เรื่องกิน เรื่องเที่ยว คือเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องราวของเราสองคน :)

ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]




ปลาหมึกน้อย กับ นายโอเลี้ยง รายงานตัวครับ
เนื่องด้วยเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน ดังนั้นก็เลยจัดการหาที่เก็บสถานที่หรือร้านอาหารที่เคยแวะเยี่ยมมาแล้ว

และเสมือนเป็น ไดอารี่ส่วนตัว ที่ทุกคนเข้าดูได้ อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาแล้วต้องการหาข้อมูลสำหรับสถานที่นั้นๆ

ขอให้สนุกกับ Blog นี้นะ

ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^

Click ข้างล่างได้เลยจ้า

click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง's blog to your web]
Links
 

 
เยือนถิ่นเมืองเพชร เขตสามพระราชวัง ดินแดนทะเลงาม และแหล่งธรรมชาติสวย

Photobucket

จังหวัดเพชรบุรี ขึ้นหัวมาอย่างนี้ทุกๆ คนคงนึกถึง ชายหาดชะอำ ทะเลยอดนิยมรองลงมาจากหัวหิน และพัทยา ใช่ไหมครับ?

หรือว่าจะเป็น เขาวัง และก็ มฤคทายวัน พระราชวังสีหวาน ที่เป็นที่รู้จักกันดีในห้อง Blue Planet

แต่วันนี้ผมมีโอกาสได้พาแม่ไปเที่ยวที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งแม่เคยไปแต่ชะอำเหมือนกัน ดังนั้นผมเลยขออาสาเป็นไกด์พาแม่เที่ยวจังหวัดเพชรบุรีแบบเต็มๆ สักครั้ง

หากจะพูดถึงชะอำแล้วผมก็เคยไปมาแล้วหลายครั้งมาก โดยเฉพาะ 3 ที่ที่ได้บอกไว้ข้างบน

ดังนั้นครั้งนี้พาแม่ไปเที่ยวทั้งที เลยจัดทริปพิเศษ พาแม่เที่ยวเมืองเพชรบุรี ไปในหลายๆ ที่ที่ผมยังไม่เคยไปบ้างดีกว่า

ก็เลยต้องหาข้อมูลค่อนข้างเยอะ

กระทู้นี้เลยขอทำเป็นกระทู้ City Review ซะเลยนะครับ เลยขอแชร์ข้อมูลที่หามาได้ มาให้เพื่อนๆ ได้ไว้ดูเป็นความรู้เล่นๆ นะครับ

Photobucket

"เขาวังคู่บ้าน ขนมหวาน เมืองพระ
เลิศล้ำศิลปะ แดนธรรมะ ทะเลงาม"


คือ คำขวัญคู่จังหวัดเพชรบุรีมาช้านาน ซึ่งจากคำขวัญนี้เป็นการรวมเอาแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนี้มาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังที่สวยงามของ 3 ราชวงศ์จักรี หรือว่าเป็นเมืองเก่าที่มีวัดที่สวยงาม และมีประวัติความเป็นมายาวนาน รวมทั้งยังมีชายหาดที่สวยงามไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว

นอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมากมายแล้วที่จังหวัดเพชรบุรียังเป็นที่รวมตัวของช่างศิลปะจำนวนมาก ที่มีมานานหลายยุคหลายสมัย ซึ่งได้สร้างสรรผลงานทางศิลวัฒนธรรมของเมืองเพชรไว้อย่างสวยงาม

การเดินทางมาที่เพชรบุรีก็ง่ายมากครับ เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ซึ่งสามารถขับรถไปเช้า - เย็นกลับ หรือจะเลือกค้างแรมซัก 1 คืน ก็จะเหมาะมากสำหรับการมาเยือนที่นี่

หากขับรถมาเองสามารถมาได้ 2 ทางคือ

1. เส้นทางนครปฐม - ราชบุรี - เพชรบุรี ใช้ ถ.บรมราชชนนี หรือถนนคู่ขนานลอยฟ้า จากเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ผ่านเขตตลิ่งชัน แยกพุทธมณฑลสาย 2 แยกพุทธมณฑลสาย 4 จนไปบรรจบกับ ถ.เพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ซึ่งตรงมาจากท่าพระ บางแค หนองแขม อ้อมน้อย จนถึง อ.นครชัยศรี จากนั้น มุ่งตรงผ่าน นครปฐม ราชบุรี และเข้าสู่ เพชรบุรี รวมระยะทาง จนถึงตัวเมืองเพชรบุรี ประมาณ 166 กม.

หรือ จะเลือกอีกเส้นทาง ซึ่งผมใช้เส้นทางนี้เป็นประจำเนื่องจากเดินทางสะดวกที่สุดคือ

2. เส้นทางสมุทรสาคร - สมุทรสงคราม - เพชรบุรี ใช้ ถ.พระราม 2 (ทางหลวงหมายเลข 35) โดยขึ้นทางด่วนข้ามสะพานพระราม 9 มุ่งสู่ดาวคะนอง แล้วเลือกไปทาง สมุทรสาคร สมุทรสงคราม จนบรรจบกับ ถนนเพชรเกษม ที่บริเวณแยกวังมะนาว เข้าสู่ เพชรบุรี รวมระยะทาง จนถึงตัวเมืองเพชรบุรี ประมาณ 121 กม.

