Focus on the journey, not the destination. Joy is found not in finishing an activity but in doing it.

Group Blog
 
All blogs
 

I miss U by Beverly Craven

...And i don't know how much i can bear...




Here in the silence i wait
There's nothing else i can do
It feels like my heart's gonna break
And all i can think of is you
And how my aching arms long to hold you
And show you how much i care
But i'm counting the hours without you
And i don't know how much i can bear
Cos i miss you
More than words can say
And i need you here
In my life always
Yeah i miss you
And i'll always be
Waiting here for you
Til you're back with me

You found a place in my heart
From the first moment i saw you
And you are my light in the dark
And i would do anything for you
Cos you're everything i've ever wished for
The answer to all of my dreams
And i want you back
Home is here with me

Oh i miss you
More than words can say
And i need you here
In my life always
Yeah i miss you
And i'll always be
Waiting here for you
Til you're back with me

Yes i, would be right there beside you
If i only knew where you are
Cos it feels like i'm dying without you
My whole world falling apart

And i miss you
More than words can say
And i need you here
In my life always
Yeah i miss you
And i'll always be
Waiting here for you
Til you're back with me



BEVERLY CRAVEN




 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2552 1:48:19 น.
Counter : 562 Pageviews.  

Time In A Bottle by Jim Croce

เวลาเป็นความรู้สึกแบบสัมพัทธ์
5 นาทีอาจจะยาวหรือสั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราทำอะไร อยู่กับใคร

เวลาในแต่ละวันที่ต้องอยู่ห่างจากกันช่างยาวนานเหมือนไม่มีวันจบสิ้น
ห้วงเวลาของการรอคอยเคลื่อนไหวเชื่องช้า
เหมือนวันนั้นจะไม่มีวันมาถึง

ความคิดถึงมันทรมานเช่นนี้
ความเศร้าที่อ่อนหวาน
ความบาดใจที่ก่อกำเนิดบทกวี





If I could save time in a bottle
The first thing that I'd like to do
Is to save every day
Till Eternity passes away
Just to spend them with you

If I could make days last forever
If words could make wishes come true
I'd save every day like a treasure and then,
Again, I would spend them with you

But there never seems to be enough time
To do the things you want to do
Once you find them
I've looked around enough to know
That you're the one I want to go
Through time with

If I had a box just for wishes
And dreams that had never come true
The box would be empty
Except for the memory
Of how they were answered by you

But there never seems to be enough time
To do the things you want to do
Once you find them
I've looked around enough to know
That you're the one I want to go
Through time with





 

Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2552 1:48:31 น.
Counter : 394 Pageviews.  

Bhutan..My dream My destiny (Paro) སྤ་རོ་རྫོང་ཁག་

วันนี้อัพบล็อกอย่างบ้าพลังมาก ระดมปล่อยของหมักดอง รอรับของใหม่
ฉลองตรุษจีน อิอิ เกี่ยวมั้ยคะ..

ภาพชุดนี้ถ่ายตั้งแต่พ.ยปีก่อน ชุดแรกเคยตั้งทู้ในพันทิพไปครั้งนึงแต่ก็นานแล้ว
หลังจากนั้นก็ไม่เคยมีทู้สองตามมาด้วยเหตุผลหลายประการ อันสุดแต่จะอ้าง

ครั้งนี้จะพยายามสานต่อให้จบค่ะ

==============================================

ภูฏาน..เมืองในฝัน (และเจ้าชายในฝัน) ของใครหลายๆคน
ตั้งอยู่อย่างสงบเสงี่ยม เล็กๆ เจียมเนื้อเจียมตน
ขนาบด้วยพี่เบิ้มอินเดียและจีน
การเดินทางไปให้ถึงภูฏานใช้เวลาเพียง 3 ช.มกว่าๆ
ด้วยสายการบินเพียงสายเดียวที่สามารถเข้าประเทศภูฏานได้นั่นคือ Druk Air
แต่ก็สะดวกสบายเพราะบินจากกรุงเทพฯได้ทุกวัน
แค่เผลอหลับไปแป๊บนึง ตื่นมาก็พบว่าตัวเองตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของขุนเขา
หนีไปไหนไม่รอดแล้ว "เสร็จ" ภูฏานเข้าแล้วจริงๆ



