สบายดี ลาวใต้ บ้านพี่เมืองน้องของหมู่เฮา
สบายดี (สวัสดี) ผู้อ่านทุกท่านครับวันนี้กระผมจะนำพาท่านสู่บ้านพี่เมืองน้องของเรา ประเทศลาวนั่นเอง ลาวเป็นเมืองที่สงบและยังให้บรรยากาศของเมืองไทยสมัยก่อนได้อย่างดีเยี่ยม ผู้คนล้วนเป็นมิตร ดังนั้นเรามาเริ่มออกเดินทางกันดีกว่าออกเดินทางจากออฟฟิศพร้อมพี่ๆทีมงาน หุๆๆ ตอน 1 ทุ่มตรง (เลตนิดๆ) นั่งรถตู้มุ่งตรงสู่ไปบ้านพี่ไกด์ที่จองทัวร์ (ทัวร์กลุ่ม 8-9 คนครับ) เอาไว้ที่จังหวัดศรีสะเกษ อาบน้ำและดื่มกาแฟ+ปาท่องโก๋ที่พี่เค้าเตรียมไว้จนได้เวลา 07.00 น. จึงออกเดินทางสู่ด่านช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี ใช้เวลาไม่นานก็ถึงขณะที่กำลังรอการติดต่อผ่านแดนนั้น อยู่ๆฝนก็ตกลงมาอย่าแรง (พยายามออกเสียงเหมือนโฆษณา อย่างแหล๊ง) ตกหนักมากๆครับ แต่พี่เค้าก็ดีเอาร่มออกไปติดต่อให้ จนเปียกซ่กเลยเชียว หลังจากพี่เค้าจัดการเรื่องผ่านแดนเรียบร้อยแล้ว ก็นำรถตู้ไปฉีดยาฆ่าแมลง เอ๊ย!ไมใช่ครับ พอดีตอนนั้นมีไข้หวัดนกระบาดเลยต้องมีการฉีดฆ่าเชื้อกันหน่อย เพราะที่ล้อรถมีโอกาสจะติดดินที่มีเชื้อเข้ามาด้วย อ้าเป็นวิชาการมากไปซะแล้ว ต่อๆ จากนั้นก็แวะแลกเงิน + เข้าห้องน้ำกันก่อน ก่อนจะเดินทางเข้าที่พักที่อำเภอปากเซ เก็บของเรียบร้อยก็ออกไปกินข้าวกลางวันกัน และเดินทางสู่ปราสาทวัดภู หนทางก็ค่อนข้างจะขรุขระทีเดียว แถมยังต้องข้ามเรือใหญ่ซึ่งรับรถได้หลายคัน หลังจากข้ามมาแล้วหนทางจะค่อนข้างตะกุกตะกัก จนกระทั่งถึงปราสาทวัดภู หลังจากแวะชมพิพิธภัณฑ์ด้านหน้าแล้ว ก็นั่งรถไปลงหน้าปราสาทวัดภู ก็พบภาวะอากาศร้อนตับแลบ เลยแวะซื้อไอติมเนสเล่จากบ้านเรานี่เอง หลังพักร้อนกันเรียบร้อยก็ต้องลุยเดิน ระยะทางไกลทีเดียว นอกจากไกลไม่พอยังสูงและชันอีกด้วย เหอๆๆๆ บ่นเป็นคนแก่เลยครับ แต่เมื่อเดินขึ้นไปก็จะพบร่มเงาของต้นไม้ที่ช่วยให้ไม่เหนื่อยมากนัก พร้อมความงามของปราสาทเก่าๆ ที่ดูแล้วเพลินตาเพลินใจ ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยมาก บรรยากาศที่มองลงมาข้างล่างก็สวยงามไม่แพ้บรรยากาศด้านบนเลยทีเดียว หลังจากขึ้นไปข้างบนสุด จะเห็นชาวบ้านมารองน้ำใส่ขวดพลาสติก ไกด์บอกว่าชาวบ้านเค้านับถือว่าเป็นน้ำอัมฤทธิ์ที่ได้ประทานลงมาจากเทวดา เราก็เลยไปลองชิมกันคนละนิด เพื่อเป็นศิริมงคล