thank you for flying with the wing of HANG~
Group Blog
 
All blogs
 
Hurrr...ชีวิต และสงครามเดลลี

เดินจับมือกัน ทุกข์สุขด้วยกัน
หัวเราะร้องไห้ด้วยกันมานานเท่าไหร่ ฉันไม่เคยลืมจากใจ
วันที่เรายิ้ม วันที่ทะเลาะ
ภาพวันและคืนเหล่านั้น จะยังงดงามไม่เคยเปลี่ยนไป

ยังคงเป็นดั่งเหมือนกับเมื่อวาน
อยู่ในส่วนลึกความทรงจำ
แต่ต่างกันแค่เพียง ในตอนนี้

ฉันนั้นไม่ได้มีเธออยู่ข้างๆ เหมือนวันที่เราเคยเดินข้ามผ่าน
ทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่างมาด้วยกัน
นับเป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุด แม้เป็นแค่เพียงเวลาสั้นๆ
ที่เคยเกิดขึ้นกับฉัน...เพราะเธอ

เพลงและของขวัญ ตัวจากตรงนั้น
จดหมายที่ส่งให้กันในวันที่ห่าง ฉันนั้นยังคงเก็บไว้
วันที่เหนื่อยล้า ถ้อยคำที่ปลอบใจ
ภาพวันและคืนเหล่านั้น จะยังงดงามไม่เคยเปลี่ยนไป

ยังคงเป็นดั่งเหมือนกับเมื่อวาน
อยู่ในส่วนลึกความทรงจำ
แต่ต่างกันแค่เพียง ในตอนนี้

ฉันนั้นไม่ได้มีเธออยู่ข้างๆ เหมือนวันที่เราเคยเดินข้ามผ่าน
ทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่างมาด้วยกัน
นับเป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุด แม้เป็นแค่เพียงเวลาสั้นๆ
แต่ก็เคยเกิดขึ้นกับฉัน...เพราะเธอ

ไม่รู้ว่าเธอ ไม่รู้ว่าจะได้ยินเพลงนี้รึยัง
อยากจะให้เธอช่วยมารับฟังว่าฉันนั้น คิดถึง...



ไม่มีอะไรมาก...เพลงนี้โดนสุดๆ โดนแรงขนาดที่ว่าหงายเงิบไปเลย...เพราะอะไรหรอ? ก็เพราะว่า...เพิ่งโดนทิ้ง...นั้นเอง เจ็บชนชา เจ็บจนไม่ร้องไห้ แค่แอบนั่งซึม นั่งนิ่งลอย ไม่รับรู้เรื่องราวใดๆเป็นห้วงๆ

ไม่รั้ง ไม่อ้อนวอน ไม่ขอให้เขากลับมาด้วย คิดอยู่อย่างนึงตลอดเวลาว่า “ถ้าคนมันจะไป ทำยังไงก็ไป ไม่ไปครั้งนี้ มันก็ไปครั้งหน้าอยู่ดี” เลยเป็นเหตุผลให้ ไม่รั้ง ไม่พูดอะไรกับเขาอีกเลย นอกจากคำว่า...Bye…Forever, we won’t see again even in the word of friend…I’ll keep the nice thing you done and absolutely I’ll forget who you are…

พูดแล้วก็เจ็บ...ไม่ได้แรง ไม่ได้หยิ่ง ไม่ได้เหนือใคร แต่นั้นดีกว่าที่จะต้องมาเห็นเขาอีก แต่เห็นในสถานะที่จับต้องเหมือนเดิม...ไม่ได้แล้ว

เปิดศักราชเดือนแห่งแรงงานโลกด้วย การขายแรงงานไป Delhi., India แม้เจ้า นั่งทำใจอยุ่นานทีเดียว แถมไม่พอ เดือนนี้โน 2 Delhi ติดกัน (ของตัวเองอันแรก ของเพื่อนเอามาฝากบินอันที่ 2)

ปรากฎว่าโลกแห่งความจริงของไฟล์ทนี้ เปลี่ยนไปอย่างคาดไม่ถึง ผู้โดยสารยังน้อยเหมือนเดิม (เพราะตัวเหี้ยมากกว่า...) เปี่ยมไปด้วยคุณภาพที่แสดงอานุภาพตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Waterrrr….Playing Card…Kid Gift…อีกสาระตะ แม่เจ้า ชินชา แต่ไม่อยากชินใจยังไงไม่รู้

