|
กว่าจะได้ไป ญี่ปุ่น
ไปมาแล้ว กลับมาแล้ว ญี่ปุ่น ประเทศในฝันของเรา (และหลายๆคน) ก่อนจะเล่าเรื่อง อยากจะเกริ่นนำก่อน ถึงความอยากลำบาก ในการจะไปลุยเดี่ยวครั้งนี้
แค่การขอวีซ่า หลายๆคนก็บ่นกันมา ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ โดยเฉพาะสาวโฉด เอ๊ย โสด หน้าตาเกือบดี ไปคนเดียว
และเรื่องของเรายังซับซ้อนกว่านั้นอีก นอกจากหน้าที่การงานที่มั่นคง เป็นหลักแหล่ง (แต่ก็เป็นบริษัทเอกชน) แล้ว ไม่มีอะไรอื่นการนตีได้เลย ว่าเราจะไม่โดดร่ม อยู่ที่โน่น
แต่คงเพราะ แผนการเดินทางที่คงเขียนออกมาดูดี (ไปจริงก็ไม่ได้เท่านั้นนะ) ประกอบกับหนังหน้าของเรา เมื่อเจ้าหน้าที่ได้คิด พิจารณาดีแล้ว
ก็โทรมาบอกให้ไปรับผลวีซ่าได้ (ยื่นวันอังคาร เจ้าหน้าที่ไม่นัดวัน แต่โทรมาบอกวันศุกร์ ให้ไปรับเช้าวันจันทร์ต่อไป) การรอคอย 1 สัปดาห์นั้น มันช่างโหดร้าย
แต่ไม่เท่า การรอคอยอีก 1 เดือนที่สาหัสกว่า เพราะมันมีเงิน 25,300 บาท และ ความรู้สึก ผิดหวัง ทั้งที่เตรียมการทุกอย่างมาอย่างดี วีซ่าก็ผ่านแล้ว เป็นเดิมพัน
บริษัททัวร์มือชื่อพอควรเจ้านึง ทำเราเจ็บปวดมาก เรารู้ ว่าตั๋วญี่ปุ่น ช่วงสงกรานต์ มันต้องแก่งแย่งกันขนาดไหน เผลอๆ มีเงินก็ซื้อไม่ได้ (จริงๆก็คงซื้อได้ ถ้าจ่ายหนักจริงๆ แต่มันคงดูโง่ๆ แถมชั่วร้ายอีกตะหาก)
หลังจากโทรไปหลายๆเจ้า แต่ยังไม่ได้ตกลงกับเจ้าไหน เราก็เลือกบริษัทที่ว่านี้ เพราะความที่เราเห็นชื่ออกสื่อบ่อย ๆ และเรารู้มาว่า ตั๋วสงกรานต์ มักจะถูกเอเย่นทัวร์จองที่ไว้ เพื่อขายทัวร์ต่อไป ปลายเดือนพฤศจิกายน หลังจากทำใจ ขอลางานเจ้านายได้แล้ว เราก็ได้ทำการพูดคุย และจองที่ไว้กับบริษัทนี้เลย เป็นตั๋ว ไป-กลับ กรุงเทพ - โอซาก้า แน่นอนว่าชั้นประหยัด ( เพราะถ้าชั้นไม่ประหยัด ชั้นคงจะไม่ได้ไปเที่ยวอ่ะนะ ) ไป 11 เมษา กลางคืน กลับ 19 เมษา บ่าย บิน SQ
ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ราคา เราก็ไม่ได้เอาเรื่องเอาราวอะไรว่า เจ้าไหนจะถูกกว่าเจ้าไหน ถ้าอยู่ในเกณฑ์ 1,000 บาท เราก็รับได้ แลกกับความสบายใจ ว่าบริษัทเค้าใหญ่ เค้าไม่อะไรผิดพลาดแน่ๆ แล้วเค้าก็เมล์ยืนยันการจองมาให้ ทุกอย่าง ถูกต้อง แน่นอน
เดือนธันวาคม เราก็โทรไปย้ำอยู่ 2 ครั้ง เพื่อยืนยันว่า ถ้าได้วีซ่า เราเอาแน่ๆ ด้วยความเกรงใจ ไม่เคยจองอะไรนานๆ แบบนี้
