คุณภาพชีวิตกับการเรียนรู้จากสื่อ

เรียลิตี้โชว์“ธรรมะ”ในวัดกันบ้างไหม

จนบัดนี้ คงมีน้อยคนนักที่ไม่รู้จักกับคำว่า เรียลิตี้โชว์ เมื่อก่อนอาจจะงงว่า โชว์อะไร เอาความจริงอะไรมาโชว์กันหรือ จนวันนึงเราก็ได้รู้จักกับ อะคาเดมีแฟนเตเชีย โครงการ 1 และ 2 ก็ตามมาในปีถัดมา จนถึง บิ๊ก บราเทอร์ และอีกหลายๆรายการโชว์ที่ล้วนชวนให้คนดูเสียสตางค์ค่าโทรศัพท์ ส่งข้อความสั้นๆ หรือ SMS เชียร์คนโปรดกันอย่างเมามัน
นี่เอาอีกแล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อน ท่านผู้นำของเราขอร่วมแจมตามกระแสเรียลิตี้กับเขาบ้าง กับภาระกิจสัญจรของท่านและคาราวาน ซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่า จะมีการเผยแพร่สู่สายตาประชาชนในรูปแบบของ “เรียลิตี้โชว์แก้จน” แหม..อยากดูเหมือนกันว่า ท่านนายกจะแสดงความจริงเพื่อแก้ปัญหาความยากจนให้เราๆ ผู้น้อยได้ชมกันแบบไหน เสียดายที่ เลิกบริโภคอาหารตาผ่านสาย “สัมพันธ์” ยูบีซี มาหลายเดือนแล้ว เพราะทนระบบเหมาจ่ายรายปีไม่ไหว สงสัยคราวนี้ ต้องอาศัยเงี่ยหูฟังเพื่อนบ้านข้างห้องเสียแล้ว
แต่วันนี้ มีเรียลิตี้โชว์รายการหนึ่งมานำเสนอ ซึ่งจริงๆ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างฉงนนิดๆ ว่า มีรายการแบบนี้ในเมืองไทย ด้วยหรือ และมีแล้วหรือยัง คนที่พูดถึงรายการโชว์ที่ว่านี้ เป็นสื่อเมืองนอก ที่บังเอิญคลิ๊กเข้าไปหาข้อมูล เลยอยากจะนำมาฝาก เอาเป็นว่าขอ “เล่าสู่กันฟัง” แบบพี่เบิร์ดว่าซักวันแล้วกัน
เรียลิตี้โชว์ชุดนี้มีชื่อเรียกตามภาษาอังกฤษว่า Dhamma Reality หรือขออนุญาตเรียกเป็นภาษาไทยว่า เรียลิตี้โชว์ในวัด บทความนี้เอามาจากเว็บไซด์หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส ชื่อ //www. marianne-en-ligne.fr. ลงวันที่ 9 มกราคม 2006 ผู้เขียนคือ คารอล มาร์ติเนซ์ (Carol Martinez)
บทความนี้ตอนแรกพูดถึงรูปแบบเรียลิตี้โชว์ในเมืองไทยที่กำลังได้รับความนิยมมาก หลายๆรายการ จนถึงแนวคิดใหม่ของ “เรียลิตี้โชว์ในวัด” รายการนี้ เป็นรูปแบบที่จะแสดงการดำเนินชีวิตจริงๆในวัด ของวัยรุ่นที่เคยหลงผิดแต่คิดกลับใจอยากเป็นคนดี จำนวน 6 คน โดยพวกเขาจะต้องเป็นผู้สมัครใจที่จะเข้าไปใช้ชีวิตใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา และปฏิบัติตัวในกฎเกณฑ์ของวัดอย่างเคร่งครัด เป็นเวลา 3 เดือน
การจัดโชว์รายการนี้มีแนวคิดริเริ่มมาจากหนังสือนวนิยาย “คนอยู่วัด” ของคุณไมตรี ลิมปิชาติ จำกันได้ไหม หนังสืออ่านนอกเวลาสมัยที่เราๆ ยังเป็นเด็กประถมอยู่เลย
ผู้สมัครทั้ง 6 คนนี้ก็เหมือนกับผู้สมัครเข้าร่วมเรียลิตี้โชว์รายการอื่นๆ ที่มักต้องยอมรับกับระบบ “แพ้คัดออก” แต่ต่างกันที่ว่ารูปแบบโชว์รายการนี้ จะไม่ใช่เรื่องสัพเพเหระ กินๆ นอนๆ ให้คนดูได้เห็นภาพทุกอิริยาบถของผู้ร่วมรายการ ในสถานที่จำกัด และขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของผู้จัด ซึ่งรูปแบบเรียลิตี้โชว์แบบที่เราเคยเห็นมานั้น ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Loft Story ซึ่งนิยมจัดกันมากเช่นกันในต่างประเทศ