ปัญหาโลกแตก สั่ง Veg จะไม่กิน ไม่สั่งจะกิน มีไก่จะกินปลา ไม่มีปลาก็จะกินปลา ปัญหาพวกนี้พวก Junior มาบินแรกๆอาจจะพาสติแตก น๊อตหลุดได้ (อย่าว่าแต่ Junior เลย แบบกูเองนี่โดนเน้นๆ ย้ำๆ ก็มีแอบไขน๊อตตัวเองทิ้งแล้วปี๊ดบ้างเลยเหอะ) สุดท้ายบอกไปนิ่มๆ เงียบๆ และจ้องด้วยสายตาพิฆาต Kindly eat what we’ve, I know you can, all for you and your friend. แค่นั้น ก็หยุดพูดและก้มหน้าก้มตากินโดยสดุดีแล้ว อัดเข้าไปด้วยของกิน โค้ก 2 กระป๋องหรอ เอาไปเลย แต่เปิดให้นะ เบียร์ 2 หรอ...เอาไปเลย แต่เปิดให้นะ แถมถ้ากินไม่หมด ไม่เก็บกระป๋องอีกต่างหาก ขนมปังหรอ เอาไปเลย 3 ลูก 5 ลูก เต็มที่เพื่อน

นี่แหละวิธีปราบ และบริการลูกค้าที่ดีที่สุดของบริษัทให้อยู่หมัด และรัก...การบินไทย ตราบสิ้นลมหายใจ

ไฟล์ทเลข 3 (ประเทศด้านทิศตะวันตกของราชอาณาจักรไทย นับตั้งแต่ พม่า ไปจนสิ้นสุดที่อินเดีย ส่วนปากีสถาน เป็นไฟล์ทเลข 5) จะง่ายก็ว่าง่าย จะยาก และหนักใจก็ใช่ ขึ้นอยุ่กับวิธีมอง และวิธีคุย สำหรับกูเองนั้น ไฟล์ทเลข 0 – 2 นั้นยาก และหนักใจที่สุด

ไปเดลลี จะโหลดอาหารเต็มพิกัดจาก กทม. ไปเลย เพราะว่าเราไม่เชื่อใจในความเป็นมืออาชีพของ Catering ที่โน้นก็ตาม หน้าที่ที่หนักที่สุดจะเป็นของ 5R ซึ่งจะเป็น Steward Junior ที่สุดของไฟล์ท (ซึ่งในไฟล์ทนี้ “เบิ้ม หรือ หมวย” รับหน้าที่อันทรงเกรียตินี้ไป) เช็คอาหารเบาะก็แค่ มื้อที่ตัวเองจะต้องเสิร์ฟ ถ้าเต็มก็ 108 ที่ และ ของขากลับอีกแค่ 339 x 2 = 678 ที่ (อาหารร้อน 339 ที่ ถาดอีก 339 ที่ เบ็ดเสร็จเลยเป็น 678 ที่) ตาม Service Manual แล้ว เป็นหน้าที่ของ 5R อย่างเต็มเหนี่ยว แต่ในชีวิตจริงแล้ว Steward คนอื่นจะยิ่นมือเข้ามาช่วยด้วย โดยครั้งนี้กูเอง ช่วยหมวยเช็ค อาหารร้อนของขากลับไป 216 ที่ (มันช่วยได้แค่นี้ เพราะว่าส่วนที่เหลือทั้งหมดนั้น มันอยุ่ในครัวของหมวย ถ้าเข้าไปช่วย อาจทำให้หมวยสติแตกได้ เพราะเข้าไปเกะกะนาง)

