~~**~~ WELCOME TO SNOWBLACK WORLD~~ **~~
Group Blog
 
All blogs
 
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่ 10)

หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่ 10)

นาฬิกาบอกเวลา 6.30 น. แก้วค่อย ๆ ย่องลงมาจากชั้นบน ตั้งใจจะลงมาดูสภาพนายมาฆะ ซึ่งป่านนี้คงจะโดนยุงกัดตายไปแล้ว แต่หญิงสาวกับคิดผิดเพราะว่าพ่อคู่ปรับตัวดีกำลังยิ้มร่า ช่วยคุณป้าแม่บ้านทำกับข้าวอย่างสนุกสนาน เพราะเหตุที่มาส่งแก้วถึงที่นี่ ทำให้เขากลายเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ไปด้วย คนอะไรน่าหมั่นไส้นัก คอยดูนะ เผลอเมื่อไหร่นายโดนเอาคืนแน่

“โธ่ ยัยแก้ว ชั้นขอโทษนะ นะ นะ อย่าทำหน้าบูดซี่ เดี๋ยวเด็ก ๆ ก็ตกใจร้องไห้กันหมดหรอก”

มาฆะทำเสียงออดอ้อนออเซาะ เอามือเกาะขาเก้าอี้ ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ไปมาข้าง ๆ แก้ว ที่ขณะนี้กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องธุรการของมูลนิธิ แต่เมื่อเห็นหญิงสาวไม่สนใจ ชายหนุ่มก็เดินคอตกกลับออกมา และหลังจากสลดอยู่ได้ไม่นาน ก็เปลี่ยนไปเป็นหัวโจกในการนำเด็ก ๆ เล่นกิจกรรมมันส์ ๆ ที่เขาคิดขึ้นมาสด ๆ ร้อน ๆ ได้ในเวลาไม่ถึง 15 นาที

“นี่เต้นแบบแร๊พไทยต้องโยกแบบนี้ ถ้าเต้นแบบฝรั่งต้องท่านี้ เต้นแบบญี่ปุ่นต้องท่านี้”

ไม่รู้ว่าชาติก่อนนี้มาฆะเคยเกิดเป็นลิงมาก่อนหรือเปล่า เพราะเขาสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วและไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย ก่อนที่จะวิ่งไปก่อกวนหญิงสาวคู่ปรับที่ขณะนี้กำลังช่วยทีมงานตกแต่งซุ้มต่าง ๆ ที่จะใช้จัดแสดงภายในงานอย่างคล่องแคล่วว่องไว

“อะไรกันยายแก้วแตก ทำตั้งนานเพิ่งได้แค่นี้เองเหรอ นี่ถ้าเป็นชั้นนะป่านนี้เริ่มทำซุ้มที่สองแล้ว”

“เชอะ นายมาร์ค ราคาคุยหรือเปล่า แค่พูดเนี่ย ใครก็พูดได้ แน่จริงก็ลองมาทำดูซิ”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงของแก้ว ชายหนุ่มก็รีบวิ่งเข้ามาช่วยทีมงานตกแต่งซุ้มตามคำท้า ท่ามกลางความงุนงงของทุกคนที่เห็นทั้งคู่แข่งกันทำงานราวกับกินยาบ้ายาชูกำลังไปอย่างต่ำคนละ 10 กำมือ (ขืนกินขนาดนี้จริง ๆ คงชักตาตั้งตายไปแล้ว) เวลาผ่านไปไม่นาน ทั้งคู่ก็ทำผลงานออกมาแย่งกันอวดทีมงานได้อย่างอลังการพอๆกัน จนแม้แต่ TV Champion ก็ไม่สามารถตัดสินให้ใครเป็นผู้ชนะได้ (จริง ๆ ไม่กล้าตัดสินเพราะเดี๋ยวจะทะเลาะกันต่ออีก)

