Group Blog
 
All blogs
 
Lonely me in Kansai วันที่ 1 นารา

ผ่านอะไรมาก็มาก กว่าจะได้มาเหยียบดินแดนในฝัน
จนวันเดินทางแล้ว ยังไม่อยากเชื่อเลย

วันที่ 11 เมษายน 2551
ออกจากที่ทำงานก่อน 1 ทุ่มนิดๆ นั่งแท็กซี่ไปสุวรรณภูมิ
กลัวรถติด เพราะเป็นวันหยุดยาว
ที่ไหนได้ ว่างโล่ง ใช้เวลาแป๊บเดียวเอง

จัดการอะไรโหลดกระเป๋าเรียบร้อย
โดยเช็คอินทางเนตมาก่อนแล้ว เพราะอยากเลือกที่นั่งเอ
ขอนั่งหน้าๆ ริมทางเดิน ไม่อึดอัดดี

แล้วก็ไปหาอะไรรองท้องก่อน ไม่ได้กินอะไรตั้แต่ บ่ายมาแล้ว

เดินไป เดินมา ไปลงเอยที่ บะหมี่เป็ด + น้ำ ราคาแพงมหาโหด
ที่ร้านกาแฟ แบรนด์ไทยๆ ได้ยังไง (200 บาทได้)

ไม่มีอารมณ์ถ่ายรูปอะไร ในสนามบินเลย
จะว่าไป ขึ้นเครื่องที่นี่มา 4 ทริปแล้ว
(ในชีวิตก็ขึ้นเท่านั้นแหละ ไม่เคยขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองเลย)
ยังไม่เคยถ่ายรูปปั้นกวนเกษียรสมุทร เลย (สะกดถูกไหม)

ไม่ได้ซื้ออะไรที่ Duty Free
หนังหน้าอย่างเรา เครื่องสำอางค์ระดับปานกลาง
ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ก็เอาอยู่แล้ว
ใช้ของแพง แล้วมันดันดีขึ้นมา จะลำบาก

เครื่องออก 4 ทุ่มนิดๆ ไม่มีปัญหา
เสิร์ฟอาหาร ไม่มีปัญหา ทานอะไรไปน๊า....สปาเก็ตตี้ นั่นเอง
ทานแบบง่วงๆ แต่เอาเข้าจริง ก็นอนไม่หลับ

แปลกอย่างนึง เราเป็นคนกลัวความสูง
กลัวกระเช้า และสะพานแขวนมากๆ กลัวนั่งเรือด้วย
แต่ไม่กลัวเครื่องบิน

ถึงอย่างนั้น ก็ไม่กล้านั่งริมหน้าต่างอยู่ดี เพราะมันอึดอัด เข้าออกยาก
แถมการนั่งดูวิวนานๆ จิตใจจะพาลเตลิด ฟุ้งซ่านไปได้

แต่ตอนเครื่องขึ้น - ลง ชอบดู ที่บางสายการบินเค้าถ่ายจากล้อมาให้

สรุป ไปเหยียบแผ่นดินญี่ปุ่น โดยได้นอนแค่ 2-3 ชั่วโมง
ไม่นับวันก่อนหน้านั้น ที่นอนดึกๆ ทุกคืน

ไม่ได้ถ่ายภาพบนเครื่อง
ไม่ได้ถ่ายภาพที่สนามบิน

นี่คือภาพแรก จากญี่ปุ่น บนรถ Haruka นั่งจากสนามบินคันไซ ตรงดิ่งไปเกียวโต (แวะจอดตามสถานีใหญ่ ๆ เท่านั้น)
ถ้าซื้อตั๋ว ต้องจ่ายประมาณเกือบ 3000 เยน
แต่เราข้อมูลดี (อาศัยชาวบ้านเค้าทั้งนั้น ขอบคุณชาวพันทิปนะคะ)
ซื้อ JR West Pass (ใช้ในแถบคันไซ นั่งชิงกังเซนไม่ได้) มาจากเมืองไทย
(ต้องเอาไปแลกเป็นตั๋วที่สถานี JR สนามบินก่อน)

