขาจะประดับรับลอยกระทง
ได้เรื่องครับผมเลยอำต่อ...เนี้ยะ...วันลอยกระทง จะมีงานประกวดนางนพมาศของ Thai Community ที่ Lulu Mall จะประกวดไม๊? (หันไปถามน้องสจ๊วต แมนดี้ ที่ทำงานคู่ผม) ได้เรื่องเลยครับ ฮือฮาทั้งไฟล์ท อย่างนั้นอย่างนี้ กับไปเรื่อย...กูละขำ อำสำเร็จ
ใส่ชุดไทยคนนั้น เดี๋ยวแต่งหน้าอย่างนั้นอย่างนี้ แว็กซ์ขนจักกะแร้หน่อย กันคิ้วนิด ทำผมทรงหมอพรทิพย์ โอ้ว...แม่เจ้า เป็นเรื่อง
จวบจนวันนี้ (24 Nov 07) ก็ยังเชื่อกันอยู๋ว่า งานประกวดนางนพมาศมีจริง (ผมอำไว้ตั้งแต่วันที่มาถึง มัสกัต คือ 22 Nov 07) จะบอกความจริงเขาดีมะนะ ไม่เพียงแต่ลูกเรือนะที่ฮือฮา พี่เพอร์เซอร์ก็เอากับเขาด้วย
ปกติแล้ว โรงแรมที่มัสกัต ไม่มีอาหารเช้าให้ แต่คงอาจจะระแคะระคายว่าเรามีโปรแกรมจะย้ายโรงแรม ก็เลยแถมอาหารเช้าให้ แต่ก็ยังไม่ Confirm 100% ว่าฟรี แต่...ทุกคนลงมาทาน
อาหารเช้าดูละลานตามาก แต่...ไม่อ่อยเลย ที่จะอร่อยก็จะเป็นพวกผลิตภัณต์ คาร์โบฯ เท่านั้น พวกโปรตีนทั้งหลาย...ไส้กรอก, แฮม, ไข่...ไม่ได้เรื่อง...เสียแรงที่ตื่นมากิน...แต่ก็นะ...กินซะเต็มคราบเลยทีเดียว
Create Date : 25 พฤศจิกายน 2550 | | |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2550 1:24:02 น. |
Counter : 697 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ไทเป โซล...ใครๆก็ไม่รัก และเรียน EM
จริๆตั้งใจไว้ว่าจะเขียนตั้งนานแล้ว แต่ว่า...ขี้เกียจ...แสน ล่าสุดไปไฟล์ทโปรดมา...ไทเป โซล ไฟล์ทนี้หลายคนเกลียด เนื่องด้วยเวลาเช็คอินที่เช้าเหลือคณานับ 0525 นั้นหมายความว่าจะต้องตื่นอย่างช้าที่สุดคือ...ตี4... แต่...ถ้...าบ้านไกล มีหวัง...ตี3...ไม่พอ ยังบิน 4 แลนด์ดิ้งใน 2 วันต่างหาก ได้เพอร์เดี้ยมเท่ากับบินไดเร็คท์ หรือแวะแค่ขาเดียว กล่าวคือ...ถ้านับจริงๆ ไฟล์ทนี้..ขาดทุน
แต่สำหรับผมนั้น....โปรดปรานที่สุด ด้วยความที่ตื่นเช้าวันแรกวันเดียว และเซอร์วิสก็แสนจะง่อย
ข้อดีของไฟล์ทนี้ คือ Breakfast ใน First Sector
Drink with me (meal) ใน Sector ที่ 2 และ 3
Dinner (Full service) ใน Sector สุดท้าย...เท่านั้น
มากกว่านั้นคือผู้โดยสารในไฟล์ทนี้นั้น้ไม่เรื่องมาก แสนจะง่ายดาย จะมีมากก้แค่อาหารมังสวิรัติ หรือVegetarian เท่านั้น
ถึงโซลเย็นๆ (ประมาณ 4 โมงเย็นบ้านโซล หรือ บ่าย 2 บ้าน กทม.)
