3 ก.ค. 2561 หลีมาพบแพทย์ตรวจร่างกาย ก่อนเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ที่สุดในชีวิตเพื่อเสริมหน้าอก เพิ่มคัพ ปรับไซส์ กับคุณหมอเต้ย นพ.วุฒิวัธ อนุพรรณสว่าง ที่ Masterpiece Hospital ถนนสุโขทัยค่ะ
(หลีสูง 163 ซ.ม. หนัก 54 กิโลกรัม)
ที่ทำงานแบบมั่นใจมาได้จนถึงทุกวันนี้เพราะมีฟองน้ำโคตรหนาเสริมในบราเป็นเพื่อนรัก แต่กว่าจะโกยจนนมมา ก็เสียเวลามากโข...โกยทุกวัน ขยันมาก 555
จนช่วงปีที่แล้วหลีผอมมาก แล้วนมแฟบจนเกือบเหลือแค่หัวนม เลยมีความคิดว่า หรือจะทำนมดี? 😰✨
งั้นก็จัดไป...เริ่มกาปฏิทินตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว วางแผนงดรับงาน เอาตังมาซื้อนมแปป 😂✨
ที่เลือกมาสเตอร์พีซคลินิก เพราะเพราะโรงพยาบาลได้มาตรฐาน เพื่อนที่เพิ่งให้หมอเต้ยผ่า อวดว่าแผลสวย เส้นเล็ก รอยบางมาก ผ่าตัดโดยศัลยแพทย์เฉพาะทาง และดมยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ ยิ่งมั่นใจได้เรื่องความปลอดภัยค่ะ
- คุณหมอวัดขนาดเปรียบเทียบ 2 ข้าง (หากขนาดเนื้อนมซ้าย-ขวาต่างกันมากอาจต้องใสซิลิโคนคนละขนาด)
- พอหมอประเมินขนาดที่เหมาะสมแล้ว จะมีตัวอย่างซิลิโคนของจริงไซส์ดังกล่าว และไซส์ใกล้เคียงมาให้เลือก พร้อมให้ดูตารางทำความเข้าใจเกี่ยวกับความต่างของซิลิโคนแต่ละขนาดให้เราตัดสินใจ (ของหลีหมอให้เลือกระหว่าง 350 และ 375 ซีซี)
ขั้นตอนวันผ่าตัดเสริมหน้าอก
- รายงานตัวที่เวชระเบียน
- เซ็นตเอกสารยินยอมการรักษา
- หากอยากซื้อสปอร์ทบราที่มีสายรัดเหนือหน้าอกให้แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนจะได้ชำระเงินรอบเดียว
- เคลียร์ค่าใช้จ่าย
- ถ่ายภาพทางการแพทย์ หน้าตรง, ก้มตัว, 45° ซ้ายขวา, 90° ซ้ายขวา
- วัดความดัน คัดกรองเรื่องการแพ้ยา
- เปลี่ยนเป็นชุดคนไข้ ลบเครื่องสำอาง ล้างหน้า (คลินิกมีอุปกรณ์ให้หมดไม่ต้องพกมาเอง)
- เข้าห้องนั่งเล่นมีทีวีให้ดูแก้กลุ้ม รอเวลาเข้าห้องผ่าตัด
- เข้าห้องผ่าตัด มี MV เพลงฟังสบายให้ดูเพลินๆ, บนผนังมีรูปถ่ายหน้าอกของเราแปะไว้, คุณพยาบาลเสียบสายน้ำเกลือ, คุณหมอมาตรวจให้คนไข้นั่งบนเตียง ถามคอนเฟิร์มเรื่องขนาดอีกครั้ง แล้ววาดเส้นบนหน้าอก แจ้งเรื่องขนาดแผลและรายละเอียดอื่นๆ, เมื่อพร้อมคุณพยาบาลจัดท่าให้เรานอนหงาย ตืดอุปกรณ์วัดความดัน สัณญาณชีพ เอาผ้าห่อแขนขาให้อยู่กับที่, หมอวิสัญญีมาแนะนำตัว เดินยาเข้าสายน้ำเกลือจะรู้สึกแสบนิดตอนยาเข้าไปกระจายที่หลังมือ พร้อมๆกันนั้นพยาบาลเอาเครื่องช่วยหายใจมาครอบ ไม่กี่อึดใจเราก็หลับ ภาพก็ตัดไปแล้ว
- ฟื้นอีกทีได้ยินเสียงคนเรียก แต่พูดไม่ออกตาหนักมาก หลับต่ออีกพักใหญ่ ถึงเริ่มตื่นแล้วมีแรงตอบ เอามือคลำหน้าอก นมงอกแล้ว แต่ยังไม่เจ็บ