หรือจะเดินทางโดยรถประจำทางเช่นรถไฟ จากหัวลำโพง หรือรถทัวร์ที่สายใต้ใหม่ (ถนนบรมราชชนนี)

หรือที่สะดวกอย่างมากในปัจจุบันคือ รถตู้โดยสาร ที่วิ่งร่วมกับ บขส. โดยสามารถขึ้นได้ที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีหลายเจ้าให้เลือกใช้บริการ ตามลิงค์ด้านล่างเลยครับ ^^

//www.rottourthai.com/showthread.php?t=2491

ขอบคุณแผนที่จาก //www.thai-tour.com ด้วยครับ

Photobucket

ครั้งนี้ตั้งใจพาแม่มาเที่ยวทั้งที เลยขอเน้นพาไปวัดไปวาเยอะหน่อยครับในทริปนี้ เพราะเท่าที่รู้มาจังหวัดเพชรบุรีมีวัดดังๆ มากมาย โดยที่ผมก็ยังไม่เคยไปสักครั้ง ครั้งนี้เลยถือโอกาสไปไหว้พระทำบุญด้วยเลยครับ

โดยที่แรกที่จะพาไป อยู่ใน อ.เขาย้อย ซึ่งอยู่บนถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ได้ ซึ่งใน อ.เขาย้อย นี้มีวัดที่เคยได้ยินชื่อมานานแล้ว ก็คือ วัดกุฎิ ตั้งอยู่ที่ ต.บางเค็ม

เลยจากแยกวังมะนาวมาไม่ไกลเท่าไร ประมาณ 4 กม. จะมีทางเข้าอยู่ริมถนนเพชรเกษม หรือก่อนถึงที่ว่าการอำเภอเขาย้อยประมาณ 6 กม. เข้าไปทางป้ายวัดประมาณ 1 กม. ก็จะเจอกับวัดกุฏิ ซึ่งหาได้ไม่ยาก

ที่วัดแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอเขาย้อย นอกจากถ้ำเขาย้อยแล้ว เนื่องจากมีอุโบสถที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง

Photobucket

ฝาไม้สักแกะสลักโดยรอบโบสถ์แห่งนี้ประดับติดต่อกันโดยรอบ แกะสลักลวดลายไว้อย่างสวยงามมากๆ

Photobucket

ลวดลายส่วนใหญ่จะป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชาดกและทศชาติ

Photobucket

แต่ว่ายังมีฝาหุ้มกลองด้านหลังโบสถ์เป็นนิยายจีนเรื่องไซอิ๋ว ซึ่งมีรูปสลักพระถังซำจั๋ง เห้งเจีย ตือโป๊ยก่าย และ ซัวเจ๋ง ด้วย เนื่องจากว่าผู้ออกแบบและแกะสลักภาพนี้เป็นคนจีน และคงเห็นว่าการอัญเชิญพระไตรปิฎกจากชมพูทวีปมีความสำคัญจึงให้การยกย่องไว้ร่วมกับชาดกอื่นๆ

Photobucket

หลังจากผ่าน อ.เขาย้อย ก็มุ่งหน้าไปยังตัวเมืองเพชรบุรีกันครับ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย

เอาแผนที่ในเมืองเพชรบุรีมาแปะให้ดูครับ เผื่อใครสนใจ

ขอบคุณแผนที่ จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ครับ ^^

Photobucket

มาถึงเมืองเพชรบุรีทั้งที เลยพาแม่ไปศักการะ ศาลหลักเมือง ซึ่งแต่ก่อนผ่านไปผ่านมา ไม่เคยแวะไปซักที

ครั้งนี้เลยขอแวะกราบเพื่อเป็นศิริมงคลซะหน่อย

Photobucket

ศาลหลักเมืองเพชรบุรี ตั้งอยู่บริเวณสามแยกเชิงเขาวัง หรือ อยู่ตรงข้ามกับทางที่ใช้เดินขึ้นเขาวังครับ ศาลหลักเมืองแห่งนี้กรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบและสร้างขึ้นเมื่อปี 2519 โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จมาทรงพระสุหร่ายและทรงเจิมยอดเสาหลักเมืองเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2520

Photobucket

หลังจากกราบขอพรศาลหลักเมืองเพื่อความเป็นศิริมงคลแล้ว ก็ออกเดินทางต่อไปยังที่หมายต่อไปคือ ถ้ำเขาหลวง
ซึ่งอยู่ในตำบลธงชัย ห่างจากเขาวังประมาณ 5 กม.