วันกลับ ออกจากโซลช่วงเย็นๆ ทำให้ไม่ต้องตื่นเช้า (แด๋วเบียร์ได้อย่างสบายใจแฮ)
แลกเข้าง่าย เพราะใครๆก็ไม่ค่อยชอบ แลกง่ายกว่า Delhi, Bombay ซะอีก
สรุป ง่ายทุกอย่าง...ตื่นเช้าอย่างเดียว
เมืองแทบนั้นเริ่มหนาวแล้ว
อุณหภูมิเลขตัวเดียว ลมแรงและแห้งอีกต่างหาก
เกาหลีนี่แปลก เวลาร้อน...ก็ชื้นซะเหนียวไข่ แต่พอหนาว ก้ล่อซะไข่แห้งเชียว...เขาบอกกันมาว่า เป็นเพราะใต้ดิน เกาหลีมี แร่เหล็ก เยอะ เลยทำให้มันเป็นอย่างนี้ ไม่รู้จริงรึเปล่า...ใครรู้...บอกหน่อย
จากที่ไป ปักกิ่ง, อุซเบิร์ก (UTH), โอซาก้า และ โซล มาติดๆกัน ด้วยเหตุหนาว แห้ง และแดดมะหึมานั้น ส่งผมให้หนังหน้า...ที่เยินอยู่แล้ว ไปกันใหญ่เลยทีนี่ จมูกแห้ง ลอก และแตก...ย้ำ...แตกแบบคล้ายๆส้นเท้าแตก (กุ...ช่างยกสิ่งมาเปรียบเปรยได้เหมาะสมมาก) จากที่อุบาทว์อยุ่แล้ว เข้าไปใหญ่เลยคราวนี้
จมูกลอก และแตกเป็นยังไงหรอ
เคยดมป๊อปเปอร์ไม๊? อารมณ์มันก็คล้ายๆโดนป๊อปเปอร์หกใส่ แล้วมันกัดผิว...อย่างนั้นแหละ...แต่เอ...กูรู้เรื่องป๊อปเปอร์กัด...ได้ยังไง
(กระซิบ โหมด อุซเบิร์ก = อุดรธานี ถ้าเป็น อุบลราชานี ก็ อุพเบิร์ก ส่วน พิษณุโลก จะเป็น พิซเบิร์ก ดูดีมีสกุลมะ?)
บินคราวนี้ ก็ไม่มีอะไรมากมาย เพียงแต่เปลี่ยนเครื่องจาก 777-300 มาเป้น 777-200 แทน โดยตัดลูกเรือออกไป 3 คน ดดยเป้น 1 นาง 2 นาย และจริงๆ ตรงๆแล้ว...1 ใน 2 นายนั้นจะต้องเป็น กู แต่ด้วยชะตาฟ้า OD คงรู้ และเห้นใจ ว่าไปแลกชาวบ้านเขามา เลยคงสถานะผมไว้ กับสจีวตอีกคน ที่ซีเนียร์แล้ว แต่ไม่ยอมขยับไปไหน กะว่ากุจะเป็นซุปเปอร์ซีเนียร์ Y แข่งกับ เจ๊หน่อง...นั้นแอร์ซุปเปอร์อัครมหาโคตร ซีเนียร์ Y ผิดกับตรงที่...เจ๊หน่อง...น่าคบค้า...แต่...มัน...ไม่...
ผุ้โดยสารผิดคาดมากๆ ปกติจะพอดีๆ แน่นบ้าง ไม่ถึงกับเต้มทุกเซ็คเตอรื แต่ครานี้ 100 นิดๆทั้งหมดทั้งสิ้น...สบายดิอะ...ให้ลูกเรือมาเต็มสูตร แต่...ผู้โดยฯแค่นี้...แม่เจ้า สบายยิ่งกว่าอะไรวะอีก...แต่...ง่วงเช็ค น้ำลายยืดเลยเหอะ...