- คุณพยาบาลช่วยประคองให้เรานั่งแล้วพันผ้ารอบอก เราขอนอนพักฟื้นต่อ ที่นี่ให้นอนต่อได้จนกว่าคนไข้จะพอใจ ระหว่างนอนอาการสบายตัวดี ไม่มีอะไรน่ากลัว เมื่อพร้อมกลับบ้านให้เรียกพยาบาล
- เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อกระดุมหน้า กางเกงสวมสบาย (ควรเลือกเสื้อผ้าที่ใช้แรงใส่น้อยๆ ใส่ง่ายถอดง่าย จะได้ไม่ต้องออกแรงเยอะ ไม่เจ็บหน้าอก)
- รับยากลับบ้าน พร้อมคู่มือวิธีทานยา ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ Clindamycin 300 Mg (15 เม็ด) ต้องทานติดต่อกันจนหมด, ยาลดปวด 3 ตัว ให้ใช้ตามระดับความปวด ได้แก่ ยาแก้ปวด Ultracet (Painkiller) ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 6 ชั่วโมง, ยาแก้ปวดแบบมีฤทธิ์แรง Arcoxia 90 mg (Painkiller/Analgesic) ทานวันละ 1 ครั้งหลังอาหารเช้าทันที ครั้งละ 1 เม็ด และ Celebrex 200 mg (Painkiller/Analgesic) ทานวันละ 2 ครั้งหลังอาหารทันที ครั้งละ 1 เม็ด, ยาทาแผล Cogeltine 1 หลอด ทางบางๆวันละ 2 ครั้ง หลังตัดไหม
- รับคู่มือการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด (รายละเอียดอยู่ด้านล่าง)
- รับใบประกันซิลิโคนข้างซ้าย-ขวา มีระบุรหัสรุ่น ปริมาตร เลขซีเรียล มั่นใจว่าใส่ถูกรุ่น ไม่โกง พร้อมหนังสือข้อมูลซิลิโคนซึ่งอธิบายรายละเอียดเจาะลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เต้านมเทียมชนิดเจล (Gel Breast Implants) ที่่หมอใส่่ไปในตัวเรา
- รับเสื้อในหลับผ่าตัด (พยาบาลเสื้อไซส์ให้)
- ควรมีญาติมารอรับ ออกจากโรงพยาบาลก็ไปทานข้าว เดินเล่นได้ชิลล์ๆไม่ปวด (แน่ล่ะยาชายังไม่หมดฤิทธิ์ หึหึ) มือยังใช้ได้แต่ไม่ควรออกแรงเยอะ เข้าห้องน้ำปัสสาวะอุจจาระยังทำความสะอาดตัวเองได้
นอนห้องพักฟื้นเรายิ้มสดชื่น หลังออกจากห้องผ่าตัดตอนตื่นรอบสอง
คือ รอบแรกหนังตาหนักมาก ตื่นมาถามเวลาแล้วหลับต่อ ตอนแรกเขาจะยังไม่พันผ้า รอให้เราตื่นรอบแรกแล้วมีพยาบาลมาพยุงให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วจึงพันผ้า ส่วนรูปก่อนพันผ้านนั้นมีถ่ายไว้ แต่กลัวอนาจารเลยไม่ลงรูป จะเห็นซิลิโคนนูนอยู่ช่วงเนินอก นมเดิมอยู่ที่เดิม
เสื้อในที่ได้มา คุณพยาบาลเลือก B75 มาให้
ตอนแรกก็สงสัยว่าจะเล็กไปไหม แต่พอได้ใส่จริง ไซส์นี้พอดีมากๆ
(เราเริ่มใส่ช่วงวันที่ 4 หลังผ่าตัด รู้สึกใส่สบายดี ไม่มีปัญหา ประคองหน้าอกได้ดีมากๆ
แล้วใส่สลับต่อเนื่อง จนปัจจุบันวันที่อัพเดท Blog นี้กำลังจะเข้าสู่เดือนที่ 2 แล้ว ค่อนข้างแพงต้องใช้ให้คุ้ม)
ใบรับประกันซิลิโคน เราดูว่ารุ่นกับไซส์ ที่ Ref. ตรงตามที่ได้คุยกับหมอไว้ก็สบายใจแล้ว
ได้คู่มือมาให้หนักอีก 2 เล่ม (เหมือนกันทั้ง 2 เล่ม) เล่มหนาเชียว
แต่ส่วนภาษาไทยมีไม่กี่หน้า บอกข้อมูลทุกอย่างเกี่่ยวกับซิลลิโคน
เอาไว้นอนอ่านทำความรู้จักอวัยวะใหม่ช่วงพักฟื้น 555
เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมกลับบ้านอาการเจ็บนั้นยังไม่มี สวมเสื้อกระดุมหน้าตาคำแนะนำเป๊ะ
เดินได้สบายมาก ยกเว้นหิ้วของหนักที่ไม่ควรสู้เพราะยกนิดหน่อยก็ตึงปากแผลแล้ว
ขอบคุณ BNsodope ที่มาช่วยดูแลหลังผ่าตัด
วันรุ่งขึ้นจะเจ็บมากไหม เดี๋ยวมาลุ้นกัน
จากเอกสารของ รพ. Masterpiece
(เป็นใบคู่มือการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ที่ได้มาพร้อมยาก่อนกลับบ้าน)
After Care (Breast Augmentation)
วิธีการดูแลหลังการศัลยกรรมเสริมหน้าอก
- หลังผ่าตัดควรงดยกของหนัก หรือกิจกรรมที่ต้องยกแขนสูง ประมาณ 3-4 สัปดาห์
- ควรงดออกกำลังกาย อย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- หลังผ่าตัดควรสวมสปอร์ตบรา หรือเสื้อในยางยืด Support ได้ตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนเสื้อชั้นในแบบมีโครงสามารถใส่ได้หลังผ่าตัด 4-6 สัปดาห์เป็นต้นไป
- หลังการเสริมหน้าอกควรนอนหงายประมาณ 3-4 สัปดาห์ ไม่ควรนอนตะแคง หรือนอนคว่ำ เพื่อป้องกันการกดทับของหน้าอก และทำให้หน้าอกเสียรูปทรงได้
- ควรรับประทานยาปฏิชีวนะ และยาลดบวมตามที่แพทย์สั่งจนครบ
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด เนื่องจากสารที่อยู่ในบุหรี่มีผลลดปริมาณออกซิเจนในเลือด อาจมีผลให้แผลหายช้าลงกว่าปกติ หรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮออล์ ประมาณ 1 สัปดาห์
- หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกจะมีอาการ ปวด บวม หรือช้ำ บริเวณหน้าอก 1-2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ซึ่งเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยอาการดังกล่าวจะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ
- กรณีแพทย์ปิดแผลด้วยกอซ ต้องระวังไม่ให้แผลลเปียกน้ำอย่างน้อย 3-5 วันหลังผ่าตัด
- กรณีแพทย์ปิดแผลด้วยแผ่นกันน้ำ สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ
- หากแผ่นปิดหลุดร่อน ซึม หรือเปียกน้ำ ต้องเปลี่ยนแผ่นใหม่ทุกครั้งไม่ให้แผลอับชื้น หรือให้กลับมาทำความสะอาด และเปลี่ยนแผ่นปิดได้ที่คลินิก (หากแผลเปียกควรใช้ผ้าสะอาดซับบริเวณแผลให้แห้งทุกครั้ง)
- หลังการผ่าตัดอาจมีการคลื่นใส้ อาเจียน หรือเจ็บคอได้ประมาณ 1-3 วันแรกหลังผ่าตัด ขึ้นอยู่กับบุคคล ทั้งนี้เป็นอาการข้างเคียงจากการดมยาสลบ
- หลังผ่าตัดในช่วง 1-3 เดือนแรก อาจเห็นแผลผ่าตัดชัดเจน โดยสีของแผลอาจจะเข้มขึ้น หรือหนาขึ้นได้บ้างแล้วแต่บุคคล ซึ่งเป็นอาการปกติของแผลผ่าตัด หลังจากนั้นแผลจะค่อยๆจาง และนิ่มลงตามลำดับ อาจใช้เวลา 8-12 เดือน ท่านสามารถทายาหรือดูแลแผลได้ตามคำแนะนำของแพทย์