Photobucket

ถ้ำแห่งนี้สร้างอยู่บนเนินเขาขนาดเล็ก มียอดสูงเพียง 92 เมตร ดังนั้นการเดินทางขึ้นไป จึงไม่ลำบากนัก ทางขึ้นนั้นลาดชันไม่มากนัก สามารถใช้รถหรือเดินขึ้นไปก็ได้ วัดถ้ำแห่งนี้มีอายุได้ราวร้อยปีเท่านั้น สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

Photobucket

ภายในถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้บูชา

Photobucket

และมีพระพุทธไสยาสน์ขนาด 6 ม. รวมทั้งพระพุทธรูปเก่าแก่มากมายประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำแห่งนี้

Photobucket

จุดเด่นที่สำคัญของถ้ำเขาหลวงก็คือ แสงที่ลอดผ่านช่องด้านบนถ้ำนั้น จะมีลำแสงที่สาดลงมาอย่างสวยงาม และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปแนะนำให้ไปช่วงประมาณ 11 โมง แสงจะสาดเข้ามาสวยงามที่สุด

Photobucket

นอกจากความสวยงามภายในถ้ำแล้ว เขาหลวงยังเป็นสถานที่ที่มีลิงอยู่มากมาย ดังนั้นพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นจึงถือโอกาสใช้เป็นที่ให้อาหารลิงสำหรับนักท่องเที่ยว

ซึ่งมีอาหารขายถุงละ 20 บาท สามารถให้อาหารลิงที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ ซึ่งมีจำนวนมากมาย ลิงที่นี่ไม่ดุร้ายมากนัก หากนักท่องเที่ยวไม่ไปแกล้งเค้าก่อน

แต่ผู้ที่กลัวลิงแนะนำให้อยู่ใกล้คนรู้ใจที่สุดครับ จะได้ช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย อิอิ

ปล.ที่นี่มีเก็บค่าดูแลที่จอดรถคันละ 10 บาท ซึ่งจะมีคนดูแลไม่ให้ลิงเข้ามาวุ่นวายกับรถ

Photobucket

หลังจากไปชมความสวยงามในถ้ำแล้ว ก็ชวนแม่ไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในตัวเมืองเพชรบุรี นั่นก็คือ "อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี" หรือ ที่ชาวบ้านเรียกกันสั้นๆ ว่า "เขาวัง"

การขึ้นไปยังด้านบนของเขาวังนั้นสามารถเดินขึ้นไปได้ ซึ่งทางเดินขึ้นจะอยู่ตรงฝั่งศาลหลักเมือง

หรือ จะเลิอกขึ้นไปโดยรถรางไฟฟ้า ซึ่งทุกครั้งผมก็ขึ้นรถรางไฟฟ้าครับ เพราะสะดวกแล้วก็ไม่เมื่อยด้วย อิอิ

ค่าบริการรถรางไฟฟ้านั้น ผู้ใหญ่ 40 บาท ส่วนเด็ก 15 บาท ราคารวมขึ้น - ลง เรียบร้อยแล้ว และที่สำคัญราคาเดียวกันทั้งคนไทย และต่างชาติ

Photobucket

เขาวัง เป็นโบราณสถานเก่าแก่คู่เมืองเพชรบุรีมานาน ตั้งอยู่บนยอดเขา 3 ยอด ยอดที่สูงที่สุดสูง 95 เมตร ซึ่งเดิมชาวบ้านเรียกภูเขาแห่งนี้ว่า "เขาสมน"

ด้วยความสูงของยอดเขาแห่งนี้ จึงเหมาะสำหรับเป็นจุดชมวิวในตัวเมืองเพชรบุรีได้เป็นอย่างดี

Photobucket

พระนครคีรีเป็นที่ประทับในฤดูร้อน ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงพอพระราชหฤทัยที่จะสร้างพระราชวังสำหรับเสด็จแปรพระราชฐานขึ้นบนยอดเขาแห่งนี้ โดยโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นแม่กองก่อสร้าง จนแล้วเสร็จเมือปี 2403

จุดแรกที่ควรไปทำความรู้จักคือ "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี"

ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือ พระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ ซึ่งเป็นพระที่นั่งองค์ใหญ่ที่สุด ภายในจัดแสดงเครื่องราชูปโภค และ พระที่นั่งปราโมทย์มไหสวรรย์ เป็นที่ประดิษฐานพระแท่นบรรทมในรัชกาลที่ 4 และ 5

ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คนละ 20 บาท ซึ่งข้างในมีความสวยงามมาก แต่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพนิ่ง และ ภาพเคลื่อนไหวด้านในพิพิธภัณฑ์

ปล. สนใจข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

//www.thailandmuseum.com/pranakhonkiri/collection.htm

Photobucket

หลังจากนั้นก็เดินไปยัง พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท

Photobucket

Photobucket

แล้วก็เดินต่อมายังพระที่นั่งราชธรรมสภา ซึ่งสร้างด้วยศิลปะแบบผสมระหว่าง ไทย จีน และตะวันตก

