ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

มินิรีวิว: The new iPad สำผัสความก้าวหน้าแห่งอนาคต

มินิรีวิว: The new iPad สำผัสความก้าวหน้าแห่งอนาคต

เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราไปแล้วสำหรับ The new iPad (iPad 3) ล่าสุดนั้นทางทีมงาน Sanook! Hitech ได้ The new iPad (iPad 3) มาลองเล่นกับเค้าแล้วเหมือนกัน  The new iPad (iPad 3) สมกับเป็น TABLET ที่ใครหลายคนกำลังเฝ้ารอจริงๆ ด้วยขนาดหน้าจอสัผผัสที่ใหญ่ถึง 9.7 นิ้วและมีความละเอียดมาถึง 2048*1536 พิกเซล

มาเริ่มทำการรีวิว กันเลยดีกว่าครับ สำหรับตัวกล่องภายนอกของ The new iPad นั้นถ้าไม่สังเกตุดีๆ แล้วแทบแยกไม่ออกเลยระหว่าง iPad 2 กับ The new iPad  ส่วนอุปกรณ์ที่ให้มาข้างในนั้นก็เหมือนกับรุ่นก่อนๆ ไม่มีอะไรมากมาย

Hardware Review: The New iPad(iPad 3)

มีโอกาสได้รับ The New iPad(iPad 3) มาลองใช้อยู่พักใหญ่ๆ จนสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงและอะไรหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนไป ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องเอามารีวิวกันให้ดูกันตามปรกติและก็เช่นเคยที่การรีวิว ของเราจะเน้นการใช้งานจริงไม่เน้นสเปกหรือรายละเอียดปลีกย่อย (ที่สามารถหาอ่านจากเว็บ apple.com ได้) เอาเป็นว่ามาดูกันเลยดีกว่าว่า The new iPad นั้นจะเจ๋งจริงตามที่ต่างประเทศเค้าเห่อกันรึเปล่า

แรกเริ่มต้องแกะกล่อง

สำหรับตัวกล่องภายนอกของ The New iPad(iPad 3) นั้นก็อย่างที่หลายๆ คนเห็นกันมาแล้วว่าไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมมากนัก จะมีก็แค่รูป iPad ด้านหน้าที่ Wallpaper เป็นสีใหม่แค่นั้น นอกนั้นเหมือนเดิม เรียกว่าถ้าวางกล่องตั้งๆ กันปนกับ iPad 2 นี่แยกกันไม่ออกหากันไม่เจอเลยทีเดียว โดยตัวเครื่องที่นำมารีวิวให้ดูกันนั้นเป็นเครื่องจากสิงคโปรทำให้ได้หัว ปลั๊กแปลกประหลาดมาซึ่งก็ต้องไปหาตัวแปลงหรือหาหัวต่อสำหรับใช้ในไทยกันเอา เอง

หนักขึ้นแบบรู้สึกได้

ใครจะไปคิดว่า iPad 2 ที่ Apple อุตส่าห์ทำให้มีน้ำหนักเบาลงไปกว่า iPad รุ่นแรกเกือบร้อยกรัม จะต้องมาถูกบวกน้ำหนักเพิ่มเข้าไปจนทำให้ The new iPad หนักขึ้นจนผมสามารถรู้สึกได้ทันทีหลังจากถือเป็นครั้งแรก ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะการที่ผมเป็นคนที่ iPad 2 ต้องผ่านมือตลอดเวลา (ด้วยหน้าที่การงาน) ทำให้คุ้นมือกับน้ำหนักของ iPad 2 ซึ่งพอลองได้ถือ The New iPad(iPad 3) ก็รู้สึกได้เลยจริงๆ ว่ามันหนักขึ้น จากเดิมที่เป็นคนผอมแห้งแรงน้อยอยู่แล้วทำให้ถือ iPad 2 ด้วยมือเดียวก็จะเกร็งๆ หน่อย พอมาเป็น The New iPad(iPad 3) ก็เกร็งหนักขึ้นไปอีกทำให้ผมต้องกลับไปถือเครื่องแบบสองมืออีกครั้งจึงจะทำ อะไรได้ถนัดกว่า

ดังนั้นในเรื่องของน้ำหนักผมสรุปได้เลยว่างานนี้บรรดาผู้หญิงที่ผอมแห้ง แรงน้อย (รวมถึงผู้ชายบางๆ แบบผมด้วย) อาจจะต้องมีเกร็งมือกันหน่อยสำหรับการถือ The New iPad(iPad 3) ในการใช้งานทั่วไป หากจะให้เห็นภาพก็คิดซะว่ากำลังลองเล่น iPad รุ่นแรกอยู่ซึ่งน้ำหนักก็จะประมาณนั้นใกล้ๆ กัน แต่ที่พูดมาทั้งหมดจะมีผลแค่ตอนถือใช้งานจริงเท่านั้น แต่ตอนถือเดินไปมาหรือพกพาใส่กระเป๋านี่แทบไม่รู้สึกถึงความต่างซักเท่าไหร่

iPad ที่ไม่มีใครสนใจ(จะมอง)