- หลังจากการเสริมหน้าอก หากคนไข้ไม่มีอาการเจ็บแผลที่่ผ่าตัดแล้ว สามารถนวดหน้าอกได้ โดยไม่บีบนวดรุนแรงมากเกินไป *การนวดเต้านมลักษณะใดนั้น แพทย์จะพิจารณาเป็นกรณีตามความเหมาะสม (กรณีเสริมหน้าอกทรงหยดน้ำไม่แนะนำให้นวด ควรปรึกษาแพทย์)
- แพทย์จะนัดเข้ามาติดตามผลการผ่าตัด (Follow Up) 7 วัน (เพื่อทำความสะอาดแผล), โดยกรณีแพทย์เย็บปิดแผลด้วยไหมไม่ละลาย คลินิกจะนัดตัดไหม 14 วันหลังการผ่าตัด จากนั้นแพทย์จะนัดติดตามผลการผ่าตัดเมื่อครบ 30 วัน, 3 เดือน, 6 เดือน แลละ 1 ปี ทั้งนี้ควรมาให้ตรงตามนัด
ข้อควรทราบหลังการศัลยกรรมเสริมหน้าอก
1. โดยทั่วไปเต้านมข้างซ้าย และขวาของคนเรา จะมีรูปร่างแตกต่างกันเสมอตั้งแต่ก่อนผ่าตัดอยู่แล้ว รวมถึงขนาดรูปร่างของตัวคนไข้เอง ที่มีกระดูกซี่โครงบริเวณหน้าอกยื่นมาด้านหน้าไม่เท่ากัน *โดยหน้าอกอาจมีขนาดใหญ่กว่าอีกข้างหนึ่ง ระดับหัวนม และฐานนมจะมีความแตกต่างกัน* ซึ่งหลังการผ่าตัดการหายของแผลแต่ละข้างก็จะแตกต่างกัน โดยที่ข้างหนึ่งอาจจะยังเจ็บ แต่อีกข้างหนึ่งจะไม่รู้สึกเจ็บ หรือข้างหนึ่งอาจบวมมากกว่าอีกข้างหนึ่ง ลักษณะนี้มักพบได้ในคนส่วนใหญ่ แต่หลังจากแผลหายสนิทแล้วทั้งสองข้างจะดูใกล้เคียงกัน และเป็นธรรมชาติมากขึ้นตามระยะเวลา ทั้งนี้การฟื้นตัวหรือการบวมนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
2. ในช่วง 1-2 เดือนแรก หน้าอกอาจมีการยุบบวมของหน้าอกทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากันได้บ้าง แต่อาการจะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ และหน้าอกเข้าที่ขึ้นจนถึง 6 เดือน เข้าที่ที่สุดที่ 1 ปีหลังผ่าตัด
3. หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก อาจรู้สึกไวต่อความรู้สึก หรือมีอาการชาบริเวณหัวนม และฐานนมได้บ้าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล อาการจะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ
4. กรณีที่คนไข้ให้นมบุตรหลังผ่าตัด สามารถให้นมบุตรได้ตามปกติโดยไม่ส่งผลกระทบต่อบุตร เพราะการเสริมหน้าอกนั้นจะไม่เกี่ยวข้องกับต่อมน้ำนม โดยซิลิโคนที่ใส่จะอยู่ในชั้นลึกกว่า
5. ซิลิโคนปัจจุบันที่ใช้เป็นแบบ Cohesive Gel (โคทชีพเจล) จึงไม่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และมีความปลอดภัยสูงมาก ทั้งนี้หากกังวล ท่านมาสารถตรวจเช็คเมื่อมีอาการผิดปกติ โดยการ X-Ray (MRI Scan)
* คำแนะนำนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพร่างกายของคนไข้ หรือคำแนะนำจากแพทย์แต่ละท่านเห็นสมควร
ทำนมเหมือนสิบล้อทับไหม ต้องมาพิสูจน์
หลังเสริมหน้าอก 1 วัน
กับคุณหมอเต้ย ที่ Masterpiece Hospital :
