ภูกระดึง (ครั้งที่ 2) ป่าปิด ตอนที่ 3

เช้าวันที่ 13 เม.ย 52 (วันมหาสงกรานต์)

....ฝนปรอยเม็ดเมื่อตอนใกล้รุ่ง เราได้ยินเสียงพวกน้อง ๆ เจี๊ยวจ๊าวกัน คงจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาหมากดูก เราพึมพัมทั้งหลับตา

"ไม่ไปกันเรอะ อืออออ ไม่มีใครตื่นเหรอ "

เงียบ !!!!

ฝนก็ยังหยดแหมะ ๆ นอนขดใต้ผ้าห่ม มันอุ่นกว่าเนอะ อิอิ

เราตื่นตอนหกโมงเช้า เดินไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้ามันที่นั่นแหละ เติมน้ำใส่ขวดหิ้วมาไว้ที่เต้นท์ เผื่อใครตื่นจะได้ล้างหน้า....ฝนหยุดตกแล้วล่ะ นั่งสูดอากาศเย็น ๆ ชื้น ๆ เงียบ ๆ บ้านพักยังคงเงียบ มองไปสนามหญ้า มีหมอกบาง ๆ ลอยอ้อยอิ่ง..เฮ้อ สดชื่นหาใดปาน....เรามุดกลับเข้าเต้นท์เริ่มแต่งตัว...จะนอนต่อก็กระไรอยู่

7 โมงกว่า ๆ น้อง ๆ คงเดินกลับมาแล้ว ได้ยินเสียงน้องภรณ์ตะโกนเรียก เราเยี่ยมหน้าออกไปทักจากเต้นท์ ได้ความว่า เมฆเพียบ ได้เห็นนิดเดียว..ฮ่า ๆ ดีแล้ว ที่ไม่ได้ไปด้วย ฮิ้ววว...(โดนน้องต่อว่าด้วย แสนงอนจัง น่ารักที่สุด)

เพราะเสียงเรียกของน้อง ๆ อีก 2 สาวขี้เซาเลยตื่นมั่ง จัดการล้างหน้าแปรงฟัน แต่งตัวกำลังเสริมสวย น้องตั้มก็เดินดุ่ม ๆ มาร่ำลาเห็นว่าจะลงภูเลย ไปกินข้าวเช้าตามซำ ข้างล่าง พลางยื่นกระดาษให้เป็นอีเมล์ เราก็แลกเมล์กะน้อง พร้อมกับเบอร์โทร อิอิ เสร็จช้านนน ฉันจะขอรูปจากกล้องนายล่ะ ตั้มเอ๋ย อิอิ

พวกเรา เดินไปกินข้าวเช้า พร้อมข้าวห่อเหมือนเคย จริง ๆ เราก็งง จะสั่งข้าวห่อทำไมเนี่ย ตามผาก็มีข้าวขายนะเฟ้ย...เจอน้องๆ ที่ร้านพี่ธรรม น้อง ๆ ลงภูกันวันนี้ในช่วงบ่าย ช่วงเช้าจะไปเดินชมผาต่าง ๆ เราก็นัดหมาย เดี๋ยวเจอกันตามผาละกัน...(เจ้าหน้าที่ อนุญาตให้ลงภู ไม่เกิน 14.00)



ทางเดินระหว่างศูนย์ฯ ไปผาหมากดูก ไกลพอสมควร จำไม่ได้แล้ว ว่ากี่ เมตร สองข้างทาง ยังเป็นป่าสน แล้วก็ ดอก เอนอ้า ที่ขึ้นให้ครีด สวย อากาศ สดชื่น
ลมโชย แผ่วเบา เย็นดี ไม่ค่อยร้อน ตามต้นไม้ใบหญ้ายังมีน้ำฝนเกาะ พร่างพราว ... เรา 3 คนเดินชมทัศนียภาพ กันไป อย่างมีความสุข...





ดอกเอนอ้า ชัด ๆ ซักรูปซิ....



...มันก็หลายโค้งแล้วนะ พวกน้อง ๆ ทำไมยังไม่มาซะทีล่ะเนี่ย...



ถึงแล้ว ผาหมากดูก..ลมพัดแรง หวังว่่าฝนคงไม่ตกนะ



...พักขา...




....Action.....



...อืมม์....



ต้องเดินอีกหลายผาเลยนะเนี่ย..



ทิ้งท้าย...ผาหมากดูก...



...ผาจำศีล...



พักดื่มน้ำ





อ๊ะ โพสท่ากันหน่อย เหล่านางแบบทั้งหลาย



...

...ระหว่างทางเดินจากผาแดงมาผาหล่มสัก เรา 3 คนเดินชมทัศนียภาพ ไปเพลิน ๆ ได้ยินเสียงมาก่อนตัว "สวัสดี ชาลีแองเจิ้ล" ฮ่า ๆ ๆ
นำหน้าโดยน้องฟัก หิ้วถุงข้าวเต็มสองมือ น้อง ๆ ผู้หญิงตามหลังเป็นพรวน (ยังกะแม่เป็ดพาชักแถวไปเล่นน้ำ เนอะ อิอิ) น้อง ๆ ผู้หญิงช่วยกันฟ้อง เสียงแซ่ไปหมด ได้ความว่า เดินเลี้ยวขวา ไปสระอโนดาต ซะงั้น มันก็อ้อม ล่ะเฮ้ยย..
....มาป๊ะกันแห๋ม...เป็นเวลา เที่ยงกว่าแล้ว จะลงจากภูกันทันมั้ยนั่น

....ระหว่างเดินสวนกัน ได้ยินเสียงน้อง ๆ บ่น ฟักไม่สน กดดันอย่างเดียว น้อง ๆผุ้หญิง ก็เดิน ตุปัดตุเป๋ ตามไป จะไหวมั้ยเนี่ย..(เอ่อ พี่แนะนำให้ เปลี่ยน เนวิเกเตอร์ โดยด่วนนะคะ สาว ๆ ฮ่า ๆ )

...เราเดินมาถึง ผาหล่มสัก เสียง เจ้าของร้านขายโปสการ์ด ทักทาย นักท่องเที่ยวทุกกลุ่มที่เดินมาถึง เชิญชวนให้นั่งพัก ด้วยไมตรี จากใจ

...เอสั่งส้มตำมากิน 2 จาน ต่างคนต่างกิน ไม่มีใครพูดอะไร หมดแรง ฮิ้ววว...อิ่มข้าวแล้ว เอ เดินไปเขียนไปรษณียบัตร ทุมก็ นั่งพักมองโน่นนี่ ไปเรื่อยเปื่อย..

"ความทรงจำที่งดงาม ผาหล่มสัก"

...ผาหล่มสัก..เราเป่าเทียนวันเกิด มีน้องสองคนอยู่ข้าง ๆ เป็นความรู้สึกที่ดีจริง พี่รักน้องสองคนจัง...



...ได้เวลาร่ำลาผาหล่มสัก เราเดินมา เจอต้นไม่้โดนฟ้าผ่า น่ากลัวจัง



วิวระหว่างผา อะไรสักอย่าง จำไม่ได้ แล้ว อิอิ



...จุดหมายเราก็คือนั่งดูพระอาทิตย์ตกที่ ผาหมากดูก..มาถึงผา ก็เป็นเวลา 5 โมงกว่า ๆ อีก ไม่กี่นาที ก็จะ 6 โมง เราเปิดโทรศัพท์ มี 2 missed call โทรกลับไปก็ได้รับทราบข่าวว่า เมืองกรุง ม่วนขนาด ปิดถนน เผารถเมล์ เอาเข้าไป แล้ว ช้านจะกลับไงฟร๊ะเนี่ยย...น้องสาวโทรมาแจ้งข่าวนั่นเอง จากที่จะกลับวันที่ 14 เอาล่ะซิ คงต้องเปลี่บนแผน เราก็นัดหมายกะทุม สรุปว่าเราต้องหาคนซื้อตั๋วล่ะ แล้วเราก็ขายตั๋วให้น้อง 2 คน อิอิ เค้าคงเป็นแฟนกันล่ะ... สรุปกันว่า พรุ่งนี้เราจะลงภู เดินทางเข้าขอนแก่นกันก่อน เพื่อประเมินสถานการณ์บ้านเมือง...เฮ้อ อยู่บนนี้ดีจัง ไม่ค่อยได้ยินข่าวอะไร สงบดีแท้เนาะ...

ดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ที่ผาหมากดูก กันดีกว่า







โน่นนนนน....ภูเรีอ...



แสงสุดท้ายของวัน..





แสง...เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ..



.....ม่วง มั่งนะ...







....เดินมาถึงศูนย์ ขมุกขมัวเต็มที เย็นนี้อยากกิน แกงไตปลา โฮะ ๆ แต่ว่าเย็นนั้นเราได้กิน แกงป่า แทน ก็อร่อยไม่แพ้กันหรอก อิ่มข้าวแล้ว นั่งคุยกับพี่ธรรม สัพเพเหระ ทั่ว ๆ ไป บรรยากาศในร้าน นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ครืนเครง มีเสียงหัวเราะ กลุ่มเราดูหงอย ๆ อิอิ เหนื่อยด้วยมั้ง ปวดขามาก ๆ นั่งดูข่าวสารบ้านเมืองที่ร้านพี่ธรรม..ดึกพอควรจึงร่ำลามาที่พัก เก็บข้าวของบางส่วน...

บรรยากาศตอนเช้าวันที่ 14 เม.ย 52



วิมานของเรา 3 คน



เก็บของเตรียมตัว ลงภู...



ถุง (ขวดเหล้าเปล่า) ฝีมือใครกันเนี่ย...



....เจ็ดโมงกว่า ๆ ไปกินข้าวร้านพี่ธรรม พร้อมกับร่ำลา พี่เค้าบอกว่า เมื่อคืนมีช้างโทนหลุดมาเดินป้วนเปี้ยนแถว ๆ เต้นท์ที่เราพัก โห.มิน่า ได้ยินเสียงร้องแปร๊น แต่นึกว่าฝัน อ๋าาา..ของจริงเหรอเนี่ย น่ากลัวจัง

...พี่ธรรมเดินมาส่งที่หน้าศูนย์ พาไปเก็บ ลูกบ๊วยป่า แถว ๆ ที่พักนักท่องเที่ยว เขย่าลงมาเก็บกัน..ได้คนละกำมือ (หลายสิบลูก แฮ่ ๆ ๆ)



...พี่ธรรม เจ้าของร้านอาหาร "ปักษ์ใต้" แสนอร่อย ร้านพี่เค้าไม่ใส่ผงชูรสค่ะ ไว้คราวหน้า หากมีโอกาสได้ไปอีก ก็คงจะไปอุดหนุนร้านพี่แหละ้ค้าบ..ร้านอาหารอื่น ๆ บนภู ทุกร้าน มีอัธยาศัยไมตรีต่อนักท่องเที่ยว..รวมทั้งพ่อค้า แม่ค้าตามซำต่าง ๆ ด้วย "ภูกระดึง" ไม่ว่าจะไป ฤดูไหน ก็ล้วนมีเสน่ห์ในตัวเอง ทำให้คนที่กลับมาแล้ว ต้องหาโอกาสกลับไปอีกครั้ง...

....สวยแข่งกับดอกกล้วยไม้....



...ถ่ายภาพกับพี่ธรรม หน้าศูนย์ฯ...



....ออกเดินไปหลังแป...



....มีท้าวิ่งแข่งด้วย ฮ่า ๆ ...



...ตามธรรมเนียมก่อนเดินลงภู...



เส้นทางวิบาก ...ลงมาถึง ซำแคร่...





จากซำแคร่ สามสหาย เดินลงเรื่อย ๆ มีนักท่องเที่ยวและ ลุกหาบสวนทางเป็นระยะ อากาศทวีความร้อนขึ้นเรื่อย ๆ



รอยช้างลงงา ระหว่างซำกกโดน กับซำแคร่



ชัด ๆ มี งาช้างกำจัดรึเปล่า อิอิ



...อากาศร้อน พักดื่มน้ำ กินน้ำแข็งใส แล้วก็เดินลงต่อ .... สามสหายสัญญาด้วยความหนักแน่น (เท่ากำปั้น) เราจะไม่ทิ้งกัน..เชื่อได้ ไม่มึใครทิ้งใครเลย..จริง ๆ



...ถึงเิชิงภู เมื่อเวลา 12:40 ลงชื่อกันก่อน





...มิตรภาพระหว่างเพื่อน มิตรใหม่ที่ได้พบเจอ มันเกินความคาดหมายในทริปนี้ รู้สึกประทับใจ และผูกพัน แม้เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ที่เจอะเจอ ไม่มีคำสัญญา..แต่รู้ด้วยความรู้สึก ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เจอกันแน่นอน



อ่านออกปะ มะ แกะให้ อิอิ

..ภูกระดึงป่าปิด ก่อนปิดป่า 11-14 เม.ย 52
- มาภูกระดึงครั้งนี้ ก็ครั้งที่่ 4 แล้ว เพื่อนๆ มันว่าไม่คิดจะเที่ยวที่อื่นบ้างเหรอวะ เราก็เอาเหอะ ป่าปด ยังไม่เคยไป ไปลองดู คราวนี้ ครบแล้ว คงจะไม่มาอีก (ฮา)
ไอ้ 3 ครั้งที่แล้ว ก็ว่ายังงี้แหละ แต่ก็มีครั้งที่ 4 จนได้ เข้าป่าปิด เดินหัวทิ่มหัวตำ ไถลเถลือก กว่าจะเอาชีวิตรอดออกมาได้ เล่นเอาซะเมื่อยตัว
-มาคราวนี้มีช้างมาเยือน น่าตื่นเต้นชะมัด เสียดายไม่ได้เห็นตัวเป็น ๆ
-ดอกไม้สวย อากาศ 3 ฤดูตามเคย ทากโคตรเยอะ ตัวเบ้อเริ่ม แต่ไม่ได้โดนกัด โชคดีไป
-อาหารพี่ธรรม ร้านปักษ์ใต้อร่อย หรอยจังฮู้
-เพื่อนร่วมเดินทาง ที่ถูกใจ เท่านี้ถึงไหนถึงกัน
-ทริปหน้าไปไหนดีล่ะพี่ จัดมา !
-อ้อ Happy Birthday นะคะ พี่แป๋ว

เอจ้า
14 เม.ย 52

อ๊ะ ยังไม่หมด คนนี้ส่งเมล์มา ก๊อปมาละกันเนอะ

ภูกระดึงที่รัก

หลังจากออกจากป่าปิด ด้วยความเบิกบานใจ คริ..คริ..
เท้าเดินไป หัวใจไปอยู่ร้านพี่ธรรม 555+ อยากกินน้ำแข็งใสจังเลยพี่แป๋ว
ถึงร้านพี่ธรรม ไม่มีน้ำแข็งใสแงๆ สั่งร้านข้างมาทาน พี่แป๋วดื่มสปอร์นเซอร์
น้องเอ โออิชิใส่น้ำแข็ง เฮ้ออ..ชื่นใจ
น้องฟัก น่ารักแบ่งปันหมูปิ้ง ข้าวเหนียวแสนอร่อยจากโคราช ระหว่างรอมื้อเย็น
มาภูกระดึงคราวนี้เราทานเยอะมาก กับข้าวพี่ธรรมอร่อยถูกใจทุกอย่าง
เย็นนี้มีมิตติ้งเล็กๆ หน้าเต้นท์ น้องๆ ที่เข้าป่าปิดมานั่งดื่ม นั่งคุยอยู่ด้วยกัน พี่ธรรมมาร่วมแจม
น้องหนาวไปคุยกันไป เที่ยงคืนโดยไม่รู้ตัว 555+ แยกย้ายกันเข้านอน พรุ่งนัดแนะดู พระอาทิตย์
ขึ้นที่ผานกแอ่นกัน ก่อนรุ่งเช้าฝนตกลงมาเล็กน้อย นึกในใจพรุ่งนี้จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นมั้ยน้อ
โชคดีพี่แป๋วนอนขี้เซา ไม่ยอมตื่น เราก็เลยนอนต่อ 5555+ ได้ยินเสียงน้องบ่นแว่วๆ กะพี่แป๋ว
แต่เราไม่ลุก คริ..คริ
เช้าแล้ว ล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวไปนอนเล่น ชมผาต่างๆ ถ่ายรูปกันสนุกสนาน ไคลแมกซ์คือเป่าเทียนวันเกิดพี่แป๋ว ณ.ผาหล่มสัก ขอให้มีความสุขมากๆ นะค่ะ พี่แป๋ว นั่งเล่นสักพัก
เดินกลับไปดูพระอาทิตย์ตก ณ.ผาหมากดูก วิตกกังวลเล็กน้อยกับสถานการ์ณบ้านเมือง จึงเปลี่ยนแผนไม่เข้ากรุงเทพฯ ในวันรุ่งขึ้น จะไปขอนแก่นกลับรถบ้านพี่แป๋วกัน ในใจห่วงบ้านเหลือเกิน
อยากกลับบ้านมาก แต่กลัวพี่แป๋วลำบากใจ 5555+ เอาไงเอากันว่ะ โชคดีมีน้องสองคนยังไม่มีตั๋ว
เข้ากรุงเทพฯ ซื้อต่อตั๋วจากเรา โอ้มาภูกระดึงคราวนี้ พบเจอแต่คนน่ารัก ดูพระอาทิตย์ตกแล้ว
เดินทางกลับที่พัก ระหว่างทางคุยกันจนลืมหน่อย ถึงที่พักแล้ว อาบน้ำอาบท่า ทานข้าวเย็น
แล้วก็เข้านอน ด้วยความอิ่มเอมใจ+ความกังวลเล็กๆ
เช้าเตรียมเก็บข้าวของ เก็บเต้นท์ ใจหายเหมือนกันเมื่อคิดว่าจะไม่ได้มาอีก ก็มันมาลำบาก
นี่หน่า จัดการคืนที่ผ้าห่ม หนอม ส่งกระเป๋าให้ลูกหาบเสร็จไปทานข้าวกัน พี่ธรรมน่ารัก พาไปเก็บ
ลูกบ๊วยไว้แก้เหนื่อยระหว่างทาง คนละต้นกะที่เรามาด้อมๆ มองๆ เมื่อวันก่อน ปรากฏว่าได้มาถุงใหญ่มาก แล้วไปชมกล้วยไม้ ที่อุทยาน พี่เสงี่ยมเดินมาทักทาย ถ่ายรูปกับพี่ธรรมเป็นที่ระลึก ล่ำลา
พี่ธรรมบอกว่าถ้าให้โทรมาบอกก่อน แกคงจะเตรียมกับข้าวอร่อยให้ทาน แต่เราจะมาอีกป่าวอ่ะพี่แป๋ว ลาก่อนบ๊าย บายภูกระดึง
ประทับใจทุกสิ่งอย่าง เพื่อนร่วมทางที่ดี พี่แป๋ว น้องเอ รักทั้งสองคนจัง

ทุมมาศค๊า

..อำลาอาลัย สถานที่สวยงามและประทับใจ รู้น่า ตอนนี้ก็ยังเข็ดกันล่ะ แต่อีกหน่อย ก็สะกิดชวนกันมาที่นี่อีกแน่ ๆ



..ผานกเค้ายังคงสภาพเดิมไม่ว่ากี่ปี ร้านเจ๊กิม ก็ยังเป็นจุดนัดพบคณะ เดินทางจากที่ต่าง ๆ ที่ขึ้นไปชมทัศนียภาพ บนภูกระดึง

วนอุทยานภูกระดึงจะปิดในวันที่ 1 มิถุนายน จะเปิดอีกที ก็ประมาณ เดือน ต.ค เพื่อพักให้ต้นไม้ใบหญ้าฟื้นตัว



สองเท้าคู่นี้จะพาย่ำไปที่ไหนอีกในประเทศไทย.... ห๋า...อะไรนะ อ๋อ ๆ

...มีคนกระซิบมาว่า "ทริปหน้า เจอกัน บุญบั้งไฟ ยโสธร" ไม่ไปมีเคือง เิอิ๊ก ๆ

.............อ๊ะ ติดไว้ก่อนนะ ขวดนี้ของใครเอ่ย ? อิอิ



......จบทริปนี้ด้วยความประทับใจ เจอกันใหม่

..... บุญบั้งไฟ ยโสธร 8-9-10 พ.ค 52 ปะ ไปเซิ้งด้วยกัน ม่วน ๆ ..

ขอบคุณภาพสวย ๆ ฝีมือ เอ ทุม พี่แป๋วด้วย (นิดหน่อย) และน้องตั้ม น้องภรณ์

ที่ส่งรูปมาให้ ช่วยเล่าเรื่อง...THANK YOU SO MUCH

SEE YOU IN YASOTORN

Create Date : 21 เมษายน 2552 Last Update : 2 กันยายน 2556 11:46:08 น. Counter : 2275 Pageviews.		13 comments
Share Tweet