สนามบินที่นี่เป็นอาคารแบบท้องถิ่น หลังเล็กๆ ดูเกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้าน
ปราศจากส่วนเกิน และกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมรอบข้าง
อากาศที่นี่เย็นชื่น หอมสะอาดจริงๆค่ะ
ยังไม่ต้องโผล่ไปไหนไกล ก็เห็นหนุ่มๆ (และแก่) มากมายในชุดโกห์
(เสื้อคลุมอาบน้ำสุดเท่ห์แบบเจ้าชาย) เต็มไปหมด
แค่นี้ก็กรี๊ดดดดแล้วค่ะ ^^



ให้ดูภาพเครื่องบินลำเล็กๆน่ารักนิดนึงค่ะ
ลายที่หางคือธงชาติรูปมังกรของภูฏาน น่ารักมั้ยคะ
ภายในเครื่องบินค่อนข้างแคบ อึดอัดอยู่บ้าง แต่รักแล้วก็อภัยได้ทุกอย่างค่ะ





สิ่งแรกที่ทำเมื่อไปถึงก็คือแวะเอาของไปเก็บที่โรงแรม
จิบน้ำชา กาแฟ พอคลายความเหน็ดเหนื่อย
ภาพที่เห็นเป็นวิวจากโรงแรมซึ่งเป็นวังเก่าตั้งอยู่บนเนินเขา
มองเห็นเมืองพาโรเล็กกระจิ๊ดริดน่ารักอยู่ไกลๆ
ฉันพักอยู่ที่พาโรทั้งหมดสามคืนด้วยกัน
และเก้าอี้เขียวๆตัวนี้ก็ได้กลายมาเป็นที่สิงสถิตดูดาวทุกคืน



หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางไปเกริ่นเรียกน้ำย่อยที่ซ็องเก่าแก่
และไม่ได้รับการบูรณะ Drukgyel Dzong
ทางเดินขึ้นเป็นเนินน้อยๆพองาม แบบพอเตือนสติน่ะค่ะว่าต่อจากนี้ไปมีแต่ภูเขาแล้วนะเฟ้ย
สองข้างทางเดินเป็นป่าสนโปร่ง มีธงภาวนาแขวนอยู่พอหอมปากหอมคอ



ทางเดินหินเข้าสู่ลานด้านในซ็อง



ป้อมยามประจำซ็องที่ตั้งแยกออกมาต่างหากจากตัวอาคารใหญ่



วันนี้ฟ้าสีสวยใสเหมือนกระจกทาสีฟ้าเลยค่ะ
นับว่าเป็นวาสนาอย่างยิ่งที่ได้มาเยือนเมืองในฝันในช่วงเวลาที่อากาศดีๆแบบนี้
อุณหภูมิตอนกลางวันก็ไม่จัดว่าหนาวเลย
คนกรุงเทพฯตายใจค่ะ หารู้ไม่ว่าตกกลางคืนมันจะหนาวเยียบจับขั้วหัวใจยิ่งนัก

ออกจากซ็องหนึ่งเราก็ไปสู่อีกซ็องหนึ่ง แน่นอนอยู่แล้วค่ะ
คนรักภูฏาน ถ้าไม่ใช่รักศิลปะวัฒนธรรม
ก็ต้องรักธรรมชาติ ด้านใดด้านหนึ่ง
ส่วนฉัน...รักอย่างอื่น และธรรมชาติค่ะ
(ไม่ต้องถามต่อนะ)
ทริปนี้เราจะตามล้างตามเช็ดซ็องให้เบื่อกันไปข้าง
แล้วทริปหน้าไปลุยป่าตามล่าทะเลสาปกัน (ไม่รู้เมื่อไหร่นะ)