ทีมนี้ขำดี ทำงานสบายๆ แม้ว่า ซีเนียร์จะเยอะไปหน่อย...เด็กสุดฮะ ไฟล์ทนี้ จูเนียร์สุด...
กลับมา หยุด 1 วัน เรียน EM ฮะ ครบรอบแล้วเร็วจัง คล้ายๆว่าเพิ่งเรียนไปไม่นานมานี้เอง ทำไม 1 ปี ผ่านไป ไวเหมือนได้โล่ห์
EM นี่จะเรียน กันใหม่ทุก 1 ปี (บางสายการบินทุก 6 เดือน) ก็แล้วแต่ละ ว่าใครจะยังไง แต่อย่างที่รู้...ที่นี่ เน้น Safety แต่ เน้น...Service...มากกว่า...555
การเรียนหนังสือ เป็นอะไรที่สบายที่สุด แต่...น่าเบื่อที่สุด
เบื่อเพราะมันง่วงนอนนี่แหละ ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก เรื่อง Emergency Procedure เนี้ยะชอบ สนุกดี ได้รู้อะไรที่บางครั้งเป้นเรื่องพื้นๆแต่เราไม่รู้ บางครั้งก็รุ้อะไรที่มันน่าอัศจรรย์ใจ...Miracle
คราวนี้เน้นเรื่อง CRM กับ Dangerous Goods
เรื่องแรกที่เรียนนี่ จริงๆแล้วเพิ่งโดนจิกไปเรียนมาเมื่อ Jul เอง ด้วยเหตุที่ว่ามีเพื่อนร่วมรุ่น (ไม่รู้จักหรอกว่าใคร รู้แค่ว่าเป็นรุ่นเดียวกัน) โดน เจ้าหน้าที่ของ ข.อ. (ขนส่งทางอากาศ หรือ การบินพลเรือน เดิม) มาถาม แล้วเฮีย ดันตอบว่าไม่รู้...ไม่เคนเรียน...โดนซะ เรียกมาเรียนใหม่ทั้งรุ่น...ซวยไป
จริงๆเรื่องนี้ เรียนล้ว ตอนเริ่ม Training เลย โดยเรียนกับหมอที่ สถาบันเวชศาสตร์การบิน เรียนพร้อม First Aid นะแหละ
แต่ก้ไม่เป็นไร เรียนซ้ำแล้วซ้ำอีก เรียนไป ฟังนั้นฟังนี่ นั่งง่วงน้ำลายยืดไป ดูสารคดีการบินไปเรื่อยๆ ก็มันดี
ส่วนเรื่องที่ 2 ก็เป็นเรื่องพื้นๆ ที่เคยเรียนมา แต่ก็ลืมๆกันไปแล้ว เพราะเราจะไม่ค่อยเจอเท่าไร่นัก เพราะของพวกนี้ จะโดนสกัดจับตั้งแต่ช่วง X-Ray ใน Terminal มาแล้ว ก็เรียนเพื่อรู้ ประดับติ่งในสมองไว้ เดียวก้ลืม...อาศัยว่ารู้ๆมาบ้างตอนทำ Cargo เลยพอระลึกชาติได้
ซวย...มาเรียนตอนวันที่เขากำลังมีซ้อมอพยพหนีไป เลยต้องร่วมไปกับเขา
เขาให้วิ่งลงมา แล้วก็ไปลชื่อ แล้วก็กลับไปทำทุกอย่างได้เหมือนเดิม บางหน่วยงานจะต้องซ้อมปฐมพยาบาล ซ้อมดับไฟไปตามเรื่องตามราว...แต่...เราไม่เกียว
วิ่งลงมา วิ่งไปลงชื่อ วิ่งกลับไปสอบ จบ
ขำตรงที่ กลับขึ้นไปสอบ แต่เขายังวิ่งออกจากตึกยังไม่หมดกันเลย...