คือมีรูปทรงอาคารคล้ายเก๋งจีน แต่ตกแต่งแบบไทยและตะวันตก

Photobucket

ใกล้กันก็มี หอชัชวาลเวียงชัย เป็นหอทรงกลม สูงสองชั้น หลังคาโค้ง เป็นจุดชมวิวอย่างดีเลยครับ

Photobucket

Photobucket

จากจุดนี้สามารถมองเห็น วัดพระแก้ว ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาทางทิศตะวันออก ได้อย่างชัดเจน

สร้างขึ้นเป็นวัดในเขตพระราชฐานเช่นเดียวกับวัดพระแก้วในพระบรมมหาราชวัง ครับ

Photobucket

สถานที่สวยงามแบบนี้ทำให้นักท่องเที่ยวมีความสุขทุกครั้งที่ได้มาเยือน

ไม่เชื่อลองถาม 2 หนุ่ม นี้ดูสิครับ

Photobucket

ที่เขาวังแห่งนี้ มีลิงมากเหมือนที่ถ้ำเขาหลวง แต่เห็นหน้าตาซื่อๆ แบบนี้

Photobucket

อย่าไว้ใจเชียวนะครับ ถ้ามีอาหารในมือ หรือของที่เค้าสามารถแย่งได้เนี่ย

จะเป็นผลอย่างนี้ครับ

คือผมเห็นน้องๆ 3 คนนั่งรอเจ้าลิงตัวนี้คืนเสื้อคลุมให้พวกเค้าอยู่ แต่ไม่รู้ผลจะเป็นอย่างไร อ่ะ

แนะนำให้ระมัดระวังสักเล็กน้อยนะครับ

Photobucket

หลังเดินเล่นชมความสวยงามบนเขาวังจนเหนื่อย ก็นั่งรถรางลงมาที่รถ โดยใช้ตั๋วที่ซื้อตอนขึ้นมาครับ

แต่ถ้าใครเดินขึ้นมาก็สามารถซื้อตั๋วเฉพาะขาลงได้เช่นกันนะครับ จะได้ไม่เหนื่อยมาก อิอิ

ลงมาแล้วก็ขับรถไปรอบๆ เขาวัง เพราะใกล้ๆ จะมีวัดดังๆ อยู่มากมาย

วัดแรกที่จะพาไปคือ

"วัดพุทธไสยาสน์" หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า "วัดพระนอน"

วัดพระนอนตั้งอยู่เชิงเขาวังด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ บนถนนคีรีรัฐยา ไม่ไกลจากศาลหลักเมือง

เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยา ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่มีลักษณะงดงามและมีขนาดใหญ่

สร้างด้วยอิฐตลอดทั้งองค์และลงรักปิดทอง เป็นฝีมือของช่างสมัยอยุธยา

Photobucket

Photobucket

พระพุทธไสยาสน์ มีความยาวถึง 21 วา 3 ศอก หรือประมาณ 43 ม. ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสี่พระนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย

Photobucket

Photobucket

ด้านข้างโบสถ์พระนอน ยังมีพระพุทธฉาย ที่สวยงามอยู่

Photobucket

Photobucket

นอกจากนี้ภายในโบสถ์ของวัดพระนอนยังประดิษฐาน พระพุทธรูปยิ้ม ซึ่งเป็นพระประธานของโบสถ์แห่งนี้ ไว้ให้สาธุชนได้กราบไหว้บูชา

Photobucket

Photobucket

เสร็จแล้วก็ขับรถต่อมาอีกเล็กน้อย ก็จะพบกับ "วัดมหาธาตุวรวิหาร"

หรือที่ชาวบ้านเรียกสั้นๆ ว่าวัดมหาธาตุ

ตามที่โบราณเค้าถือว่า เมืองใดที่มีวัดมหาธาตุ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน ของพระบรมสารีริกธาตุ ถือว่าเป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญ

วัดมหาธาตุจึงเป็นวัดที่สำคัญที่อยู่ใจกลางเมือง วัดนี้ก็เช่นกันอยู่กลางเมืองเพชรบุรี

Photobucket

วัดมหาธาตุวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร

มีผู้สันนิษฐานว่าน่าจะสร้าง สมัยทวารวดี - สุโขทัย มีอายุราว 800 - 1,000 ปี โดยประมาณ

เนื่องจากขุดพบซากอิฐสมัยทวารวดีอยู่เป็นจำนวนมาก

Photobucket

นอกจากนี้ ยังมีพระปรางค์ 5 ยอด เป็นสัญลักษณ์ สูงตระหง่านในเขตพุทธาวาส สามารถมองเห็นได้แต่ไกลทั้ง 4 ทิศ ซึ่งมีความสวยงามอย่างมาก

รวมทั้งเป็นที่รวบรวมช่างฝีมือเมืองเพชรที่มาซ่อมแซมวัดแห่งนี้

Photobucket

Photobucket

ภายในโบสถ์ ประดิษฐานพระพุทธรปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมือง เพชรบุรีถึงสามองค์ คือ หลวงพ่อมหาธาตุ หลวงพ่อบ้านแหลม และหลวงพ่อเขาตะเครา

