ขวัญผวากลางกรุง! แม่บ้านคอนโด เจอขาทารกโผล่จากชักโครก โร่แจ้งตำรวจ ขวัญผวากลางกรุง! แม่บ้านคอนโด เจอขาทารกโผล่จากชักโครก โร่แจ้งตำรวจ สนับสนุนเนื้อหา แม่บ้านคอนโดย่านสาธร ทำความสะอาดห้องน้ำ แต่กดชักโครกเเล้วน้ำไม่ลง แจ้งให้ช่างมาช่วยดูเเละดูดสิ่งปฏิกูล ต้องตกใจสุดขีดเมื่อมีขาทารกโผล่ขึ้นมา โร่แจ้งตำรวจในทันที วันที่ 22 ม.ค. ร.ต.อ.สมยศ บุญณแก้ว รองสว.(สอบสวน) สน.ยานนาวา รับแจ้งเหตุพบศพเด็กทารกในชักโครก ที่อาคารชุดสาทรแฮปปี้แลนด์ทาวเวอร์ ซอยพิชัย 2 แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดสูง 20 ชั้น บริเวณชั้น 5 ลานสระน้ำส่วนกลางแบบเปิดโล่ง ใกล้กันมีห้องน้ำสาธารณะ จำนวน 2 ห้อง ภายในชักโครกห้องน้ำหญิง พบศพเด็กทารก เห็นอวัยวะเพศชายอย่างชัดเจน อายุครรภ์ 7 เดือน สภาพเปื่อยยุ่ย ขาโผล่ชี้ฟ้าทั้ง 2 ข้าง อวัยวะครบ 32 และภายในถังขยะพบถุงดำคาดว่าใช้ห่อศพมาทิ้งไว้ในชักโครกแล้วกดน้ำเพื่ออำพรางศพดังกล่าว ร.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า จากการสอบสวนแม่บ้าน ทราบว่า ได้เข้ามาทำความสะอาดห้องน้ำตามปกติ และพบว่าชักโครกเต็ม จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยซ่อมแซมดูดสิ่งติดค้างภายในชักโครก โดยใช้อุปกรณ์ในการดูดสิ่งปฏิกูลขึ้นมา และพบว่ามีขาเด็กทารกโผล่ขึ้นมา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ผู้พักอาศัยบางราย และชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียง ให้การไปในทิศทางเดียวกันว่า มีหญิงสาวชาวฟิลิปปินส์ อายุประมาณ 30 ปี คาดว่าจะเป็นแม่ของเด็กทารกนำศพมาทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวหญิงสาวต้องสงสัยรายนี้พร้อมกับแฟนหนุ่มไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ยานนาวา อย่างไรก็ตาม จะประสานลามแปลภาษามาด้วยและตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดครั้งหนึ่ง ก่อนจะนำศพเด็กทารกส่งแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อชันสูตรศพหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป   Create Date : 22 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2560 19:48:43 น.     Counter : 706 Pageviews.   Share Tweet

รวบแล้ว! “ทหารปืนดุ” ชนแล้วหนี สาดกระสุนใส่เก๋งพลเมืองดี สารภาพ “ติดยา” รวบแล้ว! “ทหารปืนดุ” ชนแล้วหนี สาดกระสุนใส่เก๋งพลเมืองดี สารภาพ “ติดยา” สนับสนุนเนื้อหา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่สืบสวน สน.โชคชัย ร่วมกันจับกุมตัวนายวุฒิชัยหรือต๋อง สุขใหม่ อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 241/2560 ลงวันที่ 19 มกราคม ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมของกลางรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว ทะเบียน กง 6018 กระบี่ (คันที่ใช้ก่อเหตุ) อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก ยาไอซ์จำนวน 10 กรัม ยาบ้า 12 เม็ด ยาอี 2 เม็ด อุปกรณ์การเสพยา 5 ชุด โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ย่านเมืองเอก ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่าการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.10 น. วันที่8 ม.ค. ขณะที่นายอภิสิทธิ์ สาทอง อายุ 22 ปี ผู้เสียหายขับขี่อยู่บนท้องถนนได้เจอรถผู้ต้องหาลักษณะเหมือนขับชนอะไรมาจึงคิดว่าเป็นพวกขับชนแล้วหนีจึงขับติดตามไป จนมาถึงบริเวณปากซอยนาคนิวาส 15 นายวุฒิชัยได้ใช้อาวุธปืนยิงไปที่รถผู้เสียหายจำนวน 5 นัด ก่อนจะขับรถหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงทำการติดตามจนทราบว่าผู้ต้องหาได้หนีมาอยู่แมนชั่นแห่งหนึ่งซอยนาคนิวาส 21 จึงทำการปิดล้อมพื้นที่ แต่นายวุฒิชัยกลับใช้อาวุธปืนยิงฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่ก่อนจะขับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน3กฒ 1463 กรุงเทพมหานคร ของแฟนสาวหลบหนี จนเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทำการติดตามตัวอีกครั้งจนทราบว่าขับรถหนีมาพักย่าน จ.ปทุมธานี จึงทำการเข้าจับกุมซึ่งจากการตรวจค้นภายในห้องพักพบอุปกรณ์การเสพยา ยาเสพติดและอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนเพิ่มเติม จากการสอบสวนนายวุฒิชัย กล่าวว่าตนเป็นพลทหารสังกัดกรมทหารต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์ ก่อนเกิดเหตุตนได้ยืมรถเพื่อนเพื่อไปเที่ยวที่ จ.