ตร.ภาค7รวบพ่อค้ายาบ้าพยายามติดสินบน ตร.ภาค7รวบพ่อค้ายาบ้าพยายามติดสินบน สนับสนุนเนื้อหา ตำรวจ ภาค7 ขยายผลรวบพ่อค้ายาบ้า เผยผู้ต้องหาพยายามติดสินบน   พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สส.บก.ภ.7 ร่วมกันจับกุม นายวิชาญ จิตเจนสุวรรณ อายุ 50 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัล สาขาบ้านโป่ง จ.จังหวัดราชบุรี พร้อมของกลาง เงินสด 1,000,000 บาท เงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ผู้ต้องหานำมาติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อไม่ให้จับกุม น ส.ศิวพร จิตเจนสุวรรณ ผู้ต้องหาที่โดนคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครอง จากเหตุการณ์กรณี เมื่อวันที่ 19 ม ค. 60 เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าตำรวจที่ชุดดังกล่าวได้ทำการล่อซื้อ จับกุม นายวรพจน์ หรือ โต้ง ฮะคำดี อายุ 33 ปี ชาวจ.กาญจนบุรี และ ส น.ศิวพร หรือ อีฟ จิตเจนสุวรรณ อายุ 26 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลาง และได้ขยายผลได้ทั้งอาวุธปืนผู้ต้องหาอีกหลายราย และยาบ้า จำนวน 4,000 เม็ด ในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย หลังโดนจับ น ส.ศิวพร จิตเจนสุวรรณ ได้ขอเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้โทรศัพย์ โทรหานายวิชาญ ซึ่งนายวิชาญได้บอกกับ น ส. ศิวพร ไห้ เสนอเงิน 1,000,000 บาท ให้กับเจ้าที่หน้าตำรวจเพื่อการแรกกับอิสรภาพของตัวเอง ทางเจ้าที่หน้าตำรวจจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และผู้บังคับบัญชา ได้สั่งการให้จับกุมผู้ร่วมกระทำผิดทุกคน ต่อมา เจ้าหน้าตำรวจชุดดังกล่าวได้วางแผน นัดหมายมอบเงินที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัล สาขาบ้านโป่ง และได้จับกุม นาย วิชาญ จิตเจนสุวรรณ พร้อมของกลางเงินสดหนึ่งล้านบาท ในข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำตัวส่งเจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป   Create Date : 23 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 23 มกราคม 2560 21:52:35 น.     Counter : 5696 Pageviews.   Share Tweet

เร่งซ่อมถนนพัทลุง-ตรังหลังดินสไลด์เส้นทางชำรุด เร่งซ่อมถนนพัทลุง-ตรังหลังดินสไลด์เส้นทางชำรุด สนับสนุนเนื้อหา จ.พัทลุง เร่งซ่อมถนนเพชรเกษมพัทลุง -ตรัง หลังดินสไลด์ลึกกว่า15 เมตร จนเส้นทางชำรุด   ฝนที่ตกต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดพัทลุงมานานเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่าน ได้ตกหนักในพื้นที่เขตรักษาพันสัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดในพื้นที่ อำเภอศรีนครินทร์  โดยเฉพาะในท้องที่ ตำบลบ้านนา ล่าสุดได้ทำให้เพชรเกษมสายพัทลุง ตรัง ช่วงรอยต่อเขาพับผ้า เกิดดินไสลลงลึกกว่า 15 เมตร เป็นทางยาวกว่า 100 เมตร และเป็นโปรงลึกเข้ามายังถนน จนทำให้รถไม่สามารถใช้เส้นทางเลนซ้ายในจุดดังกล่าวได้ล่าสุดเจ้าหน้าที่แขวงการทางพัทลุง ได้ระดมเจ้าหน้าที่เครื่องจักรกลนำหินและดินเพื่อถมในเส้นทางที่ดินสไลด์ แล้วเพื่อให้รถสามรถใช้เส้นทางตามปกติได้ โดยนายสันติ วงค์ยงศิลป์ ผู้อำนวยการแขวงการทางพัทลุง กล่าวว่า สภาพฝนที่ตกหนักทำให้ดินไสลนจนถนนสายเพชรเกษมพัทลุง ตรัง ได้รับความเสียหาย ไป 100 เมตร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งระดมกำลังเพื่อซ่อมแซมถนนในจุดที่ได้รับความเสียหายในเบื้อง เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เส้นทางตามปกติ แต่คาดว่าต้องใช้หินและดินจำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องระดมทำงานท้องคืน