| แจ๊คกี้สวยสง่าขนาดนี้ยังเอาสามีเจ้าชู้ไม่อยู่ | | | เสียงปืนจากไรเฟิลของ ลี อาร์วีย์ ออสวอลด์ มือปืนผู้เด็ดชีพ อดีตประธานาธิบดีเคนเนดี้ จากช่องหน้าต่างบนชั้นหกของห้องเก็บหนังสือ โรงเรียนเท็กซัส ดังก้องไปทั่วโลก จบชีวิตที่รุ่งโรจน์ของประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 1963 ท่ามกลางสายตาของชาวอเมริกัน ที่ชมการถ่ายทอดสด พิธีฝังศพของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ ภาพที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของทุกคนที่ได้เห็นวันนั้น คือ ภาพของภริยาหม้ายในชุดดำ มือทั้งสองข้างจูงลูกหญิงชายไว้คนละข้าง และจากนั้นมา แจ๊คกี้ เคนเนดี้ ได้กลายเป็นไอคอนของคนทั้งโลกไปแล้ว จากภาพๆ นั้น |
| จอห์นท่ามกลางสาวน้อยสาวใหญ่ | | | ภาพที่เธอกลายเป็นผู้รับภาระของลูกทั้งสอง ตั้งแต่วินาทีนั้นจนถึงวันสุดท้ายของเธอที่จากโลกไป กลายเป็นความชื่นชมของคนทั้งโลก ที่ส่งผ่านไปยัง แจ๊คกี้ เคนเนดี้ แม้กระทั่งจากคนที่เธอไม่เคยรู้จัก จากภาพของการเยือนกรุงปารีสอย่างเป็นทางการ ของ ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ และ แจ๊คเกอลีน เมื่อปี 1961 เธอกลายเป็นดาวดวงเด่นของโลกไปในทันที จากการแต่งตัวที่ไม่เหมือนใคร ความสง่างาม เยือกเย็นและยิ้มแย้ม เมื่ออยู่เคียงข้างสามีผู้เป็นบุรุษผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกเสรีในขณะนั้น ภาพของเธอถูกตีพิมพ์และเป็นที่กล่าวขวัญ แม้บนปกหน้าของนิตยสารแฟชั่นหลังม่านเหล็ก เช่น เลนินกราด แม็กกาซีน ในรัสเซียและ Swait อันเป็นนิตยสารในโปแลนด์ ที่ต่างกล่าวชื่นชมว่า แจ๊คเกอลีนคือสตรีผู้นำแฟชั่นของโลกไปแล้ว โดยมีคนกล่าวเปรียนเทียบว่า "ในขณะที่จอห์นเปรียบเหมือนดวงอาทิตย์ แจ็คเกอลีนก็คือราชินีแห่งอเมริกา" |
| .แองจี้ ดิกคินสัน และ มาริลิน มอนโร คู่ขาประจำ | | | แต่เบื้องหลังภาพคู่ที่ชื่นมื่นนั้น น้อยคนที่จะรู้ว่า อีกด้านของเหรียญนั้นเป็นอย่างไร ภาพรอยยิ้มที่ฉาบบนใบหน้าของสามีภรรยาคู่นี้ สำหรับคนใกล้ชิดต่างรู้ดีว่า มีอะไรที่ซ่อนอยู่ข้างหลังบ้าง โดยเฉพาะ เรื่อง "ชู้สาว" ของฝ่ายชายที่ฟุ่มเฟือยจนน่าตกใจ พฤติกรรมของฝ่ายชายที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่ภรรยาไม่อยู่ในทำเนียบขาว กับหญิงสาวมากหน้าหลายตา ในช่วงที่แจ๊คเกอลีนไปใช้เวลาช่วงฤดูร้อนที่วอชิงตัน กับช่วงสุดสัปดาห์ที่ฟาร์มเฮ้าส์ในเวอร์จิเนีย หรือที่ไฮยานนิส พอร์ท ที่แหลมค็อด โดยฝ่ายภรรยาและลูกจะเดินทางไปก่อน ส่วนจอห์นจะตามไปในวันเสาร์ |
| มาริออน นศ.สาวที่เชื่อว่าโดนจอห์น เปิดซิง บนเตียงของแจ๊คกี้ | | | และนั่นคือโอกาสที่เขาจะทำอะไรต่อมิอะไร กับสตรีอื่นที่เป็นทั้งสาวนักศึกษาฝึกงาน ไปจนถึง "โสเภณี ซึ่งจอห์นจะมีวาทศิลป์ในการเชื้อเชิญและชักชวน เหล่าสาว ๆ ที่เขาพึงใจเข้ามาที่ทำเนียบขาวได้อย่างเนียนๆ โดยการ "จัดการ" ของคนใกล้ชิดและเพื่อนสนิท จากนั้นหญิงเหล่านั้นก็จะถูกปล่อยให้อยู่กับจอห์นเพียงลำพัง ทั้งในห้องที่มิดชิด หรือแม้กระทั่งที่สระว่ายน้ำภายในทำเนียบขาว หนึ่งในแขกยามภรรยาเผลอ ซึ่งกลาเยป็นขาประจำของจอห์น อาทิ แองจี้ ดิกคินสัน และ มาริลิน มอนโร ที่กลายเป็นคู่ขาประจำในเวลาต่อมา แต่บางครั้งขนาดเมียไม่เผลอ ก็ทำให้เห็นตำตาแจ๊คกี้ก็มีไม่น้อย โดยหนึ่งในจำนวนผู้ที่ถูกเปิดเผยออกมานั้นคือ "มาริออน เบียร์ดสลีย์" นักศึกษาสาวผู้ทำจดหมายขอสัมภาษณ์ประธานาธิบดี เพื่อนำมาลงในนิตยสารของโรงเรียนเมื่อเธออายุ 19 ปี และในปีถัดมาเมื่ออายุครบ20ปีเต็ม เธอก็ถูกเชื้อเชิญให้เข้าพบประธานาธิบดีเพื่อให้สัมภาษณ์ และเธอก็ถูก "ฟัน บนเตียงที่ประธานาธิบดีใช้นอนคู่กับศรีภริยา หลังจากงานค็อกเทลในคืนนั้น จากปากของประธานาธิบดีเจเอฟเค ที่สารภาพกับ บ๊อบบี้ เบเคอร์ เลขานุการของวุฒสมาชิกคนหนึ่งว่า "ผมจะมีอาการไมเกรนทุกวัน ถ้าไม่ได้ "อึ๊บ ใครสักคนในวันนั้น ซึ่งความจริงแล้ว อาการนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะจอห์นเพียงคนเดียว เพราะแจ๊คเกอลีนมักรำพึงกับ โจน ภรรยาของ เท็ด เคนเนดี้ ว่า พวกเคนเนดี้เป็นอย่างนี้ทุกคนแหละ |