นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

งานเข้าอย่างจัง สำหรับนักแสดงหนุ่มอารมณ์ติ๊ส "แน็ก ชาลี ไตรรัตน์" ที่ก่อนหน้านี้ถูกชายปริศนาอ้างตัวว่าหนุ่มแน็กคุยไลน์จีบแฟนสาวตัวเองกระหนุงกระหนิง ทั้งๆที่ฝ่ายหญิงไม่มีทีท่าว่าจะเล่นด้วย ออกไปทางอารมณ์เฉยๆเวลาคุยกันด้วยซ้ำ ทั้งยังมีหลักฐานโดยการแคปหน้าจอการสนทนาของทั้งคู่ออกมาแฉให้ประชาชนในโลกโซเชียลได้ดูกันอีกด้วย งานนี้เลยเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เดากันไปต่างๆนานาว่าบุคคลในไลน์นั้นใช่ "แน็ก ชาลี" จริงหรือเปล่า

ล่าสุดพอมีโอกาสได้เจอเจ้าตัวเลยไม่พลาดที่จะสอบถาม ซึ่งงานนี้หนุ่มแน็กได้ให้ดูหลักฐานทั้งหมดที่คุยกับฝ่ายหญิง และได้เคลียร์ทุกอย่างจบสิ้นด้วยดีแล้ว แต่เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยข้อความในบทสนทนานั้น ด้วยให้เหตุผลที่ว่ากลัวจะกระทบฝ่ายหญิง จึงขอรับผิดไว้แต่เพียงคนเดียว

อธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังหน่อย ?
"ก่อนอื่นก็ขอโทษครอบครัวก่อน คุณพ่อคุณแม่ที่ทำให้มีปัญหาเรื่องนี้ขึ้นมา ผมจะไม่พูดอะไรมาก อยากให้อ่านข้อมูลมากกว่า เพราะไม่อยากพาดพิงถึงน้องเขา และไม่อยากเอาที่ผมพูดอะไรไปลง เพราะมีคนถามผมเยอะว่าน้องหน้าตาเป็นยังไง เป็นใคร ไม่อยากให้ไปพูดถึงตรงนี้"

สรุปว่าเราได้จีบน้องเขาหรือเปล่า ?
"ผมจีบใช่ และบอกก่อนเลยมีคนพยายามไปแก้ข่าวให้ผมมากมายในเว็บบอกว่า เขาไม่มาพิมพ์ปัญญาอ่อนแบบนี้หรอก นี้ไม่ใช่ไลน์แน็กแน่นอน ผมบอกตรงๆว่าถ้าคนพิมพ์ปกตินะไม่ใช่ผม แต่ไอ้ที่แบบนี้ผมเอง จริงๆเลย"

เรารู้ไหมว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว ?
"จริงๆไม่อยากพูดอะไรมาก น้องเขาพึ่งมีแฟนก่อนวันผมเป็นข่าววันเดียว เขามาบอกผมว่าเขามีแฟนจริงๆ ซึ่งผมอยากให้อ่านก่อนไง แต่ไม่ขอเปิดเผย ผมก็ได้คุยกับน้อง เคลียร์กันแล้วก็เข้าใจ น้องเขาบอกพึ่งมีแฟนเมื่อวานแล้วจริงๆ"

เราคุยกับเขานานแล้วหรือยัง ?
"ผมก็จีบแต่ไม่อยากพูดอะไรเยอะ เอาว่าครั้งนี้ผมผิดเลยก็ได้นะ"

ฝ่ายแฟนเขาบอกว่าเราจ้องจะไปหาน้องตอนกลางคืน ?
"ผมยืนยัน ที่แก้และอยากให้อ่านอีกอย่างคือ ผมตกใจมาก จนผมต้องไปพิมพ์ถามน้องว่า นี่ผมไม่เคยขอไปหาที่หออะไรเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผมเลยอยากให้พี่ๆอ่านก่อนว่าผมถามเขาจริง เลยอยากมาเคลียร์วันนี้ว่าไม่เคยขอน้องเขาขึ้นห้องแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยส่อเรื่องพวกนั้น มีแต่ชวนดูหนัง กินข้าว ตีแบต และก็ง้องแง้งๆตามประสาผมไป"

มีบางกระแสออกมาว่าที่ไลน์หลุดเป็นเพราะฝ่ายหญิงจงใจอยากจะปล่อยเอง ?
"ที่ทราบคือทางแฟนเขาไปลงเฟชบุ๊กของเขา"

ตอนนี้ยังคุยกันอยู่ไหม ?
"ไม่ได้คุยแล้วครับ ตั้งแต่วันที่มีข่าวมาผมก็ตกใจ และก็ถามว่า เห้ย อื้ม ประจานกันแบบนี้เลยหรอ (ยิ้ม) แต่ก็ไม่อะไร เราไม่โกรธใครเลย แต่ที่ต้องการสุดเลยถ้ามีปัญหาจริง แฟนเขาน่าจะมาคุยกับผมก่อนเลย แต่ผมก็ไม่อะไรนะ ก็ไม่เป็นไร ผมไม่ได้แคร์เรื่องนี้เลย ผมเลยบอกให้อ่านกันก่อนว่าเคลียร์กับน้องเขาแล้ว แต่ไม่อยากเผยแพร่ว่ารูปเขาเป็นใคร"