Photobucket

นอกจากนี้ยังมีความสวยงามของลวดลายภายในโบสถ์ ของช่างฝีมือเก่าแก่ของเมืองเพชร

Photobucket

เบื่อวัดกันหรือยังเอ่ย

จะขอพาไปอีกวัดนึงครับ เป็นวัดที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งอีกแห่งหนึ่งของ จังหวัดเพชรบุรี

นั่นก็คือ "วัดใหญ่สุวรรณาราม" หรือที่ชาวเมืองเพชร เรียกกันสั้นๆ ว่า "วัดใหญ่"

Photobucket

Photobucket

Photobucket

วัดใหญ่สุวรรณาราม จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร อยู่ที่ ต.ท่าราบ อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 1 กิโลเมตร

Photobucket

วัดแห่งนี้สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

พระอาจารย์ท่านได้บอกว่า วัดแห่งนี้ใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "สุริโยทัย" ด้วยนะครับ เพราะเป็นวัดที่มีความสวยงาม และมีกลิ่นอายของอยุธยาเป็นอย่างยิ่ง

Photobucket

Photobucket

ภายในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานของะนธารราษฎร์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงอัญเชิญมาจาก กทม.

นอกจากนี้ด้านหน้าพระประธานยังมีพระรูปหล่อพระสังฆราชแตงโมประดิษฐานอยู่และมีบาตร ที่ทรงเคยใช้เก็บอยู่ตู้ข้างๆ ด้วย

ประวัติของพระสังฆราชแตงโม อ่านได้ตามลิ้งค์ข้างล่างนะครับ ^^

//www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-tangmo.htm

Photobucket

ภายในโบสถ์ยังมีภาพจิตรกรรม ที่เขียนในสมัยอยุธยา ปัจจุบันยังอยู่ในสภาพดี ซึ่งยังไม่เคยได้รับการซ่อมแซมเลย

ซึ่งเขียนเป็นรูปเทพชุมนุมเรียงซ้อนกัน 5 ชั้น

Photobucket

ด้านหลังพระประธานคือ พระพุทธรูปขนาด 6 นิ้ว ซึ่งเป็นพระประธานองค์เดิม ของที่นี่ครับ

Photobucket

ด้านนอกยังมีศาลาการเปรียญ ซึ่งเป็นไม้สักทั้งหลัง ที่พระเจ้าเสือแห่งกรุงศรีอยุธยา พระราชทานแด่พระสังฆราชแตงโมในคราวที่ถวายพระพรลาจาก กรุงศรีฯ กลับมาอยู่ที่วัดใหญ่แห่งนี้ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่านเอง

Photobucket

รวมทั้งยังมีหอระฆังเก่าแก่ที่ยังคงมีความสวยงามอยู่เช่นกัน

Photobucket

วัดสุดท้ายที่จะพาไปชม เป็นวัดที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าที่ เพชรบุรี จะมีวัดแห่งนี้

นั่นก็คือ "วัดกำแพงแลง" หรือ วัดเทพปราสาทศิลาแลง

วัดกำแพงแลง อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 2 กม. วัดนี้เดิมเป็นเทวสถานในสมัยขอม สร้างตามลัทธิศาสนาพราหมณ์

ต่อมาเมื่ออิทธิพลของศาสนาพุทธได้แผ่ขยายเข้ามาในบริเวณนั้น จึงได้ดัดแปลงเทวสถานแห่งนี้เป็นศาสนสถานในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน และหินยาน ตามลำดับ

เทวสถานที่สร้างขึ้น เดิมมีปรางค์ 5 หลัง ทำด้วยศิลาแลง ปัจจุบันเหลือเพียง 4 หลัง

Photobucket

Photobucket

ปราสาทวัดกำแพงแลงมีผังพื้นล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หันหน้าไปทางทิศตะวันออก

ภายในกำแพงศิลาแลงเป็นที่ตั้งของปราสาทศิลาแลงแบบศิลปะเขมรทั้งหมด 4 องค์ ปราสาท 3 องค์ทางด้านหน้าวางตัวเรียงกันในแนวเหนือ-ใต้

โดยปราสาทประธานมีขนาดสูงใหญ่กว่าอีก 2 องค์ ส่วนปราสาทองค์ที่ 4 ตั้งอยู่ด้านหลังของปราสาทประธานด้านทิศตะวันออก และมีโคปุระ (ซุ้มประตูทางเข้า) 1 หลังที่มียอดเป็นปราสาท

ภายในกำแพงศิลาแลงยังพบสระน้ำอยู่ชิดขอบกำแพงทางทิศตะวันออกด้วย

Photobucket

ภายในปราสาทประดิษฐานพระพุทธโบราณไว้ทุกหลัง

เช่นเดียวกับ หลวงพ่อเพชร องค์นี้

Photobucket

Photobucket

รวมทั้งหลวงพ่อนิล ด้วยครับ

Photobucket

Photobucket

ขอพาออกจากวัด เพื่อไปยัง พระราชวังแห่งที่ 2 ของจังหวัดเพชรบุรีครับ

ซึ่งยังคงอยู่ในตัวเมืองเพชรบุรี

นั่นก็คือ พระรามราชนิเวศน์ หรือที่ชาวเมืองเพชรเรียกว่า พระราชวังบ้านปีน เนื่องจากตั้งอยู่ใน ต.บ้านปืน

พระราชวังแห่งนี้อยู่ปลายถนนดำเนินเกษม ตัดกับ ถนนดำรงรักษ์ หากมาจากตัวเมืองจะมีป้ายบอกทางตลอดครับ

Photobucket

พระราชวังแห่งนี้ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น.

