น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี
สวัสดีครับเพื่อนๆ พูดถึงเรื่องเที่ยวแล้วก็ย้อนนึกไปถึงการไปเที่ยวเมืองกาญที่ยังไม่ได้เล่าให้เพื่อนๆอ่านกันเลย วันนี้ก็เลยมาเล่าให้ได้อ่านกัน การไปเที่ยวครั้งนั้นเกิดจากการที่ตัวผมอยากไปเที่ยวกับเพื่อนมากๆ ก็เลยนัดแนะกันตอน 7.30 ที่หอไอ้หนุ่ม ก่อนออกเดินทางก็มีเรื่องฉุกละหุกกันนิดหน่อย เนื่องจากไอ้กู้ตัวดีกับหนึ่งเกิดไม่ไป ทำให้พวกเราต้องเสียค่าห้องไปฟรีๆ เฮ้อ ! เอาเถอะ จากนั้นเราออกเดินทางกันด้วยพาหนะ 2 คัน ไปด้วยกัน 7 คน ได้แก่ เรา เอลฟ์ ทน กอล์ฟ เกด ดาว เปิ้ล มุ่งตรงสู่น้ำตกเอราวัณ ที่จังหวัดกาญจนบุรีกันเลย การเดินทางของเราใช้เส้นทางตรงจากกรุงเทพออกสู่นครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี ก่อนจะใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3199 เลี้ยวซ้ายผ่านป้อม รปภ. เขื่อนศรีนครินทร์ข้ามสะพานแม่น้ำแควใหญ่ เลี้ยวซ้ายผ่านตลาดศรีนครินทร์ ตรงไปยังอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เราใช้เวลาไปทั้งหมดประมาณ 2-3 ชั่วโมง เมื่อเราถึงอุทยานก็แวะไปติดต่อที่พักซึ่งเราจองผ่านอินเตอร์เนตไว้ แล้วนำสัมภาระไปเก็บที่ที่พักก่อนจะออกมากินข้าวกันที่เขื่อนศรีนครินทร์พร้อมกับกินวิวไปด้วย หลังจากกินข้าวเสร็จเราก็ตั้งใจว่าจะขึ้นไปลุยน้ำตกกันเลย ไหนๆเราก็จะไปเที่ยวกันแล้วเราน่าจะมีความรู้เกี่ยวกับสถานที่กันนิดนึงนะครับ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขาหินปูนสลับซับซ้อน ป่าโดยรอบเป็นป่าเบญจพรรณ ซึ่งเป็นต้นน้ำของลำห้วยที่ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อยและอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ที่ทำการตั้งอยู่ในเขตอำเภอศรีสวัสดิ์ น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดของผืนป่าตะวันตก และเป็นน้ำตกยอดนิยมที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดกาญจนบุรีตั้งแต่ยุคแรกๆ จวบจนปัจจุบันก็ยังคงมีผู้นิยมมาเยือนสม่ำเสมอ มีชื่อเดิมว่า น้ำตกสะด่วงม่องล่าย ตามชื่อของลำห้วยม่องล่าย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกที่เกิดจากยอดเขาตาม่องล่ายในเทือกเขาสลอบ ลำธารที่ไหลทอดยาวลงมาจากภูเขาระยะทางประมาณ 1.5 กม. เกิดเป็นน้ำตก 7 ชั้นที่มีลีลาชั้นเชิงสวยงามไม่ซ้ำแบบ ลักษณะโดยรวมเป็นน้ำตกหินปูนสีเหลือง สายน้ำใสสะอาด