Group Blog
 
All blogs
 
จงขอต่อพระบิดา

คำสอนของพระเยซูคริสต์สอนให้เราเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ กับลูก

“พ่อ คือ พระเจ้า
ลูก คือ เรา ผู้ที่เชื่อวางใจในองค์พระเยซูคริสต์”

“ลูกของพระเจ้า!!!” เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่คนบาปอย่างเรา ที่จะไดัรับเกียรตินี้
เกียรติซึ่งสวงนไว้แด่ ผู้ที่เชื่อวางใจในองค์พระเยซูคริสต์เท่านั้น

พระเจ้าได้ยืนยันกับเราไว้ใน โรม 8:15
“เหตุว่าท่านไม่ได้รับน้ำใจทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก
แต่ท่านได้รับพระวิญญาณผู้ทรงให้เป็นบุตรของพระเจ้า
ให้เราทั้งหลายร้องเรียกพระเจ้าว่า อับบา คือ พระบิดา
” )

พระเยซูคริสต์เจ้า ได้ตรัสไว้ใน มัทธิว 7:7 -10 ว่า
จงขอแล้วจะได้จงหาแล้วจะพบจงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน
เพราะว่าทุกคนที่ขอก็ได้รับ คนที่แสวงหาก็พบ และคนที่เคาะก็จะเปิดให้เขา
ในพวกท่านมีใครบ้างที่จะเอาก้อนหินให้บุตร เมื่อเขาขอขนมปัง
หรือให้งูเมื่อบุตรขอปลา

การแสดงออกถึงความผูกพันที่ลูกมีต่อพ่อแม่ อย่างหนึ่ง คือ การที่ลูกนึกถึงพ่อแม่ เป็นอันดับแรก
ไม่ว่าจะสุข หรือ เศร้า


. . . . ผู้เป็นพ่อ เป็นแม่ คงเสียใจไม่น้อย หากลูกของตนไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเวลามีปัญหา

. . . . พระบิดาของเราก็เช่นกัน พระองค์ปรารถนาที่จะได้ยินคำอธิฐานของเรา บอกความต้องการของเรา
ให้พระองค์ช่วยเหลือ

พระเยซู ได้ตรัสไว้ใน มัทธิว 7: 10 อีกว่า
“เหตุฉะนั้น ถ้าท่านทั้งหลายเองผู้เป็นคนชั่ว ยังรู้จักให้ของดีแก่บุตรของตน
ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใดพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์จะประทานของดีแก่ผู้ที่ขอจากพระองค์”

การที่พระเยซูบอกให้เราขอ ก็เพื่อให้เรามีชีวิตที่ผูกพันอยู่กับพระเจ้า
และท่าทีในการขอต่อพระเจ้านั้น คือ

“จงเชื่อ” เชื่อว่าจะได้รับ เชื่อในฤทธานุภาพของพระเจ้า เหมือนตนเองเป็นเด็กเล็กๆ
ที่เข้ามาขอจากพ่อด้วยความเชื่อ วางใจ
“อย่าสงสัย” เพราะผู้ที่สงสัย ก็เป็นเหมือนคนสองใจ เหมือนคลื่นในทะเลที่ซวนเซ ไปมา
และ “จงถ่อมใจ” และไว้วางใจในพระเจ้า
ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งคือ “ขอในสิ่งที่ชอบธรรม”
ในบางทีท่านขอ แต่ ไม่ได้เพราะว่าท่าน “ขอผิด”

ใน ยากอบ 4:3 บอกไว้ว่า
“ท่านขอและไม่ได้รับ เพราะท่านขอผิด หวังได้ไปเพื่อสนองราคะตัณหาของท่าน”

ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ให้แก่เรา เมื่อเราขอผิด . . .