Paro Dzong ค่ะ โลเกชั่นถ่ายหนังเรื่อง Little Buddha
ว่าแล้วก็คิดถึงพี่คีนู ต้องไปขุดหนังขึ้นมาดูอีกแล้ว
มาถึงก็ตะกายบันไดกันก่อนเลย
บันไดประเทศนี้ทั้งแคบทั้งชัน ยิ่งเป็นบันไดซ็องยิ่งสูงอลังน่ากลัวตกอย่างยิ่งค่ะ



คนภูฏานเวลาจะเข้าไปภายในซ็อง ซึ่งมีสถานะเป็นทั้งวัดและสถานที่ราชการ
จะต้องเอาแถบผ้ามาสะพายอย่างที่เห็นขาวๆในรูปนะคะ
แถบผ้านี้มีหลากหลายสี แต่ละสีก็บ่งบอกสถานะที่แตกต่างกัน
ประชาชนตาดำๆ ไม่มีศักดินาก็ใช้ผ้าขาวอย่างอิตานี่(ในภาพ) แหละค่ะ



ด้านในซ็อง สีสันสวยงาม ตัดกับฟ้าโชะเชะ



อีกซักมุมซิ



ความจริงมีอีกหลายมุมค่ะ แต่ถ่ายซ็องมาหลายเมือง หน้าตาเหมือนแบบนี้หมด

ก็เลยคิดว่าลงซ็องละนิดละหน่อยจะดีกว่า ก่อนคนอ่านจะเอือมระอา

ออกจากซ็องเราก็ลัดเลาะลงเขามาข้ามสะพานเดียวกับพี่คีนู



จากสะพานเดินชมนกชมไม้ไปอีกนิดเดียวก็เข้าเขตกลางใจเมืองแล้วค่ะ
บอกแล้วว่าเล็กๆน่ารักจริงๆ
ระหว่างทางโชคดีเจอพี่ๆในชุดคลุมอาบน้ำกำลังยิงธนูกันอย่างเมามันส์
เลยแวะไปเชียร์และเก็บภาพ



ใกล้ค่ำแล้ว ก็เลยชวนกันเดินต่อไปเพื่อเข้าเมือง
ระหว่างทางผ่านต้นไม้กลุ่มนี้ วันแรกไปยังเขียวดีอยู่เลย
วันกลับบ้านผ่านมาอีกที ใบเหลืองทิ้งใบเกือบหมดต้น
คนใจเสาะอย่างฉันเห็นแล้วเศร้าจนหงอยไปเลยค่ะ



เย็นนั้นเราก็ไปเดินเตร็ดเตร่อยู่ในเมืองกันจนมืด
เดินดูข้าวของเรื่อยเปื่อย
แต่เท่าที่เห็นยังไม่เจออะไรน่าช้อปค่ะ
เครื่องประดับก็จะดูออกแนวเนปาล มีสแตมป์ที่น่ารักน่าซื้อสำหรับคนสะสม

คนที่นี่ดูเหมือนจะรู้จักกันหมดประเทศค่ะ
เดินไปไหนมาไหนทักทายกันเจี๊ยวไปหมด
ก็ดูอบอุ่นดี

พอฟ้าค่ำและเริ่มหิวได้ที่เราก็ไปกินอาหารเย็นกันที่ร้านใกล้ๆแม่น้ำแห่งหนึ่ง
เมนูประจำวันนี้คืออาหารแพนด้าค่ะ อิอิ



อาหารภูฏานก็มีประมาณเอ็มมาดาร์ซี หรือพริกผัดคอตเตจชีส
ดอกกะหล่ำผัดชีส และอะไรๆชีสอีกหลายอย่างค่ะ
ทานกับข้าวแข็งๆหน่อย ถ้าเป็นคนชอบการผจญภัยทางรสชาติ
ก็น่าจะเพลิดเพลินดี อาหารแพนด้าก็รสชาติดีค่ะ โดยเฉพาะเมื่อรวมกับบรรยากาศ..
ทานอาหารค่ำเสร็จก็กลับโรงแรมนอน
ไม่ต้องถามถึงเรื่อง hang out นะคะ
สถานบันเทิงพบได้ในทิมพูนครหลวงเท่านั้น (อีกสองวันจะเล่า)