จุดประสงค์ของรียลิตี้โชว์ในวัดของเมืองไทยรายการนี้ คือการที่ผู้ร่วมรายการต้องเรียนรู้ เข้าใจแก่นแท้ของหลักธรรมในพุทธศาสนา วิถีปฏิบัติแห่งสงฆ์ และในที่สุดสามารถน้อมนำจิตใจตนเองเข้าสู่ความสงบ และความสุขภายใต้ข้อกำหนดในวัดได้ การจัดรูปแบบโชว์ดังกล่าวนี้ เป็นแนวคิดของพระสงฆ์ชื่อดังรูปหนึ่งในเมืองไทย พระพุทธอิสสระ
กิจวัตรประจำวันที่ผู้เข้าร่วมรายการต้องปฏิบัติคือ ตื่นนอนเวลา ตี 5 สวดมนต์ ทำสมาธิ ออกบิณฑบาตกับพระสงฆ์ และยังต้องดูแลเก็บกวาดกุฏิ และช่วยงานในครัว ทั้งหลายทั้งปวงนี้ก็เพื่อทำให้วัยรุ่นไทยปัจจุบันได้เห็นและเข้าใจแนวทางการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องและทุกขั้นทุกตอนของการปฏิบัติตนที่เหมาะสม และจะไม่มีภาพอันไม่สมควรหลุดรอดเผยแพร่ออกมาให้เป็นที่เลียนแบบได้ ซึ่งผู้จัดรายการดังกล่าวหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายการโชว์ในวัดรายการนี้ จะกระตุ้นให้วัยรุ่นสนใจหลักปฏิบัติทางพุทธศาสนามากขึ้น
เรียลิตี้โชว์ในวัดรายการนี้ ไม่มีการโหวดผู้เข้าร่วมรายการให้ออก และการโหวดจะใช้วิธีส่งข้อความ SMS โดยพิจารณาผลโหวดจากผู้ชมส่วนหนึ่ง และส่วนหนึ่งจากคณะกรรมการ ซึ่งก็รวมถึงท่านพุทธอิสสระรวมอยู่รูปหนึ่งด้วย โดยจะดูว่า ผู้ใดจะสามารถปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ 4 ข้อที่ตั้งไว้ได้ คือ การเป็นผู้ที่ตั้งมั่นอยู่ใน ความสุภาพเรียบร้อย ความซื่อสัตย์สุจริต การแสดงความเคารพแด่พระภิกษุสงฆ์ และความอดทนอดกลั้น
รายการนี้ตั้งรางวัลแก่ผู้ชนะไว้จำนวน 2000 ยูโร คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 8 – 9 หมื่นบาท ซึ่งจัดว่าเป็นเงินก้อนใหญ่พอควร นอกจากนี้ บทความดังกล่าวยังได้วิจารณ์อีกว่า “ถ้าจะเปรียบเทียบเงินรางวัลเรียลิตี้โชว์รายการนี้กับรายการอื่นๆ ก็คงไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไร ดูอย่างบางรายการซิ ผู้ชนะได้ไปตั้ง 1 ล้านยูโร กับการที่แค่ใส่ชุดนอนเดินเฉิดฉายอยู่ในบ้านและก็แหกปากร้องเพลงจนคนดูหูจะแตก ไม่เห็นได้สาระอะไรเลย” :ซึ่งอันนี้ก็ไม่รู้ว่าเจ้าของบทความนี้หมายถึงรายการในบ้านเขาหรือในบ้านเรากันแน่
จะว่าไปการจัดเรียลิตี้โชว์ในวัดตามแนวคิดของท่านพุทธอิสสระนั้น ก็ดูเป็นแนวทางที่น่าสนใจและสร้างสรรค์ดีอยู่หรอก แต่การนำมาสานต่อเป็นรูปเป็นร่างนี่ซิ ยังดูห่างไกลนัก เพราะจนบัดนี้ ไอเดียนี้ก็ยังไม่มีใครลงมือทำจริงๆจังๆสักที ก็พอจะเข้าใจหรอกว่า อะไรๆในบ้านเรามันต้องอาศัย “ปัจจัย” แต่..จะมี “บิ๊ก”สักคนไหมหนอที่จะจัดเรียลิตี้โชว์ดีๆ ที่สร้างสรรค์สังคมไทยให้เป็นจริงขึ้นมาสักรายการหนึ่ง ในฐานะคนพุทธคนหนึ่ง อยากเห็นรายการทีวีดีๆมีสาระ ให้เป็นแบบอย่างแก่ลูกหลานเราได้ชื่นชมบ้าง แหม... เรียลิตี้โชว์แก้จน ยัง(อาจ)สามารถจัดได้ภายในสัปดาห์เดียว แล้วเรียลิตี้โชว์ในวัด จะไม่สามารถจัดได้เชียวหรือ (ขอรับเจ้านาย...)