ในพระคัมภีร์เดิมมีหลายคนที่ประสบความสำเร็จและได้รับพระพรจากพระเจ้า
เพราะว่า พวกเค้า “ขอต่อพระองค์”

มีคนหนึ่งที่คำอธิฐานของเค้าได้มีหลายคนนำมาเป็นแบบอย่าง จนประสบความสำเร็จในชีวิต
คนผู้นั้นคือ ยาเบส

ใน 1 พงศาวดาร 4:9
ฝ่ายยาเบสเป็นผู้มีเกียรติกว่าพี่น้องทั้งหลายของเขา มารดาของเขาเรียกชื่อเขาว่า ยาเบส
กล่าวว่า "เพราะเราคลอดเขาด้วยความเจ็บปวด"

(เรียกง่ายๆ ก็คือ “นายเจ็บปวด” แต่ยาเบสไม่ยอมให้ชื่อมากำหนดชะตาในชีวิตเค้าให้เป็นไปตามชื่อ)

ต่อมาใน 1 พงศาวดาร ข้อ 10
ยาเบสทูลพระเจ้าของอิสราเอลว่า
"โอ ขอพระองค์ทรงอวยพระพรแก่ข้าพระองค์ และขยายเขตแดนของข้าพระองค์
และขอพระหัตถ์ของพระองค์อยู่กับข้าพระองค์ และขอพระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ให้พ้นจากเหตุร้าย เพื่อมิให้ข้าพระองค์เจ็บใจปวดกาย"

เห็นได้ว่า ถึงแม้ เค้าจะชื่อว่า “นายเจ็บปวด”
แต่เค้าเชื่อว่า พระเจ้าสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตของเค้า
ทำให้เค้าไม่ต้องเจ็บใจ และปวดกาย

. . . และต่อ ในข้อเดียวกันนั่นเอง(ข้อ10) พระคัมภีร์ได้บันทึกอีกว่า
“และพระเจ้าทรงประสาทตามที่เขาทูลขอ”

ทำไมยาเบสพบความสำเร็จมากกว่าพี่น้องคนอื่นๆ ทั้งๆที่ชื่อของเค้ามันอัปมงคล !!

เค้าไม่ได้พบความสำเร็จเพราะเค้า เก่งกว่า พี่น้องคนอื่นๆ
เค้าไม่ได้พบความสำเร็จเพราะเค้า หน้าตาดี กว่าพี่น้องคนอื่นๆ

กลับกัน เขาด้อยกว่าพี่น้องของเค้าทั้งหมด

...แต่ พระคัมภีร์บันทึกว่า “เค้าเป็นผู้มีเกียรติกว่าพี่น้องทั้งหลายของเขา”

เพราะอะไร?

เพราะว่าเค้า ถ่อมใจ ทูลขอต่อพระเจ้าให้อวยพระพรในชีวิตของเค้า และพระเจ้าก็ให้ตามที่เค้าขอ


ใน ยากอบ 4:2 บอกว่า
“ท่านทั้งหลายอยากได้ แต่ไม่ได้ ท่านก็ฆ่ากัน ท่านโลภแต่ไม่ได้ ท่านก็ทะเลาะและทำสงครามกัน
ที่ท่านไม่มีเพราะท่าน ไม่ได้ขอ ”

และพี่น้องคนอื่นๆ ไม่ได้รับพระพรเหมือนยาเบส เพราะพี่น้องคนอื่น “ไม่ได้ขอ”

. . . สำรวจตัวเราเอง ว่าทำไมวันนี้ ทำไมเราไม่ได้ สิ่งที่เราควรจะได้
เป็นเพราะเราลืมทำอะไรบางอย่างเหมือนพี่น้องของยาเบสหรือป่าว?