วิ่งกลับไปสอบ สวนกับคนที่กังวิ่งหนีไปลงมาจากตึก
ต้องรีบทำเวลา เดี๋ยวเสร็จช้า รถติดอีก วันศุกร์ต่างหาก
ภาพนี้...น่าดู
ไปกินข้าวเย้นกับหม่อมมา
ครั้งที่แล้ว อยากลองไปกิน อาหารญี่ปุ่นที่ ร้าน Takumi ที่ Swissotel Le Concord มาก แต่ด้วยโทรฯไปเช้ค ปรากฎคิวเต้ม เลยต้องไปกินที่ Daiichi, The Emerald แทน
แต่ครานี้สบเหมาะ ได้กินซะที...ไม่น่าประทับใจอย่างยิ่ง
เป็นบุฟเฟ่ต์ หัวละ 500 กว่าๆ สั่งตามเมนู ซึ่งมีไม่มากนัก
อาหารดูดี รสชาติใช้ได้ ความสดเข้าที แต่...มันไม่ดีขนาดที่คิวต้องเต็มเลยอะ
ถ้าถามนะ...ประทับใจ Daiichi มากกว่า แม้ว่า Daiichi จะดูไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่หนัก แต่.งงของแด๋วมากหลาย
ประทับใจ Takumi ตรง milk Cheese Pudding กับCaramel Ice cream เท่านั้น
แต่ก้เหอะ...พุงกาง แต่ไม่ทรมานเท่ากิน Daiichi คราที่แล้ว
วันจันทร์ไป โวลอีกแล้ว กลับมาวันพุธ ต่อด้วย มัสกัต 2 ขีด กลับมาวันจันทร์ ต่อด้วย ขอนแก่น อุดร บินดุเหนื่อยเนอะ...
ใจจริงอยากแลก ขอนก่น อุดรเป็น ไทเป โซล จัง แต่...เริ่มขี้เกียจ และอยากจะไปกินเนื้อย่างที่อุดรฯ เลยต้องทน...อืม...ออ...จะเอาพาสสปอร์ท ไปทำวีซ่าา ตุรกี กับญี่ปุ่นด้วย
ไปด้วยกันมะ
เฮ้อ...ลืม เครื่งมือทำมาหากิน (Steward Kit) ไว้บนเครื่อง ขาเข้า โซล ไม่รู้มีใครใจดี เก็บไว้ให้ไม๊...ให้เดานะ...ท่าทางจะไม่มี
ทำไมนะ...เวลาเจอขอชาวบ้านเขา...เก้บให้เขาทุกที แถมพยายามเอาไปคืนให้สุดพลังความสามารถในการตามหา แต่...ทำไม ไม่เคยได้ผลบุญนั้นเลยเหอะ
Create Date : 17 พฤศจิกายน 2550 | | |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2550 13:06:06 น. |
Counter : 604 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Domestic with 734...LIFE
กลับมาแล้ว...ไม่ได้เข้ามาซะนาน
หลังจากเสีย Self นิดหน่อย
มีคนมาอ่าน Blog แล้วบอกว่า...ทำไมขี้บ่นจัง
เลยแอบเสีย Self เฝ้านั่งถามว่า...จริงหรอ...กรูขี้บ่นหรอ
มาพบทางสว่างเมื่อ...
เพื่อนหลายคนเล่า (บ่น) ให้คนอื่นฟัง
แต่ผมใช้วิธีเขียน...ให้คนอื่น..อ่านแทน...
นั้นก็น่าจะหมายความว่า...ในทางของผม...ผมทำได้ดีกว่ากว่าชาวบ้าน
กล่าวคือ...ไม่ได้ยัดเยียดให้ใคร...แต่คนท่เข้ามาอ่าน
นั้นหมายความว่า...
เขาอยากรุ้เอง...ต่างหาก...
