Focus on the journey, not the destination. Joy is found not in finishing an activity but in doing it.

Group Blog
 
All blogs
 
Bhutan..My dream My destiny (Paro) སྤ་རོ་རྫོང་ཁག་

วันนี้อัพบล็อกอย่างบ้าพลังมาก ระดมปล่อยของหมักดอง รอรับของใหม่
ฉลองตรุษจีน อิอิ เกี่ยวมั้ยคะ..

ภาพชุดนี้ถ่ายตั้งแต่พ.ยปีก่อน ชุดแรกเคยตั้งทู้ในพันทิพไปครั้งนึงแต่ก็นานแล้ว
หลังจากนั้นก็ไม่เคยมีทู้สองตามมาด้วยเหตุผลหลายประการ อันสุดแต่จะอ้าง

ครั้งนี้จะพยายามสานต่อให้จบค่ะ

==============================================

ภูฏาน..เมืองในฝัน (และเจ้าชายในฝัน) ของใครหลายๆคน
ตั้งอยู่อย่างสงบเสงี่ยม เล็กๆ เจียมเนื้อเจียมตน
ขนาบด้วยพี่เบิ้มอินเดียและจีน
การเดินทางไปให้ถึงภูฏานใช้เวลาเพียง 3 ช.มกว่าๆ
ด้วยสายการบินเพียงสายเดียวที่สามารถเข้าประเทศภูฏานได้นั่นคือ Druk Air
แต่ก็สะดวกสบายเพราะบินจากกรุงเทพฯได้ทุกวัน
แค่เผลอหลับไปแป๊บนึง ตื่นมาก็พบว่าตัวเองตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของขุนเขา
หนีไปไหนไม่รอดแล้ว "เสร็จ" ภูฏานเข้าแล้วจริงๆ



สนามบินที่นี่เป็นอาคารแบบท้องถิ่น หลังเล็กๆ ดูเกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้าน
ปราศจากส่วนเกิน และกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมรอบข้าง
อากาศที่นี่เย็นชื่น หอมสะอาดจริงๆค่ะ
ยังไม่ต้องโผล่ไปไหนไกล ก็เห็นหนุ่มๆ (และแก่) มากมายในชุดโกห์
(เสื้อคลุมอาบน้ำสุดเท่ห์แบบเจ้าชาย) เต็มไปหมด
แค่นี้ก็กรี๊ดดดดแล้วค่ะ ^^



ให้ดูภาพเครื่องบินลำเล็กๆน่ารักนิดนึงค่ะ
ลายที่หางคือธงชาติรูปมังกรของภูฏาน น่ารักมั้ยคะ
ภายในเครื่องบินค่อนข้างแคบ อึดอัดอยู่บ้าง แต่รักแล้วก็อภัยได้ทุกอย่างค่ะ





สิ่งแรกที่ทำเมื่อไปถึงก็คือแวะเอาของไปเก็บที่โรงแรม
จิบน้ำชา กาแฟ พอคลายความเหน็ดเหนื่อย
ภาพที่เห็นเป็นวิวจากโรงแรมซึ่งเป็นวังเก่าตั้งอยู่บนเนินเขา
มองเห็นเมืองพาโรเล็กกระจิ๊ดริดน่ารักอยู่ไกลๆ
ฉันพักอยู่ที่พาโรทั้งหมดสามคืนด้วยกัน
และเก้าอี้เขียวๆตัวนี้ก็ได้กลายมาเป็นที่สิงสถิตดูดาวทุกคืน



หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางไปเกริ่นเรียกน้ำย่อยที่ซ็องเก่าแก่
และไม่ได้รับการบูรณะ Drukgyel Dzong
ทางเดินขึ้นเป็นเนินน้อยๆพองาม แบบพอเตือนสติน่ะค่ะว่าต่อจากนี้ไปมีแต่ภูเขาแล้วนะเฟ้ย
สองข้างทางเดินเป็นป่าสนโปร่ง มีธงภาวนาแขวนอยู่พอหอมปากหอมคอ



ทางเดินหินเข้าสู่ลานด้านในซ็อง



ป้อมยามประจำซ็องที่ตั้งแยกออกมาต่างหากจากตัวอาคารใหญ่



วันนี้ฟ้าสีสวยใสเหมือนกระจกทาสีฟ้าเลยค่ะ
นับว่าเป็นวาสนาอย่างยิ่งที่ได้มาเยือนเมืองในฝันในช่วงเวลาที่อากาศดีๆแบบนี้
อุณหภูมิตอนกลางวันก็ไม่จัดว่าหนาวเลย
คนกรุงเทพฯตายใจค่ะ หารู้ไม่ว่าตกกลางคืนมันจะหนาวเยียบจับขั้วหัวใจยิ่งนัก

