ทัศนคติคือสิ่งเล็กๆ ที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่

เสียงใจฉันเอง ร้องเพลงให้เธอ-ฟังอยู่คือเสียง..ดังจากใจ

"รักแห่งสยาม"..หนังรักที่ไม่ได้สื่อถึงคำว่า "รัก" เฉพาะความรักระหว่างหนุ่มสาว
หากเป็นความรักหลากหลายรูปแบบ
แม้กระทั่งความรักระหว่าง "ชาย" กับ "ชาย"
ซึ่งผู้ชมเรื่องนี้ต้องเปิดใจกว้างพอสมควร ทั้งยอมรับการนำเสนอ
เหมือนกับเนื้อเพลงท่อนหนึ่งของเพลง "กันและกัน" เพลงประกอบภาพยนต์เรื่องนี้ที่ว่า
"มีความจริงอยู่ในความรักตั้งมากมาย และที่ผ่านมาฉันใช้เวลาเพื่อหาความหมาย"

สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้จากหนังคือ อารมณ์เหงาของตัวละคร
ไม่ว่าแต่ละคนจะมี "ความรัก"แบบไหน
หรือความจริงอย่างหนึ่งในความรัก อาจคือ "ความเหงา"
...........................
"โต้ง" ถาม "มิว" ในคืนวันหนึ่งที่บ้านมิว
ว่าไม่เหงาเหรอที่อยู่คนเดียว เพราะตั้งแต่อาม่ามิวเสีย มิวก็อยู่คนเดียวมาตลอด
มิวตอบว่า "มันไม่ง่ายเลย เพราะยิ่งผ่านไปนานๆ เราก็ยิ่งคิดถึงอาม่า เราจึงถามตัวเองว่า
ถ้าเรารักใครมากๆ เราจะทนได้เหรอ ถ้าวันหนึ่ง เราต้องเสียเค้าไป
และไอ้การจากลา มันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต....โต้งก็รู้ดี
แล้วมันจะเป็นไปได้เหรอโต้ง ที่เราจะรักใคร โดยไม่กลัวการสูญเสีย
แต่ใจหนึ่งก็คิดว่า แล้วมันจะเป็นไปได้เหรอ ที่เราจะอยู่ได้...โดยไม่รักใครเลย"



อาจบางที การจะรักใครสักคน...ต้องใช้ "ความกล้าหาญ" มากพอ
เพราะเราไม่อาจรู้ได้เลยว่า เราจะเจอะเจอกับ "ความเหงา" เมื่อไหร่....
และเราไม่อาจรู้ได้ว่า เราจะมี "กันและกัน" ไปโดยตลอดหรือไม่...
"ความหวัง" จึงอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยง "ความรัก" ให้งอกงามอยู่เสมอ
ท่อนที่ซึ้งกินใจอีกท่อนหนึ่งในเพลง "กันและกัน" บอกไว้อย่างนั้น
"...ดั่งในใจความบอกในกวี ว่าตราบใดที่มีรักย่อมมีหวัง"

ความรักใน "กันและกัน" ของหลายคู่ได้จบลงอย่างสมบูรณ์แบบ
และเป็นแรงใจให้กับ "ความหวัง" ที่จะเกิดขึ้นและดำเนินต่อไปในรักใหม่ๆ
ผมเชื่อว่า ความรักทำให้คนอ่อนแอ
แต่ "ความอ่อนแอ" นั้น ก็จะถูกคนสองคนช่วยกันสร้างให้เป็น "ความเข้มแข็ง" ขึ้นมา




....ผ่านคืนวันโหดร้ายนานเหมือนชั่วกาล
กลับมีคนห่วงใยกัน สุขใจทุกวันมีเธออยู่ข้างกาย
เริ่มรู้จักความหวาน กับรักลึกซึ้งหมดใจ
เริ่มรู้จักความหมายของคืนวัน....

อาม่าได้ความเข้มแข็งจากอากง สู้อยู่เลี้ยงดูมิว และสอนมิวว่า
"ดนตรีน่ะ ให้หัดเอาไว้ เผื่อวันหลังเราจะใช้มันบอกอะไรให้คนอื่นได้รับรู้
เหมือนอย่างที่อากงเคยใช้เสียงดนตรีเป็นสื่อในการบอกให้อาม่าได้รับรู้ว่ารัก"
และอาม่า ก็ได้ทำให้มิวเข้มแข็งโดยไม่รู้ตัว ในวันที่อาม่าจากไป...

"หญิง" หลงรักเด็กหนุ่มข้างบ้านอย่าง "มิว" ... คนที่ไม่สามารถให้ความรักตอบกลับได้
แต่หญิงเข้มแข็งมากขึ้น มากพอที่จะได้ยิ้มและมองดู "คนที่เธอรัก"
สบตาด้วยความรักกับ "คนที่เขารัก"
ที่ไม่ใช่เธอ....

"โต้ง" รู้จักความเข้มแข็งครั้งแรก เพราะสัมผัสได้ถึงความรักจาก "สุนีย" ผู้เป็นแม่
สุนีย์บอกโต้งว่า "ให้เลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด"
โต้งตัดสินใจเลือก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยกล้าตัดสินใจ อย่างประโยคที่โต้งตอบสุนีย์ว่า
"เดี๋ยวกลัวว่าติดแล้วแม่ไม่ถูกใจ แม่ก็จะว่าอีก"

"กร" พ่อของโต้ง กลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง.....
ทั้งตลอดมา"อ่อนแอ" เพราะ "รัก" ในลูกสาวที่สูญเสียไป
หลังจากเห็น "สุนีย์" เลือกกิน "แกงพะโล้" ที่ทิ้งไว้ค้างเติ่งเย็นชืด
และเอากับข้าวชุดใหม่เตรียมไว้ให้กับตัวเองที่เอาแต่โศกเศร้าไม่เป็นอันทำอะไร

"แตง" พี่สาว "โต้ง" ที่หายไป ทำให้ "ความรัก" ในครอบครัวของ "โต้ง" เข้มแข็งขึ้น

ประโยคที่แสนจะเข้มแข็งในตอนท้ายเรื่องที่โต้งบอกมิว
"เราคงคบกันเป็นแฟนไม่ได้
แต่ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ได้รักมิวนะ"




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2551   
Last Update : 25 ตุลาคม 2551 20:50:56 น.   
Counter : 211 Pageviews.  

1  2  

คีตกวี
Location :
สุรินทร์ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add คีตกวี's blog to your web]