จากนั้นก็เดินไปดูแท่นบูชาที่เป็นรูปจระเข้ ก่อนจะเดินกลับลงมาขากลับยังดูน่ากลัวกว่าขาขึ้นเพราะมันค่อนข้างชันมากทีเดียว ก่อนจะแวะกินขนมจีนกันนิดนึง แล้วขึ้นรถกลับที่พักกันครับ ระหว่างทางที่กลับมาก็หลับยาว อิๆๆๆๆ จากนั้นก็ทานข้าวเย็น แล้วก็ขอราตรีสวัสดิ์ในคืนแรกครับในเช้าวันที่ 2 หลังจากเมื่อคืนได้มีการนัดแนะกันว่าจะทำบุญตอนเช้าซักหน่อย ก็เลยตื่นแต่เช้ามาทำบุญ และเดินชมวิถีชีวิตพี่น้องชาวลาวซักหน่อย และหาอาหารท้องถิ่นกินกันพอเป็นพิธี เลยแวะไปที่ร้านอาหารอินเดีย สั่งโรตีมากิน 555555 เกี่ยวอะไรด้วยก็ไม่รู้เมื่อได้เวลาพี่ไกด์ก็เรียกพวกเราไปทานอาหารเช้ากันครับ ก็คือก๋วยเตี๋ยวหน้าโรงแรมนั่นเองครับ หรือเค้าเรียกกันว่าเฝอเหมือนเวียดนามเลยครับ เอ! หรือเราอยู่ที่เวียดนามหว่า จากนั้นเมื่ออิ่มกันดีแล้วก็ออกเดินทางมุ่งหน้าออกไปช็อปปิ้งที่ตลาดกันก่อน หลังเดินช็อปเครื่องเงินกันพักใหญ่ ก็ต้องรีบออกเดินทางสู่ไนแองการ่าเอเชีย หรือน้ำตกคอนพะเพงนั่นเองเมื่อถึงเราก็ต้องปีนตามโขดหิน เพื่อถ่ายรูปวิวสวยๆ ก็เกือบจะมีหล่นลงไปซะแล้ว ไกด์บอกว่าเคยมีฝรั่งอยากลองของโดดลงไปดูแล้ว ปรากฎว่าขากลับเป็นศพกลับขึ้นมาอะครับ หลังถ่ายรูปกันสนุกสนาน (มากๆ) ก็มาทานข้าวกลางวันที่ร้านบริเวณน้ำตก หลังจากอิ่มกันเรียบร้อยก็มุ่งหน้าสู่หลี่ผี ต้องลงเรือขึ้นรถกันสนุกสนานเลยครับ ทางจะเข้าไปก็ดูลำบากลำบนนิดๆ เจอฝั่งปั่นจักรยานติดหล่มกันเต็มเลย ดูแล้วสนุกดีน่าไปปั่นเล่นดูบ้าง อิๆๆๆ ก่อนจะเดินเข้าไปดูหลี่ผี ที่นี่จะเห็นสายน้ำที่ไหลผ่านโขดหินที่เป็นทางน้ำหลายสาย แต่เมื่อดูแล้วเรากลับรู้สึกว่าธรรมดา แต่อาจเพราะมองไม่เป็นก็ได้มั้งครับ หลังจากดูเสร็จก็เดินทางกลับ กินข้าวที่ร้านเดิม แล้วก็พักผ่อน เนื่องจากวันนี้ค่อนข้างไกลพอสมควร จึงหลับสบายเลยครับและแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายหลังเช็คเอาท์แล้ว ออกไปน้ำตกตาดผาส้วมรับประทานอาหารเช้ากัน แวะชมวัฒนธรรมท้องถิ่นและเยี่ยมชมตัวรีสอร์ท ซึ่งผู้สร้างเป็นคนไทยที่ลงทุนลงแรงไปมากกับที่นี่ พร้อมทั้งได้รับความชื่นชมจากคนในท้องถิ่น เพราะเป็นผู้มาพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้ดีขึ้นเมื่อชมความงามแล้วก็แวะต่อที่น้ำตกตาดฟาน