***สิ่งที่ต้องทำจากประสบการณ์ของเรา คือ ทานยาฆ่าเชื้อทุกมื้อตามแพทย์สั่ง พันผ้าไว้ให้กระชับ อย่ายกของหนักมันจะกระตุ้นให้เจ็บ(เดี๋ยวหายช้า) เดินเยอะๆไหวนะ แต่ช่วงแรกควรเดินช้าๆเพราะถ้าสะเทือนมากมันก็มีเจ็บเบาๆ การเจ็บเป็นกลไลของร่างกายเตือนว่าร่างกายเรายังอ่อนแอ ดังนั้นไม่ควรฝืนทำท่าที่ทำแล้วเจ็บ
เวลานอนหลับจริงจังควรนอนศรีษะสูง 30 - 45 องศา จะได้ช่วยลดบวม และเผื่อลุกจากที่นอนด้วยตัวเองจะได้ลุกเองได้ (หากนอนราบจะลุกเองยากมากในช่วงวัน 3 แรกๆ) ถึงจะลุกไหวก็ควรมีคนช่วยดันหลังให้ลุกขึ้นจากเตียงในวันแรกๆ เพื่อความปลอดภัยของแผลผ่าตัด
คืนแรกหลังผ่าตัด : มีปวดเบาๆตอนนอน กินยาที่หมอให้มาหายปวดหลับต่อได้ ใช้หมอนรองคอล็อคคอไว้ นอนศีรษะสูง 30 องศา (ทดลองนอนราบเจ็บด้านข้างตามแนวใต้รักแร้มากกว่า อึดอัดกว่า แถมลุกเองไม่ได้)
เช้าวันแรกหลังผ่าตัด : ตื่นขึ้นมามีปวดๆข้างลำตัวฝั่งขวานิดๆ ลุกจากที่นอนเองได้ (เอามือซ้ายขวาประสานกันใต้เข่า ดึงตัวลุกขึ้นช้าๆ) เดินได้คล่องเหมือนปกติ ยังไม่มีอาการสิบล้อมาทับ นั่งกินข้าวได้ เซลฟี่ได้ บนหน้าอกไม่มีรอยช้ำ
- มีปวดหน้าอกนิดๆเวลากางแขน ผลักประตูบานที่หนักๆ ไม่กล้ายกแขนสูง ไม่กล้ายกของหนัก
- เวลานั่งจะรู้สึกสบายๆไม่เจ็บ ถ้านอนนานๆจะเริ่มปวดตีงด้านข้าง พอเปลี่ยนเป็นท่านั่งก็จะหายปวด ตลอดวันเลยเน้นนั่งเป็นหลัก
- มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ติดต่อมาสอบถามอาการหลังผ่าตัด
ป.ล. คนที่ผ่านการเสริมหน้าอกกับหมอเต้ยมาแล้ว บอกว่าหลังผ่าตัดวันแรกจะเจ็บสุด แล้วจะค่อยๆดีขึ้น แต่วันนี้เรายังยิ้มได้ 555
วันนี้นั่งเล่น เดินเล่น ถ่ายคลิปชิลล์ๆ ไม่มีการคลานแบบคนเจ็บเหมือนสิบล้อทับใดๆทั้งสิน
เสื้อในถ้าจะดันนมให้เนินล้นๆ ต้องใส่แบบฟองน้ำหนาๆพร้อมกัน 2 ตัว
ด้านข้างใช้เข็มกลัดผ้าอ้อมเด็กซึ่งแข็งแรงมาก ยึดให้ติดกัน
ถึงเวลาบ๊ายบายเสื้อในฟองน้ำเลยต้องมาดูหน้ากันครั้งสุดท้าย
ฟองน้ำเสริมนมใส่สบายแต่ต้องจัดดีๆเพราะมันเบา กับซิลิโคนดันนมหนักหน่อยแต่ดูแลง่าย
Cup A โกงเพิ่มได้ 1 คัพ เพราะทั้งสองแบบนี้ความหนาไม่มากนัก
ใช้ใส่รองใต้ฐานนม เพิ่มเนื้อนมได้อีกนิดนึง ในวันที่ไม่ใส่เสื้อในสองตัว
จริงๆมีมากกว่านี้อีก รู้สึกอำลาอาลัย แต่ต้องโล๊ะทิ้งทั้งหมดละนะ บ๊ายบาย
.
หลังเสริมหน้าอก 2 วัน
คืนที่ 2 หลังผ่าตัด : ยังมีอาการปวดระบมแบบพอทนได้บริเวณข้างลำตัวด้านขวา วันนี้มีระบมช่วงกลางอกฝั่งซ้ายในแนวตั้งเพิ่มอีกหนึ่งจุด แต่พอทานยาแก้ปวดก็อาการดีขึ้น นอนศรีษะสูง 30 องศา นอนหลับได้สบาย
เช้าวันที่ 2 หลังผ่าตัด : เมื่อคืนนอนยาวไป 12 ชั่วโมง พอเริ่มขยับตัวจะรู้สึกตึงรอบอกมากๆ น่าจะเพราะนอนหงายนิ่งๆมาทั้งคืน ให้เพื่อนช่วยช้อนหลังให้ตอนลุก พอลุกนั่งได้แล้วสบายตัวกว่านอน
โดยรวมๆแล้ว รู้สึกเจ็บน้อยกว่าเมื่อวาน แต่ความรู้สึกจะเป็นตึงๆบางจุด เจ็บบางท่าเวลาเคลื่อนไหวแขนกว้างๆ