ออกจากซ็องหนึ่งเราก็ไปสู่อีกซ็องหนึ่ง แน่นอนอยู่แล้วค่ะ
คนรักภูฏาน ถ้าไม่ใช่รักศิลปะวัฒนธรรม
ก็ต้องรักธรรมชาติ ด้านใดด้านหนึ่ง
ส่วนฉัน...รักอย่างอื่น และธรรมชาติค่ะ
(ไม่ต้องถามต่อนะ)
ทริปนี้เราจะตามล้างตามเช็ดซ็องให้เบื่อกันไปข้าง
แล้วทริปหน้าไปลุยป่าตามล่าทะเลสาปกัน (ไม่รู้เมื่อไหร่นะ)

Paro Dzong ค่ะ โลเกชั่นถ่ายหนังเรื่อง Little Buddha
ว่าแล้วก็คิดถึงพี่คีนู ต้องไปขุดหนังขึ้นมาดูอีกแล้ว
มาถึงก็ตะกายบันไดกันก่อนเลย
บันไดประเทศนี้ทั้งแคบทั้งชัน ยิ่งเป็นบันไดซ็องยิ่งสูงอลังน่ากลัวตกอย่างยิ่งค่ะ



คนภูฏานเวลาจะเข้าไปภายในซ็อง ซึ่งมีสถานะเป็นทั้งวัดและสถานที่ราชการ
จะต้องเอาแถบผ้ามาสะพายอย่างที่เห็นขาวๆในรูปนะคะ
แถบผ้านี้มีหลากหลายสี แต่ละสีก็บ่งบอกสถานะที่แตกต่างกัน
ประชาชนตาดำๆ ไม่มีศักดินาก็ใช้ผ้าขาวอย่างอิตานี่(ในภาพ) แหละค่ะ



ด้านในซ็อง สีสันสวยงาม ตัดกับฟ้าโชะเชะ



อีกซักมุมซิ



ความจริงมีอีกหลายมุมค่ะ แต่ถ่ายซ็องมาหลายเมือง หน้าตาเหมือนแบบนี้หมด

ก็เลยคิดว่าลงซ็องละนิดละหน่อยจะดีกว่า ก่อนคนอ่านจะเอือมระอา

ออกจากซ็องเราก็ลัดเลาะลงเขามาข้ามสะพานเดียวกับพี่คีนู



จากสะพานเดินชมนกชมไม้ไปอีกนิดเดียวก็เข้าเขตกลางใจเมืองแล้วค่ะ
บอกแล้วว่าเล็กๆน่ารักจริงๆ
ระหว่างทางโชคดีเจอพี่ๆในชุดคลุมอาบน้ำกำลังยิงธนูกันอย่างเมามันส์
เลยแวะไปเชียร์และเก็บภาพ



ใกล้ค่ำแล้ว ก็เลยชวนกันเดินต่อไปเพื่อเข้าเมือง
ระหว่างทางผ่านต้นไม้กลุ่มนี้ วันแรกไปยังเขียวดีอยู่เลย
วันกลับบ้านผ่านมาอีกที ใบเหลืองทิ้งใบเกือบหมดต้น
คนใจเสาะอย่างฉันเห็นแล้วเศร้าจนหงอยไปเลยค่ะ



เย็นนั้นเราก็ไปเดินเตร็ดเตร่อยู่ในเมืองกันจนมืด
เดินดูข้าวของเรื่อยเปื่อย
แต่เท่าที่เห็นยังไม่เจออะไรน่าช้อปค่ะ
เครื่องประดับก็จะดูออกแนวเนปาล มีสแตมป์ที่น่ารักน่าซื้อสำหรับคนสะสม

คนที่นี่ดูเหมือนจะรู้จักกันหมดประเทศค่ะ
เดินไปไหนมาไหนทักทายกันเจี๊ยวไปหมด
ก็ดูอบอุ่นดี

พอฟ้าค่ำและเริ่มหิวได้ที่เราก็ไปกินอาหารเย็นกันที่ร้านใกล้ๆแม่น้ำแห่งหนึ่ง
เมนูประจำวันนี้คืออาหารแพนด้าค่ะ อิอิ



อาหารภูฏานก็มีประมาณเอ็มมาดาร์ซี หรือพริกผัดคอตเตจชีส
ดอกกะหล่ำผัดชีส และอะไรๆชีสอีกหลายอย่างค่ะ
ทานกับข้าวแข็งๆหน่อย ถ้าเป็นคนชอบการผจญภัยทางรสชาติ
ก็น่าจะเพลิดเพลินดี อาหารแพนด้าก็รสชาติดีค่ะ โดยเฉพาะเมื่อรวมกับบรรยากาศ..
ทานอาหารค่ำเสร็จก็กลับโรงแรมนอน
ไม่ต้องถามถึงเรื่อง hang out นะคะ
สถานบันเทิงพบได้ในทิมพูนครหลวงเท่านั้น (อีกสองวันจะเล่า)

อยู่ที่นี่หลายวัน นอนหัวค่ำ ตื่นเช้าตลอด สดชื่นมากๆค่ะ

จบวันแรกในพาโรแล้ว ลืมไปว่ามีอีกรูปที่อยากอวด
ถ่ายมาจากหลังพาโรซ็องค่ะ
เป็นช็อตประทับใจส่วนตัวประจำวันนี้จ้า...







Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2552 1:48:46 น. 6 comments
Counter : 913 Pageviews.

 
ขอให้ ร่ำรวย รวยจน ม่ายรู้ว่า มีเงินมากขนาดหนาย

ขอให้ ครอบครัว มี ฟามสุข ซา หนุก ซา หนาน ก๋า ก๊ะ

ขอให้ สุขภาพ แข็ง แรง เหมือน เฮอร์คิวลิส

ขอให้ ติด อาราย สมปารถนา เหมือน มี โด เร ม่อน อยู่ ใกล้ ตัว

ขอให้ เอม น่ารัก ขึ้น ทุกวัน ก๋าบบบบ ........ อะเจ้ย !!!!!





~~~~~~~~~~~Happy Chinese New Year~~~~~~~~~~~~

I wish U get the Best Luck

I wish U r Healthier and Healthier

I wish U r Richer and Richer

I wish U get the Warmth and the Happiness from

- Ur family
- Ur friends
- Ur Co-worker
- Ur Honey

I wish U love me !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


โดย: dogamania วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:40:37 น.  

 
ดีใจจังค่ะ มีภาษาไทยให้อ่านแล้ว

หนุ่ยเคยมีเพื่อนเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยกัน เป็นคนชาตินี้ด้วยค่ะ เท่ห์มากเลย
สาวๆ กรี๊ดกันมาก เค้าชอบบ่นคิดถึงภูเขาค่ะ แถวๆ รร.ที่เรียน
เป็นที่ราบไม่มีภูเขาเลย

ยังไม่ได้อ่าน ดูแต่รูป เดี๋ยวกลับมาอ่านนะคะ ไปว่ายน้ำก่อน

ถ้าพี่แม่หมี มีเวลา เอาทริปฮอกไคโด นานมาแล้ว มาเล่าด้วยสิคะ


โดย: วดี วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:02:19 น.  

 
ท้องฟ้าสวยมากกกกกกกกก
บ้านเมืองเค้าดูสวย สะอาดตาดีจัง

=)



โดย: hunjang วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:58:01 น.  

 
น่าไปจังเลย

อยากไปมากๆๆๆ

T^T


โดย: เด็กน้อยขี้แย วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:58:53 น.  

 
มีหล่อๆแบบเจ้าจิ๊กเยอะมั้ย..คำถามแรกเรยยยฮี่อี่
เห็นชุดเค้าแล้วเวิร์คดีเนอะกิ๊กิ๊กิ๊..โล่งโปร่งดี
.
เป็นเมืองที่น่าอยู่ตามจินตนาการของผุ้คนที่ไม่ชอบความวุ่นวายสับสน..ทุกๆอย่างขึ้นอยู่กับมวลรวมแห่งความสุขน่ายินดีกับประเทศของเค้าเนอะ..
.
ให้นึกเสียดายที่เมืองไทยของเรา..นะ
.
วดีจุ๊บๆ..บอกว่าคิดถึงจะเชื่อมั้ย


โดย: แม่เจ้าก้อนดิน วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:49:24 น.  

 
กลับมาอ่านอย่างละเอียดอีกรอบค่ะ
สวยงาม และน่าเดินเล่น ไปเรื่อยๆ มากเลยค่ะพี่
อยากไปจัง หมู่นี้เที่ยวผ่านจอบ่อยมาก
แวะไปอ่านห้องบลูแพลนเน็ต อ่านเรื่องคนไปเที่ยวโน่นนี่กัน
ก็เพลิน พอกล้อมแกล้มว่าได้ไปเที่ยวกะเค้าแล้ว

เที่ยวแบบนี้ อยากไปแบบไม่ต้องมีลูกๆ ไปจังเลยค่ะ

ป้าก้อนฯ คิดถึงนะคะ พูดจริงๆ จะเชื่อรึปล่าว


โดย: วดี วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:40:21 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เจ้าหญิงจันทรา
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นนักเดินทาง ที่บางครั้งไม่อยากเป็นนักท่องเที่ยว หลงแสงสีและเทคโนโลยี แต่ไม่ชอบอยู่ในเมืองนานๆ ติดคนรัก แต่ชอบไปไหนมาไหนตามลำพัง
รักความขัดแย้งที่ทำให้ชีวิตมีรสชาติ

天才と馬鹿は紙一重




www.flickr.com
namaysamay Bee's photos More of namaysamay Bee's photos
Friends' blogs
[Add เจ้าหญิงจันทรา's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.