อยู่ที่นี่หลายวัน นอนหัวค่ำ ตื่นเช้าตลอด สดชื่นมากๆค่ะ

จบวันแรกในพาโรแล้ว ลืมไปว่ามีอีกรูปที่อยากอวด
ถ่ายมาจากหลังพาโรซ็องค่ะ
เป็นช็อตประทับใจส่วนตัวประจำวันนี้จ้า...







 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2552 1:48:46 น.
Counter : 915 Pageviews.  

จากเป็น..จากตาย

ตั้งชื่อหัวข้อแถกไปอย่างนั้นแหละ ไม่ได้เจตนาในการดูถึงเพียงนั้น
แต่เนื้อเรื่องของหนังก็เป็นอย่างนั้นจริงๆนะ



The Brave One (2007)
Director:Neil Jordan

อยากดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนเห็นหนังตัวอย่าง เพราะเป็นแฟนป้าโจดี้อย่างเหนียวแน่นมาตลอด
ไม่รู้เป็นไง ชอบไซส์กระทัดรัดแต่ล่ำของป้ามาก ดูเซ็กซี่น่ารักบอกไม่ถูก
แม้ว่าหลังๆป้าจะเล่นแต่หนังหลอนๆจนดูแก่ไปมาก (จริงๆป้าก็แก่แล้ว) ก็ยังรักป้าไม่เสื่อมคลาย
บทหนังออกจะดูแกนๆและจับยัดไปเล็กน้อย แต่ฝีมือของป้าก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
และทั้งๆที่รู้โดยไม่ต้องมีใครบอกว่าแฟนป้าต้องตายแหงแก๋ แต่เก็อดเสียน้ำตาไปหนึ่งแหมะไม่ได้

ส่วนที่ชอบที่สุดในหนังคือบทพูดทางวิทยุของป้าโจดี้ ชอบทุกตอน แต่หาลอกมาได้นิดเดียว เหอะๆ

I always believed that fear belonged to other people. Weaker people. It never touched me. And then it did. And when it touches you, you know... that it's been there all along. Waiting beneath the surfaces of everything you loved.

การทำร้ายร่างกาย ไม่ว่าจะอย่างไร้เหตุผลโดยคนแปลกหน้าหรือความรุนแรงในบ้าน
ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดความกลัวขั้นหลอกหลอน เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้ว่า
มนุษย์นั้นมีความสามารถที่จะโหดร้ายทารุณได้อย่างคาดไม่ถึง
และมันอาจจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ในวันธรรมดาๆวันหนึ่ง

Taglines ของหนังเรื่องนี้ถามว่า
How many wrongs to make it right?
ถ้าจะเอาคำตอบแบบถูกต้องตามหลักการ
ไม่มีวันที่ความผิดจะนำมาซึ่งความถูกต้อง
การแก้แค้นไม่ได้ช่วยแก้ไขอะไร
แต่ใครจะกล้าบอกว่าตัวเองสามารถให้อภัย หากยังไม่เคยตกอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ

เรามักจะพูดกันเสมอว่า เส้นแบ่งระหว่างขาวกับดำเป็นเพียงเส้นบางๆ
แต่ฉันกลับรู้สึกว่าบ่อยครั้งที่ระหว่างสีขาวกับดำเป็นเพียงรอยเลอะเลือนของสีเทา
ที่ยากจะจำแนกรูปรอยได้ชัดเจน และเราอาจจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของเรา
อยู่ในความพร่าเลือนนั้นก็ได้

