 | | บรรยากาศทางเข้างาน Unpacked 5 | |  |
|
 | | JK Shin ออกมาสรุปยอดขายสมาร์ทโฟน ในตระกูล Galaxy ว่าขายไปแล้วกว่า 200 ล้านเครื่อง | | |
|
 | | 5 คอนเซปต์หลักของ Galaxy S5 | | |
|
 | | วางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 4 สี ดำ ขาว ทอง น้ำเงิน | | |
|
 | | ตัวเครื่องรองรับ LTE ทุกเครือข่าย | | |
|
 | | เพิ่มประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ของกล้อง | | |
|
 | | โหมดประหยัดพลังงานที่จะเปลี่ยนหน้าจอเป็นสีขาว-ดำ ตัดการเชื่อมต่อ แบต 10% สามารถสแตนบายได้ 24 ชั่วโมง | | |
|
 | | 3 ฟีเจอร์ใหม่ในโหมดถ่ายภาพ | | |
|
 | | จับโฟกัสได้ในเวลา 0.3 วินาที | | |
|
 | | ถ่ายภาพชดเชยแสงได้สมจริงขึ้น | | |
|
 | | Selective Focus สำหรับเลือกจุดโฟกัสในการถ่ายภาพชัดตื้น | | |
|
 | | ภาพที่ได้ออกมาจะเหมือนใช้กล้องโปรถ่าย หน้าชัดหลังเบลอ | | |
|
 | | LTE Cat 4 DL 140/50 Mbps รองรับไวเลส 802.11ac | | |
|
 | | มาตรฐาน IP67 กันน้ำลึก 1 เมตร นาน 30 นาที และกันฝุ่นด้วย | | |
|
 | | ระบบสแกนลายนิ้วมือสามารถนำมาใช้คู่กับโมบาย เพย์เมนต์ได้ | | |
|
 | | เช่นเดียวกัน สามารถตั้ง Private Mode ผ่านสแกนลายนิ้วมือได้ | | |
|
 | | Kids Mode สำหรับควบคุมการใช้งานของเด็กๆ | | |
|
 | | Gear 2, Gear 2 Neo และ Gear Fit ที่จะมาช่วยในการเก็บข้อมูลสำหรับออกกำลังกาย | | |
|
 | | Galaxy S5 เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่มาพร้อมเซ็นเซอร์วัดชีพจร | | |
|
 | | รองรับการใช้เครื่องชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) | | | 
ตัวเครื่องด้านหน้าของ Galaxy S5 ส่วนบนจะมีลำโพงสนทนา เซ็นเซอร์วัดแสง และกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถัดลงมาเป็นหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.1 นิ้ว ความละเอียด Full HD
ส่วนแถบล่างหน้าจอจะมีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นเก่าคือ ปุ่มเมนูถูกเปลี่ยนเป็นปุ่มเรียกดูแอปฯที่ใช้งานล่าสุด ตรงกลางยังคงมีปุ่มโฮมอยู่ แต่จะรองรับการสแกนลายนิ้วมือด้วย และปุ่มย้อนกลับเช่นเดิม
ด้านหลัง จะเห็นกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ถัดลงมาเป็นไฟแฟลช และเซ็นเซอร์วัดชีพจร สามารถใช้งานได้ด้วยการนำนิ้วไปกดค้างไว้บริเวณดังกล่าว
ส่วนที่เหลือด้านบนจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ทางซ้าย ปุ่มเปิดเครื่องทางขวา และช่องเสียบสายชาร์จด้านล่าง
Gear 2 Neo จะไม่มีกล้อง แต่ยังมาพร้อมเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจเช่นเดียวกับ Gear 2 และ Gear Fit
เทียบขนาด Gear 2 Neo กับ Galaxy S4
Gear 2 กับ Galaxy S5 สีดำ
Gear Fit จะมีขนาดเหมาะกับการเป็นอุปกรณ์สวมใส่เพื่อใช้ในการออกกำลังกาย รวมไปถึงการเก็บข้อมูลการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน
จุดเด่นคือสามารถวัดชีพจรได้จากการสวมใส่ทันที แน่นอนว่าถ้าใช้งานคู่กับ S Health จะช่วยในการบันทึกข้อมูลด้วย
เซ็นเซอร์วัดชีพจรที่อยู่ด้านหลัง Gear Fit
สำหรับ Galaxy S5 เท่าที่ลองสัมผัสภายในงานเปิดตัวที่เมืองบาเซโลน่า ประเทศสเปน พบว่า การตอบสนองทำได้รวดเร็วขึ้น มีการเพิ่มปุ่มสำหรับเรียกการใช้แอปฯที่ใช้บ่อยๆ (Quick Connect) ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้เร็วขึ้น
ระบบสแกนลายนิ้วมือ ทำออกมาได้ค่อยข้างดี เมื่อทดลองพบว่าการสแกนทำได้ค่อนข้างรวดเร็ว และแม่นยำกว่า HTC One Max ใกล้เคียงกับใน iPhone 5S เลยก็ว่าได้ เพียงแต่ใน iPhone 5S จะใช้เซ็นเซอร์แบบสัมผัสลงไป ส่วนใน S5 จะใช้การลากนิ้วผ่านเช่นเดียวกับ One Max
แน่นอนว่าเมื่อมีระบบสแกนลายนิ้วมือ ก็จะช่วยให้ซัมซุงสามารถเพิ่มแอปพลิเคชันเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปได้ ทำให้มี Private Mode หรือเกิดการใช้งาน Mobile Payment แบบเข้ารหัสด้วยลายนิ้วมือมาใช้งานกัน ทั้งนี้ก็ยังต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีผู้เข้าร่วมมากน้อยแค่ไหน
Gear Fit ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เทคโนโลยีสวมใส่ได้ที่น่าสนใจ เพราะด้วยความที่มีขนาดเล็กพอเหมาะกับการใส่ใช้งาน ทั้งยังเป็น Wearable Technology ตัวแรกที่เป็นหน้าจอสัมผัสแบบโค้งด้วย
ด้านการใช้งานทางซัมซุงระบุว่าสามารถใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนในตระกูล Galaxy ได้กว่า 20 รุ่น ส่วน Gear 2 และ Gear 2 Neo จะใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนในตระกูล Galaxy ได้ราว 12 รุ่น แน่นอนว่ายังไม่มีการเปิดเผยราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ ในส่วนของอุปกรณ์เสริม ซัมซุงยังได้มีการเพิ่มลวดลายของเคส สายเปลี่ยนสำหรับ Gear Fit ที่มีให้เลือกหลากหลายสี และที่น่าสนใจคือชุดหูฟังรุ่นใหม่ที่ระบุว่ารองรับเสียงแบบ HD ด้วย |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [
