"ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าเป็นโรคอะไร ก็คือตามสันดาน ตอนแรกคิดอย่างนั้นไว้ก่อน คงแบบสันดานผู้ชาย แต่พอมาถึงจุดหนึ่ง คือเราชอบอ่านเกี่ยวกับจิตวิทยา พออ่านเจอมันใช่ มันถูกทุกข้อเลย ชื่อว่าโรคนาซีซัส เป็นโรคที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก แปลเป็นไทยคือเป็นโรคหลงตัวเอง ไม่ใช่ว่าผมหล่อเท่ อะไรแบบนั้นนะคะ คนใกล้ตัวถึงจะเจอ คือปิดประตูจะเป็นอีกคนหนึ่ง แต่พอมานั่งคุณกันแฟนเธอก็เป็นเหมือนกันเหรอ โรคนี้เป็นกันเยอะมากแต่แค่ไม่ได้เปิดเผย ต่อหน้าสาธารณะคนหมู่มากเขาก็จะเป็นอีกคนหนึ่ง"
"แค่อ่านเราก็รู้ อุ่ยใช่ อันนี้ก็ใช่ ใช่หมดเลย แถมเพิ่มข้อให้ด้วย(หัวเราะ) อ๋อเขาไม่สบายนี่เอง ถ้ามองในเชิงแบบหลักวิทยาศาสตร์ว่ามันไม่ใช่เรื่องการเลี้ยงดูแค่นั้น แต่มันเป็นโรคหนึ่ง โรคภาวะทางจิตชนิดหนึ่งเลย อย่างที่บอกไปในตอนแรกนะคะ คนที่เป็นโรคนี้คือไม่เคยผิด ไม่ยอมรับความผิด แล้วโรคนี้ไม่สามารถรักษาได้ด้วย เพราะเขาไม่ยอมรับว่าเขาเป็น ไอ้คนที่ปกติคือเรา(ยิ้ม) แล้วก็คือจะมีการดิสเครดิตเราต่อคนรอบตัวเราว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นคนถูกกระทำ"
"คิดว่าหลายๆ ครอบครัวก็คงประสบปัญหานี้ แต่ว่ามันไม่ได้เปิดเผยออกมาในที่สาธารณะ ก็มีคู่หนึ่งที่อยู่ในกระแส ก็ค่อนข้างจะดังอยู่ เป็นดารา ซึ่งปุ๊กกี้มองวิเคราะห์ว่าคร่าวๆ ขนาดไม่ได้ไปอยู่ในบ้านของเขา แต่ดูจากที่เขาประสบ แล้วปุ๊กกี้ก็เคยเหมือนผ่านตรงนั้นมาแล้วว่ามันเข้าข่ายเหมือนกัน"
"คือปุ๊กกี้เพิ่งรู้จักโรคนี้มาได้ปีกว่าเองแต่คือก่อนหน้านั้น 7 ปีเนี่ย เราคิดว่านี่เป็นตัวเขา เหมือนถูกหวย(หัวเราะ) เรามาเจอโจทย์ยากมาก เป็นอะไรที่แบบเราจะทำยังไงที่จะประคองให้มันอยู่รอดเหมือนกับว่าเราเข้าใจ พยายามจะเข้าใจความเป็นเขา ทุกวันนี้ก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องอดทนอยู่ เพราะว่าหนึ่งเราสามารถดูแลตัวเองได้ เราทำงาน มีเงิน แล้วลูกเราก็เลี้ยงเอง คุณแม่ ญาติพี่น้องเราก็มี เราจะอยู่ตรงนี้ที่มันบั่นทอนชีวิตเพื่อ แต่คือ 8 ปีมันก็นาน ปุ๊กกี้ไม่ชอบที่จะแบบเหมือนคบใครแล้วแป้บๆ เลิก อย่างครอบครัวครั้งแรกก็ 7 ปี ครั้งที่สอง ก็ 5 ปี เนี่ย 8 ปียังตกใจเลยว่าคนนี้ 8 ปี ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่แบบมีเหตุการณ์มากมายที่เราต้องประสบมาด้วยกัน"