แสดงว่าเคลียร์เรียบร้อยแล้ว ?
"คุยแล้วๆ คุยตั้งแต่วันมีปัญหาเลยว่าเป็นยังไง จบ ผมจบดีมาก เป็นเพื่อนกัน น้องเขาก็ลงเฟชบุ๊กให้ว่าเราไม่เคยไปขอขึ้นห้องอะไรแบบนั้นเลย"

เสียใจไหม ?
"ก็เสียใจธรรมดาแต่ก็ไม่ได้อะไร ส่วนฝ่ายชายผมไม่ทราบว่าน้องเขาคุยกันยังไง แต่มั่นใจว่าไม่เคยขอขึ้นห้องจริงๆ"

เขาต้องการอยากดิสเครดิตเราหรือเปล่า ?
"ไม่เป็นไร ใครอยากทำอะไรก็ทำ ผมไม่แคร์อยู่แล้ว"

เหมือนตอนนี้ภาพลักษณ์เราจะถูกมองไปในทางที่ไม่ดี ?
"ไม่เป็นไร ผมขอโทษล่ะกันที่ทำให้ใครผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นแน็กไม่น่าเล่นไลน์นี้ ยิ่งเรื่องไลน์นี่คนมาเน้นมากว่าผมไม่เล่นไลน์ ซึ่งผมไม่เล่นไลน์จริง แต่พึ่งมามีตอนเดือนเม.ย.ให้พี่ทีมงานสมัครให้"

ตอนที่คุยคือโสดทั้งสองฝ่าย ?
"ใช่ ตอนที่คุยก็จีบ คุยๆกัน ไม่ได้จงใจแย่งใครอยู่แล้ว เราไม่รู้ แต่ก็แล้วแต่ใครจะคิด"

จะต้องระวังมากขึ้นไหม ?
"ผมเป็นคนธรรมดานะ ไม่เคยทำตัวเหมือนดารา ไม่เคยต้องมานั่งรักษาภาพพจน์ตัวเองให้ดูดี ผมเห็นคนน่ารักมากๆ ผมอยากคุยผมก็ทักเขาไป"

เข็ดกับโลกโซเชียลไหม ?
"ผมไม่เคยเล่นอะไรให้คนติดตาม ไม่มีโซเชียล ไม่มีอินสตาแกรมสักอย่าง"

จากนี้เวลาคุยกับใครจะกลัวไหมว่าจะมีการแคปบทสนทนามาอีก ?
"ผมไม่กลัวหรอก แต่ผมแค่รู้สึกน้อยใจสุดๆ ทำไมเลือกแต่อันที่แบบผมดูเหมือนโรคจิตจัง (ยิ้ม)"

รู้จักน้องเขาได้อย่างไร ?
"จากเฟชบุ๊กครับ และผมก็เป็นคนขอไลน์เขา ยังไม่เคยเจอน้องเขาเลย เป็นนักศึกษา ไม่ขอพูดอะไรเลย ขอโทษล่ะกัน"

ข้อความจะไม่มีอะไรล่อแหลมออกมาอีกใช่ไหม ?
"ไม่มีครับแน่นอน รูปหลุด เฟซทามอะไรก็ไม่มี รับประกัน"

รู้สึกยังไงที่จีบสาวครั้งแรกก็เจอแบบนี้ ?
"ปกติผมจีบแต่คนแก่ไม่เคยมีปัญหา จีบเด็กปุ๊บมีเลย ต่อจากนี้ก็เหมือนเดิมแหละ"

เราติดใจเอาความเขาไหมที่ฝ่ายชายออกมาแฉ ?
"ไม่ติดใจ แค่รู้สึกว่าผมอายจังเลย ข้อความผม ตอนนี้สติ๊กเกอร์ไลน์ผมเผาทิ้งหมดล่ะ ไม่เอาล่ะ (หัวเราะ) ไม่เลิกเล่นไลน์หรอก เพราะพึ่งเล่นเอง"

ต่อไปจะกล้าจีบสาวผ่านโซเชียลอีกไหม ?
"เอาตรงๆเลยนะ วันแรกผมหน้าชาเลย ผมอยู่ข้างนอกต้องรีบกลับบ้าน หน้าชา ตบหน้าซ้ายขวา เห้ยมันชาจริงๆนะ และไม่กล้าไปไหน อายมาก และไม่ได้ต้องการมาแก้ตัวอะไรมากมายเลย"

กลัวงานจะหดไหม ?
"ไม่ เพราะผมไม่ค่อยทำงานอยู่แล้ว (ยิ้ม) ถามเข็ดไหม ไม่เข็ด แต่ถือว่าเป็นบทเรียนที่ดีมาก คราวหน้าก็คงดูให้ดีกว่า คงเข็ดเด็กไปแป๊ปหนึ่ง (หัวเราะ)"