Create Date : 16 มกราคม 2549
Last Update : 16 มกราคม 2549 10:06:33 น. 7 comments
Counter : 276 Pageviews.

 
มาหมาโตมา (นอนสลึมสลือ) อ่านเรื่องเรียลิตี้โชว์ค่า

มิวว่ามันเป็นแฟชั่นมาเร็ว ดังเร็ว ไปเร็ว เหมือนรายการโทรทัศน์ทุกประเภทล่ะค่ะ ถ้าจะให้เรียลจริง คนเล่นต้องไม่รู้ว่ามีกล้องสิคะ อิอิ ...

เมื่อวานเดินผ่านทีวีเห็นรายการเรียลิตี้แก้จนของท่านทักฯ เหมือนกันค่ะ มองผ่านๆ .. ไม่ทราบเขามีการส่ง sms คัดรัฐมนตรีออกหรือเปล่าคะ



โดย: Mutation วันที่: 17 มกราคม 2549 เวลา:15:37:32 น.  

 
.....สวัสดีค่ะ มาเยี่ยม บล๊อก ค่ะ

ใช่ค่ะ Reality Show น่ะ ไม่ผิดหรอก ถ้าใช้มันให้ถูกทาง...

แต่สิ่งที่นายกทำตอนนี้ แอนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง กล้อง 40 ตัว ใช้เงินมากมาย ใช้คนมากมาย เพื่อโปรโมทตัวเองเนี่ยนะ
สงสัยคงลืมไปแล้ว ว่า "ในหลวง" พูดไว้ในวัน ที่ 4 ธ.ค. ว่าอย่างไร..........

พูดแล้วก็ของขึ้น....


โดย: แอน IP: 203.113.34.11 วันที่: 18 มกราคม 2549 เวลา:12:15:41 น.  

 
เลยกลายเป็นว่า เรากำลังถูกยัดเยียดให้บริโภคข่าวนี้ไปแล้ว เพราะขนาดไม่ได้ติดเคเบิลแล้ว ยังตามมาหลอนตามมุมเล็กๆของจอทีวี ในช่วงข่าวของแต่ละสถานี หรือไม่ก็เป็นประเด็นข่าวมารายงานกันทุกวัน จนข่าวที่น่าจะเป็นห่วงอย่างเรื่องภาคใต้ ไม่ค่อยเห็นความสำคัญกันเลย แหม อย่างนี้เห็นด้วยกับผู้ว่า นราธิวาส ที่อยากให้นายกไปจัดโชว์ที่ 3 จังหวัดภาคใต้ จริงๆ
ว่าแล้วก็ของขึ้นตามคุณแอนขึ้นมาทันที


โดย: ป้าเขียม (ป้าเขียม ) วันที่: 19 มกราคม 2549 เวลา:8:21:45 น.  

 
เห็นแล้วคันหัวใจน่ะค่ะ แล้วก้แอบน้อยใจด้วย ที่ว่า ทำไมเราไม่เคยได้ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาบ้างเลย ทำอะไรแต่ละอย่างเหมือนเด้กเล่นขายของ เด็กที่พ่อแม่เลี้ยงดูไม่เป็นซะด้วย เลย Gate ไปเยอะเลย
ลองอ่านดูแล้ว อิฉันว่า คุณ Carol กำลังกัดหรือเปล่าคะ ว่าอะไรดีๆเรามักจะไม่ค่อยสนับสนุน แต่อะไรที่มันยั่วยุศีลธรรมจรรยา กลับขายดี เอ..หรือ มนุษย์จะเป็นแบบพวกน้ำไหลลงต่ำคะ


โดย: นางกอแบกเป้ วันที่: 19 มกราคม 2549 เวลา:15:11:23 น.  

 
ป้าเขียมขา เพิ่งเห็นป้าไปโพสต์ห้อง Bonjour l'artiste

เพลงนี้มิวซื้อแผ่นเป็นชุดรวมเพลงฮิตฝรั่งเศสในอดีตค่ะ ซื้อที่เวียดนาม เมืองไทยไม่น่ามีขาย

ถ้าป้าอยากดาวน์โหลดไปฟัง อีเมล์หามิวนะคะ เดี๋ยวมิวให้ลิงค์ไปดาวน์โหลดค่ะ (ดูที่อยู่อีเมล์ที่หน้าโพรไฟล์ ที่บล็อกมิวได้ค่ะป้า)


โดย: Mutation วันที่: 23 มกราคม 2549 เวลา:13:23:50 น.  

 
สวัสดึค่ะคุณป้าเขียม

รายการที่เขาอ้างถึงเรื่องได้รางวัลถึง 1 ล้านยูโรนั้นชื่อรายการ star academyค่ะ ตอนนี้ผ่านไปแล้วถึง 5 session ถ้าป้าเขียมอยากได้นายละเอียดลองเข้าไปดูarchive ที่ tf1.fr คงจะมี


โดย: brasserie 1802 วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:2:05:19 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ
ขอบคุณมากนะคะที่แวะไปฟังเพลงที่บล็อค

มีความสุขตลอดทั้งวันค่ะ ^^



...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 31 มกราคม 2549 เวลา:8:17:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

ป้าเขียม
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ป้าเขียม's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com