อ้อ..อีกอย่างที่ชอบคือเพลงเพราะ ไปฟังได้ที่นี่จ้า



เมื่อวานนี้ดู



In the Mood for Love
Fa yeung nin wa (2000)
Director: Wong Kar Wai


ช่วงนี้กำลังใช้ชีวิตอยู่แถวๆศาลาคนเศร้า
ก็เลยไปเอาหนังบีบหัวใจเรื่องนี้มาดูอีกที
ความรักที่ขึ้นต้นด้วยความเจ็บปวดและลงเอยด้วยความเจ็บปวด
ในสถานการณ์ที่คนสองคนไม่ควรจะรักกันมากที่สุด
ความรักก็ยังเกิดขึ้นได้อย่างละเมียดละไมและตราตรึง
ดูแล้วแสบๆคันๆในหัวใจเหมือนเคย
ชอบ...

He remembers these vanished years. As though looking through a dusty window pane, the past is something he could see but not touch. And everything he sees is blurred and indistinct

อดีตคือสิ่งที่มองเห็นแต่จับต้องไม่ได้
ความทรงจำจางสี เลือนหายไปตามวันเวลา
ที่น่าแปลกใจคือความรู้สึกที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
และเพลงในหนังเรื่องนี้ก็โดนใจอีกแล้ว โดยเฉพาะเนื้อเพลง

Quizás, Quizás, Quizás

Siempre que te pregunto
Que, cuándo, cómo y dónde
Tú siempre me respondes
Quizás, quizás, quizás

Y así pasan los días
Y yo, desesperando
Y tú, tú contestando
Quizás, quizás, quizás

Estás perdiendo el tiempo
Pensando, pensando
Por lo que más tú quieras
¿Hasta cuándo? ¿Hasta cuándo?

Y así pasan los días
Y yo, desesperando
Y tú, tú contestando
Quizás, quizás, quizás

Perhaps, Perhaps, Perhaps

I am always asking you
When, how and where
You always tell me
Perhaps, perhaps, perhaps

The days pass this way
And I am despairing
And you, you always answer
Perhaps, perhaps, perhaps

You are wasting time
Thinking, thinking
That which you want most
Until when? Until when?

The days pass this way
And I am despairing
And you, you always answer
Perhaps, perhaps, perhaps






 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2552 1:49:00 น.
Counter : 622 Pageviews.  

Answer by Sarah McLachlan



I will be the answer
At the end of the line
I will be there for you
While you take the time
In the burning of uncertainty
I will be your solid ground
I will hold the balance
If you can't look down

If it takes my whole life
I won't break, I won't bend
It will all be worth it
Worth it in the end
Cause I can only tell you what I know
That I need you in my life
When the stars have all gone out
You'll still be burning so bright

Cast me gently
Into morning
For the night has been unkind
Take me to a place so holy
That I can wash this from my mind
The memory of choosing not to fight

If it takes my whole life
I won't break, I won't bend
It will all be worth it
Worth it in the end
'Cause I can only tell you what I know
That I need you in my life
When the stars have all burned out
You'll still be burning so bright

Cast me gently
Into morning
For the night has been unkind


เพลงบรรยากาศเหงาเปล่าเปลี่ยวแต่ให้ความรู้สึกเข้มแข็งสุดใจ
เสียงร้องของ Sarah เข้ากับอารมณ์ของป้าโจดี้ใน The Brave One มากมาย
ไม่ได้ปลื้มหนังมากนัก แต่ปลื้มเพลงนี้จัง
ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไง โหยหาความเจ็บปวดเหลือเกิน ^^




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2552 1:49:13 น.
Counter : 346 Pageviews.  


เจ้าหญิงจันทรา
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นนักเดินทาง ที่บางครั้งไม่อยากเป็นนักท่องเที่ยว หลงแสงสีและเทคโนโลยี แต่ไม่ชอบอยู่ในเมืองนานๆ ติดคนรัก แต่ชอบไปไหนมาไหนตามลำพัง
รักความขัดแย้งที่ทำให้ชีวิตมีรสชาติ

天才と馬鹿は紙一重




www.flickr.com
namaysamay Bee's photos More of namaysamay Bee's photos
Friends' blogs
[Add เจ้าหญิงจันทรา's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.