วันละ 2000 เยน ใช้รถ JR ได้ทั้งวัน ซื้อมา 2 วัน 4000 เยน
แต่ถ้านานกว่านั้นราคาก็ลดลงอีกแน่ะ



ง่วงๆ โง่ๆ งงๆ ตอนลงเครื่อง จนมาอยู่บนรถไฟ อากาศเย็นๆ
เสื้อไหมพรม สีชมพูแปร๋นมากๆ อยู่โน่น ใส่เดินไปไหน อายๆไงไม่รู้
เค้าใส่แต่ สีดำ เทา ขาว น้ำตาล เบจ ประมาณเนี้ย
ตัวที่ใส่ขึ้นเครื่อง ก็เอาอยู่ (บวกเสื้อยืด 2 ชั้นข้างใน)

แต่พอไปถึงเกียวโต ออกจากรถไฟเท่านั้นแหละ บ้านนอกเข้ากรุงแท้ๆ เลยเชียว
อากาศหนาวมาก ๆ ด้วย ยื่นสั่น + งง มีแผนที่ ที่พักมา แต่จะไปยังไงละเนี่ย...
ต้องไปหาห้องน้ำเข้า แล้วเปิดกระเป๋าใหญ่ เอาเสื้อผ้าร่มตัวใหญ่ออกมา
แล้วค่อยมาหาทางต่อ
สุดท้ายเลยนั่ง subway ไป 1 สถานี (แค่หาทางลงใต้ดินยังลำบากเลย)
และวันต่อๆมา ก็หลงสถานีเกียวโตอีกบ่อยครั้ง...

ที่พัก J-Hoppers Kyoto
ห้องที่พักคือที่วงไว้ หน้าต่าง 1 ฟุต x 1ฟุต นั่น ทำให้ใจแป้วมากๆเลย
แถมห้องยังอยุ่ชั้น 5 อีกตะหาก ลิฟต์ไม่มี บันไดก็แคบ
ร่ำๆจะขอเปลี่ยนไปนอนดอมหญิงแล้ว ดีว่าเค้าไม่มีเตียงว่าง

บอกตรงๆ กลัวทริปล่มเหมือนตอนไปฮ่องกงคนเดียว

แต่สุดท้ายไม่มีปัญหาอะไร ที่พักอาจจะเก่าหน่อย แต่ก็สะอาด
และเจอคนใจดีเยอะ อยู่ ๆ ไปพอวันต้องเปลี่ยนที่พัก ก็ใจหายเหมือนกัน
ก็นอนตั้ง 6 คืนแน่ะ นอนฟังเสียง ก๊อกๆ แก็ก ของห้องดอมข้างๆ
เสียงคนฉี่ (ห้องน้ำอยู่หน้าห้องพอดี
เผลอๆ ตอนดึกๆ คงมีคนพักผู้ชายฉี่ไม่ปิดประตูแน่เลย...



Create Date : 03 พฤษภาคม 2551
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 19:13:29 น. 2 comments
Counter : 435 Pageviews.

 
แอบตามมานะครับ ^^ ครั้งล่าสุดฝนตกตลอด เซ็งสุดยอดครับ
ถ่ายภาพจากกล้องมือถือตลอดเลย


โดย: Nokkao วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:50:02 น.  

 
ไปญี่ปุ่นคนเดียวยากมั้ยคะ คือหนูจะไปหลังจากเวิร์คแอนด์ทราเวลน่ะค่ะ ไปคนเดียว กลัวจะมีปัญหาตอนผ่าน ตม. เป็นนักศึกษาอยู่ค่ะ


โดย: L.Martini IP: 125.25.235.105 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:51:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

salamanka
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add salamanka's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.