แต่ความอึด ทึก ทน ของทั้งคู่ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ของทางมูลนิธิประกาศหาอาสาสมัครช่วยกันทำความสะอาดพื้นไม้ที่ลงแล๊คเกอร์ไว้ใหม่ ทั้งคู่ต่างก็รีบยกมือรับอาสา พร้อมกับพาผู้ช่วยตัวน้อยช่วยกันออกแรงถูพื้นอย่างแข็งขัน ด้วยความที่เป็นคนที่ขี้เล่นและชอบคิดอะไรแผลง ๆ ทั้งคู่ จึงเอาผ้าที่ใช้ถูพื้นผูกขาเล่นสเก๊ตลากไปมาทั่วห้อง เด็ก ๆ เมื่อเห็นผู้ใหญ่ทำก็พากันทำตามเป็นแถว ด้วยความที่ทั้งคู่ไม่เคยที่จะคิดยอมแพ้กันอยู่แล้ว จึงทำให้ต่างก็พากันเร่งสปีดเต็มที่ แต่ทันใดนั้นแก้วก็เกือบลื่นล้มเมื่อมีเด็กคนหนึ่งเผลอทำไม้ถูพื้นตกลงมาขวางทางข้างหน้าไว้ ดีที่มาฆะอาศัยความไวเข้ามารับตัวหญิงสาวไว้ก่อนที่จะตกถึงพื้น จนเด็ก ๆ พากันตบมืออย่างเกรียวกราว แต่คนถูกอุ้มกับสะกดได้แต่คำว่า อาย ว่า อาย อ๋าย อาย อ๊าย อาย อ๊าย อาย จนหน้าแดงก่ำ

“ใครบ้าดี เอ๊ย กล้าดียังไงมาอุ้มยายแก้วไว้อย่างนั้น”

เสียงของกานต์ดังขึ้นจากข้างหลังเมื่อเห็นการะบุหนิงน้องสาวสุดที่รัก(ในบางคราว) อยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ ความที่กานต์เป็นคนเสียงดังทำให้มาฆะและเด็ก ๆ ต่างพากันหันหน้ากลับมาอย่างพร้อมเพรียง

“เหวอ สโนว์ไว้ท์กับคนแคระทั้งเจ็ด มาพร้อมกับเจ้าชายอสูร ได้ยังไงเนี่ย”

เสียงมาฆะและการะบุหนิงอุทานออกมาพร้อม ๆ กัน หลังจากที่มองเห็นกานต์ ฟ้าและเด็กแคระทั้งเจ็ด ที่ยืนเรียงแถวกันอยู่ตรงหน้า ก่อนที่ใครพูดอะไรมากไปกว่านี้ กานต์ก็ก้าวเข้ามาตรงหน้าพร้อมกันคว้าตัวแก้วออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่มแปลกหน้า

“ยายแก้ว นายนี่เป็นใครกัน”

หลังจากที่กานต์ซักถามทั้งคู่จนรู้แล้วว่า มาฆะ คือ เพื่อนสมัยเด็กคนนั้น อีกทั้งยังเป็นแขกรับเชิญพิเศษที่ทางรายการของเขาได้รับสิทธิพิเศษในการสัมภาษณ์ เท่านั้นไม่พอชายหนุ่มยังเป็นพระเอก MV ที่เล่นคู่กับแก้วอีกต่างหาก เมื่อรู้ที่มาที่ไปเช่นนี้ แก้วจึงตกเป็นเป้าของการกลั่นแกล้ง โดนกานต์และมาฆะ ที่ขณะนี้กลายเป็นคู่ซี้คู่ซั้วกันไปซะแล้ว ร่วมมือกันกลั่นแกล้งหญิงสาวต่าง ๆ นา ๆ

‘นั่นซิ อย่างยายแก้ว ใครจะไปกล้าอุ้มมันหละ ตัวออกหนักอย่างกับช้าง ที่ถามเนี่ยสงสัยว่าใครที่โชคร้าย ฮ่า ฮ่า อ่า”

แก้วมองพี่ชายตัวเองด้วยสายตาขุ่นเคือง โห นั่นเสียงหัวเราะพี่ชายเรานี่ ดังกว่าใครเพื่อนเลย พี่กานต์นะพี่กานต์ตกลงเป็นพี่ชายใครกันแน่

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“โอ้ย พี่กานต์ครับ ผมขาเจ็บ พี่กานต์คะหนูปวดแขน พี่กานต์ครับ ผมปวดท้อง เดินไม่ไหว พี่กานต์ช่วยมาดูผมหน่อยนะครับ”

เสียงโอดโอยจากบรรดาทีมงานดังขึ้นเป็นระยะ ๆ เมื่อเห็นลูกพี่ที่เคารพทำกำลังเอามือประคองฟ้า (สาวน้อยที่แสนน่ารัก นิสัยดี ไม่มีที่ติ ตามสไตล์ของนางเอกละครน้ำเน่า) อย่างถนุถนอม ราวกับว่าถ้าหากปล่อยมือออกเมื่อไหร่ หญิงสาวจะหายตัวไปอย่างนั้นหละ