เดือน พฤศจิกายน นี้ (เขียนชื่อเดือนถูกเปล่าหว่า...จำได้ เดือนนี้ และเดือน พ.ค. เป็นเดือนท่มีปัญญาในการเขยน มาตั้งแต่เริ่มเขียนหนังสือได้...ออ...อีกคำ...กษัตริย์...เขียนผิดๆ ถูกๆ เขียนเล้าน้ำตามานานนม)
เดือนนี้ Sched' ดูดี...แต่แฝงไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว...สำหรับผมคนเดียว
เพราะเต็มไปด้วยไฟล์ทที่ไม่ชอบ...ไม่ว่าจะเป็น
Narita, Triple of Domestic 3 days 2 nights, Muscat 2 keeds.
พยายามแลกออก...แต่ยังไงก็ตาม...มันก็ไม่ได้หมดอยุ๋ดี...ก็ต้องชดใช้กรรมตนเองไป...เฮ้อ..
วันนี้...เพิ่งกลับมาจาก ไปนอนอุดรฯมา นอนไม่หลับ (สงสัยจะ Jetlag)...เลยมาเขียนขำ ที่เจอมาไว้ที่นี่ดีกว่า...
Pattern นี้...จะเป็น 3 landind
landing แรก ดอนเมือง - หาดใหญ่ landing ที่ 2 หาดใหญ่ - ดอนเมือง landing ที่ 3 ดอนเมือง - อุดรธานี
อย่าที่จะทราบกันดี...ผู้โดยสารหาดใหญ่ จะเป็นชาวมุสลิมค่อนข้างเยอะ ดังนั้นบริษัท จึงจะจัดอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของ "หมู" ในอาหาร ที่มุ่งหน้าสู่ภาคใต้ (รวมถึงมาเลเซีย, อินโดนีเซีย และ บรูไน) ซึ่งวันนั้นได้รับแจ้งจาก Catering Foreman ว่าอาหารสำหรับขาไปจะเป็น พายเห็ด และขากลับเป็น เค้กลูกเกด
ถึงเวลาเซิ้ง...ก็เซิ้งกันไปด้วยความเมามัน ยังไม่รีบเท่าไหร่ เพราะ ไฟล์ทหาดใหญ่ เป็นไฟล์ทภายในประเทศที่มีชั่วโมงบินนานที่สุด (ประมาณ 1.15 ชั่วโมง) แต่ด้วย Demand & Supply ทำให้เราต้องรีบพอตัว ในการบริการ
ผม : ของว่างครับ (ยื่นกล่องให้ผู้โดยฯ) ผู้โดยฯ : (รับกล่อง มองหน้าผม) ของว่าง...ในกล่องก็ไม่มีอะไรนะซิ ผม : (มองหน้าผู้โดยฯ ทำตาปริบๆ) .... (ในใจอยากพูด...ไม่ขำครับ)
ผู้โดยฯ : น้องๆ ข้างในเป็นอะไร ผม : พายเห็ด ครับ ผู้โดยฯ : ใส่หมูรึเปล่า ผม : ออ...ไม่ใส่ครับ อาหารทั้งหมด ที่เสิร์ฟในเที่ยวบินมุ่งหน้าสู่ภาคใต้ จะไม่มีผลิตภัณฑ์จากหมูครับ ผู้โดยฯ : กระพริบตา แล้วทำหน้าแอ๊บแบ๊ว...สงสัย...ฮาลาล รึเปล่า? ผม : อาหารที่ออกจากครัวการบินทั้งหมด ผ่านพิธี ฮาลาล แล้ว แล้วครัวการบินของเรา ได้รับการรับรองจาก สำนักจุฬาราชมนตรี แล้วครับ (ผมตอบให้ยาว เพื่อเป็นการให้ข้อมูลผู้โดยฯให้มากที่สุด เพื่อที่ผู้โดยฯ จะได้เข้าใจ...และที่สำคัญ...ไม่สงสัยอีก) ผม : (กำลังจะเสิร์ฟต่อ) ผู้โดยฯ : น้องๆ...เพื่อนพี่บอกมาว่า มีชาเขียว พี่ขอชาเขียวขวดนึงได้ไม๊คะ? ผม : (ในใจคิด...พี่ครับ นี่ไม่ใช่ โออิชิครับ) เออ...ต้องขอโทษด้วยนะครับ เที่ยวบินภายในประเทศ...ไม่มีชาเขียวเสิร์ฟครับ มีแต่ชาลิปตัน, กาแฟ ครับ...ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ (เฮ้อ...กูโล่ง) ผู้โดยฯ : ค่ะ ผม : (อยากจะถามจริงๆ...เมื่อไหร่พี่จะถือศีลอดครับ?)
