6.สหกรณ์โคเนื้อไทยแบ็ลค จก. โดยคุณกฤษดา เตี้ยงสูงเนิน คุณทอป อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา เน้นลูกผสมแองกัส โควากิว ติดตามได้ที่ Facebook:กฤษฎา เตี้ยงสูงเนิน
สหกรณ์เหล่านี้ทำธุรกิจครบวงจรครับ ท่านต้องไปสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์
จากนั้นสหกรณ์ก็จะมีการกำหนด สเปกโคที่เข้าขุน การใช้อาหาร การกำหนดคิวรับชื้อโคของท่าน ถ้าใครสนใจอาชีพนี้ลองไปดูครับว่าท่านอยู่ใกล้สหกรณ์
ดังกล่าวหรือไม่ ถ้าไกลแต่อยากขุนโคลองตั้งเป็นกลุ่มผู้เลี้ยงแล้วนำไปคุยกับสหกรณ์ดังกล่าวดูครับ
พันธุ์โคที่ใช้ขุน
1.พันธุ์กำแพงแสน (พันธุ์ชาร์โลเลย์* บรามันห์*พืนเมือง)
2.โคลูกผสมบราห์มัน กับพันธุ์โคเนื้อต่างประเทศ ที่นิยมคือ
2.1พันธุ์ชาร์โลเลย์
2.2พันธุ์ซิเมนทอล
2.3 พันธุ์ ลิมูชิน (Limusin)
2.4 พันธุ์แองกัส
เมื่อได้พันธุ์โคเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงการจัดการครับ
โรงเรือน เป็นแบบขังคอกละ 1 ตัว หรือแบบคอกรวม พื้นที่คอกต่อตัวก็
ใช้ประมาณ 5- 10 ตารางเมตรต่อตัวครับ พื้นควรเป็นพื้นปูนครับแล้วใช้แกลบ หรือขี้เลื่อยรองพื้น เราสามารถขายมูลวัวได้ในราคากระสอบปุ๋ยละ
10-20 บาท แล้วแต่พื้นที่ หลังคามีประมาณสัก 30 % ของคอกก็ได้ครับ
มีรางให้อาหารและน้ำอยู่หน้าคอก
การเตรียมวัวก่อนเข้าขุน(เพศผู้เท่านั้น)
1.แจ้งเจ้าหน้าที่สหกรณ์
2.ตอนวัว
3.ฉีดยาถ่ายพยาธิ
4.ทำวัคซีนโรคปากเท้าเปื่อย (FMD)
5.ขึ้นทะเบียนวัวขุนกับสหกรณ์
การให้อาหาร การขุนโคให้อ้วนให้เนื้อนุ่มนั้น จำเป้นต้องให้อาหารข้นเป็นหลัก มากกว่า 80 % ที่เหลือ20% เป้นหญ้าสดหรือฟางข้าว และมีการเสริมกากน้ำตาล อาหารข้นก้มีแบบสำเร็จรูปขายตามร้านขายอาหารสัตว์ทั่วไป
อาหารและการให้อาหารช่วง 6 เดือนสุดท้ายก่อนส่งขายสหกรณ์( โคที่ขุนเสร็จแล้ว ต้องมีน้ำหนักตัว 600 กก ขึ้นไป)
1.ให้อาหารข้นสูตร 12%โปรตีน วันละ 6 กก. /ตัว/วัน (เช้า3 -เย็น 3)
2.อาหารหยาบให้ฟางวันละ 2-3 กก./ตัว/วัน
3.หญ้าสด ให้เฉพาะช่วงหน้าฝน 2-3 กก./ตัว/วัน
4.กากน้ำตาลให้ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของการขุน (1 กก./ตัว/วัน)
5.มีน้ำสะอาดให้กินตลอดเวลา
เรามาดูต้นทุนการขุนของสมาชิกที่เลี้ยงโคขุนรายเล็กขนาด 3-10 ตัวกันครับ มีคร่าวๆดังนี้
โคตัวเบอร์ 1 วันที่ขุน 1/10/52 น.น. เข้าขุน 280 กก. วันที่ขาย 10/6/53 น้ำหนักส่งขาย 546 กก. ขุน 8 เดือน น.น.ซาก 310 กก. ADG( 1.1 กก./วัน )
1.ราคาโคเข้าขุน น.น. 280 กก. ราคา = 12,000 บาท
2.ค่าอาหารข้น ตลอดการขุน ระยะเวลาขุน 252 วันๆละ 6 กก.= 11,536 บาท
3.ค่าอาหารหยาบ (ฟาง 1.5 บาท/กก.) ระยะเวลาขุน 252 วันๆละ 3 กก.