“นี่ถ้าหากว่าเกิดอาการ เจ็บป่วย ใกล้ตาย อย่างไม่มีสาเหตุ พร้อม ๆ กันแบบนี้ดี พี่ชอบ ปีนี้จะได้พิจารณาหักโบนัสได้ง่าย ๆ หน่อย”

กานต์ทำท่าขึงขัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูแล้วเป็นงานเป็นการ แต่ดูเกินความจริงไปนิด

“โห พี่กานต์ โห๊ด โหด พวกเราอุตส่าห์ตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ คนอะไรใจร้าย น้อง ๆ ไม่สบายนิดหน่อยทำเป็นไม่เหลียวแล แถมยังจะตัดโบนัสเราอีกต่างหาก”

บรรดาทีมงานตัวแสบ ต่างพากันทำเสียงคร่ำครวญอย่างน่าหยิก น่าเตะ จนกานต์ต้องไล่ทุกคนให้กลับไปทำงานด้วยใบหน้าที่ขึงขังเอาจริงเอาจัง ก่อนที่จะหันหน้ากลับไปอีกทางแล้วแอบอมยิ้มคนเดียว โดยไม่ทันสังเกตว่ายายน้องสาวตัวดีมายืนแปะอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่

“เฮ้ย ไอ้แก้วมาไม่ให้สุ้มให้เสียง”

“โฮะ โฮะ โฮะ ถ้ามาแบบให้เสียงก็ไม่เห็นอะไรดี ๆ นะซิ ที่แท้ก็สวย แถมนิสัยดี แบบนี้นี่เอง พี่ชายเราถึงได้หาทางกลับบริษัทไม่เจอ” แก้วจ้องมองพี่ชายด้วยแววตาออกจะล้อเลียนและเจ้าเล่ห์นิด ๆ

“ใครบอกแก ชั้นแค่อยากพักร้อนนาน ๆ หน่อย ไม่เคยลาพักร้อนมาเป็นชาติแล้วเฟ้ย ไอ้แก้วนี่ มาหาเรื่องจับผิดพี่เชื้อ ไปดีกว่า” กานต์พูดแก้ตัวเขินๆ แล้วขยับตัวจะเดินหนี

“เดี๋ยวก่อนพี่กานต์ แล้วเรื่องของพี่อลิสหละ พี่จะทำยังไง” สาวสวยพูดกับพี่ชายด้วยน้ำเสียบราบเรียบ

ชายหนุ่มมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นในทันทีที่น้องสาวพูดถึงเรื่องนี้ “พี่รู้ว่าพี่ควรจะทำยังไงแก้ว แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ช่างเถอะเราไปทำงานอื่น ๆ กันต่อดีกว่า” กานต์บอกปัดพลางเดินเลี่ยงไป ทิ้งให้แก้วยืนมองตามส่ายหน้าช้าๆอย่างห่วงใย

การทำงานในวันนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว เพราะกานต์และแก้วได้ช่วยกันทำแผนงานออกมาเสร็จสรรพเรียบร้อย จึงทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องทำงานกันง่ายขึ้น

ปู่ทองเอก และ ศิวา หลังจากที่มาถึงที่มูลนิธิ ก็ขนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำของที่ระลึกแบบง่าย ๆ ออกมาสอนให้เด็ก ๆ ได้ช่วยกันทำ มีทั้งการใช้ริบบิ้นสีต่าง ๆ นำมาสานเป็นตะกร้อ และทำกล่องใส่ของใบเล็กจากใบลาน ส่วนฟ้าและแก้ว ต่างก็ช่วยกันสอนให้เด็ก ๆ ห่อของขวัญ จัดดอกไม้ และทำการ์ดสวย ๆ ที่ตกแต่งจากวัสดุที่หาได้ไม่ยากนัก เช่น กระดุมสีต่าง ๆ ลูกปัด เชือกหนังสีสวย กระดาษไข และอุปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมาย

“แก้วทำไมทำเร็วจัง แบบที่ออกมาก็ดูเก๋อีกต่างหากจ๊ะ” ฟ้าถามขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อเห็นเพื่อนคนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันวันนี้ สามารถประดิษฐ์การ์ดสวย ๆ แบบแปลก ๆ ออกมาได้ในเวลาที่รวดเร็ว

“ปกติของพวกนี้เราใช้ประดับฉากเวลาถ่ายทำรายการจ๊ะ แรก ๆ ก็ทำกันไม่ค่อยเป็นหรอก ได้พี่กานต์ช่วยสอนให้ ขานั้นเค้าชอบของพวกนี้ พูดไปแล้วก็ตลกนะฟ้า แต่ว่าตอนเด็ก ๆ คุณยายชอบสอนพวกเราทำกับข้าว ทำขนม ทำพวกงานฝีมือ แก้วเนี่ยชอบแอบหนีไปเล่นข้างนอกบ่อย ๆ แต่พี่กานต์ชอบมาก ตั้งใจเรียน จนตอนนั้นพ่อกับแม่เริ่มไม่แน่ใจว่ามีลูกชายหรือว่าลูกสาว” ว่าแล้วทั้งคู่ก็พากันหัวเราะเสียงสดใส

เรื่องราวต่าง ๆ ของกานต์ ทั้งเรื่องที่เขาหัดเล่นไวโอลิน เพราะว่ารักเสียงดนตรีเหมือนคุณตา รวมทั้งเรื่องที่เขาชอบวาดภาพเป็นชีวิตจิตใจ แถมจะเลือกวาดเฉพาะสิ่งที่ตัวเองชอบเท่านั้น แถมท้ายด้วยเรื่องที่เจ้าตัวทำงานจนไม่สบายสลบเหมือดคาโต๊ะ ร้อนถึงน้อง ๆ ในออฟฟิศที่ต้องตัดสินใจว่าพาไปส่งโรงพยาบาล หรือส่งไปฌาปนกิจที่วัดดี

“พี่กานต์เป็นคนที่ถูกใจใครยาก จนพวกเราคิดว่าพี่กานต์คงจะต้องนั่งอยู่บนคานตลอดไป แต่ว่าตอนนี้ แก้วว่า บางทีกลับไปคราวนี้ พวกเราคงไม่ต้องกังวลใจอะไรมากแล้วมั้งจ๊ะ”

แม้จะดูเหมือนว่าแก้วเล่าเรื่องของพี่ชายตัวเองไปเรื่อยเปื่อย แต่ทุกคำพูดก็เหมือนการวางกับดักเพื่อให้หัวใจของใครคนหนึ่งต้องอ่อนไหว (เฮ้อ ร้าย จริง ๆ นะพี่น้องคู่นี้)

“พี่กานต์เป็นคนที่เวลามีอะไรไม่สบายใจ ก็ไม่เคยพูดให้ใครฟัง แถม ยังเป็นนักปลอบใจคน เป็นที่ปรึกษาที่ดีอีกต่างหาก จนน้อง ๆ ในทีมให้ความเคารพ แล้วก็เอาขึ้นหิ้งละไว้ในฐานะที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิไม่มีใครคิดแตะต้อง เพราะกลัวโดนหักโบนัส ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

จริงซินะ ฟ้าเห็นด้วยกับคำพูดน้องสาวของชายหนุ่มร่างสูง ที่นับวันยิ่งทำหัวใจเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขาเป็นคนที่อบอุ่น และทำให้ใครที่ได้อยู่ใกล้ ๆ รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แม้แต่แก้วเองก็ไม่ได้มีนิสัยที่แตกต่างจากพี่ชายมากนัก

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“นี่นายมาร์ค รู้จักคำว่ามารยาทบ้างมั๊ย อาหารพวกนี้คุณป้าแม่บ้านทำมาให้กินกันทุกคน ไม่ได้ให้นายนั่งกินอยู่คนเดียวนะยะ”

แก้วส่งเสียงดังเมื่อเห็นมาฆะ นั่งหยิบอาหารแต่ละจานใส่ปากตัวเอง โดยไม่สนใจว่าคนอื่น ๆ กำลังช่วยกันทำงานอยู่

“โอ้ย ยายปรอทแตก ขอเรียกแบบนี้ดีกว่า ก็ชั้นจะกินมีอะไรมั๊ย ก็หิวนี่ แล้วนั่นนั่งทำอะไรอยู่ ตายหละใครเอาแรมโบ้หญิงมานั่งทำดอกไม้เนี่ย ไม่เหมาะอย่างแรงเลย เธอรู้หรือเปล่า”

ก่อนที่จะทันได้เอื้อนเอ่ยอะไรไปมากกว่านี้เปลือกแตงโมขนาดย่อมก็ถูกปาเข้ามาที่ศีรษะเขา อย่างตรงเป้าพอดิบพอดี เธอหัวเราะดังๆอย่างพออกพอใจ

“อันนั้นแค่เบาะ ๆ ถ้าหากว่าพูดมากกว่านี้ ชิ้นที่สองจะเป็นมีดแทน เข้าใจมั๊ย” เมื่อเห็นหญิงสาวเงื้อมมือเจ้าตัวก็รีบวิ่งไปหลบข้างหลังกานต์ ที่ขณะนี้กำลังช่วยฟ้าจัดแจกันดอกไม้อยู่

“เฮ้ย วิ่งมาทำไมเจ้ามาร์ค ตอนนี้ไม่ว่าง ไปทางนู้นเลย” ว่าแล้วก็หันกลับไปสอนให้หญิงสาวจัดดอกไม้เป็นรูปหัวใจ

“น้องฟ้ามองพี่ทำไมครับ มีอะไรหรือเปล่า” กานต์ถามขึ้นอย่างสงสัยเมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่จ้องหน้าของเขา เอ๊ะ หรือว่าจะสารภาพรักเราฟะ กานต์ยิ้มเขินๆ ในขณะที่ฟ้าส่ายหน้าอย่างเอือมๆ

“เปล่าคะพี่กานต์ เพียงแต่ว่าฟ้าเพิ่งเคยเห็นผู้ชายทำการฝีมือเก่งก็วันนี้หละคะ” หญิงสาวกล่าวอย่างรู้สึกทึ่งด้วยใจจริง ทำเอาชายหนุ่มทำหน้าไม่ถูกเลยว่า เขากำลังถูกชมหรือเปล่า จึงได้แต่ยิ้มเก้ๆกังๆแก้เขิน

ในขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันทำงานอยู่ในบ้านไม้หลังใหญ่ ที่อยู่ใกล้ทะเลของสองพี่น้อง ธรรมธาลัย นั้น เสียงเปียโนที่เจ้าของบ้านซื้อมาวางไว้เท่ห์ ๆ ก็แว่วดังขึ้น พร้อมกับเสียงที่นุ่มนวลประดุจสายลมยามเย็นของมาฆะ ที่นึกครึ้มอกครึ้มใจ หยิบเพลงเก่า ๆ อย่างเพลง Take me to your heart มาร้องให้ทุกคนได้ฟัง เป็นการปิดฉากค่ำคืนอันยุ่งเหยิงอย่างสวยสดงดงาม

Hiding from The Rain and Snow
Trying to forget but I won't let go
Looking at a crowded street
Listening to my own heart beat

So many people all around the world
Tell me where do I find someone like you girl

Take me to your heart take me to your soul
Give me your hand before I'm old
Show me what love is - haven't got a clue
Show me that wonders can be true

They say nothing lasts forever
We're only here today
Love is now or never
Bring me far away

Take me to your heart take me to your soul
Give me your hand and hold me
Show me what love is - be my guiding star
It's easy take me to your heart

Standing on a mountain high
Looking at the moon through a clear blue sky
I should go and see some friends
But they don't really comprehend

Don't need too much talking without saying anything
All I need is someone who makes me wanna sing


Take me to your heart take me to your soul
Give me your hand before I'm old
Show me what love is - haven't got a clue
Show me that wonders can be true


มีผู้คนเป็นร้อยเป็นพันอยู่บนโลกนี้ แต่จะมีสักกี่คนที่จะได้เจอกับคนที่ใช่ และเป็นคำตอบสุดท้ายของหัวใจเรา ถ้าหากคนเราไม่เคยผ่านความทุกข์และน้ำตาจากความผิดหวัง ก็คงจะไม่รู้ว่าคำว่าความสุขที่เกิดจากความรักนั้นมันยิ่งใหญ่สักแค่ไหน จะมีสักกี่คนนะที่จะโชคดีได้สัมผัสความรู้สึกที่เรียกว่าความรักที่แท้จริง

คงจะมีรักจริงรออยู่ในดินแดนใดสักแห่ง


Create Date : 10 มกราคม 2551
Last Update : 25 สิงหาคม 2552 12:33:01 น. 2 comments
Counter : 278 Pageviews.

 
ตามมาอ่านตอนที่ 10

อิอิอิอิ กัดกันน่ารักดีค่ะ


โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท วันที่: 12 มกราคม 2551 เวลา:17:42:10 น.  

 
หวานปิดท้ายอีกแล้ว
ชอบจัง : )


โดย: ชรันจ์ วันที่: 12 มกราคม 2551 เวลา:19:39:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Designed By Me
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




...OnE GIrL STORY...
Friends' blogs
[Add Designed By Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.