เพราะหวั่นผู้ใช้รถใช้ถนนในยามค่ำคืนจะไม่ปลอดภัย เพื่อให้แล้วเสร็จในเช้าวันพรุงนี้ ในจังหวะที่มีการซ่อมทางเจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนเป็นช่วงๆ จึงขอให้ผู้ใช้เส้นทางจากจังหวัดตรังมาจังหวัดพัทลุง ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ประกอบสองไหลทางเป็นภูเขาอาจจะทำให้ดินไสลลงมาทับเส้นทางเพิ่มได้เนื่องจากฝยังตกหนักขอให้ระมัดระวังในการเดินทางช่วงนี้ด้วย   Create Date : 23 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 23 มกราคม 2560 20:52:01 น.     Counter : 844 Pageviews.   Share Tweet

สรุปเป็นตำรวจจริง ลวงสาวขึ้นรถตรวจฉี่ ผบช.ภ.2 เรียกพบทั้งทีม สรุปเป็นตำรวจจริง ลวงสาวขึ้นรถตรวจฉี่ ผบช.ภ.2 เรียกพบทั้งทีม ชายฉกรรจ์เรียกสาวโคโยตี้ตรวจฉี่ พยายามให้ขึ้นรถตู้ แต่หนีมาได้ ผลสรุปเป็นตำรวจจริง ด้าน ผบช.ภ.2 เรียกเข้าพบทั้งทีม (23 ม.ค.) ความคืบหน้ากรณีกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างเป็นตำรวจขอตรวจปัสสาวะหญิงสาวคนหนึ่ง โดยพยายามบังคับให้ขึ้นไปบนรถตู้ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา แต่หญิงสาวในจังหวะทีเผลอวิ่งหนีออกมาได้ ก่อนจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในเวลาต่อมา ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ภัยสังคม! สาวถูกชายอ้างเป็นตำรวจลวงขึ้นรถตู้ตรวจฉี่ เอะใจวิ่งหนีรอด ล่าสุด พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยกรณีดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิดกัน โดยได้เรียกเจ้าทุกข์และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานในเวลาดังกล่าวซึ่งเป็นชุด ป.พิเศษโดยมี ตำรวจยศดาบตำรวจ และตำรวจอาสา 2 คน ซึ่งจากการพูดคุยสอบถามทางเจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หากเจ้าทุกข์ติดใจเอาความทาง สภ.เมืองพัทยา ก็จะดำเนินการตามกฎหมายให้ ส่วนสาวเจ้าทุกข์นั้น ทำงานเป็นโคโยตี้อยู่ภายในสถานบันเทิงในถนนวอร์คกิ้งสตรีท เข้าแจ้งความเพราะมีที่พักอยู่บริเวณดังกล่าว เกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำ อีกทั้งยังเห็นว่ากลุ่มชายดังกล่าวใช่ตำรวจจริงหรือไม่ เพราะไม่ยอมแสดงบัตรประจำตัวว่าเป็นตำรวจ ซึ่งตอนเกิดเหตุเจ้าทุกข์กำลังจะกลับที่พักบริเวณดังกล่าว พบเจ้าหน้าที่อาสา 2 คนเรียกตรวจหาสารเสพติด และกำลังพาไปที่รถตู้เพื่อรวจค้น ผู้เสียหายใช้จังหวะวิ่งหนีเอาตัวรอดเพราะไม่รู่ว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ ก่อนมาแจ้งความ ส่วนด้านการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำตลอดเวลาในการปฏิบัติงาน ซึ่งได้กำชับทุกครั้งอยู่เสมอรวมทั้งตำรวจอาสา ต้องแต่งกายให้แตกต่างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเหตุการที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทางผมในฐานะผู้บังคับบัญชาเบื้องต้นก็ขอโทษประชาชนหรือชาวบ้านที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด นอกจากนั้นในวันพรุ่งนี้ (24 ม.ค.) ทางผู้บัญชาการภาค 2 เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้เข้าพบในเวลา 13.00 น. นอกจากนั้นทาง พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา ฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้อง ประชาชน หากพบเหตุการณ์แบบนี้ให้พี่น้องประชาชนขอดูบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากไม่ยอมแสดงบัตรให้พี่น้องประชาชนดู พี่น้องประชาชนก็ไม่ต้องทำตามคำสั่งของกลุ่มบุคคลที่อ้างเป็นตำรวจ   Create Date : 23 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 23 มกราคม 2560 20:51:42 น.     Counter : 820 Pageviews.   Share Tweet