หน้าที่ที่ดหลือก็คือ เช็คอาหารตัวเอง เอารถอาหารร้อนของขากลับ 4 คัน ไปเก็บข้างหลัง แล้วแลกเอารถน้ำเปล่า, น้ำส้ม และน้ำมะเขือฯ มาแทนที่ สิริรวมเวลาที่ใช้กับพวกนี้ก็หมดเวลาเตรียมงานไปแล้ว เริ่ม Boarding จน Board เสร็จ Steward ทั้งหลายยังง่วนเชียง หน้าเลื่อมเตรียมงานไม่เสร็จ เรียกได้ง่ายๆ ถ้าไม่ชินเครื่อง (Boeing 777-300) อาจมีสลบ เพราะไม่รุ้จะเอาอะไรไปเก็บที่ไหนดี (ที่เก็บของมันเยอะจนเลือกไม่ถูก ผิดกับ B6) ที่อันนั้นแทบจะไม่มีที่เก็บของเหอะ

เมื่อก่อน ไฟล์ทนี้จะมีอาหารพเศษขั้นเริ่มต้นอยุ๋ที่ 100 กว่าๆ แต่พอเปลี่ยน Loading Formular เลยทำให้อาหารพิเศษเหลือไม่เกิน 20 ที่ เพราะได้รวมอาหารประเภท Veg เข้าไปอยู่ใน Choice แล้ว โดน Choice อาหารจะเป็น Veg กับ Non Veg นั้นก็เป็น ไก่ นั้นเอง แต่ก็นะ ปัญหาโลกแตก อย่างที่บอก สั่งจะไม่กิน ไม่สั่งจะกิน เฮ้อ...ก็เข้าอีหรอบเดิม Choice ไม่พอ จะแก้ปัญหานี่ได้ก็โดยการ โหลด อาหารเกินมาประมาณ 10 ที่ เพื่อกันปัญหานี้เกิดขึ้น แต่...บริษํทไม่เคยคิดที่จะทำเหอะ ก็คนทำงานหนังหน้าแขกอย่างเรา ก็ก้มหน้าก้มตารับกรรมกันไป เอาอาหารลูกเรือมาเสิร์ฟก็แล้ว เล่นละครเศร้าซึม เห็นใจผู้โดยฯที่ไม่ได้แดกอย่างที่หวังก็แล้ว แต่ก็นะ...มันก็ผ่านไปได้เหอะ...

ไฟล์ทนี้ทีมเลิศ ด้วยว่า Steward Y ทั้งสิ้นเป็น 2006 หมด แล้วก็คุยกันเข้าคอ และรู้จักกันมาก่อนเลยทีเดียว อย่างมัน ทำงานไปด่ากันไป กัดกันไป จนถึง

ยังไม่เคยเจอ Airport ที่เน่าได้เท่านี้ จริงๆมันกำลัง Renovate อยู่ แต่แบบว่าเน่ามาก ฝุ่นเป็นหมอก เน่าสนิท เน่าจนไม่อยากจะหายใจเลยทีเดียว เดินก็ไกล ซับซ้อนเหลือเกินกว่าจะได้ออกไปขึ้นรถ หน้า Airport ก็อยางกับจลาจล ฝุ่น ร้อน เยอะแยะไปหมด แถมไปรอรถอีกนานแสนกว่าจะมา เฮ้อ...กูเหี่ยว

จาก Airport ไป โรงแรม กินเวลากว่าชั่วโมง ลองคิดสภาพดู นั่งบนรถที่ล้อเหลี่ยม แอร์ไม่เย็น แล้วก็มีความรู้สึกว่าฝุ่นนอกรถมันรั่วเข้ามาในรถ หายใจมากไม่ได้ กลัวสำลักฝุ่นตาย

นางแอร์ในไฟล์ท นัดกันไปเดินตลาด สโรชะนี ชวนกูกันใหญ่ ไม่ไปหละ ขอบคุณไม่อยากกลับมาซ่อมหนังหน้าเหอะ ขอบคุณ ขึ้นห้องหมดพลัง อาบน้ำนอนดีกว่า...