หากเข้าไปด้านในพระราชวัง มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ไม่แพงเลยครับ

Photobucket

Photobucket

พระราชวังแห่งนี้ เป็นพระราชวังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อเสด็จประพาสจังหวัดเพชรบุรี

โดยมีพระประสงค์จะให้เป็นพระราชวังที่ใช้ประทับยามหน้าฝน และมีพระบัญชาให้ คาร์ล ซีกฟรีด เดอห์ริง (Karl Siegfried Dohring) ผู้เคยออกแบบ วังบางขุนพรหม วังวรดิศ และวังพระองค์เจ้าดิลกนพรัฐมาแล้ว เป็นสถาปนิกออกแบบ

Photobucket

พระตำหนักได้ใช้ลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบบาโรค (Baroque) และแบบอาร์ต นูโว (Art Nouveau) หรือที่เยอรมันเรียกว่าจุงเกนสติล(Jugendstil)

ตัวพระตำหนักจะเน้นความทันสมัยโดยจะไม่มีลายปูนปั้นวิจิตรพิศดารเหมือนอาคารในสมัยเดียวกัน

ปล. ภายในอาคารห้ามบันทึกภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวนะจ๊ะ

Photobucket

มุมนี้ถ่ายจากระเบียงชั้น 2 ของพระราชวัง ลงมายังลานด้านหน้า

Photobucket

Photobucket

Photobucket

การก่อสร้างพระที่นั่งแห่งนี้ มาสำเร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2461

และพระราชทานนามว่า “พระที่นั่งศรเพ็ชรปราสาท” และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนนาม "พระราชวังบ้านปืน" โดยพระราชทานนามพระราชวังใหม่ว่า “พระรามราชนิเวศน์

Photobucket

หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจภายในตัวเมืองเพชรบุรีแล้ว ก็ขอมุ่งหน้าไปยัง อ.ชะอำ ซึ่งเป็นจุดหมายที่จะไปพักค้างคืนที่นั่นครับ

โดยสามารถขับรถออกมายัง ถนนเพชรเกษม เพื่อมุ่งหน้าไปยัง ชะอำ ได้

หรือเลือกที่จะขับรถเลียบไปตามชายหาด เพื่อชื่นชมธรรมชาติ 2 ข้างทาง

ซึ่งผมก็เลือกขับรถเลียบทางชายหาดเจ้าสำราญ ไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้ให้แม่ได้ชื่นชมธรรมชาติได้อย่างสบายตา ซึ่งหาดปึกเตียนจะอยู่ห่างจากหาดเจ้าสำราญประมาณ 8 กม.

ซึ่งถนนแห่งนี้จะผ่านชายหาดที่สำคัญอีกแห่งคือ หาดปึกเตียน ซึ่งเป็นที่ตั้งของรูปปั้นพระอภัยมณี นางผีเสื้อสมุทร สุดสาครและม้ามังกร ศาลเจ้าแม่กวนอิมและเกาะเต่า

นอกจากนั้นยังมีที่พัก ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกมากมายครับ

หาดแห่งนี้สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกันครับ

Photobucket

หลังจากแวะที่หาดปึกเตียน ก็ขับรถเลียบชายหาดไปเรื่อยๆ โดยจะมีป้ายบอกทางไปยัง อ.ชะอำเป็นระยะๆ

ซึ่งผมตั้งใจจะพาแม่ไปทานอาหารทะเลแถวสะพานปลาที่ชะอำกันครับ

ขับมาได้ไม่นานก็ถึงชะอำ โดยร้านที่จะพาไป เป็นร้านที่พี่ที่ทำงานเค้าแนะนำ เพราะอยู่ติดทะเล วิวสวย และอาหารก็ไม่แพงมากนัก

ร้านที่จะพาไปทานอาหารทะเลในครั้งนี้ ชื่อร้าน "ครัวเม็ดทราย" ครับ

Photobucket

บรรยากาศในร้านชิลๆ มากครับ เพราะอยู่ริมทะเล และวันที่ไปอากาศเย็นกำลังดี ไม่มีแดดเลย (เซ็งตรงที่ไม่มีแดดนี่แหละครับ ถ่ายรูปมาฟ้าเน่าตลอด T_T)

กว่าจะไปถึงร้านก็บ่าย 2 กว่าแล้วครับ คนในร้านจึงไม่เยอะเท่าไร เลือกที่นั่งได้ตามใจชอบเลย

