ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

กระอักค่าไฟขึ้น20สตางค์






ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เมื่อวันที่ 23 ก.พ. นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์  ผู้ว่า กฟผ. เปิดเผยว่า

แนวโน้มค่าไฟฟ้าในงวดต่อไป (พ.ค.-ส.ค.55) จะปรับขึ้นไม่น้อยกว่า 20-30 สต.ต่อหน่วย เนื่องจากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้าจะปรับราคาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นไม่อยากให้รัฐบาลใช้นโยบายตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอันโนมัติ (เอฟที) ในระยะเวลาที่นานเกินไป
เพราะจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการรับภาระในการตรึงค่าไฟฟ้าของ กฟผ.
หลังจากที่ในงวดปัจจุบัน ( ม.ค. –เม.ย. 55)
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานหรือเรกูเลเตอร์เห็นชอบให้ กฟผ.
ตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) 10 สต. เป็นวงเงิน 8,000 ล้านบาท
เพื่อช่วยเหลือประชาชนหลังจากที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมไปแล้ว
 
  “หมดสมัยแล้วที่จะมานั่งพยุงราคาค่าไฟฟ้านานๆ เพราะจะทำให้โครงสร้างบิดเบี้ยวไปหมด
แล้วหากจะไปแก้ในภายหลังคงเป็นเรื่องยาก และ
กฟผ.เองก็คงไม่มีความสามารถที่จะช่วยได้แล้ว เพราะในอนาคต
กฟผ.เองก็มีแผนการลงทุนที่ต้องใช้เงินเยอะอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเชื่อว่า
ค่าเอฟทีงวดต่อไปต้องปรับขึ้นไปตามสภาพความเป็นจริง
ทั้งนี้ระดับราคาน้ำมันที่คำนวณราคาก๊าซฯเฉลี่ยที่ผ่านมาไม่เกิน 100
เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
แต่ล่าสุดราคาน้ำมันได้ปรับขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยมาอยู่ที่ 115-120
เหรียญฯต่อบาร์เรลและหากสถานการณ์ความตึงเครียดในอิหร่านยังคงมีอยู่
หรือการเกิดสงครามก็จะยิ่งกระทบให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกโดยมองว่า
ราคาน้ำมันจากนี้ไปคงไม่ต่ำกว่าระดับ 100
เหรียญฯต่อบาร์เรลได้จึงสะท้อนไปยังราคาก๊าซฯที่จะสูงขึ้นต่อเนื่อง”
นายสุทัศน์ กล่าว




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2555   
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2555 16:01:23 น.   
Counter : 1579 Pageviews.  

ระวังแก๊งมอมยาบุก'รัชดา-อาร์ซีเอ'







เตือนภัย..แก๊งมอมยาบุก'รัชดา-อาร์ซีเอ' : ตะลุยข่าวโดยทีมข่าวรายงานพิเศษ



ระยะ
นี้บรรดานักเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่เข้าไปหาความสำราญยามค่ำคืน
โดยเฉพาะสถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอ และรัชดาภิเษก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
หลังมีแก๊งสาวประเภทสอง ร่วมกับหญิงสาวเข้าไปตีสนิทเหยื่อแล้วฉวยโอกาสนำยานอนหลับใส่ในแก้วเหล้า
กระทั่งเหยื่อมีอาการสะลึมสะลือไม่ได้สติ
แก๊งคนร้ายก็ทำทีไปส่งถึงห้องพักเพื่อขโมยทรัพย์สิน
ล่าสุดมีชายชาวเกาหลีใต้ 2 คน ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมอมยากลุ่มนี้

"คม ชัด ลึก" ได้รับการร้องเรียนจากหนุ่มเกาหลีใต้ นายซอย อิก จุน อายุ 39 ปี และ นายซิม จี อิม อายุ 32 ปี ผ่าน

น.ส.มัท
นา วิชัยโย เพื่อนร่วมงานของผู้เสียหายทั้งสองคน คอยเป็นล่ามให้ว่า
เมื่อคืนวันที่ 23 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา
ชวนกันไปนั่งดื่มกินกันที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านอาร์ซีเอ กระทั่งร้านใกล้ปิด มีหญิงสาวรูปร่างหน้าตาดี 5 คน ซึ่งเป็นสาวแท้ 3 คน และสาวประเภทสองอีก 2 คน เข้ามาตีสนิท
และชวนดื่มสุรา แต่หลังจากดื่มสุราเพียงไม่กี่แก้วก็รู้สึกสะลึมสะลือ
หญิงสาวและสาวประเภทสองกลุ่มดังกล่าวอาสาจะพาไปส่งให้ถึงห้องพัก