บนหน้าอกไม่มีรอยฟกช้ำ ส่วนผ้ายืดที่คุณพยาบาลพันให้หลังผ่าตัดก็ยังพันไว้ ไม่ต้องแกะ จนกว่าจะตัดไหม
หลังเสริมหน้าอก 3 วัน
คืนที่ 3 หลังผ่าตัด : ในท่านอนศีรษะสูง 30 องศา ยังมีอาการตึงๆบริเวณข้างลำตัวด้านขวา และเนินอกฝั่งซ้าย นอนหลับได้สบายๆ ตื่นเพราะเมื่อยที่ต้องนอนหงาย ไม่ได้ตื่นเพราะปวดกลางดึก
เช้าวันที่ 3 หลังผ่าตัด : จากท่านอนหมอนสูง วันนี้ลองตะแคงใช้ศอกยันลุกจากที่นอนได้โดยรู้สึกๆตึงๆไม่เจ็บมาก ช่วงหลังตื่นนอนวันนี้อกข้างขวาตึงน้อยลง แต่เนินอกข้างซ้ายรู้สึกว่าตึงมากกว่า พอทำกิจวัตรประจำวันขยับแขนเบาๆแล้วอาการตึงน้อยลง อยู่ได้แบบสบายๆ โดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวด
สรุปจำนวนยาแก้ปวดที่ทานไปทั้งหมดในช่วง 3 วัน (หลังจากวันที่ 3 ไม่ได้ทานยาแล้ว)
- Ultracet ทานทุก 6 ชั่วโมง = ใช้ไป 9 เม็ด
- Arcoxia 90 mg (แรง) ทานวันละ 1 ครั้งหลังอาหารเช้าทันที ครั้งละ 1 เม็ด = ใช้ไป 2 เม็ด
- Celebrex 200 mg (แรง) ทานวันละ 2 ครั้งหลังอาหารทันที ครั้งละ 1 เม็ด = ใช้ไป 3 เม็ด
ยาแก้ที่เหลือหลังจากวันนี้หลีเก็บไว้ไม่ได้ทานต้อ รอทิ้ง
ส่วนยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ Clindamycin หลียังทานต่อเพราะระบุว่าต้องทานจนหมด (ตามแผน ยาจะหมดในวันที่ 5 หลังผ่าตัด)
หลังเสริมหน้าอก 4 วัน
คืนที่ 4 หลังผ่าตัด : ยังคงนอนศีรษะสูง นอนหลับได้สบาย นอนได้อิ่มสุดตั้งแต่ผ่าตัดมา ไม่รู้สึกปวดกลางดึก
เช้าวันที่ 4 หลังผ่าตัด : เช้านี้ตื่นมามีอาการปวดตึงน้อยลงมาก อาการเจ็บข้างตัวแบบชัดๆเหมือนวันก่อนๆหายไป ลุกขึ้นจากที่นอนเคลื่อนไหวเบาๆสักพักก็สบายตัว ระหว่างวันมีอาการตึงบ้าง เกร็งบริเวณหน้าอกบ้างบางท่าเมื่อยกกระเป๋า เดินตัวเปล่าได้พริ้วดีไม่เจ็บ รู้สึกเจ็บบ้างหากเผลอเดินกึ่งวิ่ง(ข้ามถนน) อยู่ได้สบายโดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวดอีก
หลังเสริมหน้าอก 5 วัน
คืนที่ 5 หลังผ่าตัด : นอนแน่นอกน้อยกว่าเดิม เพิ่มเติมคือเมื่อเพราะนอนหงาย
เช้าวันที่ 5 หลังผ่าตัด : วันนี้อกขวาสบาย มาตึงด้านซ้ายมากกว่าแทน ยังหิ้วกระเป๋าหนักไม่ได้มันจะเจ็บนิดๆถ้าหิ้วน้ำหนักเกิน ทานยาฆ่าเชื้อ Ckindamycin มื้อสุดท้าย หลังจากวันนี้ไม่มียาที่ต้องทานแล้ว
หลังผ่าตัด 6 วัน : วันนี้เป็นวันแรกที่เริ่มออกไปทำงาน โดยหลีรับงานไว้ 2 งานในวันเดียว หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ารองเท้า(ไม่หนักมาก) แถมมีเผลอเดินเร็วๆด้วยความรีบ ก็ยังไหวอยู่
หลังผ่าตัด 7 วัน : อาการดี นอนหลับยาวๆได้ หลังตื่นนอนรู้สึกอึดอัดเนินอกน้อยลง, ท่านั่ง ยืน เดินเคลื่อนไหวทำงานได้สบาย ตึงกลางอกเบาๆตอนเผลอยกของหนัก