ที่เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดของลาว เราไม่สามารถเข้าไปชมใกล้ๆได้ เนื่องจากเป็นน้ำตกที่ตกลงสู่หน้าสผาสูงจึงได้เพียงสัมผัสถวามงามจากระยะไกล ที่นี่จะเห็นชาวบ้านมาตั้งร้านขายกล้วยไม่ป่าจำนวนมากครับ แต่ซื้อมาปลูกก็ไม่ออกดอกซักที เพราะกล้วยไม้จะค่อนข้างดูแลยากครับถัดจากนั้นก็แวะทานข้าวกลางวันกัน ก่อนไปแวะที่ไร่ชา เพื่อเลือกซื้อชาติดไม้ติดมือกลับไปฝากที่บ้าน เมื่อเสร็จแล้วก็มุ่งหน้าสู่จุดสุดท้ายของการเดินทางกันนั่นก็คือน้ำตกตาดเยื้อง ที่นี่ได้ใจเรามากครับๆเนื่องจากเป็นน้ำตกที่น้ำแรงมากๆกระเซ็นมาโดนเราเย็นมากๆ แถมสามารถลงไปว่ายน้ำได้ด้วยแต่ขอบายล่ะครับ เพราะเรากำลังจะเดินทางกลับบ้านกัน ก็นับว่าเดินกันไกลพอสมควรกว่าจะลงไปถึงตัวน้ำตกแต่ก็ได้ภาพที่น่าประทับใจกลับมา หลังพักเหนื่อยก็มุ่งหน้ากลับบ้านกันครับ ก่อนที่จะแวะจับจ่ายซื้อของที่ดิวตี้ฟรี ติดมือคนละหน่อย ก่อนแวะหาข้าวเย็นทานริมแม่น้ำที่อุบลฯ ก่อนมุ่งหน้ากลับบ้าน ถึงกรุงเทพฯก็เช้าวันจันทร์พอดี เลยต้องทำงานต่อ แหะๆๆๆ ก็จบการเดินทางเพียงเท่านี้ครับ เริ่มต้นด้วยสมาชิกทริปนี้ครับออกเดินทางสู่ช่องเม็ก จังหวัดอุบลฯ กันเลยครับหนทางสู่ช่องเม็กมีฝนโปรยปรายด้วยครับ แต่ก็ให้ความรู้สึกสดชื่นและแล้วก็มาถึงด่านช่องเม็กกันแล้วครับ หน้าตาประมาณนี้จากนั้นก็ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง อ่านกันเอาเองนะครับ อัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้นครับ อ่านออกกันรึเปล่าจ๊ะจากนั้นก็มาดูทะเบียนรถกันครับ ของลาวเป็นแบบนี้ครับ จากนั้นก็นั่งรถจากด่านเข้าเมืองปากเซ ผ่านสะพาน ญี่ปุ่น-ลาวครับข้ามเรือไปปราสาทวัดภูครับ แบบคันนี้ครับเรือบรรทุกมอเตอร์ไซด์กันแบบนี้เลยครับ และแล้วก็มาถึงปราสาทวัดภูครับ แวะที่พิพิธภัณฑ์ด้านหน้าก่อนครับ กับรูปนางแบบ 55555แวะกินไอศครีม ก่อนเดินทางขึ้นปราสาท ที่ไกลและร้อนมากๆครับเริ่มต้นที่ส่วนปราสาทด้านล่างครับ สวยงามมากๆก่อนจะเดินต่อขอรูปอาร์ตๆซักรูปครับ แล้วใครชื่ออาร์ตหว่า กำ มุขแป๊กๆ บันไดทางขึ้นสู่ปราสาทด้านบน กับสาวสวย 4 คน อิๆๆๆๆปราสาทวัดภูด้านบนครับ สวยงามตระการตาต่อจากนั้นก็ พระพุทธรูปในปราสาทน้ำอัมฤทธิ์ครับ ลองได้ชิมดูแล้วน้ำออกจะรสเค็มๆฝาดๆ (ไม่รู้มีท่อประปาที่ไหนอะเปล่า