ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ดื่มด่ำธรรมชาติ สูดกลิ่นอายลมหนาว ยลกุหลาบขาวละลานตา ที่ดอยภูเมี่ยง


ใกล้หนาวแล้ว หาเส้นทางไปเยือนเมฆหมอก ได้กันหรือยัง  แต่ทว่าหากไปเยือนดอยเก่าๆ ภูยอดนิยม ก็คงต้องคราคร่ำไปด้วยผู้คนอีกตามเคย แต่ทว่าบางดอยที่แสนเงียบเหงา ก็อาจกำลังเป็นที่มองหาของนักเดินทางอีกหลายต่อหลายคน

ณ ป่าคลองตรอน.. ผืนป่ายิ่งใหญ่ที่มีความสวยงามซ่อนเร้นอยู่มากมาย และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า จึงก่อเกิดเป็นน้ำตกหลากสายหลายชั้น รวมทั้งมีทิวทัศน์อันงดงามตาของขุนเขา โดยเฉพาะยอดภูสูงสุดอันดับ 5 ของประเทศ หรือ ภูที่สูงที่สุดของเทือกดอยแห่งนี้…ภูเมี่ยง


ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,656 เมตร เทือกดอยแห่งนี้เป็นเส้นกั้นแบ่งเขตระหว่าง จ.อุตรดิตถ์ และจ.พิษณุโลก สามารถชมทัศนียภาพของทั้ง 2 จังหวัด และสามารถมองเห็นเขื่อนสิริกิติ์ได้ และที่นี่อาจจะเป็นผืนป่าที่นักเดินทางกำลังเฝ้าใฝ่ฝันถามถึง ทั้งธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ พันธุ์ไม้แปลกตา และทัศนียภาพเมฆหมอกหนาอันงดงามเกินกว่าจะบรรยาย

ยอดดอยภูเมี่ยง อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติคลองตรอน อยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ คต.1 (บ้านต้นขนุน) มาเที่ยวอุทยานฯ คลองตรอนทั้งทีก็ต้องพิชิตยอดภูเมี่ยงให้ได้ เพราะนี่ถือเป็นที่เที่ยวหลัก หากไม่พิชิตภูเมี่ยงก็เหมือนมาไม่ถึงอุทยานฯ คลองตรอน


ระยะเวลา 2 วัน 1 คืน เพียงพอ และพอดีที่จะเดินทางพิชิตยอดดอยได้อย่างครบอรรถรสสุดๆ กางเต้นท์นอน ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และชมพรรณไม้หายากแสนสวยงามระหว่างทาง ส่วนเรื่องความหนาว ไม่ต้องห่วง หนาวจับขั้วหัวใจ เต็มขั้นเลยล่ะ เหมาะนักสำหรับผู้รักความท้าทายและความสวยงามตามธรรมชาติของทุ่งหญ้า ป่าเขา ลำเนาไพร

การเดินทางแห่งความท้าทายครั้งนี้ เริ่มต้นจากหลังจากอรุณสวัสดิ์ยามเช้า เช็คอิน ณ หน่วยฯ คต.1 อ.น้ำปาด ก็เตรียมขนสัมภาระเพื่อออกเดินทาง แต่บอกนิดนึงว่า ที่นี่ไม่มีลูกหาบ เพราะฉะนั้น ขนเองล้วนๆ

เริ่มออกเดินเท้าสู่ยอดภูเมี่ยง สองเท้าก้าวไปตามทางราบราวกิโลเมตร เศษๆ ก่อนที่จะไต่ระดับไปตามไหล่เขาสูงชันที่คดเคี้ยวไปมา ข้ามเนินกว่า 8 เนิน บอกเลยว่าควรฟิตร่างกายให้พร้อมก่อนมา

แต่ท่ามกลางความเหนื่อยล้า ระหว่างทางก็จะมีบรรดาแมกไม้ในป่ามารอคอยต้อนรับ ทั้งกุหลาบพันปี ข้าหลวง ดงตาว เอนอ้า และขันหมากป่า รวมทั้งพรรณไม้นานาชนิดตามเส้นทางสู่ยอดภูเมี่ยง

เที่ยงแล้วก็ยังคงไม่ถึงที่ไม้ แต่ก็ได้ความร่มรื่นของดงมะพลับป่ามาช่วยให้นักเดินทางได้พักทานข้าว เอาแรงสักเล็กน้อยก่อนเดินทางต่อ

ไต่ความชันขึ้นไปทีละนิดๆสู่เนินสยบเซียนที่ตั้งอยู่บนสันเขาของเทือกภูเมี่ยง มองเบื้องล่างคือทิวทัศน์กว้างสุดลูกหูลูกตา ที่อยู่ท่ามกลางลมเย็นๆ แสนสดชื่น บอกเลยว่าคลายความเหนื่อยล้าไปได้เยอะ

จากนั้นเดินไปตามสันดอย ผ่านเนิน ผาทั้งหลาย ทั้งผาเริงลม ผาแดง ผาชมหมอก และผาวัดใจ ซึ่งตามสองข้างทางก็จะกุหลาบขาวรอคอยนักเดินทางที่มาเยือน

แล้วก็มาถึงยอดภูเมี่ยงดั่งใจหวัง ยอดดอยสูงท่ามกลางความหนาวเย็น มีทุ่งหญ้าล้อลมไสวไปมาตามแรงลม กว่าจะมาถึงก็เป็นเวลาเย็นจวนที่พระอาทิตย์จกตกดินเสียแล้ว โบกมือลา พระอาทิตย์ลับเหลี่ยมขอบฟ้าและแนวขุนเขาอย่างงดงาม

ผ่านคืนอันหนาวเหน็บ จะพาให้พบกับดวงตะวันแห่งอรุโณทัย และทะเลหมอกงามที่ลอยเหนือผืนป่าเบื้องล่าง สวยงาม จับตา แลกกับความเหนื่อยที่ผ่านมา ถือว่าคุ้ม

บนดอยภูเมี่ยงแห่งนี้นี้มีต้นเมเปิลอยู่เยอะมาก เรียงรายอยู่ตลอดทางลงดอย


นอกจากนั้นระหว่างทางลงจากดอยก็จะมีน้ำตกสวนล้วยใหญ่ 10 กว่าชั้น แต่ละชั้นสูงไม่ต่ำกว่า 5 เมตร บางชั้นสูงร่วม 40 เมตร แต่ละชั้นมีลักษณะความสวยงามแตกต่างกันออกไป แถมน้ำในลำธารน้ำตกก็ใสกระจ่างเสียจริงๆ

บอกเลยว่าคุ้มกับความเหนื่อยที่แลกกัน…

ที่มา : emaginfo.




Create Date : 26 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2557 17:58:52 น. 1 comments
Counter : 1354 Pageviews.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2557 เวลา:2:55:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]