"คนร้ายพามาส่งที่ห้องพักในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านถนนรัชดาภิเษก เมื่อถึงห้องพักคนร้าย ก็คะยั้นคะยอให้ดื่มสุราเพิ่มอีกคนละแก้ว หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไม่ได้สติอีก
กระทั่งตื่นขึ้นมาช่วงสายของอีกวัน
พบว่าทรัพย์สินมีค่าหลายรายการภายในห้องพัก ทั้งนาฬิกา โทรศัพท์มือถือ
กล้องถ่ายรูป เงินสด และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก มูลค่ารวมกันกว่า 2 แสนบาท
สูญหายไป" ผู้เสียหายทั้งสองคนให้ข้อมูล

หลังเกิดเหตุผู้เสียหายประสานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในคอนโดมิเนียม เพื่อขอตรวจสอบภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด

พบ
ภาพขณะกลุ่มคนร้ายประคองผู้เสียหายทั้งสองขึ้นห้องพัก
และภาพขณะกลุ่มคนร้ายกลับลงจากห้องพักด้วยท่าทางเร่งรีบ
โดยภายในกระเป๋าของหนึ่งในกลุ่มคนร้ายมีลักษณะโป่งพองคล้ายกับบรรจุ
คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไว้ภายใน ทั้งที่ขณะขึ้นไปบนห้องพักกระเป๋ายังแบนเรียบ
จึงไปแจ้งความไว้ที่ สน.ห้วยขวาง

"หลังแจ้งความคดียังไม่คืบ คนร้ายยังไม่ถูกจับกุมตัว และเกรงว่าจะมีคนอื่น โดยเฉพาะชาวต่างชาติตกเป็นเหยื่อของแก๊งคนร้ายกลุ่มนี้อีก จึงอยากเตือนให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติระมัดระวังตัว เพราะ
เท่าที่สอบถามจากตำรวจพบว่าระยะนี้มีแก๊งคนร้ายก่อเหตุมอมยาแล้วฉวยโอกาส
ขโมยทรัพย์สินเหยื่อ โดยเฉพาะชาวต่างชาติแล้วหลายราย" น.ส.มัทนา บอก

ด้าน ร.ต.อ.นิรภัย ธะกอง พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง

กล่าว
ถึงความคืบหน้าคดีนี้ว่า
หลังเกิดเหตุได้ส่งผู้เสียหายชาวเกาหลีใต้ทั้งสองคนไปตรวจหาสารพิษในร่างกาย
ที่โรงพยาบาลตำรวจ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานผลตรวจจากแพทย์
จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า คนร้ายใช้หรือไม่ใช้ยาชนิดใดในการมอมเหยื่อ

"ต้อง
รอผลแพทย์ยืนยันก่อนว่า ผู้เสียหายทั้งสองคนโดนมอมยาจริงหรือไม่ ทั้งนี้
ผู้เสียหายมาแจ้งความได้ผ่านการนอนหลับจนกระทั่งตื่นนอนแล้วจึงไม่มีอาการ
สะลึมสะลือ อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานคือ ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดค่อนข้างชัดว่ากลุ่มคนร้ายลงมือก่อเหตุอย่างที่ผู้เสียหายให้การจริง

และหากผลตรวจสอบของแพทย์ยืนยันว่าทั้งสองถูกมอมยาก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับ
กลุ่มคนร้าย ฐานร่วมกันชิงทรัพย์
แต่หากผลตรวจสอบทางการแพทย์ไม่พบสารพิษในร่างกายก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับ
คนร้ายฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน" ร.ต.อ.นิรภัย กล่าว

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง รายหนึ่ง กล่าวว่า

ระยะ
นี้มีกลุ่มหญิงสาวร่วมกับสาวประเภทสองก่อเหตุตระเวนไปตามสถานบันเทิงย่านอา
ร์ซีเอ และย่านถนนรัชดาภิเษก แล้วฉวยโอกาสมอมยานักเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติ แล้วทำทีไปส่งที่ห้องพักก่อนจะขโมยทรัพย์สินบ่อยครั้ง ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายอาจมีหลายกลุ่ม จึง
อยากเตือนให้บรรดานักเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติใช้ความระมัดระวัง
และหากมีใครพบเห็นบุคคลที่คล้ายกับบุคคลในภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด
สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สน.ห้วยขวาง หมายเลขโทรศัพท์ 0-2276-0449
 



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก




 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2555   
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2555 16:00:51 น.   
Counter : 1704 Pageviews.  