บางช่วงที่เป็นแอ่งน้ำจะมีสีเขียวมรกต ยามแดดส่องจึงเกิดสีสันที่งดงามภายใต้ป่าใหญ่ร่มรื่น ตัวน้ำตกชั้น 7 นั้นอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 400 เมตร มีความสวยงามมากที่สุดและเป็นที่มาของชื่อน้ำตก เพราะลักษณะของสายน้ำไหลบ่ามองดูคล้ายกับหัวช้างเอราวัณซึ่งมี 3 เศียร หลัจบวิชาการไปแล้วเราก็มาลุยน้ำตกกันต่อดีกว่า เริ่มต้นจากที่ทำการอุทยานเดินไปตามทาง เมื่อเราเดินทางมาถึงน้ำตกชั้นแรกจะพบหลายๆครอบครัวนั่งปูเสื่อทานข้าวและเด็กๆมาเล่นน้ำกัน ที่ชั้นนี้จะเป็นชั้นน้ำตกเล็กๆลดหลั่นกันลงมาเป็นทางยาว เมื่อเราขึ้นไปสู่ชั้นที่ 2 ชั้นนี้จะมีลักษณะของน้ำตกไหลผ่านหน้าผาหินปูนลงสู่แอ่งกว้างเบื้องล่างกลายเป็นแอ่งสีเขียวมรกตที่สวยงามไม่ต่างจากสีของน้ำทะเลเลยทีเดียว จนหลายๆคนบอกว่าชั้นนี้ถือว่าเป็นชั้นที่สวยที่สุดของน้ำตกทั้ง 7 ชั้น ที่นี่จะพบคนไทยและชาวต่างชาติเยอะมากเล่นน้ำกันอยู่ เนื่องจากวันที่เราไปเป็นวันหยุดด้วยล่ะมั้ง แต่ด้วยความตั้งใจของเราจึงรีบมุ่งหน้าออกเดินกันต่อ อ้อ! ขอบอกนิดนึงครับ จากชั้นที่ 2 ขึ้นไปไม่สามารถนำอาหารและเครื่องดื่มขึ้นไปได้ จะต้องฝากเจ้าหน้าที่เอาไว้ก่อน พอเราเดินข้ามสะพานไม้มาก็จะพบกับน้ำตกชั้นที่ 3 เราจะเห็นน้ำตกสีขาวสายเล็กๆ ไหลลงสู่แอ่งกว้าง ซึ่งน้ำที่ใสนี้กลมกลืนเข้ากับป่าสีเขียวทำให้ดูร่มรื่นมาก แต่เราไม่มีเวลามากนักจึงต้องก้าวกันต่อไป ผ่านชั้นที่ 4 ที่มีลักษณะของสายน้ำตกไหลผ่านหินปูนรูปหน้าอก ลงแอ่งน้ำสีเขียวเช่นเดียวกับชั้นอื่นๆ สภาพทางเดินที่เราเดินต่อขึ้นไปจะค่อนข้างลำบากขึ้น ทางเดินจะค่อนข้างชันพอสมควร พอเดินๆไปทางเดินจะเป็นธรรมชาติมากขึ้นเพราะผู้คนที่ขึ้นไปมีจำนวนน้อยลง บางครั้งเราก็ต้องช่วยกันหาทางเดินต่อขึ้นไปเอง เนื่องจากทางเดินจะไม่ใช่ทางเดินแบบปกติ จนเราผ่านชั้นที่ 5 และ 6 ไป ส่วนทางที่จะขึ้นสู่น้ำตกชั้นที่ 7 ต้องขึ้นบันไดไม้ไผ่และเดินลอดต้นไม้ที่ล้มอยู่ซึ่งเกิดจากฝนตกเมื่อวานนี้ ในที่สุดก็มาถึงจุดมุ่งหมายของเราที่น้ำตกชั้นที่ 7 ความรู้สึกของผมนั้นประทับใจมากๆ ไม่ใช่ประทับใจเพียงแค่ความสวยงามของน้ำตกเท่านั้น แต่เป็นความรู้สึกประทับใจในตัวเพื่อนๆทุกคนที่ร่วมเดินทางกันมา น้ำตกชั้นที่ 7 เป็นชั้นที่สวยมากกว่าที่หลายๆคนคิด เพราะสายน้ำตกที่ไหลจากเบื้องบนผ่านชั้นหินปูนรูปช้าง 3 เศียรสีเหลืองออกขาว (จากแสงแดดที่สาดส่องลงมากระทบ) ไหลลงสู่แอ่งน้ำ 2 