กลางเดือนมกราคม ก่อนวันเกิดเรา 1 วัน เราก็รีบไปขอวีซ่า เจ้าหย้าที่ยังถามเลย ว่าเรามาขอเร็วไปหรือเปล่า เพราะถ้าได้วีซ่า มันจะหมดอายุ 90 วัน หมายถึงเราต้องเข้าญี่ปุ่นก่อน 18 เมษายนแน่ๆ ถ้าผิดพลาดมา จะเปลี่ยนแผนการเดินทางไม่ได้เลยนะ เราก็บอกเค้าไปว่า ไม่เป็นไร ถ้าไม่ได้ไปก่อน 18 เมษา ก็แปลว่าไม่ไปแล้วค่ะ
ใจจริง เพราะเราห่วงตั๋วมาก ไหนจะที่พักอีก อยากคอนเฟิร์มทุกอย่างให้เรียบร้อย
วันที่ 21 มกรา รับผลวีซ่าแล้ว (ได้อยู่ในญี่ปุ่น 15 วัน) รีบโทรไปเรื่องตั๋ว บอกว่าเอาแน่แล้วนะ แต่เพราะจ่ายบัตรไม่ได้ ต้องโอนเงินอย่างเดียว เลยถามเค้าว่า รอวันสิ้นเดือนได้ไหม จะได้ไม่ต้องไปถอนเงินก้อนออกมา เค้าก็ว่าได้...แต่พอวันต่อมา เราก็ร้อนใจ อยากได้ตั๋วมากอดมากกว่า แถมเค้าก็โทรมา บอกจะโอนเงินมาเลยไหม (แล้วเมื่อวาน คุยกันไม่รู้เรื่องหรือไง งง) เราก็เลยไปโอนเงินในวันพุธที่ 23 มกรา เสร็จแล้วก็โทรไปบอกเคา
วันพฤหัส ที่ 24 มกรา เราโทรไปถามเค้าเรื่องตั๋ว เค้าบอกกำลังเมล์มาให้
วันศุกร์ที่ 25 มกรา เราเช็คเมล์ก่อนไปทานข้าว แล้วพิมพ์ตั๋วออกมา แต่พบว่า ตั๋วเราออกเป็น ไป 01 เมษายน กลับ 19 เมษายน ...
เราก็ร้อนใจมาก รีบโทรหา เค้าออกไปทานข้าว.. เราก็รีบกลับมาเปิดเมล์ ของเดือนพฤศจิกายนดู เพราะกลัวว่ามันจะผิดตั้งแต่ตอนนั้น แต่เราสะเพร่าเอง ปรากฏว่า เมล์อันนั้น ถูกต้องทุกอย่าง
เงินก็โอนแล้ว วีซ่าก็ได้มาแล้ว คงเดาไม่ยาก ว่าเรารู้สึกยังไง
และเรื่องราวต่อจากนั้น ก็เป็นเรื่องของการ ขอโทษ ต่อรอง น้ำตา (ของเราคนเดียว บริษัทนั้นคงไม่รู้อะไร) เราโทรไปหาเค้าอย่างใจเย็น เรารู้ว่ามันมีผิดพลาดกันได้ แต่เราก็คงยังไม่ได้คำตอบอะไรดีๆ ไม่มีการโทรมาหาเราก่อนเพื่อบอกควมคืบหน้าเลย จนเราทนไม่ไหว มาระบายในพันทิป และเข้าไปคอมเม้นท์ ที่เวบเค้า
เค้าก็โทรมาบอกว่า กำลังพยายามอยู คุยกับเซลล์ของ SQ ทุกเช้าแต่ตั๋วมันเต็มมากๆ (กลายเป็นเราติด Waitlist อยุ่ ทั้งที่จ่ายเงินไปแล้ว)
เราก็บอกเค้าไปว่า เรากังวลมาก จะดีกว่าไหมถ้าจะโทรมาบอกอะไรเราบ้าง ไม่ใช้จะโทรมาทีเดียว เมื่อได้ตั๋วแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