หลังผ่าตัด 8 วัน (นัดตัดไหม) : วันที่ 20 กรกฎาคม 2561 คุณหมอเต้ยมาเช็คแผล แล้วบอกว่าสวย แผลแห้งดี คุณหมอเช็ครูปทรง ความบวมของหน้าอกปกติ ไม่มีรอยเขียวช้ำ คุณหมอแนะนำให้ใส่ Sport Bra หรือเสื้อในไม่มีโครงเหล็ก ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อประคองเต้านมไว้
ผิวหนังรอบแผลจะดูยับๆ ไม่สวยนิดนึง เพราะติดพลาสเตอร์กันน้ำไว้นาน 7 วันนะคะ
พอทิ้งไว้สักพักผิวเรียบปกติไม่ยับค่ะ ส่วนแผลเส้นบางดีค่ะ (มีรูปอัพเดทครบ 1 เดือนด้านล่าง)
ซึ่งตัวหลีเองเลือกที่จะใส่ชุดชั้นในหลังเสริมหน้าอกโดยเฉพาะ (Post-OP Bra) ที่ซื้อจากโรงพยาบาลก่อนเข้าห้องผ่าตัด ในเซ็ตที่ซื้อมา มีสายคาดเหนือหน้าอกมาด้วย คุณหมอบอกว่าสายรัดบนหน้าอกไม่จำเป็นต้องใช้ หากอยากใช้ให้ใส่สายคาดเฉพาะตอนนอน
คุณพยาบาลใจดีที่ช่วยคุณหมอผ่าตัดเรา เป็นคนตัดไหมให้ มือเบามาก ทำไว แถมไม่เจ็บอีกต่างหาก ถ้าอยากถามอะไรเพิ่มเติมถามกับคุณพยาบาลได้เลย การดูแลแผลหลังตัดไหม อาบน้ำได้ แผลโดนน้ำได้ แต่ต้องซับแผลให้แห้ง ห้ามยกของหนักอย่างน้อย 1 เดือน ห้ามวิ่ง ห้ามกระโดด ห้ามซน เพราะแผลภายนอกติดดีแล้ว แต่ข้างในยังไม่แข็งแรง
หลังจากนี้เราแปะแผ่นซิลิโคนเจลบนแผลตลอดเวลา หมอไม่ได้แนะนำให้ใช้
แต่ด้วยความกลัวดูแลแผลหลังผ่าตัดไม่ดีแล้วแผลไม่สวยเลยไปหามาเตรียมไว้ เวลาเคลื่อนไหวอะไรจะได้มั่นใจว่าแผลปลอดภัย
ที่เลือก Actewound เพราะราคาย่อมเยาว์เพียงแค่ 380 บาท จะได้ใช้ทิ้ง ไม่เสียดายมาก
แผ่นนึงตัดแบ่งใช้ได้หลายชิ้น ชิ้นนึงแปะได้ 1 - 2 อาทิตย์ กาวแน่นดีเกิน ต้องตัดใจทิ้งก่อนกาวหายเหนียว
ล้างทำความสะอาดตอนอาบน้ำ เช็ดแผลให้แห้งก่อนแปะใหม่ทุกวัน ป้องกันแผลเป็นคีลอยด์
หลังผ่าตัด 11 วัน : วันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ตื่นเต้นกับการไปซื้อเสื้อในไซส์ใหม่เป็นครั้งแรก
วิธีเลือกยกทรง ที่พนักงานแผนกชุดฉันไหนแนะนำมีสองแบบคือ
- เลือกที่คัพพอดีแต่รอบตัว ใต้หลวมกว่าหนึ่งไซส์
- เลือกที่คัพใหญ่กว่าหนึ่งไซด์แต่รอบตัวใต้อกพอดี
- แล้วนำทั้งสองแบบไปลองในห้องลอง
- คำแนะนำเพิ่มเติมจากพนักงานขายชุดชั้นใน คือควรใส่สปอร์ตบาร์ซักหนึ่งเดือนแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นยกส่งแบบปกติที่ไม่มีโครงเหล็กเพื่อที่จะได้ไม่กดทับแผล
หลังผ่าตัด 12 วัน : วันที่ 24 กรกฎาคม 2561
วันนี้เปลี่ยนมาใส่สปอร์ตบาร์แล้วรู้สึกตึงนม ตึงผิวๆ เหมือนนมกำลังโต ตัวบรารองรับนมทั้งหมดแต่รู้สึกว่ามันยืดหยุ่นมากกว่า Support Bar ของโรงพยาบาล ทำให้รู้สึกถึงความขยายตัวของนม โดยส่วนตัวแล้วเมื่อเทียบความรู้สึกกันชอบ Support บาร์ของโรงพยาบาลมากกว่าเพราะใส่แล้วรู้สึกไม่เจ็บเลย เพราะมันค่อนข้างกระชับแต่มีพื้นที่ที่รองรับการขยายของหน้าอกทางด้านหน้า แล้วมีผ้าส่วนที่หนาประคองเนื้อและเต้านมไปไม่ทะลักออกไปด้านข้าง