แอ่งที่มีต้นไม้งอกย้อยลงมาเหมือนมีถ้ำอยู่ใต้น้ำตก แอ่งหนึ่งมีสีเขียวมรกต และอีกแอ่งดูเป็นสีขาวจากหินปูนใต้น้ำ ด้วยความสวยงามของน้ำตกเราจึงกลับไปเป็นเด็กกันอีกครั้ง โดดเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานประกอบกับเรามีช่างกล้องชั้นดี ก็ไอ้กอล์ฟนั่นแหละคร้าบ เลยถ่ายรูปเก็บมาฝากให้เพื่อนๆได้ดูกัน เมื่อเล่นน้ำและเก็บรูปกันเต็มที่แล้วก็พากันกลับ ขาลงไม่ลำบากเท่าไหร่เพียงแต่ต้องระวังทางเดินลื่นๆเท่านั้น ลืมบอกไปอีกเรื่องหนึ่ง น้ำตกเอราวัณจะมีเวลาปิดคือ 16.30 น. ยังไงตอนจะขึ้นไปก็ต้องกะเวลาหน่อยเพราะเราต้องเดินกันอย่างน้อยประมาณชั่วโมงนึงกว่าจะไปถึงชั้นบนสุด พอเราลงมาก็กลับที่พักเพื่ออาบน้ำ แล้วออกมาหาข้าวเย็นกินกันที่อุทยานนั่นแหละ เมื่ออิ่มแล้วก็กลับที่พักไปเล่นไพ่ ดื่มเบียร์กันซักนิดก่อนจะเมาหลับกันไปตั้งแต่ 5 ทุ่มกว่าๆ ตอนเช้าหลังจากตื่นนอน เนื่องจากไม่ได้วางโปรแกรมอะไรไว้ก็เลยออกจากที่พักกันตอนเที่ยง หาอะไรกินกันที่ตลาด ก่อนจะแวะเขื่อนอีกแห่งเพื่อถ่ายรูป จากนั้นก็ขับรถกลับเข้ากรุงเทพ โดยเราแวะซื้อของฝากและกินข้าวเย็นกันที่วัดดอนหวาย แล้วค่อยแยกย้ายกันกลับบ้าน สำหรับทริปนี้หมดงบประมาณไปไม่เกินคนละ 2000 บาท ไว้คราวหน้าไปเที่ยวที่ไหนมาจะมาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันอีก แต่โอกาสที่จะได้ไปคงน้อยลง เพราะผมต้องไปเรียนโทในวันเสาร์อาทิตย์แล้วล่ะ แต่คงจะมีแว่บโดดเรียนกันบ้างเพื่อไปเที่ยว 555 บ๊ายบายจ้าคุณผู้อ่านทุกท่าน
เปิดด้วยป้ายอุทยาน ทำไมไปที่ไหนต้องถ่ายทุกที กลัวจำไม่ได้ว่าไปไหนมาบ้าง
ต่อด้วยที่พักในอุทยานแห่งชาติเอราวัณจ้า
ตามด้วยหนทางที่เราต้องฟันฝ่าน้ำตกเอราวัณทั้ง 7 ชั้น แล้วจะบังกันทำไม
จากนั้นก็ลุยกันเลยกับน้ำตกชั้นที่ 2 ที่เค้าว่าสวยที่สุด น้ำสีมรกตสวยเชียว
ระหว่างทางเห็นวิวสวยเป็นไม่ได้ปีนเข้าไปถ่ายรูปซะอย่างงั้น
สวยมากๆอยากจะโดดลงไป บรรยากาศดีจริงๆ
และแล้วคุณก็มาถึงชั้นที่ 7 แล้วคร้าบ
ขอซักแอคที่ชั้น 7 ซะหน่อย
แล้วจะไปทำบ้าอะไรกันข้างบนคร้าบ เหอๆๆๆๆ
อายมั๊ยเนี่ยเอารูปเพื่อนๆมาเผา ทำใจซะเถอะนะ อิๆ สุดท้ายท้ายสุดก็แวะเขื่อนท่าทุ่งนาก่อนกลับบ้านจ้า
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ไว้ติดตามชมทริปมันส์ๆกันในโอกาสหน้าอีกนะครับ
Create Date : 02 มกราคม 2551 | | |
Last Update : 1 กรกฎาคม 2555 3:01:32 น. |
Counter : 1712 Pageviews. |
| |
|
|
|