= 1,643 บาท
4.เสริมรำหยาบ(6บาท/กก.) ระยะเวลาขุน 252 วันๆละ 2กก.= 3,024 บาท
5.เสริมกากน้ำตาล (6.5 บาท/กก.) ระยะเวลาขุน 252 วันๆละ 0.5 กก.
= 819 บาท
6.ค่ายาถ่ายพยาธิ,และยาอื่นๆ = 400 บาท
7.ค่าใช้จ่ายอื่นๆ(ค่าน้ำ,ค่าไฟ) = 400 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 29,822 บาท
มาดูรายได้กันบ้างครับจากการขายโค
1.ราคาตามน.น.ซากอุ่น(310 ก.ก. x 109 บาท/กก.) = 38,528 บาท
น้ำหนักซากอุ่นคืออะไรครับ หมายความว่าเอาเข้าโรงงานตัดแต่งเนื้อแล้วได้ออกมาเป็นดังนี้ครับ
2.ราคาตามคุณภาพเนื้อ(344 x 18.5บาท/กก) (อยู่ที่ เกรด3)= 6,364 บาท
เนื้อโคขุนราคาจะแพงขึ้นอยู่กับคุณภาพเนื้อมีคะแนนการให้เกรดดังนี้
3. รายได้ อื่นๆ = 100 บาท
รวมรายได้สุทธิ = 49,992 บาท
กำไรสุทธิ (บาท/ตัว) = รายได้จากการขายโคขุน - ต้นทุนการเลี้ยง
49,992 - 38,470 = 11,522 บาท/ตัว
4. ขายมูลวัว 2 ตัน (ราคา 1 บาท/กก) = 2,000 บาท
กำไรทั้งหมด = 13,522 บาท/ตัว
5.บริษัท นครพนมบีฟ จำกัด ที่ อ.นาแก จ.นครพนม
โดยคุณ บวรทัต สล่างสิงห์ อดีตผู้จัดการ โพนยางคำ เส้น อ.นาแก>>มุกดาหาร
6.สหกรณ์โคเนื้อไทยแบ็ค จก. โดยคุณกฤษดา เตี้ยงสูงเนิน คุณทอป อ.ขามทะเลสอ
จ.นครราชสีมา
7.ร้านของ Max Beef ที่ ม.เกษตร บางเขน
ร้านขายเนื้อของMax Beef
ร้านสเต็กMax Beef ม.เกษตร กำแพงแสน
บุชเชอร์ชอป ของห้าง แมคโคร ห้างวิวลา ห้างริมปิงเชียงใหม่
เนื้อคุณภาพเดียวกันที่มาจากต่างประเทศราคา 1,000 - 5,000 บาท/กกขึ้นไป แต่ของทั้งสหกรณ์ เนื้อคุณภาพเดียวกันราคา 300 -1,500 บ/กก ราคาถูกกว่า และเป็นการช่วยเกษตรกรของเราด้วย ความปลอดภัยในการผลิตทั้ง 4 สหกรณ์ ไม่มีการใช้ฮอร์โมนในขบวนการขุน ตัดแต่งในโรงงานที่มาตรฐานกรมปศุสัตว์ปลอดภัยมากครับ
อาหารที่ทำจากโคขุนคุณภาพ ครับ สำหรับคนชอบทานเนื้อ
ตอนต่อไปผมจะนำเสนอต้นทุนการขุนโคทั่วไป ที่ท่านซื้อเนื้อตามตลาดสดมาทำลาบ ทำแกง หรือทำเนื้อเค็ม การขุนโคแบบนี้ ปราบเซียนมาเยอะครับ การเก็งราคา การปั่นราคา การกดราคารับซื้อ ผู้เลี้ยงขาดทุนหรือกำไรเป็นกอบเป็นกำ คนขายกำไรเละ พอๆกับวงการเล่นหุ้นบ้านเราเลยครับ จะได้เป็นข้อมูลให้ท่านตัดสินใจก่อนการเลี้ยงหรือเอาไปแนะนำกับคนที่รู้จักที่คิดจะเลี้ยงครับ