ด้วยความที่อาการเจ็บด้านในหายจะหมดแล้ว เลยรูสึกถึงความตึงที่ผิวหนังด้านนอกบนเต้านมมากกว่า เหมือนนมจะแตกสาว แต่แตกสาวทั้งเต้าเลยนะ 555 หลีก็กลัวผิวบนหน้าอกแตกลายเหมือนคนท้องด้วย เลยขยันทาครีมบำรุงผิว แล้วทา Bio Oil ทับทุกวันช่วงที่มันตึงเยอะๆแบบนี้
วันนี้เริ่มทานอาหารเสริม Surgee ลดบวม ลดอักเสบช้ำในหลังศัลยกรรม ที่เพื่อนซื้อมาฝาก
หลังผ่าตัด 13 วัน : วันที่ 25 กรกฎาคม 2561 รู้สึกเริ่มเก่งกับของหนัก (หิ้วกระเป๋าถือของตัวเองได้โดยไม่เจ็บเลย วันก่อนๆยังมีเกร็งบ้าง ตึงๆปวดๆเบาๆตรงโน้นตรงนี้) นอกจากเก่งกับกระเป๋าตัวเองแล้วยังเป็นวันที่เดินเร็วได้อย่างมั่นใจ สบายตัวที่สุดตั้งแต่วันนี้ทำนมมา
ยังดูเห็นขอบบนเป็นบล็อคชัด แต่ขอบจะค่อยๆหายไปหลังจากหน้าอกเริ่มหายตึง
รูปช่วง 3 เดือนไม่เห็นขอบแล้ว (ด้านล่าง)
หลังผ่าตัด 18 วัน : วันที่30 กรกฎาคม 2561 มีตึงตอนตื่นนอนนิดหน่อย แต่วันนี้ผิวบริเวณเต้านมตึงน้อยลง เริ่มนิ่มขึ้น
ดีใจตรงที่น้องนมไม่มีรอยแตกเลย เพราะช่วงอาทิตย์ที่สอง ที่รอบๆนมมันตึงพีคๆมาก หลีลุ้นมาก ดูทุกวันว่านมเราจะเป็นรอยแตกแดงๆ ม่วงๆ แบบที่เพื่อนๆที่เขาเคยทำมาแล้วแตกไหม
ส่วนระดับซิลิโคนตอนทำเสร็จมันจะดูสูง เนื้อนมเดิมอยู่ต่ำกว่า ตอนนี้มันค่อยๆเคลื่อนลงมาหาเนื้อนมจริงแล้ว
หลังผ่าตัด 22 วัน : คืนวันที่ 3 สิงหาคม 2561 ช่วงที่หลีนอนราบเตรียมนอนหลับแล้วนึกได้ว่าวันนี้นอนได้แบบลืมไปเลยว่ามีนมปลอมๆอยู่ในตัว (ไม่รู้สึกอึดอัด หรือตึงตอนนอนบริเวณเนินอก ไม่มีจุดที่เจ็บสักที่เลย สบายนม 100%) ดีใจ รีบหยิบมือถือขึ้นมาจดไดอารี่
หลีมีนัดตรวจอาการครบกำหนด 1 เดือน หลังเสริมหน้าอก ขนาด 350 cc กับคุณหมอเต้ย ที่ Masterpiece Hospital ค่ะ
คุณหมอเต้ยสอบถามถึงความรู้สึก และอาการทั่วไป ประเมินเรื่องความนิ่ม ความห่าง รูปทรง และดูความเรียบร้อยของแผล ซึ่งหมอเต้ยเอ่ยปากชมว่าเคสหลีทรงหน้าอกสวยมาก (หัวเราะ) ตำแหน่งแผลดีมากอยู่ตรงรอยพับพอดี อนาคตหน้าอกจะชิดกันกว่านี้ (ตอนนี้ห่าง 1 นิ้วมือ หมอเอานิ้วทาบตำแหน่งให้ดูกลางอกเรา แต่ตอนนี้ถ้าดันก็ชิดกันแล้ว) ตอนนี้เนื้อหน้าอกนิ่มแล้ว แนะนำให้เริ่มนวดได้ ประมาณ 3 เดือนหน้าอกจะเริ่มคล้อยลงมาเอง
ซึ่งในส่วนของอาการ ณ วันนี้หลีไม่มีอาการเจ็บแล้ว เนื้อหน้าอกนิ่มแล้ว ไม่มีความบวมตึง รู้สึกสบายตัวมากๆ เวลาสัมผัสรู้สึกเหมือนเป็นเนื้อเดียวกับร่างกายเรา
หลังผ่าตัดเสร็จแล้วความเจ็บที่เราได้เจอ จะเป็นเจ็บแบบทนได้ พอเราหยุดทำท่านั้นๆ อาการเจ็บก็หายทันที และเจ็บน้อยลงเรื่อยๆในวันรุ่งขึ้น เช่น
- ช่วง 2 สัปดาห์แรก เจ็บลึกๆช่วงเนินอกหลังตื่นนอน (พอลุกขึ้นนั่งก็หายเจ็บ), หิ้วของหนักเกินไป, มีเจ็บบางจังหวะเวลาเอี้ยวตัวเยอะๆ
หลีขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังวางแผนทำนมค่ะ ขอให้ได้นมสวย ขนาดถูกใจ แผลเนียนๆ หายไวๆนะคะ สาธุ