ชาวเน็ตย้อนดู "แตงโม" แฉเมีย อยากให้ไปรับก็หาผัวเป็นแท็กซี่ ชาวเน็ตย้อนดู "แตงโม" แฉเมีย อยากให้ไปรับก็หาผัวเป็นแท็กซี่ กำลังเป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจ กรณีการแยกทางกันระหว่าง "แตงโม พงษ์พิสุทธิ์" กับภรรยาสาวแอร์โฮสเตส "เฟิร์น" หลังฝ่ายชายออกมายอมรับว่ามีปัญหากันระหว่างทั้งสองฝ่าย หลังจากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันเป็นเวลา 8 เดือน โดยให้เหตุผลว่าจูนกันไม่ติด ล่าสุดโลกโซเชียลมีเดียต่างกล่าวถึงคลิปรายการ "คดีสีชมพู" ทางช่องเวิร์คพอยท์ทีวี ที่ทั้งคู่เคยไปออกรายการด้วยกัน เมื่อเทปวันที่ 21 เมษายน 2559 ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าพิธีวิวาห์กันในเดือนพฤษภาคม 2559 หลายประเด็นที่ หนุ่มแตงโม พูดให้การในรายการดังกล่าว ถูกนำมาเป็นประเด็นจับโยงว่า อาจจะเป็นต้นตอทำให้ทั้งคู่เลิกรากัน ในบางช่วงบางตอนของรายการดังกล่าว หนุ่มแตงโม ได้กล่าวหาว่า แฟนสาวไม่มีความเป็นแม่ศรีเรือน ทำงานบ้านไม่เป็น โดยปกติตนเองมีนิสัยค่อนข้างเจ้าระเบียบ แต่แฟนสาวล้างจานก็มไม่สะอาด เสื้อผ้าใส่แล้วก็ไม่แยกตะกร้า อีกทั้งยังนอนตื่นสาย ไปทำบุญด้วยกันก็ไม่ได้ ส่วนประโยคเด็ดเมื่อถูกถามคำถามว่า เมื่อแฟนสาวทำงานบินกลับมาไฟล์ทดึกๆ ได้ไปรับที่สนามบินหรือไม่ หนุ่มแตงโม กล่าวว่า เคยตกลงกันไว้ก่อนจะคบหากันแล้วว่า ถ้าอยากให้ไปรับไปส่งก็หาหาผัวเป็นแท็กซี่ ทำให้คลิปรายการคดีสีชมพู เทปดังกล่าวกลับมาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้หลายคนก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา บางส่วนก็มองว่าเป็นเพียงรายการให้ความบันเทิง และเพิ่มอรรถรสในการชมเท่านั้น เพื่อสร้างสีสันให้กับรายการ แต่การออกมาพูดแฉทั้งฝ่ายสามีและภรรยาต่างก็มีไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นการแยกทางของทั้งคู่นั้น ทางผู้จัดการส่วนตัวได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมแล้วว่า ทั้งคู่มีปัญหากันจริงๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นเลิกรา เพราะปัจจุบันก็ยังคงอยู่บ้านเดียวกัน และกำลังรอพูดคุยเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นกันและกัน   Create Date : 23 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 23 มกราคม 2560 20:29:19 น.     Counter : 831 Pageviews.   Share Tweet

ชาวนครพนมร่วมใจบริจาคช่วยซับน้ำตาชาวใต้ ชาวนครพนมร่วมใจบริจาคช่วยซับน้ำตาชาวใต้ สนับสนุนเนื้อหา ชาวนครพนม ทุกภาคส่วนร่วมใจบริจาคช่วยซับน้ำตาชาวใต้ ยอด 1 ล้านบาท ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้จังหวัดนครพนม ได้รับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดภาคใต้ จากสมาคมชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม จำนวน 304,000 บาท โดยมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พ่อค้า ประชาชน หน่วยงาน สมาคม กลุ่มองค์กรต่างๆ ในจังหวัดนครพนม ได้ร่วมกันบริจาค ตั้งแต่วันที่ 10-20 มกราคม 2560 มียอดเงินบริจาครวมทั้งสิ้น 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) ซึ่งจะได้ดำเนินการนำส่งเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดภาคใต้ต่อไป    Create Date : 23 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 23 มกราคม 2560 20:07:11 น.     Counter : 718 Pageviews.   Share Tweet