ฮือฮาพระพูทธรูปปูนเชียงแสน "ยิ้ม" หลังใส่ดวงเนตร












เมื่อ 22 ก.พ. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รับแจ้งจากคณะสงฆ์ วัดป่าดอนมูล  หมู่ 1 ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ว่า

ผู้ใหญ่
บ้านและนายอำเภอสันกำแพง นำนิลสีดำ จำนวน 2 อัน
มาใส่ให้กับพระพุทธรูปปูนโบราณ พระพุทธรูปสมัยเชียงแสน
ที่ชำรุดดวงเนตรของพระพุทธรูปไม่มี และเมื่อนำดวงเนตร ซึ่งเป็นพลอยสีดำ มาใส่ปรากฏว่าพระพักตร์ของพระพุทธรูปดังกล่าว ที่เศร้าหมองกลับดูสดใส เหมือนกับยิ้มทั้งพระพักตร์
สร้างความฮือฮาทั่วทั้งตำบลทรายมูล จึงเดินทางไปตรวจสอบที่วัดป่าดอนมูล
หรือวัดดอนมูล พบกับพระครูสุนทรธรรมวิจิตร เจ้าอาวาสวัดดอนมูล



พระครูสุนทรธรรมวิจิตร เปิดเผยว่า ที่วัดดอนมูลมีการบูรณะวิหารหลังเก่า และรื้อพระพุทธรูปในวิหารหลังเก่าออก

ซี่
งเดิมมีออยู่ 5 องค์ สมัยเชียงแสน อายุ 200 ปี
การรื้อพระพุทธรูปปูนองค์เดิมออก 2 องค์ คงค้างไว้ 3 องค์
และนำพระพุทธรูปปูน 2 องค์ ออกมาไว้ด้านนอกวิหารปรากฏว่า ชำรุดอย่างหนักไป 1
องค์ อาตมาจึงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่ศาลาชั่วคราว
ในเขตป่าปฏิบัติธรรมวัดที่ใช้ชื่อเรียกว่า "วัดป่าดอนมูล" หน้าตักกว้าง 32
นิ้ว ดวงเนตรกะเทาะออกจนเห็นแต่ปูนขาว ดูเศร้าหมอง



ต่อมา ผู้ใหญ่บ้านและนายโชคดี อมรวิวัฒน์ นายอำเภอสันกำแพง
ได้
ไปขอพลอยสีดำ จากพระอธิการสุรพล วิวัฒนธโน เจ้าอาวาสวัดป่าแดงบ้านสันขวาง
อ.สันกำแพงเชียงใหม่ สีดำ 2 เม็ด นำมาทดลองใส่ปรากฏว่าพอดี
แต่จะเอาออกเพื่อใส่ในวันทำพิธี กลับเอาออกไม่ได้
พลอยนิลฝังแน่นอย่างถาวรเลย ใบหน้าจากดูเศร้าหมองไม่มีชีวิตชีวา ปรากฏว่าดูสดใส เหมือนกับพระพักตร์ยิ้มขึ้นมาทันใด สร้างความฮือฮาให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก อาตมาจึงทำพิธีเบิกเนตรพระพุทธรูปดังกล่าว ทุกคนมาเห็นก็รู้สึกเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง












ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555   
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 20:36:43 น.   
Counter : 1694 Pageviews.  

บีทีเอสขึ้นราคาตั๋ว30วัน เริ่ม1มี.ค. ขึ้นสูงสุดตั๋ว 15 เที่ยวเที่ยวละ 2 บาท







รายงาน
ข่าวจากบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี แจ้งว่า
โปรโมชั่นบัตรโดยสารประเภท 30 วัน ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน


ประกอบ
ด้วย สำหรับผู้ใหญ่ 15 เที่ยว ราคา 345 บาท 25 เที่ยว ราคา 550 บาท 35
เที่ยว ราคา 735 บาท 45 เที่ยว ราคา 900 บาท และสำหรับนักเรียนนักศึกษา 15
เที่ยว ราคา 270 บาท 25 เที่ยว ราคา 425 บาท 35 เที่ยว ราคา 560 บาท และ 45
เที่ยว ราคา 675 บาท จะสิ้นสุดลงในวันที่ 29 ก.พ.นี้แล้ว

และบริษัทฯ จะเริ่มใช้โปรโมชั่นใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.เป็นต้นไป โดยเพิ่มราคาบัตรแบบ 15 และ 25 เที่ยว