ระหว่างที่ผม เจรจากับผู้โดยสารท่านนั้น นางแอร์ที่ทำงานคู่กันก็แจกกล่องเรียบร้อย ถึงคราวที่เราจะต้องเซิ้งชา และกาแฟ...แอบแปลกใจตัวเอง...ทำไมผมถึงไม่รู้สึกหงุดหงิดกับผู้โดนฯ ที่มีปัญหากับอาหาร และชาเขียวนั้นเลย ทั้งๆที่ตามปกติ...ผมจะแอบวิบอยุ๋บ่อยๆ เวลาเจออะไรแบบนี้...แปลกๆ...ให้คำตาบไม่ได้...แม้กระทั่งตัวเอง
เดินกาแฟอยู่...
ผู้โดยฯ : เออ...ผมขอ "สารให้ความหวาน ที่ไม่ให้พลังงาน" หน่อยครับ...(ฟังครั้งแรก อึ้งครับ...ลุงมามุขไหน วั๊บแรกที่ผมฟัง ผมไม่ได้นึกถึง "อิควล" เลย แต่ดันไปนึกถึงอะไรไม่รู้ แต่แอบขำใจขาด) ผม : สักครุ่ครับ (เดินกลับไปเอาในครัว พร้อมเล่าให้นางแอร์ฟัง นางแอร์ตอบผมว่า...ผู้โดยฯ จะเอา นมข้นหวานหรอ? ชิบหายแล้วครับ..นางแอร์ผม...เป็นหนักกว่าผู้โดยอีก พูดอะไรไม่ออกครับ หยิบ "อิควล" ให้ลุง แล้วรีบเดินเอาไปให้ดีกว่า อยุ๋กับนางแอร์นานๆ ไม่เวิร์ค)
ทุกอย่างจบลงด้วยดีครับ มีเรื่องให้ขำๆพอใจชื้น...มีแรงทำงาน
----------------------------------------------------------------
มานั่งนึกได้ทีหลัง ทำไมผมไม่หงุดหงิดกับอะไรๆ ใน ไฟล์ทนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
น่าจะเป็นเพราะ...ผมตั้งใจ และเตรียมใจรับมันไว้แล้ว ก่อนบินมั้ง...
อีกอย่าง...น่าจะเป็นเพราะว่า...ผมตั้งใจอย่างมากที่จะไปกิน "เนื้อโพนยางคำย่าง" ที่อุดรฯ คิดถึงทีไร ก็อารมณ์ดี ก็เลย...
-----------------------------------------------------------------
ถึงอุดร...
ถึงโรงแรม...
รีบนัดแนะกับทีม...ไปมะ ไปมะ...ผมเชียร์อั๊พ ตั้งแต่บินไป เซ็กเตอร์เดียว...อันนู้นอร่อย อันนี้ออร่อย...คล้อยตามกันทั้งไฟล์ทฮะ
ไม่พอ...ได้ทัพเสิรมจากกัปตัน
สกายแล็ป...มุ่งหน้าสู่ ระเบียงพัชนี...ด่วน
เนื้อโพนฯย่าง 3 ตามด้วย อาหารอีกนานาชนิด
ชนิดที่ว่าพอลงโต๊ะ แล้วงง...กินหมดไม๊วะ?