Photobucket

มาทะเลเหนื่อยๆ ก็สั่งต้มยำทะเลน้ำข้น มาซดให้ชื่นใจครับ

รสชาตจัดจ้านดี ใช้ได้เลยครับ

ชามนี้ราคา 180 บาท ครับ

Photobucket

ต่อด้วยกั้งทอดกระเทียม เมนูแนะนำของที่นี่

มากันแค่ 2 คน ขอสั่งแค่ครึ่งโล ก็พอนะครับ

จานนี้ก็สนนราคา 240 บาท (กิโลละ 500 บาท ครับ)

Photobucket

Photobucket

สุดท้าย ไม่พลาดสำหรับ ปูทะเลเผา สั่งมาครึ่งโล ได้มา 1 ตัวพอดีครับ

ปูทะเลเผาร้านนี้ กิโลละ 700 บาท จานนี้ไม่น่าเชื่อว่าครึ่งโลพอดี เค้าคิด 350 บาท ครับ (แต่คิดในใจว่าไม่น่าจะถึงครึ่งโลนะเนี่ย)

จากนั้นก็สั่งข้าวเปล่าร้อนๆ มาทานกัน 2 คนแม่ลูก ครับ อิ่มหนำสำราญกันไปเลย

Photobucket

หลังจากจัดการกับมื้อกลางวันเรียบร้อยแล้ว ก็จัดการเดินทางไปยังที่พักที่จองไว้ล่วงหน้าแล้ว

ที่พักที่ชายหาดชะอำ มีหลายราคา ตั้งแต่บังกะโล ราคาหลักร้อย ไปจนถึงโรงแรม 5 ดาว ราคาหลักพันถึงหลักหมื่น ก็มีให้เลือกตามความต้องการของแต่ละคน

แต่ครั้งนี้นานๆ จะพาแม่มาเที่ยวทะเลสักที เลยขอพาแม่ไปพักที่ดีๆ หน่อยนะครับ โรงแรมนี้ผ่านมาตั้งหลายครั้ง และพี่ที่ทำงานเคยมาพัก เลยขอมาพักที่นี่บ้าง

Photobucket

ภาพ Lobby ตอนกลางคืนครับ โรงแรมนี้อยู่บนชายหาดชะอำ เดินทางสะดวก และก็ติดหาดซึ่งมีเพียงถนนเส้นเล็กๆ กั้นเท่านั้นเองครับ

Photobucket

ห้องที่เข้าพัก เป็นห้อง SUITE@POOL เป็นห้องขนาด 54 ตร.เมตร

Photobucket

ที่ธารามันตราแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทีเดียว

มีสระว่ายน้ำ 3 สระ แบ่งเป็นสระที่อยู่ที่ชั้น 1 ชั้น 2 และชั้นที่ 3 ครับ

Photobucket

หลังจากเที่ยวกันมาทั้งวัน ก็ได้พาคุณแม่พักผ่อนในโรงแรมทั้งวัน และพาไปเดินเล่นที่ชายหาดชะอำด้วยครับ ดูท่าทางท่านมีความสุขมากๆ

Photobucket

ในตอนเช้าตั้งใจมาเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นอย่างเต็มที่

แต่เสียดายมากๆ ที่ท้องฟ้าปิดหมดเลย ทำให้ไม่เห็นแม้แต่เสี้ยวของไข่แดงเลยครับ

Photobucket

ในยามเช้าแบบนี้ น้ำลงค่อนข้างมาก ทำให้สามารถเดินเล่นริมหาดได้อย่างเต็มที่

Photobucket

ต้นสนทะเล ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของหาดชะอำไปแล้ว

Photobucket

ที่หาดแห่งนี้มีเตียงผ้าใบให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งหลาย แต่ก็ไม่เยอะเท่ากับที่บางแสน ซึ่งทำให้ดูสบายตากว่ามากๆ

Photobucket

ชายหาดชะอำเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของ เพชรบุรี

เนื่องจากมีหาดทรายที่ขาวสะอาด และมีชายฝั่งที่ยาว สามารถเล่นน้ำได้อย่างเต็มที่

Photobucket

เรือกล้วย หรือ banana boat ยังเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความสนใจอยู่ตลอดเวลา

Photobucket

ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีคนใช้บริการอยู่หลายรายเลยครับ

Photobucket

นอกจากนี้ยังมีคนเลี้ยงม้า ไว้บริการให้นักท่องเที่ยวขี่เล่นริมหาด หรือเพื่อไว้ถ่ายรูป

Photobucket

หลังจากพักผ่อนที่ชายหาดชะอำอย่างเต็มที่แล้ว วันที่ 2 ผมก็พาแม่ไปเที่ยวชมพระราชวังแห่งที่ 3 ของ เพชรบุรี ซึ่งเป็นพระราชวังที่มีคนนิยมไปเที่ยวชมมากที่สุด

นั่นก็คือ "พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน"