พร้อม
ปรับจำนวนเที่ยวใหม่ ไม่มีแบบ 35 เที่ยว และ 45 เที่ยว โดยเปลี่ยนเป็นแบบ
40 เที่ยว และ 50 เที่ยวแทน ประกอบด้วย สำหรับผู้ใหญ่ 15 เที่ยว ราคา 375
บาท ตกเที่ยวละ 25 บาท 25 เที่ยว ราคา 575 บาท ตกเที่ยวละ 23 บาท  40
เที่ยว ราคา 840 บาท ตกเที่ยวละ 21 บาท และ 50 เที่ยว ราคา 1,000 บาท
ตกเที่ยวละ 20 บาท สำหรับนักเรียนนักศึกษา 15 เที่ยว 300 บาท ตกเที่ยวละ 20
บาท 25 เที่ยว 450 บาท ตกเที่ยวละ 18 บาท 40 เที่ยว 640 บาท ตกเที่ยวละ 16
บาท และ 50 เที่ยว 750 บาท ตกเที่ยวละ 15 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบราคาจากแบบที่มีจำนวนเที่ยวเท่ากัน พบว่า แบบ 15 เที่ยว มีค่าโดยสารเพิ่มเที่ยวละ 2 บาท และแบบ 25 เที่ยว
มีค่าโดยสารเพิ่มเที่ยวละ 1 บาท ส่วนแบบ 40 เที่ยว
ยังมีราคาต่อเที่ยวเท่ากับแบบ 35 เที่ยวของเดิม  และแบบ 50 เที่ยว
ก็มีราคาเท่ากับแบบ 45 เที่ยวของเดิมเช่นกัน 
ทั้งนี้ผู้โดยสารที่ซื้อหรือเติมจำนวนเที่ยวภายในวันที่ 29 ก.พ.2555
จะยังคงใช้จำนวนเที่ยวเดินทางได้ตามปกติ จนกว่าจะหมด

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า การขึ้นราคาตั๋วประเภท 30 วันครั้งนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงโปรโมชั่นของบัตรโดยสารแบบรายเดือน

ซึ่งมีราคาถูกกว่าการใช้บริการตามปกติอยู่แล้ว และมีการขึ้นราคาเพียงเที่ยวละไม่เกิน 2 บาท โดย
ราคาสูงสุดของค่าโดยสารต่อเที่ยวอยู่ที่ 25 บาท เท่านั้น
ส่วนราคาตั๋วประเภทเที่ยวเดียวยังไม่มีการขึ้นราคา ยังใช้ราคาเดิม คือ
เริ่มต้นที่ 15 บาท
และสูงสุดที่ 40 บาท ตามระยะทาง.



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




 

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2555   
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2555 15:10:52 น.   
Counter : 1528 Pageviews.  

ราชบุรีเตือน!!ระวังธนบัตรปลอมระบาด






เมื่อ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรพล แสวงศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า

ขณะ
นี้ปรากฏว่าได้รับแจ้งมีการใช้ธนบัตรฉบับ 100
บาทปลอมในพื้นที่อำเภอสวนผึ้ง 
ซึ่งในเบื้องต้นคนร้ายอาจจะใช้ตามอำเภอที่อยู่ห่างจากตัวจังหวัด 
หรือร้านค้าที่ไม่ค่อยสังเกตไม่ไม่สามารถตรวจสอบได้ 


ในปัจจุบันธนบัตรปลอมจะทำค่อนข้างเหมือนฉบับจริงเพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำได้ดีกว่าที่ผ่านมา

อีกทั้งใบละ 100 บาทผู้ที่รับเงินไปแล้วไม่ค่อยดู  เพราะเวลาใช้จ่ายจะไม่ได้สังเกต  เป็นจุดหนึ่งที่ใช้ได้รวดเร็ว 

ซึ่งธนบัตรปลอมโดยด้านหน้าของธนบัตรปลอมดังกล่าวพิมพ์หมวดอักษรและเลขหมาย
ด้านบนซ้ายเป็น " 8 ช 3142919” และด้านล่างขวาเป็น "8 E 3142919”


เพื่อเป็นการป้องกันเฝ้าระวังมิให้มีการใช้ธนบัตรปลอมและประชาชนได้รับความเดือดร้อน
จากการหลอกลวงของกลุ่มมิจฉาชีพ จังหวัดราชบุรี จึงขอแจ้งเตือนร้านค้าและประชาชนในพื้นที่ ให้ตรวจสอบธนบัตรที่มีการใช้จ่ายทุกชนิด หากพบเบาะแสธนบัตรปลอมให้แจ้งความยังสถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุได้ทันที
 



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด




 

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2555   
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2555 15:09:40 น.   
Counter : 1541 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  183  184  185  186  

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]