และเพราะได้รับคำแนะนำจากชาวพันทิป (ขอบคุณมากๆค่ะ > ) เราก็ได้โทรไปหา SQ เองด้วย ขอร้องเค้าให้ช่วย หลังจากนั้นไม่นาน 1 เดือนนับจากวันจ่ายเงิน เราก็ได้ตั๋วมา และได้กลับช้ากว่าแผนเดิม 1 วัน (เป็นบ่ายวันอาทิตย์) ก็ดีไปอย่าง
สุดท้าย เราไม่ได้ติดใจอะไรบริษัทนี้อีก ยังคิดเลยว่าถ้ามีโอกาส อาจจะใช้บริการอีก เพราะเรื่องคงไม่เกิดซ้ำ 2 แต่เพราะหลังจากเรื่องจบลงหลายวัน มีชายคนนึง โทรมา บอกว่าจากบริษัทนั้น ช่วงที่เกิดเรื่องอยู่ญี่ปุ่นพอดี เลยไม่ได้ติดต่อมาก่อน ท่าทางคงใหญ่โตพอควร เค้าก็ขอโทษและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น
ก็ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์โทรมา แต่..ไม่รู้เราเป็นคนแปลกรึเปล่า เราไม่ชอบวิธีที่เค้าพูดเลย บอกตรงๆ ว่าดูวางโต ถึงจะสุภาพก็ตาม แถมยังบอกว่า ช่วงสงกรานต์ แย่งตั๋วกันมาก เคสเรา อาจเป็นเพราะโดนบริษัทอื่นเล่นกลเอาก็ได้
...เรื่องอย่างนี้ เราไม่อยากรู้หรอกค่ะ
Create Date : 03 พฤษภาคม 2551 | | |
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 13:31:52 น. |
Counter : 386 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Lonely me in HK 4
นี่แค่วันแรก ของทริป 3 วันนะเนี่ย ไหงยาวยืดมาขนาดนี้
คิดตกแล้ว เราก็จับ AE เข้าสนามบินเลยค่ะ อยู่ไม่ได้แล้ว ฮ่องกง (มีแต่คนใจร้ายยยยย) เพื่อจะไปหาตั๋วกลับ หลังจากเดินวนไปมา นั่งรอ ใช้เวลาหลายชม.ในสนามบิน เราก็เลื่อนไฟลท์ได้ เป็นวันรุ่งขึ้น โดยจ่ายไป 2,000 บาท ตั๋วถูก กลายเป็นตั๋วแพงซะงั้น..
ช่วงเวลาที่ยังไม่สำนึกนั้น เราก็ดี๊ด๊า นั่ง A21 กลับมาโรงแรม เป็นเวลา 3 ทุ่มกว่าๆ หมดไปอีกหนึ่งวัน สรุป วันแรกของเรา อ่าว พิพิธภัณฑ์ และสนามบิน ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ในด้านการท่องเที่ยว แต่ด้านประสบการณ์ ทั้งการหาตั๋ว เลื่อนตั๋ว การใช้สนามบินฮ่องกง (เดินทางเข้า-ออก) ก็ถือว่ามาชดเชยกัน (ได้ไม๊.. )
...แสงไฟของตึกไกลๆ จากหน้าต่างรถเมล์...ช่วงเวลาที่เรายังนึกถึงบ่อยๆ
ทำไมมันซึมเศร้าอย่างนี้ เอาไว้ตอนหน้า จะได้เที่ยวจริงๆค่ะ
Create Date : 15 มีนาคม 2551 | | |
Last Update : 15 มีนาคม 2551 3:48:23 น. |
Counter : 264 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|