ชลบุรี ระหว่างทางกลับเกิดอุบัติเหตุจนรถได้รับความเสียหาย แต่ก็ยังสามารถขับรถกลับมาได้ จนกระทั่งถูกรถผู้เสียหายขับรถตามลักษณะขับปาดหน้า ตนเกิดความกลัวว่าจะได้รับอันตรายจึงก่อเหตุดังกล่าว โดยตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอโทษที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ซึ่งอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุตนได้ยืมจากเพื่อนที่รู้จักกันมาไว้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์การเสพยานั้นตนยอมรับว่าเป็นของตนและติดยาเสพติดมานานแล้ว ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัตินายวุฒิชัย พบว่าเคยถูกจับกุมในข้อหา"เสพยาเสพติด "พื้นที่สน.ห้วยขวางเมื่อปี 2553 และ 2554 จำนวน 2 ครั้ง และพื้นที่ สน.สุทธิสารปี 2556 จำนวน 1 ครั้งในข้อหา "ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย" เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเพิ่มข้อหา "ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย" นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.โชคชัยดำเนินคดีตามกฎหมาย หากตรวจสอบแล้วพบว่า นายวุฒิชัย เป็นทหารจริงก็จะดำเนินแจ้งต้นสังกัดให้มารับตัวเพื่อไปดำเนินการต่อไป   Create Date : 22 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2560 19:48:23 น.     Counter : 647 Pageviews.   Share Tweet

มวลน้ำสะสมลุ่มปากพนัง530ล้านลบ.ม.-9อ.ยังท่วม มวลน้ำสะสมลุ่มปากพนัง530ล้านลบ.ม.-9อ.ยังท่วม สนับสนุนเนื้อหา มวลน้ำสะสมลุ่มปากพนัง 530 ล้านลูกบาศก์เมตร เร่งผลักดันออกสู่ทะเล ขณะ 9 อำเภอยังท่วม คาด 9 วัน คลี่คลาย   นายเทอดศักดิ์ ลักษณะหุต หัวหน้าฝ่ายวิชาการศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังเกิดฝนตกระลอกใหม่เมื่อช่วงวันที่ 18 - 21 ม.ค. 60 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดมวลน้ำสะสมบริเวณลุ่มน้ำปากพนังเพิ่มเติม ล่าสุดอยู่ที่ 530 ล้านลูกบาศก์เมตร  ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบพื้นที่ 9 อำเภอ ภายในลุ่มน้ำปากพนัง กำลังประสบภาวะน้ำท่วมขังประกอบด้วย อ.เมือง, ลานสกา และ ร่อนพิบูลย์ ตอนล่าง นอกจากนี้ ยังมีที่ อ.ชะอวด, จุฬาภรณ์, หัวไทร, เชียรใหญ่, เฉลิมพระเกียรติ และ ปากพนัง วัดระดับน้ำเฉลี่ย ประมาณ 40 - 70 เซนติเมตร เบื้องต้นทุกหน่วยงานอยู่ระหว่างเร่งผลักดันมวลน้ำออกสู่ทะเล คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมภายใน 9 วัน ระดับน้ำจะลดลงจนแห้งสนิท แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลคือความเดือดร้อนของชาวบ้านใน อ.ปากพนัง เนื่องจากเป็นจุดรับน้ำจุดสุดท้ายก่อนระบายออกสู่ทะเล จึงทำให้มวลน้ำมากองรวมกันและท่วมขังเป็นเวลานานจนกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงพืชผลทางการเกษตร ซึ่งเมื่อเกิดการแช่น้ำเป็นเวลานาน ก็จะทำให้เน่าเสียหายยืนต้นตายได้ โดยสถานการณ์น้ำท่วมระลอกนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 นับจากครั้งแรก คือเมื่อเดือนธันวาคม สืบเนื่องมาจนถึงต้นเดือนมกราคม และจวบจนถึงขณะนี้  อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่สามารถเดินเครื่องผลักดันน้ำให้อยู่ในระดับปกติได้ เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงอย่างแน่นอน เพราะภาพรวมปัจจุบัน การระบายค่อนข้างเป็นไปด้วยดีไม่มีอะไรติดขัด   Create Date : 22 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2560 19:48:01 น.     Counter : 554 Pageviews.   Share Tweet

ฝนถล่มสงขลาทำน้ำท่วมตลาดคลองแห ฝนถล่มสงขลาทำน้ำท่วมตลาดคลองแห สนับสนุนเนื้อหา ฝนตกต่อเนื่องใน จ.สงขลา ทำระดับน้ำคลองแหหนุนเข้าท่วมตลาด ดินทรุดต้นไม้ใหญ่โค่นล้มทับเพิงพักนักท่องเที่ยว   ฝนตกต่อเนื่อง ใน จ.สงขลา ทำให้ปริมาณน้ำในคลองแหเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบอย่างหนักกับตลาดน้ำคลองแห ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองคลองแห อ.หาดใหญ่ เนื่องจากน้ำในคลองแหได้หนุนเข้าท่วมบริเวณท่าน้ำ ซึ่งเป็นจุดจอดเรือและทางเดินจนจมมิด นักท่องเที่ยงไม่สามารถลงไปเดินได้ นอกจากนี้ ดินยังทรุดตัวทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ริมคลองล้มลงมาทับเพิงพักของนักท่องเที่ยวเสียหาย 1 หลัง และเรือเสียหาย 3 ลำ แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดน้ำคลองแหจะถูกน้ำท่วมแต่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่ก็ยังคงเปิดบริการให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติ ตั้งแต่เวลา 13.00 - 21.00 น. โดยในส่วนของตลาดน้ำทางเรือ ได้ขึ้นมาจำหน่ายและปรุงอาหารบริเวณริมคลองแทน และในวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) ทางเทศบาลเมืองคลองแห จะเริ่มเข้ามาเคลียร์พื้นที่และซ่อมแซมจุดที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะต้นไม้ที่ล้มทับเพิงพักนักท่องเที่ยว และรอให้ระดับน้ำลดลงก็จะเข้าเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดซึ่งคาดว่าตลาดน้ำคลองแหจะกลับมาอยู่ในสภาพเดิมในช่วงสุดสัปดาห์หน้า   Create Date : 22 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2560 19:47:39 น.     Counter : 627 Pageviews.   Share Tweet

สุวิทย์เผยวิป3ฝ่ายเตรียมหารือปรองดอง25ม.ค.นี้ สุวิทย์เผยวิป3ฝ่ายเตรียมหารือปรองดอง25ม.ค.นี้ สนับสนุนเนื้อหา 'สุวิทย์' เผย วิป 3 ฝ่ายเตรียมหารือปรองดอง 25 ม.ค. นี้ คาดณะกรรมการทั้งหมดจะมีความชัดเจนก่อนวันที่ 1 ก.พ. - แจงคณะทำงาน ป.ย.ป. คาดแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกเข้าร่วมด้วย   นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ป.ย.ป. กล่าวว่า วัน ที่ 25 ม.ค. นี้ จะมีการหารือร่วมกันระหว่างตัวแทนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และรัฐบาล เพื่อสร้างแนวทางการทำงานและผลักดันวาระการปฏิรูปที่เป็นวาระเร่งด่วน ตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ โดยการประชุมที่จะเกิดขึ้นจะนำงานด้านการปฏิรูปของทั้ง 3 ฝ่าย มาจัดอันดับความสำคัญ เพื่อนำมาปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ กำหนดบทบาทวิป 3 ฝ่าย ให้เกิดความชัดเจน การหารือถึงองค์ประกอบของคณะกรรมการ ที่อาจมีผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามาร่วมทำงาน ซึ่งคาดว่าการแต่งตั้ง ผอ.สำนักงานบริหารของนายกรัฐมนตรี หรือ PMDU และคณะกรรมการทั้งหมดจะมีความชัดเจนก่อนวันที่ 1 ก.พ. นี้ ทั้งนี้ ในส่วนของการทำงานของ ป.ย.ป. นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำการขับเคลื่อนมาโดยตลอด และการสร้างความปรองดองจะเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น โดยไม่จำกัดแค่พรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองเท่านั้น แต่จะเปิดโอกาสให้ทั้งนักวิชาการ ประชาชนทุกคนเข้าร่วม จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกันโดยนำเรื่องการปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ เศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ และความไม่เป็นธรรม มาเป็นเป็นหัวข้อในการพูดคุยมากกว่าการนำประเด็นความขัดแย้งในอดีตของทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยกัน นอกจากนี้ คณะทำงานของ ป.ย.ป. ที่มีสัดส่วนของทหารเกินกว่าครึ่ง ว่า ภาพรวมของ ป.ย.ป. มีองค์ประกอบร่วมทั้งหมด 3 - 4 องค์ประกอบ คือ คณะกรรมการ ป.ย.ป.ชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานและมีรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 6 คน ร่วมดูแล นอกจากนี้ ยังมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอีก 2 คน รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นตัวหลัก ทั้งนี้ คาดว่าจะแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกเข้ามาร่วมด้วย ส่วนคณะกรรมการอีก 4 คณะย่อย ยังคงมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานทุกคณะ และอาจมีการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีดูแลในแต่ละคณะ ซึ่งขณะนี้อาจมีปรับเปลี่ยนเล็กน้อย แต่ในของส่วนคณะกรรมการด้านการปรองดอง มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้กำกับดูแล ส่วนด้านอื่นๆ ยังต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง   Create Date : 22 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2560 18:07:33 น.     Counter : 492 Pageviews.   Share Tweet