แต่...สุดท้าย...เรียบเป็นหน้ากลอง
ผู้ร่วมทีมประกอบด้วย
ผม แอร์ข้างหลัง แอร์ข้างหน้า พี่เพอร์ฯ พี่โค และ...ขาดไม่ได้...ลุงกัปตัน
คำแรกที่เนื้อเข้าปาก...พี่โค และพี่เพอร์ฯ อุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดด
แน่ซิฮะ...สุดยอดแน่ๆ...
ผม...ซัดคนเดียวจานครึ่งเฉพาะเนื้อ พี่โค...จานเดียว...ล่อคนเดียว พี่เพอร์...จานเดียว...ล่อคนเดียว...เช่นกัน ลุงกัปตัน...ครึ่งจาน...อีกครึ่งส่งมาให้ผม...ให้ผมละเกรงใจ...แต่ก็นะ...ปฏิเสธได้อย่างไร
ส่วนนางแอร์... ไม่ต้องพูดถึงครับ นางทั้ง 2 ไม่กินเนื้อ และนางยังพูดก่อนมาด้วยว่า...นางจะไม่ทานอะไรมาก แต่ไปขำๆ หารู้ไม่ฮะ...นางล่อปลาช่อนตัวเขื่องไป 1 ตัว 2 คน ไม่พอต่อด้วย ส้มตำอีก 2 ครก...ไม่แค่นั้นครับ ยังมีปลาลวก น้ำพริกปลาร้า ไข่ต้ม, ปลาทูทอด และมะเขือชุบไข่...อีก นางไม่กินข้าว นางกินไม่เยอะ แต่...นางแดกดุ...ฮะ
ทำไมชะนีชอบเป็นอย่างนี้...ปากพูด "กินไม่เยอะ...เด๋ยวอ้วน"
พูดเพื่อให้ตัวเองดูสวยขึ้นหรอ?
เนื้อย่าง...กับเบียร์เย็นๆ อากาศสบายๆ นี่มันช่างเข้ากันเสียนี่กระไร
กินเสร็จ...กลับโรงแรม
ตายห่าแล้ว...ปกติหน้าร้านจะมี สกายแล็ป จอดเป็นตับ วันน้ไม่มีเลย
สุดท้าย...ได้รถกิตติมศักดิ์
ทางร้านเอารถร้านไปส่งให้ครับ
เป็นกระบะ 4 ประตู แต่มากัน 6 ชีวิต...แน่นอน อิ่มๆขนาดนี้ยังเข้าไปในรถทั้งหมด คงมีอ้วกแน่
เสียสละ...นั่งหลังก็ได้วะ...หนาวชิบ
มีผู้เสียสละ 3 ท่านฮะ ผม...พี่โค...พี่เพอร์...
ส่วนลุงกัปตัน...แกแก่แล้วฮะ ปล่อยแกเหอะ...ให้มาปีนขึ้นปีนลงกระบะ เด๋วข้อเสื่อม
แวะส่งลุงกัปตันที่ โรงแรมบ้านเชียง ก่อน คราวที่แล้วแกลืมเอาแผ่นเพลงไว้...ไปตามคืน
ไม่รู้ตามแผ่นเพลง หรือแผ่นอนามัยกันแน่...
เป็นความโชคดี ที่แพไม่แตก...ปกติไฟล์ท 734 นี่ คนยิ่งน้อยๆ แพดันแตกอีก นี่เซ็งเลยครับ
กินคนเดียว เที่ยวคนเดียว
แต่...ถ้าพูดจริงๆแล้ว ไฟล์ทคืนเดียวอย่างนี้ แพแตกไม่เท่าไหร่
ถ้าไอ้ 2 คืนแล้วแพแตกนี่...เซ็งเปรตครับ
คราวนี้มาลุ้นกันว่า มัสกัต 2 ขีดของผมนั้น...แพจะแตกรึเปล่า
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2550 | | |
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2550 2:11:39 น. |
Counter : 401 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|