ตอนแรกกะว่าจะตื่นมาแล้วก็ออกไปซื้อ Subway กิน แต่ด้วยกระติ๊บข้าวเหนียว คอหมูทอด และกระดูกหมู 8 รสที่พกมา เพียงพอ และเหลือบาน เลยทำให้นอนอบผิวอยู่ในห้องอย่างเดียว กับ Grey’s Anatomy ไม่ออกไปไหนเลย ข้าวเหนียวนี่...มันกินแล้วนอนมันจริงๆ

ออกรบต่อ นั่งรถมาราธอน 1 ชั่วโมงเต็มๆ จากโรงแรมสู่ Airport มาถึง สภาพจลาจลยิ่งกว่า คนนับร้อนพัน หมื่นแสน ประมาณการ์ณจากสายตาแล้วว่า ถ้าผู้โดยฯจะมาเช็คอินที่นี่ ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ถึงจะได้รับ Boarding Pass และไปนั่งรอขึ้นเครื่องใน Boarding Lounge อย่าสบายใจ ไม่สงสัย ทำไมขึ้นเครื่องมา มันกินกันทุกคน กินกันอย่างหิวกระหายด้วยเหอะ (เครื่องออกจาก Delhi ~23:30)

ปัญหาเดิมบังเกิด ขามา Veg ไม่พอ ส่วนขากลับ Non Veg ไม่พอ มีผู้โดยฯนางนึง บีบน้ำตา นั่งหน้าเศร้าเล่าความจริง ว่านางขึ้นมา 3 ครั้งแล้ว นางไม่เคยได้แดกสิ่งที่นางปรารถนาเลย ทำไม๊ ทำไม นางเป็น Gold Member นะ (อยากจะบอกางว่า Gold Member ไม่ใช่บัตรวิเศษ ที่เสกทุกอย่างได้ตามใจ แต่จะเสกได้ตามที่นางขอก่อนขึ้นเครื่อง...เท่านั้น) ที่สำคัญนางรู้ทุกอย่าง นางรู้ว่านางสั่งอาหารพิเศษที่เป็นอะไรก็ได้ที่นางอยากจะแดก, นางรู้ว่าการที่นางนั่งแถวหน้าสุด นางจะได้รับอาหารสุดท้าย และปัญหา Choice จะเกิดกับนาง นางรู้ทั้งหมด แต่นางไม่ทำ...มันน่าเห็นใจไม๊ละนั้น

เฮ้อ...ผ่านไปอีกไฟล์ท แต่มีอะไรดีๆอยู่ เลยทำให้ไฟล์ทที่จะต้องบินมา Delhi อีกคั้งไม่ติดลบ



Create Date : 11 พฤษภาคม 2551
Last Update : 11 พฤษภาคม 2551 20:47:51 น. 1 comments
Counter : 518 Pageviews.

 
ตอนนี้คงรู้สึกใจมันหนักๆ ใช่มั๊ยคะ เรื่องเหม่อลอย นั่งถอนหายใจ มีลมหายใจเคล้าน้ำตาพี่ก็เคยเป็น ไม่เคยคิดว่าจะเป็นได้ ก็เป็นมาแล้ว ใจที่ผ่านอะไรมาเยอะ วันหนึ่งเราจะเข้าใจอะไรได้เยอะ และคิดได้อย่างที่น้องชายพี่คิดได้ค่ะ เจ็บเล็กๆ มันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะคนเราดำเนินชีวิตด้วยความรู้สึก ได้แต่ขอให้หายไวไวนะจ๊ะ

เรื่องไฟล์ทแขก จะตามใจผู้โดยสารมากก็ไม่ได้ค่ะ ผู้โดยสารโดยส่วนใหญ่เอาแต่ใจชนิดที่เรียกว่าเหมือนเกิดมาบนคฤหาสถ์ คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดกันทีเดียว เหมือนว่าเกิดมาไม่เคยมีคนขัดใจ หรือไม่ก็เงินเค้าใหญ่ ซื้อทุกอย่างในโลกต้องได้ จริงๆ ถ้าเราไปแบบหนักแน่นแป๊ปเดียวก็หง๋อค่ะ บางคนก็เบ่งไปงั้นเองแหละจ้ะ


สู้ๆ ไอ้น้องชาย ยังเหลืออีกไฟล์ทหนึ่งไม่ใช่เหรอคะ พี่สาวเพิ่งโดนถอดเดลีไปเพราะเปลี่ยนเครื่อง ยังเสียใจไม่หาย เสียดายค่าบินค่ะ เพราะตั้งแต่ต้นเดือนมาเพิ่งบินไปไฟล์ทเดียวเองอะคับ เดือนหน้ากินแกลบเห็นๆ ค่ะที่รัก

รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: khun9 IP: 217.69.189.2 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:35:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Sold-ouT
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Sold-ouT's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.