Photobucket

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเพชรบุรี เป็นพระราชวังสร้างในสมัยร.6

ตั้งอยู่ในบริเวณค่ายพระรามหก ริมถนนเพชรเกษม เลยไปยังทางที่จะไปหัวหิน

ก่อนเข้าเยี่ยมชมพระราชวัง คนที่พกกล้องใหญ่อย่างผม ต้องมีการลงทะเบียนกล้องก่อนจึงจะเข้าชมด้านในได้ครับ

Photobucket

การเข้าชมในบริเวณ จะเสียค่าเข้าชม ผู้ใหญ่คนละ 30 บาท เด็ก 15 บาท

โดยจะเดินเข้าไป หรือ เช่ารถจักรยาน ของทางค่ายพระรามหก ได้ โดยมีให้เลือกหลายแบบทั้งขี่คนเดียว ราคา 20 บาท/คัน

หรือมีคนซ้อนท้าย 30 บาท/คัน

และมีจักรยานที่สามารถขี่พร้อมกันได้ 2 - 3 คนไว้ให้บริการด้วยครับ

Photobucket

ผมเคยมาที่นี่บ่อยมาก มาได้ทุกปี และก็มีการเปลี่ยนแปลงการให้บริการตลอด

ล่าสุดนี้มีการแบ่งการเข้าชมสำหรับด้านบนพระราชวัง จะแบ่งเป็นรอบ เข้าชมได้รอบละ 30 นาที

แต่ด้านล่างสามารถเข้าชมได้ตลอดเวลา โดยจะมีแผนผังของพระราชวังแห่งนี้ให้ไว้ศึกษาด้วย

Photobucket

พระราชนิเวศน์มฤคทายวันเป็นหมู่อาคารที่วางเรียงกันตามความยาวของชายหาด

แบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่ประทับทางทิศใต้ และส่วนที่อยู่ของข้าราชบริพารทางทิศเหนือ

ส่วนที่ประทับนั้น มีรั้วล้อมสามด้าน ภายในมีพระที่นั่งสามหมู่ คือ พระที่นั่งสมุทรพิมาน เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระที่นั่งพิศาลสาคร เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรชายา

และพระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ เป็นท้องพระโรงและโรงละคร

Photobucket

ที่สำคัญการเข้าชมที่นี่จะต้องแต่งกายอย่างสุภาพ ห้ามนุ่งสั้นเกินกว่าเข่า ซึ่งทางพระราชวังจะมีผ้านุ่งสำหรับผู้ที่แต่งกายไม่สุภาพให้สวมใส่ก่อนเข้าชมภายใน

Photobucket

บรรยากาศภายในร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนเป็นที่สุด

Photobucket

Photobucket

ในบริเวณเดียวกันนี้ บ้านเจ้าพระยารามราฆพ ซึ่งเป็นอาคารโครงสร้างคอนกรีตผสมไม้ อยู่นอกรั้วส่วนที่ประทับไปทางทิศเหนือ มีแนวถนนเลียบไปตามแนวชายหาด

ความจริงแล้วในวันที่ 2 นี้ผมพาแม่ไปเที่ยววัดในเมือง ซึ่งได้พูดถึงไปแล้วข้างต้น เพราะผมจัดให้มันอยู่ในลำดับที่เป็นที่เที่ยวในตัวเมืองเพชรบุรี

จึงดูเหมือนว่าวันที่ 2 นั้นเที่ยวไม่เยอะมากนัก

แต่ทริปนี้เป็นทริปที่ทำให้ผมรู้จัก จังหวัดเพชรบุรีขึ้นอีกเยอะมากๆ

ทริปนี้ทำให้ผมต้องหาข้อมูลค่อนข้างมาก เพราะอยากพาคุณแม่ไปเที่ยวให้ได้มากที่สุดครับ

ซึ่งดูแล้วคุณแม่คงมีความสุขมากๆ ผมสัญญากับตัวเองว่าจะต้องพาท่านไปเที่ยวให้มากกว่าที่ผ่านมา เพราะว่าไม่รู้ท่านจะไปเที่ยวได้อีกนานแค่ไหน หากมีเวลาอยากพาท่านไปให้ได้มากที่สุดเลยครับ

สุดท้ายต้องขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาทักทายกันตลอด

หวังว่ากระทู้นี้คงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคนที่เข้ามาดูบ้างนะครับ

ซึ่งผมต้องขอบคุณข้อมูลจาก

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

//thai.tourismthailand.org/where-to-go/cities-guide/destination/phetchaburi

มูลนิธิวิกิมีเดีย สำหรับข้อมูลต่างๆ

//th.wikipedia.org/

และหากคนที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่

ททท. สำนักงานเพชรบุรี โทร. 032-471005-6

ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. 032-428047


Create Date : 07 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2553 21:48:21 น. 2 comments
Counter : 10358 Pageviews.

 
nice ka


โดย: penguin IP: 182.53.38.23 วันที่: 22 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:45:50 น.  

 
คุณ penguin ขอบคุณครับ


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 28 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:41:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.