การเปิดตัว The New iPad(iPad 3) ด้วยหน้าตาแบบเดิมอาจจะมีข้อดีตรงที่ Apple ไม่ต้องออกแบบใหม่ เพราะของเดิมของสวยอยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปคือเอกลักษณ์ของความโดดเด่นในสินค้าใหม่ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนตอน iPhone 3GS เปลี่ยนไปเป็น iPhone 4 เราจะเห็นว่าบรรดาผู้ที่ครอบครอง iPhone 4 เป็นคนแรกๆ ช่างดูเท่ห์และทันสมัย (อย่างน้อยก็ในความคิดของผมในตอนนั้นน่ะนะ) แต่ช่วงเปิดตัว iPhone 4S เราก็ได้รู้ถึงสถานการณ์ที่ว่าใครๆ ก็มี iPhone 4 และไม่มีใครสนใจว่าคุณจะถือ iPhone 4 หรือ iPhone 4S

การใช้งาน The New iPad(iPad 3) ก็มีส่วนคล้ายกัน คือแทบไม่มีใครรู้ว่าที่ถืออยู่นั้นเป็น The new iPad ถ้าไม่มามองหน้าจอ ดังนั้นทำให้พอคิดไปเองได้ว่าการซื้อ The new iPad มาใช้นั้นไม่น่าจะมีเรื่องของภาพลักษณ์หรือความเท่ห์อะไรทำนองนั้นมาเกี่ยว ข้องด้วยแล้ว ซึ่งคนที่ต้องการจะซื้อก็น่าจะมองที่การใช้งานเป็นหลักมากกว่าว่าคุณต้องการ ใช้จริงๆ มั้ยหรืออยากแค่จะมีใว้ทำเท่ห์? ซึ่งถ้าเป้นอย่างหลังคราวนี้ต้องบอกแล้วว่าไม่เวิร์ค!

หน้าจอ Retina Display ทำให้อึ้งได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น

จุดขายที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างของ The New iPad(iPad 3) ก็คือ Retina Display ซึ่งต้องบอกเลยว่าความรู้สึกตอนจับ iPhone 4 ใหม่ๆ ได้กลับมาอีกครั้ง เพราะภาพต่างๆ ที่อยู่บนจอของ The new iPad นั้นชัดจริงอะไรจริงจนผมต้องหาเรื่องเอารูปขนาดใหญ่ๆ ที่มีอยู่บนเครื่อง Mac มา Import ลงไปใน The New iPad(iPad 3) เพื่อชื่นชมความสวยงามของหน้าจอความละเอียดสูงตัวนี้

บรรดาไอคอน App ต่างๆ ก็ดูคมชัดและสวยงามมาก ซึ่งหากเทียบกับ iPad 2 ก็จะได้ออกมาตามภาพข้างต้น หรือแม้แต่พวกภาพ Wallpaper ที่ Apple ให้มาในเครื่องก็เป็นเวอร์ชั่น Retina Display ซึ่งคมกริบกว่าเดิมมาก เรียกว่าแค่เปลี่ยน Wallpaper เล่นก็เพลินแล้ว (ขนาดนั้นแหละ!)

จุดเด่นที่สุดที่ผมรู้สึกได้จากการใช้งาน Retina Display คงหนีไม่พ้นการอ่านพวกตัวหนังสือต่างๆ เพราะแทบจะไม่ต่างกับการเปิดนิตยสารที่เป็นสิ่งพิมพ์จริงๆ ขึ้นมาอ่านเพราะตัวหนังสือคมชัดมาก ซึ่งทำให้พวกเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีการอัดตัวหนังสือเข้าไปเยอะๆ (เช่น sanook.com) อ่านง่ายขึ้นอีกเยอะมาก แต่การที่เป็น Retina Display ก็จะทำให้เรารู้สึกว่าภาพประกอบต่างๆ บนเว็บดูแตกและไม่ละเอียดทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเป็นที่ตัวหนังสือมันชัดเกินไปซึ่งตรงนี้ถ้าเป็นเว็บไซต์ทั่วไปคิดว่า ยังไงก็คงหนีปัญหานี้ไม่พ้นแน่ๆ ซึ่งก็ต้องอาศัยความเคยชินกันหน่อย

สังเกตว่า Text (สีขาวพื้นดำจะคม) แต่ภาพด้านบนและด้านล่างจะแตก ที่ขนาดจริง 100%

ใครสนใจอ่านรีวิวฉับบเต็มสามารถอ่านได้ที่: Hardware Review: The new iPad

และที่ดีที่สุดนั้นคือ The new iPad มี Application รองรับพร้อมทั้งยังมีแอพพลิเคชั่นอื่นๆให้ดาวน์โหลดกันอีกเพียบ ทุกเครือข่ายในเมืองไทย  เอาเป็นว่าค่ายแรกที่เราจะนำมาแนะนำกันขอเป็น Application  จากค่ายทรูกันดีกว่า ไม่ว่าจะเป็น True iService, My Life, GURU HD, Thailand Journey, Thai Baby Name, Math Journey  และอื่นๆอีกมากมาย ผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อ The new iPad ได้ที่ร้านทรูช็อปทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truemove-h.com

//hitech.sanook.com/950526/




Create Date : 23 พฤษภาคม 2555
Last Update : 23 พฤษภาคม 2555 10:48:58 น. 0 comments
Counter : 2635 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]