<<< a_somjai a_somjai's blog === อ่านเขียนบล็อก อ่านเขียนโลก <<<== a_somjai อ่านเขียนบล็อก a_somjai a_somjai's blog
Group Blog
 
All Blogs
 
No Cry My Baby ที่รักเอย ไม่ต้องเอ่ยคำสัญญา

Mekong #16 (rec: 110928)
Song: No Cry My Baby ที่รักเอย ไม่ต้องเอ่ยคำสัญญา in C/F
Music by a_somjai





* บ่นกับบ้าน
- ความจริงแล้ว กำลังทำโครงการเพลง Isanese คนอีสาน ต่อเนื่องอยู่จากเพลง คนขอนแก่น, คนอุดร แล้วต่อมาตั้งใจว่า(เนื้อหาเพลง)จะขึ้นรถไฟไปลงหนองคาย ได้เล่น(เว้า เกี้ยว แอ่ว)สาว(ญวน)แออ๋ม กินแหนมเนือง สักหน่อย แต่ไป ๆ มา ๆ กลับหลงทางล่องโขงไปถึงเวียดนามนู้น ก็เลยต้องมาลงทะเบียนเพลงเป็นของโครงการ Mekong (ดูตามทะเบียนรหัสนั้นเด้อ)

- ก็แหละ... เพลงนี้ ได้จากการศึกษาเพลงพื้นเมืองของชาวเวียมนาม (Vietnamese Folk Song) ชื่อเพลง Dao Lieu แปลว่า The Young Lady, สาวน้อย สาวส่ำน้อย สาวขึ้นใหม่ (อีสาน) สาวจี๋(เหนือ ภาษาเขียนเดิม..ช่อชี้ ว่า..จ้อจี้)




- เมื่อจะเขียนเพลงก็ติดใจประโยคเด็ดของชาวเวียดนาม ที่เราไปได้ยินเขาแปลไว้บนอินเตอร์เน็ทแล้วสะกิดใจให้เขียนเพลงนี้คือ "Ta chỉ có thể hiểu được nỗi nhớ khi trong tim đã có hình bóng một người จะรู้อะไรที่เรียกว่าคิดถึงก็ต่อเมื่อ....ในความคำนึงมีใครสักคน" แนะ!

- เสียงกีตาร์ สาย 1st ใช้สายสาม G แต่ตั้งเสียงที่ A
- Harmonica เล่นที่ F


- เนื้อเพลง แต่งและแก้ไขมาระหว่างวันที่ 26-28 กันยายน 2554
ตั้งชื่อว่า No Cry My Baby ที่รักเอย ไม่ต้องเอ่ยคำสัญญา

เถิดนะ, คนดี ที่รักจักต้องไปไกลกัน
จดจำคืนวัน เธอฉันนั้นเคยเคียงข้าง
เก็บคำเว้าวอนอ่อนหวาน ปลุกปลอบใจเบิกบาน
ผ่านคำว่า "รัก" ของเรา

หนทาง ย่างก้าว อีกยาวไกล
ใจเราผูกพัน ไม่มีวันห่างหาย
วันนี้จำจาก จำน้ำตา แทนคำ..คำมั่น แทนคำสั่งลา
ลา ลาจาก หากใจถึงใจ ทีรักเอย...ไม่เลย ไม่ต้องเอ่ยคำสัญญา.


- ตอนเล่นต้นฉบับเพลงนี้ (ขับร้อง+กีตาร์รอบเดียว กับใส่ หีบเพลง อีกรอบ) ก็พยายามสร้างอารมณ์เพลงด้วยการเอารูปแฟนเก่าสาวน้อยผู้เป็นวีรกรรมหาญกล้ากุมกอดคนรักแรกของเรา เมื่อเราและเธออายุ 17-18 ปี มาเหลือบดูไปด้วย จินตนาการไปด้วย ...คริ คริ. (จำได้น่า รูปนั้นเธอให้เราตอนหล่อนบอกเลิกคบเราเป็นแฟน ลงวันที่ 27 sep 1973 เสียด้วยนะเออ ... เรียกว่า เป็นรำลึก 38 ปีของการอกหักครั้งแรกของตัวข้าพเจ้าเอง ก็ได้นะ คริ คริ)


- สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการทำเพลงนี้คือ คำตอบว่า "ทำไม งานฝีมือชิ้นเดียวเช่นงานปัก ถัก ทอ สร้างลวดลายบนผืนผ้าด้วยมือของหญิง/ชายคนหนึ่ง ๆ นั้น จึงมีค่ามากสำหรับบางคน" ความจริงแล้วมันก็เข้าใจได้ง่ายมาก ...ก็เพราะว่า มนุษย์เรานั้นทำอะไรตามแบบแผนก็จริง แต่ว่าในแต่ละเข็มที่ปักลงไป บางเข็มมันก็ปักมือเราเอาบ้าง... ปักออกนอกนึกบ้าง ปักผิดบิดเบี้ยวไปบ้าง แต่นั้นแหละมันคือความจริงแห่งหัวใจคน ๆ หนึ่ง ณ กาล/เทศะ หนึ่ง ๆ ที่เขา/เธอลงแรงลงรู้ใส่ลงไปกับชิ้นงานนั้น... ซึ่งย่อมแตกต่างจากความสมบูรณ์แบบเหมือน ๆ กันไปทุกชิ้นงานที่เป็นผลผลิตสินค้ายกโหลในแบบงานอุตสาหกรรมยุคนี้เขานิยมเสพย์กัน ...อ้อ...เออเรากำลังจะบอกว่า "ดนตรีของเรามันก็เป็นอย่างที่ว่ามานี้แหละ... ความผิดแบบแผนไปบ้าง เล่นร้องผิดที่ผิดทางไปบ้าง ดูแล้วมันยังไม่ได้เข้าท่าเข้าทีดีเท่าที่ควรเป็น รึไม่หนอ แต่ก็แหละ...มันก็คือความงามอย่างหนึ่งสำหรับบางคนละเนอะ" เพราะงานฝีมือ งานศิลปะ เอาเข้าจริง ๆ แล้วมันก็เป็นเรื่องของค่านิยม รสนิยมส่วนบุคคล และประวัติศาสตร์ชีวิตจริง ๆ ของคน ๆ หนึ่ง ก็เท่านั้นเอง.


Create Date : 29 กันยายน 2554
Last Update : 29 กันยายน 2554 12:45:39 น. 1 comments
Counter : 754 Pageviews.

 
แวะมาทักทายจ้ะ


โดย: devilmanb วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:19:37:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

a_somjai
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add a_somjai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.