ในเรื่องนี้ เราอาจจะนึกถึงอีกคน คือ “กษัตริย์ดาวิด”
ท่านผู้นี้ แตกต่างกับยาเบสที่ขอสั้นๆ( แต่พระเจ้าก็ยังอวยพระพรเขาซะขนาดนั้น)
แต่กษัตริย์ดาวิดนั้น ท่านทูลขอต่อพระเจ้าในทุกๆ สิ่ง

กำเนิดของท่านเป็นคนเลี้ยงแกะ เป็นลูกคนสุดท้อง เล็กกว่าคนอื่น ด้อยกว่าคนอื่น
แต่ทว่าต่อมา ดาวิด ได้เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชนชาติอิสราเอล
ดาวิดประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่เขากระทำ เพราะ . . “เขาทูลขอ”

(ถ้าท่านอยากรู้ว่าดาวิดขออะไรจากพระเจ้าบ้างไปอ่านได้ใน เพลงสดุดี 56)

โลกนี้บอกว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
แต่พระคัมภีร์บอกว่า จงพึ่งพระเจ้า

พระเยซูคริสต์ได้หนุนใจเรา ไว้ใน ยอห์น 16:23 - 24 ว่า
ในวันนั้นท่านจะไม่ถามอะไรเราอีก เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
ถ้าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะทรงประทานสิ่งนั้นให้แก่ท่าน
แม้จนบัดนี้ท่านยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของเรา จงขอเถิดแล้วจะได้
เพื่อความชื่นชมยินดีของท่านจะมีเต็มเปี่ยม

ขอบคุณพระเจ้า . . . พระเจ้าต้องการให้ลูกของพระองค์ มาหาพระองค์ และขอต่อพระองค์
ไม่ต้องไปสนใจว่า คนอื่นจะว่าเรา อ่อนแอ เป็นลูกขี้แย อะไรๆ ก็พระเจ้า

จงระลึกไว้เสมอว่า คราวที่พระเยซูคริสต์ดำเนินชีวิตอยู่บนโลกนี้ อะไรๆ ก็พระบิดา . . . เหมือนกัน

ให้เรารู้ว่า ชีวิตของเราถ้าไม่มีพระเจ้า มันก็คือความว่างเปล่า คือ ความล้มเหลว
ให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลางในชีวิตของเรา ให้เราดำเนินชีวิตตามที่พระเยซูได้ตรัสว่า

“ถ้าแยกจากเราแล้ว ท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย”
(เพราะทำไปก็ไม่เกิดผลสูงสุด)

สุดท้ายนี้ ขอพระเจ้าทรงช่วยเราที่เราจะเรียนรู้จักที่จะเข้ามาหาพระองค์ และกล้าที่จะทูลขอต่อพระองค์

ใน ฮีบรู 4:16
ฉะนั้นขอให้เราทั้งหลายจงมีใจกล้าเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณ เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา
และจะได้พบพระคุณที่จะช่วยเราในขณะที่ต้องการ

พระที่นั่งที่เราเข้ามาหาพระเจ้า ไม่ใช่พระที่นั่งแห่งการพิพากษา แต่เป็นพระที่นั่งแห่งพระคุณ
เป็นพระที่นั่งที่พระเจ้าพร้อมที่จะรับฟังและช่วยเหลือเรา . . .

ขอพระเจ้าทรงนำเรา ที่เราจะร้องขอต่อพระองค์ เพื่อพระองค์จะเติมส่วนที่ขาดให้กับเรา
เพื่อให้เรามีชีวิตที่ครบบริบูรณ์ และสามารถใช้เป็นคำพยานให้กับผู้ที่ยังไม่เชื่อพระเจ้า
และที่เราจะถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยชีวิตของเรา ที่สำเร็จได้ด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์

ในนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน



Create Date : 18 สิงหาคม 2549
Last Update : 26 กันยายน 2549 19:39:00 น. 1 comments
Counter : 721 Pageviews.

 
พระเจ้าอยู่ในใจฉันเหมือนกันค่ะ
ขอเป็นเพื่อนด้วยคนได้ไหม


โดย: aommee (aommee ) วันที่: 21 สิงหาคม 2549 เวลา:13:29:24 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

~ Jenny B. Good ~
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




The best thing in my life is the fact that I've found Jesus.
Friends' blogs
[Add ~ Jenny B. Good ~'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.