ขำๆนะครับ )มุมมองเมื่อมองจากปราสาทวัดภูลงมาข้างล่างครับและปิดท้ายที่ปราสาทวัดภูด้วยรูป แท่นบูชายัญครับ เป็นรูปจระเข้ซะด้วย อิๆหลังกลับมาก็ทานมื้อเย็นที่ร้านนี้ครับ รายการอาหารจ้า อร่อยมากๆ วันรุ่งขึ้น ก็ออกไปตักบาตรตอนเช้ากันหน่อยครับที่วัดนี้อะครับ วัดอะไรหว่าบรรยากาศวัดจากภายนอก สวยงามมากๆเช้าๆ ก็มีนักเรียนไปเรียนหนังสือ ดูสไตล์การแต่งตัวซะก่อน คาดว่าเป็นช่างกล หุๆๆๆๆเช้าๆ คิวรถสามล้อยังว่าง ขอลองเป็นแก็งค์สามล้อกันบ้าง อิๆอันนี้อาหารทานเล่นตอนเช้า เค้าเรียกข้าวจี่ จากที่ไปมาทั้งเวียดนาม กัมพูชา และที่ลาวมีเหมือนกันครับ แต่ผมว่าที่กัมพูชาไม่อร่อยที่สุดอะครับ แต่คอนเฟิร์มว่าอร่อยจริง อาจดูไม่สะอาดแต่อร่อยสุดๆหลังจากนั้นก็อาหารมื้อเช้าของเรา เฝอ ครับและแล้วช่วงเช้าของวันที่ 2 ก็เริ่มต้นที่คอนพะเพงครับ ไนแองการ่า เอเชียมาดูความแรงของน้ำตกกันครับขอซักแชะจากนั้นก็แวะเติมพลัง อร่อยทุกมื้อ คอนเฟิร์มต่อด้วยลงเรือไปหลี่ผีและก็ต้องขึ้นรถแบบนี้ต่อ นี่ล่ะครับหน้าตาของหลี่ผี ดูธรรมดาจัง เหอๆๆๆๆจัดไปอีกรูปรูปนี้เป็นทางที่ชาวบ้านทำขึ้นเพื่อไว้ดักปลาจะเห็นอยุ่เยอะทีเดียวและแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายเช้าๆออกไปดูสภาพถนนยังเป็นแบบนี้บรรยากาศช่วงเช้าก็แวะที่น้ำตกตาดผาส้วมมีสะพานเชือกงามๆแบบนี้ที่นี่เป็นรีสอร์ตที่ได้สัมปทานโดยคนไทย เลยมีบ้านต้นไม้แบบนี้ให้ชมเลยลุมกันขึ้นไปถ่ายรูป ถึงแม้จะไม่ได้พักก็ตามที่นี่ยังมีการแสดงของเด็กๆให้ชมด้วยครับ แวะที่น้ำตกตาดฟานและจุดสุดท้ายที่เยี่ยมเยือน น้ำตกตาดเยื้องมีศาลาพักใจให้หายเหนื่อย ในบรรยากาศสบายๆที่นี่เป็นความประทับใจที่สุดของทริปนี้เลยก็ว่าได้ครับ เลยขอปิดท้ายซักหน่อยก่อนจะเดินทางกลับและปิดท้ายทริปด้วยรูปที่ด่านช่องเม็ก ไว้พบกันทริปหน้าครับ
) นั่งรถตู้มุ่งตรงสู่ไปบ้านพี่ไกด์ที่จองทัวร์ (ทัวร์กลุ่ม 8-9 คนครับ) เอาไว้ที่จังหวัดศรีสะเกษ อาบน้ำและดื่มกาแฟ+ปาท่องโก๋ที่พี่เค้าเตรียมไว้จนได้เวลา 07.00 น. จึงออกเดินทางสู่ด่านช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี ใช้เวลาไม่นานก็ถึง
จากนั้นก็ทานข้าวเย็น แล้วก็ขอราตรีสวัสดิ์ในคืนแรกครับ
สวยงามตระการตา
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [