Toyobaru น่าจะเป็นชื่อเรียกขำๆในโปรเจกต์รถสปอร์ตขนาดเล็ก ขับเคลื่อนล้อหลังระดับโลกของโตโยต้า ที่ร่วมมือกับ ซูบารุ ด้วยหวังดึงความเด่น นำเอาความเก่งของทั้งสองค่ายมาพัฒนา จนสุดท้ายคลอดออกมาเป็น 86 และ BRZ
|
โตโยต้ามีหุ้นในฟูจิเอฟวี อินดัสตรี้ ผู้ผลิตรถยนต์ซูบารุ 16.7% ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าหวังผลตอบแทนเป็นผลกำไร หรือทางลัดในการแชร์เทคโนโลยีมากกว่ากัน(ช่วยลดต้นทุนและไม่ต้องเสียเงิน-เสียเวลาพัฒนาใหม่ด้วยตนเอง) แต่เมื่อโปรเจกต์นี้ถูกเปิดเผยรายละเอียดช่วงปี 2009 คำตอบของคำถามดังกล่าวจึงได้รับการเฉลย
โดยโตโยต้ายึดงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011 (เดือนธันวาคม) เปิดตัว 86 ก่อนที่ BRZ ของซูบารุจะเปิดตัวในเดือนมีนาคมปีถัดมา ส่วนเมืองไทย 86 กับ BRZ ถูกนำเข้ามาขายช่วงต้นปี และปลายปี 2012 ตามลำดับ
ทั้งนี้ผู้เขียนเพิ่งมีโอกาสลอง BRZ อย่างเป็นทางการบนถนนเมืองไทย ตามจังหวะที่ ทีซี ซูบารุ ประเทศไทย (มอเตอร์ อิมเมจ) พร้อมปล่อยรถให้ผู้สื่อข่าวได้ทดสอบ แน่นอนว่าหากอยากจะเรียนรู้รถ สัมผัสสมรรถนะกันให้ถึงใจก็ต้องเป็น BRZ รุ่นเกียร์ธรรมดาครับ
BRZ เป็นสปอร์ตคูเป้ 2+2 ที่นั่ง ออกแบบให้ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์หวังเพิ่มแรงกด พร้อมเครื่องยนต์บ็อกเซอร์สูบนอน ช่วยให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำที่สุด เพื่อประสิทธิภาพการทรงตัว
|
ตัวรถต่ำเตี้ยด้วยระยะต่ำสุดจากพื้น (Ground clearance) 130 มิลลิเมตร การเข้า-ออกภายในห้องโดยสารลำบากตามสไตล์รถสปอร์ต ส่วนด็อกซีทด้านหลัง เด็กน้อยหรือคนตัวเล็กเท่านั้นที่นั่งได้ ถ้าขนาดตัวเกินไปกว่านี้นั่งลำบาก ยิ่งการเข้าออกไม่ต้องพูดถึง
ทัศนวิสัยการขับขี่เตี้ยๆ มองไปข้างหน้ามีองศาต่ำ แต่มุมมองจากกระจกข้างและกระจกมองหลังดีกว่าที่คิด ในส่วนตำแหน่งผู้ขับพื้นที่เหมือนจะเล็ก แต่จริงๆไม่อึดอัด เบาะนั่งแบบบักเก็ตซีทมีปีกรับกระชับลำตัว การยืดขาเหยียบคลัทช์มีระยะเหลือกำลังพอดี
ภายในห้องโดยสารไร้การตกแต่งหวือหวา มีแต่อารมณ์ดาดดิบ ไล่ตั้งแต่ชุดเครื่องเสียง แอร์ แผงหน้าปัดแสดงผล และพวงมาลัย แต่ก็มีให้ชื่นใจนิดๆตรงแป้นคลัทช์- เบรก-คันเร่งเป็นแบบอะลูมิเนียม
ด้านไมล์แสดงผลหลังพวงมาลัย แบ่งเป็นวัดความเร็วทางซ้าย วัดรอบเครื่องยนต์ตรงกลาง และขวาเป็นระดับน้ำมัน กับเข็มชี้วัดความร้อน ขณะเดียวกันยังมีตัวเลขดิจิตอลแสดงความเร็ว (km/h) และตำแหน่งเกียร์ แจ้งอยู่บริเวณเรือนไมล์วัดรอบเพื่อความชัดเจน ส่วนใกล้ๆคันเกียร์จะมีปุ่ม VSC Off และ VSC Sport ให้เลือกตามความเร้าใจ และถัดลงมามีปุ่มเปิดฮีตเตอร์ทำความร้อนสำหรับเบาะนั่งคู่หน้าแถมมาด้วย
|
|
|
การสตาร์ทเครื่องยนต์ต้องกดปุ่มที่ฝังอยู่บริเวณคอนโซลกลาง(ใกล้ๆพวงมาลัย) พร้อมกับเหยียบคลัทช์ ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยของรถเกียร์ธรรมดาพลังแรงๆ เขาละครับ จากนั้นพอตั้งหลักได้ ผู้เขียนออกตัวยัดเกียร์หนึ่ง แรงฉุดดึงก็เข้ามาทักทายทันที พลันรอบดีด 3,000-4,000 จึงได้สติโยกเกียร์มาสอง-สาม ซึ่งการเปลี่ยนเกียร์ไปตำแหน่งต่างๆทำได้กระฉับ ช่องว่างระหว่างเกียร์สั้น(ลืมอารมณ์รถกระบะไปได้เลย) ยิ่งสับยิ่งมัน คล่องแคล่วทันใจ
โดยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดลูกนี้ ได้เรี่ยวแรงมาจากเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 สูบนอน ขนาด 2.0 ลิตร ออกแบบให้มีหัวฉีดในท่อร่วมไอดี(ก่อนถึงห้องเผาไหม้) และมีหัวฉีดตรงในห้องเผาไหม้ เพื่อช่วยให้การจุดระเบิดเต็มเม็ดเต็มหน่วย ได้แรงแถมใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งกำลังสูงสุด 200 แรงม้า จะมาที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ที่ 6,400-6,600 รอบต่อนาที
การขับขี่แรงเหลือล้น ขึ้นอยู่กับว่าอยากจะเปลี่ยนเกียร์ให้เร็ว หรือจะลากรอบอยากได้อารมณ์พุ่งกระชากทั้งนี้การขับในช่วงการจราจรพลุกพล่านบนถนนหลวง ผู้เขียนเลือกเกียร์ 4-5 รู้สึกถึงการตอบสนองว่องไว พลังจัดให้ทันตามแรงกด และลดลงตามการผ่อนคันเร่งแบบตรงไปตรงมาดีครับ ซึ่งเป็นบุคลิกของรถไร้เทอร์โบที่ผู้เขียนว่ามีเสนห์มากๆ
|
รถดีใช่ว่าจะวัดกันที่แรงอย่างเดียวครับ การควบคุมและการทรงตัวของรถต้องสอดคล้องกัน ซึ่ง BRZ มีมาให้ครบ ด้วยโครงสร้างทางวิศวกรรม และการออกแบบของรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ และแรงกด (Down force) ที่ดีในการขับความเร็วสูง พร้อมช่วงล่างหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท หลังเป็นปีกนกสองชั้น ประกบล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ยาง 215/45 R17 เกาะถนนหนึบหนับ จับแน่นทุกโค้ง
ทั้งนี้ตัวรถอาจจะมีอาการดิ้นนิดๆให้รู้ว่านี่คือรถขับเคลื่อนล้อหลัง แต่การทรงตัวรวมๆ ให้ความมั่นใจสาดใส่ได้เต็มที่ทุกโค้ง เปรียบเสมือนคนกับรถหลอมเป็นหนึ่งเดียว อารมณ์ประมาณ เหวี่ยงไปด้วยกัน พุ่งไปด้วยกัน เบรกหยุดพร้อมๆกัน
ส่วนหนึ่งต้องชมพวงมาลัยแบบแรคแอนด์พิเนียนผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่เซ็ทมาแทบจะเหมือนพวงมาลัยแบบผ่อนแรงด้วยปั๊มไฮดรอลิก คือให้น้ำหนักตึงและหน่วงมือ ตอบรับกับการเป็นรถสมรรถนะสูง ไม่ว่าจะมุดซ้ายป่ายขวา หรือเล็งไลน์เข้า-ออกโค้ง ทำได้แม่นยำ ควบคุมทิศทางเป็นไปตามที่ตั้งใจ
|
ด้านอัตราบริโภคน้ำมันหากขับแบบดุดัน อย่างไรต้องมีเลขตัวเดียว (ต่ำกว่า 10 กม./ลิตร) แต่ด้วยเครื่องยนต์ที่พัฒนาใหม่ พร้อมโครงสร้างตัวถังลู่ลม น้ำหนักเบา(ตัวรถเปล่า 1,253 กิโลกรัม) ของ BRZ หากขับใช้ในชีวิตประจำวัน แบบเรื่อยๆ หรือความเร็วนิ่งๆ ประมาณ 100 กม./ชม.(ถ้าอดใจไหว) ยังประมวลผลให้เห็นประมาณ 8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือระดับ 12 .5 กม./ลิตรครับ
สำหรับ BRZ รุ่นเกียร์ธรรมดา ราคา 2.56 ล้านบาท และเกียร์อัตโนมัติ 2.64 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ ทีซี ซูบารุ ปรับลดลงมาแล้ว หลังจากเปิดตัวในช่วงแรก
รวบรัดตัดความ
รถสปอร์ตขนาดกะทัดรัด ขับเคลื่อนล้อหลัง เน้นอารมณ์ขับสนุก ไม่ต้องพึ่งเทอร์โบ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่ง BRZ มีบุคลิกเฉพาะตัว เรียกว่าไม่ติ๋มเหมือน ซิรอคโค ไม่แฟชั่นเหมือน มินิ แต่ยังเปี่ยมด้วยสมรรถนะ ขับขี่สะใจ ยิ่งใช้ความเร็วสูงประสิทธิภาพการทรงตัวและการควบคุมจะแสดงออกมาได้อย่างโดดเด่น
ใครนิยมรถสไตล์นี้อย่าได้ไปลองขับ BRZ ทีเดียว เพราะเดี๋ยวจะเสียเงินไม่รู้ตัว
|
|
| |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [
