|
พระเจ้ากับพระคำของพระเจ้า
.....พระเจ้ากับพระคำของพระเจ้า 2 สิ่งนี้ ต้องมีความสมดุลย์กัน
ให้เราลองสำรวจตัวเราเองว่า พระเจ้ากับพระคำของพระเจ้าในชิวิตของเรานั้น สมดุลย์กันอยู่หรือป่าว?
ในพระธรรม สดุดี 119:57 บันทึกไว้ว่า
.....โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระองค์ทรงเป็นส่วนของข้าพระองค์ ข้าพระองค์กล่าวว่าข้าพระองค์จะรักษาพระวจนะของพระองค์
พระวจนะ ในตอนนี้ มีประเด็นที่น่าสนใจ 2 ประเด็นด้วยกัน คือ
....พระเจ้า กับ......พระวจนะของพระเจ้า
สองสิ่งนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องจะต้อง ดำเนินไปด้วยกัน ในชีวิตคริสเตียนของเราทุกคน ไม่ใช่เพียงด้านใดด้านหนึ่ง
.....ถ้าชีวิตเรา เกี่ยวข้องกับพระเจ้า แต่ไม่เกี่ยวข้องกับ พระวจนะของพระองค์ .....ชีวิตของเราไม่แตกต่างกับผู้ที่แสวงหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วๆ ไป เพราะ คนเหล่านั้นมาอ้อนวอนเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการเท่านั้น และรู้จักสิ่งที่ตัวเองได้ไปร้องขอนั้น แค่ชื่อ
.....ขอให้เราทั้งหลาย อย่าให้เราเป็นแบบนั้น อย่าให้เรารู้จักพระองค์แค่ พระนาม
..
....กลับมาที่ข้อพระคัมภีร์ ใน สดุดี 119:57 อีกครั้ง ตรงท่อนที่ว่า โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระองค์ทรงเป็นส่วนของข้าพระองค์
.....คำว่า เป็นส่วนโดยความหมายทั่วไป หมายถึง เป็น 1 ในนั้น เช่น นิ้ว เป็นองประกอบของ มือ แต่คำว่า ส่วน ในพระคัมภีร์ตอนนี้ ไม่ได้หมายถึงเรื่องผิวเผินง่ายๆ แค่นั้น แต่ หมายถึง มรดก
สดุดี 16:5-6 พระเยโฮวาห์ทรงเป็นส่วนมรดกและถ้วยของข้าพเจ้า พระองค์ทรงรักษาส่วนของข้าพระองค์ไว้ เขตแดนของข้าพเจ้าเป็นที่ที่ร่มรื่น เออ ข้าพเจ้ามีมรดกที่ดี
.....พระคำตอนนี้บอกเราว่า มรดก ที่มาจากพระเจ้า เป็นสิ่งที่ดี และหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ทันทีที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เราได้มีมรดกที่ได้รับจากพระเจ้า เพราะพระเจ้าสร้างเรา แต่เราทั้งหลายคิดไม่ถึงจึงไปไขว่คว้าหามรดกจากที่อื่น เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีมรดก
.....พระคำตอนนี้ ได้พูดถึงชนชาติที่พระเจ้าเลือก คือชนชาติอิสราเอล เข้าไปในดินแดนที่พระเจ้าสัญญาแล้วพระเจ้าตัดส่วนให้กับคนเหล่านั้นพระผู้ที่รับมรดกนั้นกล่าว ว่า เป็นเรื่องดี ......
ลองเปรียบเทียบ กับละครน้ำเน่าแย่งชิงมรดกแล้วกัน เวลาที่ พ่อแม่เสียชีวิตไป และมีพินัยกรรมยกมรดกให้ลูก .....ตอนที่ลูกยังไม่ได้รับมรดก เค้าให้ความสำคัญกับเจ้าของมรดก เพราะ พ่อแม่มีมรดก (ซึ่งตัวเองอยากได้) แต่หลังจากที่ได้มรดกแล้ว เจ้าของมรดกก็หมดความหมายไป ...
.....แต่ผู้เขียนสดุดีบทนี้ บอกว่า พระเจ้าเป็นมรดก ดังนั้น การพูดแบบนี้ ความหมายคนละเรื่องกับเหตุการณ์ณ์ที่ยกตัวอย่างไว้เมื่อกี้ เพราะ คำว่า มรดก กับ เจ้าของมรดก ไม่ถูกแยกออกมาโดยให้ความสำคัญต่างกัน
..... แต่สรุปตรงที่ว่า พระเจ้า เป็นมรดก และมรดก มีส่วนในตัวของเค้า เมื่อทั้ง 2 อย่างนี้ สมดุลย์กัน ความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับเค้า นั้นย่อมเป็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
..... ความเป็นส่วน นั้น แยกออกจากนั้นไม่ได้ หรือถ้าต้องแยกออก ต้องเสียศูนย์แน่นอน
ดังที่ พระเยซูคริสต์ตรัสไว้ว่า ... ยอห์น 15:5 เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่ง ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในเขา ผู้นั้นจะเกิดผลมาก[พราะถ้าแยกจากเราแล้วท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย
.จากพระคำข้อนี้ พระเยซูเน้นย้ำว่า เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้านั้นเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้
ต่อมา ในพระธรรมยอห์น 17:20-21 พระเยซูคริสตเจ้า เห็นว่า เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับชีวิตคริสเตียน พระองค์ไม่ลืมที่จะอธิฐานแม้ในยามคับขันเช่นนั้น ก่อนที่พระองค์จะโดนจับตัวไป ว่า ... ข้าพระองค์มิได้อธิษฐานเพื่อคนเหล่านี้พวกเดียว แต่เพื่อคนทั้งปวงที่จะเชื่อในข้าพระองค์เพราะถ้อยคำของเขา
เพื่อเขาทั้งหลายจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังที่พระองค์คือพระบิดาทรงสถิตในข้าพระองค์ และข้าพระองค์ในพระองค์เพื่อให้เขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระองค์และกับข้าพระองค์ด้วย เพื่อโลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา
....พระคำตอนนี้เป็นคำอธิฐานของพระเยซูคริสต์ที่เรากับพระเจ้าจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในความหมายที่ว่า เราจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับพระเจ้า จนขนาดที่ต่อไปเราสามารถพูดได้จากประสบการณ์ส่วนตัวของเรากับพระเจ้าได้ เหมือนที่ผู้เขียนพระธรรมสดุดี กล่าวไว้ว่า โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระองค์ทรงเป็นส่วนของข้าพระองค์
.... ขณะนี้เราทั้งหลายกำลังทำบาปอยู่หรือไม่ ถ้ายังทำอยู่ แสดงว่า ส่วนของพระเจ้าไม่ได้อยู่ในท่าน เพราะพระเจ้าไม่ทำบาป เหมือนอย่างที่องค์พระเยซูคริสต์เป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดา พระองค์ก็เป็นผู้ซึ่งปราศจากความผิดบาป และไม่เคยทำบาป
สุดท้ายนี้ ขอพระเจ้าเปิดเผยให้เราเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำและครอบครองชีวิตของเราทุกคนให้หันหลังไปเสียจากความผิดบาปโดยถาวร และ มีส่วนในพระเจ้าด้วยความชอบธรรม ในพระนามอันศักดิ์สิทธ์ขององค์พระเยซูคริสตเจ้า เอเมน
Create Date : 25 ธันวาคม 2549 |
Last Update : 25 ธันวาคม 2549 22:53:37 น. |
|
0 comments
|
Counter : 851 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|